Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๓. สาธุสุตฺตวณฺณนา

    3. Sādhusuttavaṇṇanā

    ๓๓. อุทานํ อุทาเนสีติ ปีติเวเคน อุคฺคิริตพฺพตาย อุทานํ อุคฺคิริ อุจฺจาเรสิฯ ตยิทํ ยสฺมา ปีติสมุฎฺฐาปิตํ วจนํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทาหารํ อุทาหรี’’ติ ฯ ยถา ปน ตํ วจนํ ‘‘อุทาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สทฺธายาติ เอตฺถ -กาโร เหตุอโตฺถฯ ปริจฺจาคเจตนาย หิ สทฺธา วิเสสปจฺจโย อสฺสทฺธสฺส ตทภาวโตฯ ปิ-สโทฺท วุตฺตตฺถสมฺปิณฺฑนโตฺถฯ ‘‘สาหู’’ติ ปทํ สาธุสเทฺทน สมานตฺถํ ทฎฺฐพฺพํฯ กถนฺติ ทานยุทฺธานํ วิปกฺขสภาวาติ อธิปฺปาโยฯ เอตํ อุภยนฺติ ทานํ ยุทฺธนฺติ อิทํ ทฺวยํฯ ชีวิตภีรุโกติ ชีวิตวินาสภีรุโกฯ ขยภีรุโกติ โภคกฺขยสฺส ภีรุโกฯ วทโนฺตติ ชีวิเต สาลยตํ, ตโต เอว ยุชฺฌเน อสมตฺถตํ ปเวเทโนฺตฯ เฉชฺชนฺติ หตฺถปาทาทิเฉโทฯ อุสฺสหโนฺตติ วีริยํ กโรโนฺตฯ เอวํ โภเค รกฺขิสฺสามีติ ตถา โภเค อปริกฺขีเณ กริสฺสามีติฯ วทโนฺตติ อิธ โภเคสุ โลภํ, ตโต เอว ทาตุํ อสมตฺถตํ ปเวเทโนฺตฯ เอวนฺติ เอวํ ชีวิตโภคนิรเปกฺขตาย ทานญฺจ ยุทฺธญฺจ สมํ โหติฯ สทฺธาทิสมฺปโนฺนติ สทฺธาธมฺมชีวิตาวีมํสาสีลาทิคุณสมนฺนาคโตฯ โส หิ เทยฺยวตฺถุโน ปริตฺตกตฺตา อปฺปกมฺปิ ททโนฺต อตฺตโน ปน จิตฺตสมฺปตฺติยา เขตฺตสมฺปตฺติยา จ พหุํ อุฬารปุญฺญํ ปวเฑฺฒโนฺต พหุวิธํ โลภ-โทส-อิสฺสา-มจฺฉริย-ทิฎฺฐิวิจิกิจฺฉาทิเภทํ ตปฺปฎิปกฺขํ อภิภวติ, ตโต เอว จ ตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘มเจฺฉรํ มทฺทติ’’เจฺจว วุตฺตํ, ตสฺส ปน อุชุวิปจฺจนีกภาวโตฯ

    33.Udānaṃudānesīti pītivegena uggiritabbatāya udānaṃ uggiri uccāresi. Tayidaṃ yasmā pītisamuṭṭhāpitaṃ vacanaṃ, tasmā vuttaṃ ‘‘udāhāraṃ udāharī’’ti . Yathā pana taṃ vacanaṃ ‘‘udāna’’nti vuccati, taṃ dassetuṃ ‘‘yathā hī’’tiādi vuttaṃ. Saddhāyāti ettha ya-kāro hetuattho. Pariccāgacetanāya hi saddhā visesapaccayo assaddhassa tadabhāvato. Pi-saddo vuttatthasampiṇḍanattho. ‘‘Sāhū’’ti padaṃ sādhusaddena samānatthaṃ daṭṭhabbaṃ. Kathanti dānayuddhānaṃ vipakkhasabhāvāti adhippāyo. Etaṃ ubhayanti dānaṃ yuddhanti idaṃ dvayaṃ. Jīvitabhīrukoti jīvitavināsabhīruko. Khayabhīrukoti bhogakkhayassa bhīruko. Vadantoti jīvite sālayataṃ, tato eva yujjhane asamatthataṃ pavedento. Chejjanti hatthapādādichedo. Ussahantoti vīriyaṃ karonto. Evaṃ bhoge rakkhissāmīti tathā bhoge aparikkhīṇe karissāmīti. Vadantoti idha bhogesu lobhaṃ, tato eva dātuṃ asamatthataṃ pavedento. Evanti evaṃ jīvitabhoganirapekkhatāya dānañca yuddhañca samaṃ hoti. Saddhādisampannoti saddhādhammajīvitāvīmaṃsāsīlādiguṇasamannāgato. So hi deyyavatthuno parittakattā appakampi dadanto attano pana cittasampattiyā khettasampattiyā ca bahuṃ uḷārapuññaṃ pavaḍḍhento bahuvidhaṃ lobha-dosa-issā-macchariya-diṭṭhivicikicchādibhedaṃ tappaṭipakkhaṃ abhibhavati, tato eva ca taṃ mahapphalaṃ hoti mahānisaṃsaṃ. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘maccheraṃ maddati’’cceva vuttaṃ, tassa pana ujuvipaccanīkabhāvato.

