Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา
13. Saddhammappatirūpakasuttavaṇṇanā
๑๕๖. อาชานาติ เหฎฺฐิมมเคฺคหิ ญาตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวาว ชานาติ ปฎิวิชฺฌตีติ อญฺญา, อคฺคมคฺคปญฺญาฯ อญฺญสฺส อยนฺติ อญฺญา, อรหตฺตผลํฯ เตนาห ‘‘อรหเตฺต’’ติฯ
156. Ājānāti heṭṭhimamaggehi ñātamariyādaṃ anatikkamitvāva jānāti paṭivijjhatīti aññā, aggamaggapaññā. Aññassa ayanti aññā, arahattaphalaṃ. Tenāha ‘‘arahatte’’ti.
โอภาเสติ โอภาสนิมิตฺตํฯ ‘‘จิตฺตํ วิกมฺปตี’’ติ ปททฺวยํ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ โอภาเสติ วิสยภูเตฯ อุปกฺกิเลเสหิ จิตฺตํ วิกมฺปตีติ โยชนาฯ เตนาห ‘‘เยหิ จิตฺตํ ปเวธตี’’ติฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ
Obhāseti obhāsanimittaṃ. ‘‘Cittaṃ vikampatī’’ti padadvayaṃ ānetvā sambandho. Obhāseti visayabhūte. Upakkilesehi cittaṃ vikampatīti yojanā. Tenāha ‘‘yehi cittaṃ pavedhatī’’ti. Sesesupi eseva nayo.
อุปฎฺฐาเนติ สติยํฯ อุเปกฺขาย จาติ วิปสฺสนุเปกฺขาย จฯ เอตฺถ จ วิปสฺสนาจิตฺตสมุฎฺฐานสนฺตานวินิมุตฺตํ ปภาสนํ รูปายตนํ โอภาโสฯ ญาณาทโย วิปสฺสนาจิตฺตสมฺปยุตฺตาวฯ สกสกกิเจฺจ สวิเสโส หุตฺวา ปวโตฺต อธิโมโกฺข สทฺธาธิโมโกฺขฯ อุปฎฺฐานํ สติฯ อุเปกฺขาติ อาวชฺชนุเปกฺขาฯ สา หิ อาวชฺชนจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนาฯ อาวชฺชนอชฺฌุเปกฺขนวเสน ปวตฺติยา อิธ ‘‘อาวชฺชนุเปกฺขา’’ติ วุจฺจติฯ ปุน อุเปกฺขายาติ วิปสฺสนุเปกฺขาว อเนน สมชฺฌตฺตตาย เอวํ วุตฺตาฯ นิกนฺติ นาม วิปสฺสนาย นิกามนา อเปกฺขาฯ สุขุมตรกิเลโส วา สิยา ทุวิเญฺญโยฺยฯ
Upaṭṭhāneti satiyaṃ. Upekkhāya cāti vipassanupekkhāya ca. Ettha ca vipassanācittasamuṭṭhānasantānavinimuttaṃ pabhāsanaṃ rūpāyatanaṃ obhāso. Ñāṇādayo vipassanācittasampayuttāva. Sakasakakicce saviseso hutvā pavatto adhimokkho saddhādhimokkho. Upaṭṭhānaṃ sati. Upekkhāti āvajjanupekkhā. Sā hi āvajjanacittasampayuttā cetanā. Āvajjanaajjhupekkhanavasena pavattiyā idha ‘‘āvajjanupekkhā’’ti vuccati. Puna upekkhāyāti vipassanupekkhāva anena samajjhattatāya evaṃ vuttā. Nikanti nāma vipassanāya nikāmanā apekkhā. Sukhumatarakileso vā siyā duviññeyyo.
อิมานิ ทส ฐานานีติ อิมานิ โอภาสาทีนิ อุปกฺกิเลสุปฺปตฺติยา ฐานานิ อุปกฺกิเลสวตฺถูนิฯ ปญฺญา ยสฺส ปริจิตาติ ยสฺส ปญฺญา ปริจิตวตี ยาถาวโต ชานาติฯ ‘‘อิมานิ นิสฺสาย อทฺธา มคฺคปฺปโตฺต ผลปฺปโตฺต อห’’นฺติ ปวตฺตอธิมาโน ธมฺมุทฺธจฺจํ ธมฺมูปนิสฺสโย วิเกฺขโปฯ ตตฺถ กุสโล หิ ตํ ยาถาวโต ชานโนฺต น จ ตตฺถ สโมฺมหํ คจฺฉติฯ
Imāni dasa ṭhānānīti imāni obhāsādīni upakkilesuppattiyā ṭhānāni upakkilesavatthūni. Paññā yassa paricitāti yassa paññā paricitavatī yāthāvato jānāti. ‘‘Imāni nissāya addhā maggappatto phalappatto aha’’nti pavattaadhimāno dhammuddhaccaṃ dhammūpanissayo vikkhepo. Tattha kusalo hi taṃ yāthāvato jānanto na ca tattha sammohaṃ gacchati.
