Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๙. สธายมานสุตฺตวณฺณนา
9. Sadhāyamānasuttavaṇṇanā
๔๙. นวเม มาณวกาติ ตรุณาฯ ปฐเม โยพฺพเน ฐิตา พฺราหฺมณกุมารกา อิธาธิเปฺปตาฯ
49. Navame māṇavakāti taruṇā. Paṭhame yobbane ṭhitā brāhmaṇakumārakā idhādhippetā.
สธายมานรูปาติ อุปฺปณฺฑนชาติกํ วจนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อเญฺญสํ อุปฺปเณฺฑนฺตา สธนฺติ, ตทตฺถวจนสีลาติ อโตฺถฯ ตสฺสายํ วจนโตฺถ – สธนํ สโธ, ตํ อาจิกฺขนฺตีติ สธยมานาติ วตฺตเพฺพ ทีฆํ กตฺวา ‘‘สธายมานา’’ติ วุตฺตํฯ อถ วา วิเสสโต สเสเธ วิย อตฺตานํ อาวทนฺตีติ สธายมานาฯ เต เอวํ สภาวตาย ‘‘สธายมานรูปา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘สทฺทายมานรูปา’’ติปิ ปาโฐ, อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทํ กโรนฺตาติ อโตฺถฯ ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺตีติ ภควโต สวนวิสเย ตํ ตํ มุขารุฬฺหํ วทนฺตา อติยนฺติฯ
Sadhāyamānarūpāti uppaṇḍanajātikaṃ vacanaṃ sandhāya vuttaṃ. Aññesaṃ uppaṇḍentā sadhanti, tadatthavacanasīlāti attho. Tassāyaṃ vacanattho – sadhanaṃ sadho, taṃ ācikkhantīti sadhayamānāti vattabbe dīghaṃ katvā ‘‘sadhāyamānā’’ti vuttaṃ. Atha vā visesato sasedhe viya attānaṃ āvadantīti sadhāyamānā. Te evaṃ sabhāvatāya ‘‘sadhāyamānarūpā’’ti vuttaṃ. ‘‘Saddāyamānarūpā’’tipi pāṭho, uccāsaddamahāsaddaṃ karontāti attho. Bhagavato avidūre atikkamantīti bhagavato savanavisaye taṃ taṃ mukhāruḷhaṃ vadantā atiyanti.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตสํ วาจาย อสญฺญตภาวํ ชานิตฺวา ตทตฺถทีปกํ ธมฺมสํเวควเสน อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthaṃviditvāti etaṃ tesaṃ vācāya asaññatabhāvaṃ jānitvā tadatthadīpakaṃ dhammasaṃvegavasena imaṃ udānaṃ udānesi.
ตตฺถ ปริมุฎฺฐาติ ทนฺธา มุฎฺฐสฺสติโนฯ ปณฺฑิตาภาสาติ ปณฺฑิตปติรูปกา ‘‘เก อเญฺญ ชานนฺติ, มยเมเวตฺถ ชานามา’’ติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ อเตฺถ อตฺตานเมว ชานนฺตํ กตฺวา สมุทาจรณโตฯ วาจาโคจรภาณิโนติ เยสํ วาจา เอว โคจโร วิสโย, เต วาจาโคจรภาณิโน, วาจาวตฺถุมตฺตเสฺสว ภาณิโน อตฺถสฺส อปริญฺญาตตฺตาฯ อถ วา วาจาย อโคจรํ อริยานํ กถาย อวิสยํ มุสาวาทํ ภณนฺตีติ วาจาโคจรภาณิโนฯ อถ วา ‘‘โคจรภาณิโน’’ติ เอตฺถ อาการสฺส รสฺสภาโว กโตฯ วาจาโคจรา, น สติปฎฺฐานาทิโคจรา ภาณิโนวฯ กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ อตฺตโน ยาว มุขายามํ ยาว มุขปฺปสารณํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา ภาณิโน, ปเรสุ คารเวน, อตฺตโน อวิสยตาย จ มุขสโงฺกจํ น กโรนฺตีติ อโตฺถฯ อถ วา วาจาโคจรา เอว หุตฺวา ภาณิโน, สยํ อชานิตฺวา ปรปตฺติกา เอว หุตฺวา วตฺตาโรติ อโตฺถฯ ตโต เอว ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ เยน วจเนน สาเวตพฺพา, ตํ อจิเนฺตตฺวา ยาวเทว อตฺตโน มุขปฺปสารณมตฺตํ อิจฺฉนฺตีติ อโตฺถฯ เยน นีตา น ตํ วิทูติ เยน มุฎฺฐสฺสจฺจาทินา นิลฺลชฺชภาวํ ปณฺฑิตมานีภาวญฺจ นีตา ‘‘มยเมวํ ภณามา’’ติ, ตํ ตถา อตฺตโน ภณนฺตสฺส การณํ น วิทู, อวิทฺทสุโน อสูรา น ชานนฺตีติ อโตฺถฯ
Tattha parimuṭṭhāti dandhā muṭṭhassatino. Paṇḍitābhāsāti paṇḍitapatirūpakā ‘‘ke aññe jānanti, mayamevettha jānāmā’’ti tasmiṃ tasmiṃ atthe attānameva jānantaṃ katvā samudācaraṇato. Vācāgocarabhāṇinoti yesaṃ vācā eva gocaro visayo, te vācāgocarabhāṇino, vācāvatthumattasseva bhāṇino atthassa apariññātattā. Atha vā vācāya agocaraṃ ariyānaṃ kathāya avisayaṃ musāvādaṃ bhaṇantīti vācāgocarabhāṇino. Atha vā ‘‘gocarabhāṇino’’ti ettha ākārassa rassabhāvo kato. Vācāgocarā, na satipaṭṭhānādigocarā bhāṇinova. Kathaṃ bhāṇino? Yāvicchanti mukhāyāmaṃ attano yāva mukhāyāmaṃ yāva mukhappasāraṇaṃ icchanti, tāva pasāretvā bhāṇino, paresu gāravena, attano avisayatāya ca mukhasaṅkocaṃ na karontīti attho. Atha vā vācāgocarā eva hutvā bhāṇino, sayaṃ ajānitvā parapattikā eva hutvā vattāroti attho. Tato eva yāvicchanti mukhāyāmaṃ yena vacanena sāvetabbā, taṃ acintetvā yāvadeva attano mukhappasāraṇamattaṃ icchantīti attho. Yena nītā na taṃ vidūti yena muṭṭhassaccādinā nillajjabhāvaṃ paṇḍitamānībhāvañca nītā ‘‘mayamevaṃ bhaṇāmā’’ti, taṃ tathā attano bhaṇantassa kāraṇaṃ na vidū, aviddasuno asūrā na jānantīti attho.
นวมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Navamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๙. สธายมานสุตฺตํ • 9. Sadhāyamānasuttaṃ