    ปรตฺถาติ ปรโลเกฯ เอกสาฎกพฺราหฺมณวตฺถุ อนฺวยวเสน, องฺกุรวตฺถุ พฺยติเรกวเสน วิตฺถาเรตพฺพํฯ

    Paratthāti paraloke. Ekasāṭakabrāhmaṇavatthu anvayavasena, aṅkuravatthu byatirekavasena vitthāretabbaṃ.

    ธโมฺม ลโทฺธ เอเตนาติ ธมฺมลโทฺธ, ปุคฺคโลฯ อคฺคิอาหิตปทสฺส วิย สทฺทสิทฺธิ ทฎฺฐพฺพาฯ ‘‘อุฎฺฐานนฺติ กายิกํ วีริยํ, วีริยนฺติ เจตสิก’’นฺติ วทนฺติฯ อุฎฺฐานนฺติ โภคุปฺปาเท ยุตฺตปยุตฺตตาฯ วีริยนฺติ ตโชฺช อุสฺสาโหฯ ยมสฺส อาณาปวตฺติฎฺฐานํฯ เวตรณิมฺปิ อิตเร นิรเย จ อติกฺกมฺมฯ เต ปน อพฺพุทาทีนํ วเสน อวีจิํ ทสธา กตฺวา อวเสสมหานิรเย สตฺตปิ อายุปฺปมาณเภเทน ตโย ตโย กตฺวา เอกติํสาติ วทนฺติฯ สญฺชีวาทินิรยสํวตฺตนสฺส กมฺมสฺส ติกฺขมชฺฌมุทุภาเวน ตสฺส อายุปฺปมาณสฺส ติวิธตา วิภาเวตพฺพาฯ อปเร ปน ‘‘อฎฺฐ มหานิรยา โสฬส อุสฺสทนิรยา อาทิโต จตฺตาโร สิตนิรเย เอกํ กตฺวา สตฺต สิตนิรยาติ เอวํ เอกติํส มหานิรยา’’ติ วทนฺติฯ มหานิรยคฺคหณโต อาทิโต จตฺตาโร สิตนิรยา เอโก นิรโย กโตติฯ

    Dhammo laddho etenāti dhammaladdho, puggalo. Aggiāhitapadassa viya saddasiddhi daṭṭhabbā. ‘‘Uṭṭhānanti kāyikaṃ vīriyaṃ, vīriyanti cetasika’’nti vadanti. Uṭṭhānanti bhoguppāde yuttapayuttatā. Vīriyanti tajjo ussāho. Yamassa āṇāpavattiṭṭhānaṃ. Vetaraṇimpi itare niraye ca atikkamma. Te pana abbudādīnaṃ vasena avīciṃ dasadhā katvā avasesamahāniraye sattapi āyuppamāṇabhedena tayo tayo katvā ekatiṃsāti vadanti. Sañjīvādinirayasaṃvattanassa kammassa tikkhamajjhamudubhāvena tassa āyuppamāṇassa tividhatā vibhāvetabbā. Apare pana ‘‘aṭṭha mahānirayā soḷasa ussadanirayā ādito cattāro sitaniraye ekaṃ katvā satta sitanirayāti evaṃ ekatiṃsa mahānirayā’’ti vadanti. Mahānirayaggahaṇato ādito cattāro sitanirayā eko nirayo katoti.

    เตสนฺติ วิจินิตฺวา คหิตปจฺจยานํฯ ปญฺจนวุติปาสณฺฑเภทา ปปญฺจสูทนิสํวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพาฯ ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ วิจินเนสุฯ ทกฺขิณาวิจินนํ อาห, อุปมานานิ หิ นาม ยาวเทว อุปเมยฺยตฺถวิภาวนตฺถานิฯ เอเตน สุเขตฺตคหณโตปิ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Tesanti vicinitvā gahitapaccayānaṃ. Pañcanavutipāsaṇḍabhedā papañcasūdanisaṃvaṇṇanāyaṃ vuttanayena veditabbā. Tatthāti tesu dvīsu vicinanesu. Dakkhiṇāvicinanaṃ āha, upamānāni hi nāma yāvadeva upameyyatthavibhāvanatthāni. Etena sukhettagahaṇatopi dakkhiṇeyyavicinanaṃ daṭṭhabbaṃ.