อธิคมสทฺธมฺมปฺปติรูปกํ นาม อนธิคเต อธิคตมานิภาวาวหตฺตาฯ ยทเคฺคน วิปสฺสนาญาณสฺส อุปกฺกิเลโส, ตทเคฺคน ปฎิปตฺติสทฺธมฺมปฺปติรูปโกติปิ สกฺกา วิญฺญาตุํฯ ธาตุกถาติ มหาธาตุกถํ วทติฯ เวทลฺลปิฎกนฺติ เวตุลฺลปิฎกํฯ ตํ นาคภวนโต อานีตนฺติ วทนฺติฯ วาทภาสิตนฺติ อปเรฯ อพุทฺธวจนํ พุทฺธวจเนน วิรุชฺฌนโตฯ น หิ สมฺพุโทฺธ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํ วทติฯ ตตฺถ สลฺลํ อุปฎฺฐเปนฺติ กิเลสวินยํ น สนฺทิสฺสติ, อญฺญทตฺถุ กิเลสุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหตีติฯ
Adhigamasaddhammappatirūpakaṃnāma anadhigate adhigatamānibhāvāvahattā. Yadaggena vipassanāñāṇassa upakkileso, tadaggena paṭipattisaddhammappatirūpakotipi sakkā viññātuṃ. Dhātukathāti mahādhātukathaṃ vadati. Vedallapiṭakanti vetullapiṭakaṃ. Taṃ nāgabhavanato ānītanti vadanti. Vādabhāsitanti apare. Abuddhavacanaṃ buddhavacanena virujjhanato. Na hi sambuddho pubbāparaviruddhaṃ vadati. Tattha sallaṃ upaṭṭhapenti kilesavinayaṃ na sandissati, aññadatthu kilesuppattiyā paccayo hotīti.
อวิกฺกยมานนฺติ วิกฺกยํ อคจฺฉนฺตํฯ ตนฺติ สุวณฺณภณฺฑํฯ
Avikkayamānanti vikkayaṃ agacchantaṃ. Tanti suvaṇṇabhaṇḍaṃ.
น สกฺขิํสุ ญาณสฺส อวิสทภาวโตฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิฯ
Na sakkhiṃsu ñāṇassa avisadabhāvato. Esa nayo ito paresupi.
อิทานิ ‘‘ภิกฺขู ปฎิสมฺภิทาปฺปตฺตา อเหสุ’’นฺติอาทินา วุตฺตเมว อตฺถํ การณโต วิภาเวตุํ ปุน ‘‘ปฐมโพธิยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ปฎิปตฺติํ ปูรยิํสูติ อตีเต กทา เต ปฎิสมฺภิทาวหํ ปฎิปตฺติํ ปูรยิํสุ? ปฐมโพธิกาลิกา ภิกฺขูฯ น หิ อตฺตสมฺมาปณิธิยา ปุเพฺพกตปุญฺญตาย จ วินา ตาทิสํ ภวติฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิฯ ตทา ปฎิปตฺติสทฺธโมฺม อนฺตรหิโต นาม ภวิสฺสตีติ เอเตน อริยมเคฺคน อาสนฺนา เอว ปุพฺพภาคปฎิปทา ปฎิปตฺติสทฺธโมฺมติ ทเสฺสติฯ
Idāni ‘‘bhikkhū paṭisambhidāppattā ahesu’’ntiādinā vuttameva atthaṃ kāraṇato vibhāvetuṃ puna ‘‘paṭhamabodhiyaṃ hī’’tiādi vuttaṃ. Tattha paṭipattiṃ pūrayiṃsūti atīte kadā te paṭisambhidāvahaṃ paṭipattiṃ pūrayiṃsu? Paṭhamabodhikālikā bhikkhū. Na hi attasammāpaṇidhiyā pubbekatapuññatāya ca vinā tādisaṃ bhavati. Esa nayo ito paresupi. Tadā paṭipattisaddhammo antarahito nāma bhavissatīti etena ariyamaggena āsannā eva pubbabhāgapaṭipadā paṭipattisaddhammoti dasseti.
ทฺวีสูติ สุตฺตาภิธมฺมปิฎเกสุ อนฺตรหิเตสุปิฯ อนนฺตรหิตเมว อธิสีลสิกฺขายํ ฐิตสฺส อิตรสิกฺขาทฺวยสมุฎฺฐาปิตโตฯ กิํ การณาติ เกน การเณน, อญฺญสฺมิํ ธเมฺม อนฺตรหิเต อญฺญตรสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรธานํ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโยฯ ปฎิปตฺติยา ปจฺจโย โหติ อนวเสสโต ปฎิปตฺติกฺกมสฺส ปริทีปนโตฯ ปฎิปตฺติ อธิคมสฺส ปจฺจโย วิเสสลกฺขณปฎิเวธภาวโตฯ ปริยตฺติเยว ปมาณํ สาสนสฺส ฐิติยาติ อธิปฺปาโยฯ
Dvīsūti suttābhidhammapiṭakesu antarahitesupi. Anantarahitameva adhisīlasikkhāyaṃ ṭhitassa itarasikkhādvayasamuṭṭhāpitato. Kiṃ kāraṇāti kena kāraṇena, aññasmiṃ dhamme antarahite aññatarassa dhammassa anantaradhānaṃ vuccatīti adhippāyo. Paṭipattiyā paccayo hoti anavasesato paṭipattikkamassa paridīpanato. Paṭipatti adhigamassa paccayo visesalakkhaṇapaṭivedhabhāvato. Pariyattiyeva pamāṇaṃ sāsanassa ṭhitiyāti adhippāyo.
นนุ จ สาสนํ โอสกฺกิตํ ปริยตฺติยา วตฺตมานายาติ อธิปฺปาโยฯ อนาราธกภิกฺขูติ สีลมตฺตสฺสปิ น อาราธโก ทุสฺสีโลฯ อิมสฺมินฺติ อิมสฺมิํ ปาติโมเกฺขฯ วตฺตนฺตาติ ‘‘สีลํ อโกเปตฺวา ฐิตา อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิฯ
Nanu ca sāsanaṃ osakkitaṃ pariyattiyā vattamānāyāti adhippāyo. Anārādhakabhikkhūti sīlamattassapi na ārādhako dussīlo. Imasminti imasmiṃ pātimokkhe. Vattantāti ‘‘sīlaṃ akopetvā ṭhitā atthī’’ti pucchi.
เอเตสูติ เอวํ มหเนฺตสุ สกลํ โลกํ อโชฺฌตฺถริตุํ สมเตฺถสุ จตูสุ มหาภูเตสุฯ ตสฺมาติ ยสฺมา อเญฺญน เกนจิ อติมหเนฺตนปิ สทฺธโมฺม น อนฺตรธายติ, สมยนฺตเรน ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺมาฯ เอวมาหาติ อิทานิ วุจฺจมานาการํ วทติฯ
Etesūti evaṃ mahantesu sakalaṃ lokaṃ ajjhottharituṃ samatthesu catūsu mahābhūtesu. Tasmāti yasmā aññena kenaci atimahantenapi saddhammo na antaradhāyati, samayantarena pana vattabbameva natthi, tasmā. Evamāhāti idāni vuccamānākāraṃ vadati.
อาทานํ อาทิ, อาทิ เอว อาทิกนฺติ อาห ‘‘อาทิเกนาติ อาทาเนนา’’ติฯ เหฎฺฐาคมนียาติ อโธภาคคมนียา, อปายทุกฺขสฺส สํสารทุกฺขสฺส จ นิพฺพตฺตกาติ อโตฺถฯ คารวรหิตาติ ครุการรหิตาฯ ปติสฺสยนํ นีจภาเวน ปติพทฺธวุตฺติตา, ปติโสฺส ปติสฺสโยติ อตฺถโต เอกํ, โส เอเตสํ นตฺถีติ อาห ‘‘อปฺปติสฺสาติ อปฺปติสฺสยา อนีจวุตฺติกา’’ติฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Ādānaṃ ādi, ādi eva ādikanti āha ‘‘ādikenāti ādānenā’’ti. Heṭṭhāgamanīyāti adhobhāgagamanīyā, apāyadukkhassa saṃsāradukkhassa ca nibbattakāti attho. Gāravarahitāti garukārarahitā. Patissayanaṃ nīcabhāvena patibaddhavuttitā, patisso patissayoti atthato ekaṃ, so etesaṃ natthīti āha ‘‘appatissāti appatissayā anīcavuttikā’’ti. Sesaṃ suviññeyyameva.
สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saddhammappatirūpakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฎฺฐกถาย
Sāratthappakāsiniyā saṃyuttanikāya-aṭṭhakathāya
กสฺสปสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Kassapasaṃyuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตํ • 13. Saddhammappatirūpakasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา • 13. Saddhammappatirūpakasuttavaṇṇanā