    ปาเณสุ สํยโมติ อิมินา ทสวิธมฺปิ กุสลกมฺมปถธมฺมํ ทเสฺสติฯ ยถา หิ ‘‘ปาเณสุ สํยโม’’ติ อิมินา สตฺตานํ ชีวิตาโวโรปนโต สํยโม วุโตฺต, เอวํ เตสํ สาปเตยฺยาวหารโต ปรทารามสนโต วิสํวาทนโต อญฺญมญฺญเภทนโต ผรุสวจเนน สงฺฆฎฺฎนโต นิรตฺถกวิปฺปลปนโต ปรสนฺตกาภิชฺฌานโต อุเจฺฉทจินฺตนโต มิจฺฉาภินิเวสนโต จ สํยโม โหตีติฯ เตนาห ‘‘สีลานิสํสํ กเถตุมารทฺธา’’ติฯ ผรุสวจนสํยโม ปเนตฺถ สรูเปเนว วุโตฺตฯ

    Pāṇesu saṃyamoti iminā dasavidhampi kusalakammapathadhammaṃ dasseti. Yathā hi ‘‘pāṇesu saṃyamo’’ti iminā sattānaṃ jīvitāvoropanato saṃyamo vutto, evaṃ tesaṃ sāpateyyāvahārato paradārāmasanato visaṃvādanato aññamaññabhedanato pharusavacanena saṅghaṭṭanato niratthakavippalapanato parasantakābhijjhānato ucchedacintanato micchābhinivesanato ca saṃyamo hotīti. Tenāha ‘‘sīlānisaṃsaṃ kathetumāraddhā’’ti. Pharusavacanasaṃyamo panettha sarūpeneva vutto.

    ปรสฺส อุปวาทภเยนาติ ปาปกิริยเหตุ ปเรน อตฺตโน วตฺตพฺพอุปวาทภเยนฯ อุปวาทภยาติ อุปวาทภยนิมิตฺตํฯ ‘‘กถํ นุ โข อเมฺห ปเร น อุปวเทยฺยุ’’นฺติ อาสีสนฺตา ปาปํ น กโรนฺติฯ ธมฺมปทเมวาติ อสงฺขตธมฺมโกฎฺฐาโส เอว เสโยฺย เสโฎฺฐฯ ยสฺมา สพฺพสงฺขตํ อนิจฺจํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมํ, ตสฺมา ตทธิคมาย อุสฺสาโห กรณีโยติ ทเสฺสติฯ ปุพฺพสโทฺท กาลวิเสสวิสโยติ อาห ‘‘ปุเพฺพ จ กสฺสปพุทฺธาทิกาเลปี’’ติอาทิฯ ปุน อกาลวิเสโส อปาฎิเยโกฺก ภุมฺมตฺถวิสโยวาติ อาห ‘‘สเพฺพปิ วา’’ติอาทิฯ ตตฺถ สเพฺพปิ วาติ เอเต สเพฺพปิ กสฺสปพุทฺธาทโย โลกนาถา สโนฺต นาม วูปสนฺตสพฺพกิเลสสนฺตาปา สนฺตสพฺภูตคุณตฺตาฯ

    Parassa upavādabhayenāti pāpakiriyahetu parena attano vattabbaupavādabhayena. Upavādabhayāti upavādabhayanimittaṃ. ‘‘Kathaṃ nu kho amhe pare na upavadeyyu’’nti āsīsantā pāpaṃ na karonti. Dhammapadamevāti asaṅkhatadhammakoṭṭhāso eva seyyo seṭṭho. Yasmā sabbasaṅkhataṃ aniccaṃ khayadhammaṃ vayadhammaṃ virāgadhammaṃ nirodhadhammaṃ, tasmā tadadhigamāya ussāho karaṇīyoti dasseti. Pubbasaddo kālavisesavisayoti āha ‘‘pubbe ca kassapabuddhādikālepī’’tiādi. Puna akālaviseso apāṭiyekko bhummatthavisayovāti āha ‘‘sabbepi vā’’tiādi. Tattha sabbepi vāti ete sabbepi kassapabuddhādayo lokanāthā santo nāma vūpasantasabbakilesasantāpā santasabbhūtaguṇattā.

    สาธุสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sādhusuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. สาธุสุตฺตํ • 3. Sādhusuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. สาธุสุตฺตวณฺณนา • 3. Sādhusuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact