| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๘. สชฺฌสุตฺตํ
8. Sajjhasuttaṃ
๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ อถ โข สโชฺฌ ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข สโชฺฌ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
8. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Atha kho sajjho paribbājako yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho sajjho paribbājako bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘เอกมิทาหํ, ภเนฺต, สมยํ ภควา อิเธว ราชคเห วิหรามิ คิริพฺพเชฯ ตตฺร เม, ภเนฺต, ภควโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘โย โส, สชฺฌ, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุโตฺต, อภโพฺพ โส ปญฺจ ฐานานิ อชฺฌาจริตุํ – อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุญฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อคาริยภูโต’ติฯ กจฺจิ เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริต’’นฺติ?
‘‘Ekamidāhaṃ, bhante, samayaṃ bhagavā idheva rājagahe viharāmi giribbaje. Tatra me, bhante, bhagavato sammukhā sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘yo so, sajjha, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññāvimutto, abhabbo so pañca ṭhānāni ajjhācarituṃ – abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sañcicca pāṇaṃ jīvitā voropetuṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādātuṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭisevituṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sampajānamusā bhāsituṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sannidhikārakaṃ kāme paribhuñjituṃ seyyathāpi pubbe agāriyabhūto’ti. Kacci metaṃ, bhante, bhagavato sussutaṃ suggahitaṃ sumanasikataṃ sūpadhārita’’nti?
‘‘ตคฺฆ เต เอตํ, สชฺฌ, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํฯ ปุเพฺพ จาหํ, สชฺฌ , เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุโตฺต, อภโพฺพ โส นว ฐานานิ อชฺฌาจริตุํ – อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ…เป.… อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุญฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อคาริยภูโต, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ พุทฺธํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ธมฺมํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สงฺฆํ ปจฺจกฺขาตุํ, อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตุํ’ฯ ปุเพฺพ จาหํ, สชฺฌ, เอตรหิ จ เอวํ วทามิ – ‘โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุโตฺต, อภโพฺพ โส อิมานิ นว ฐานานิ อชฺฌาจริตุ’’’นฺติฯ อฎฺฐมํฯ
‘‘Taggha te etaṃ, sajjha, sussutaṃ suggahitaṃ sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ. Pubbe cāhaṃ, sajjha , etarahi ca evaṃ vadāmi – ‘yo so bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññāvimutto, abhabbo so nava ṭhānāni ajjhācarituṃ – abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sañcicca pāṇaṃ jīvitā voropetuṃ…pe… abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sannidhikārakaṃ kāme paribhuñjituṃ seyyathāpi pubbe agāriyabhūto, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu buddhaṃ paccakkhātuṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu dhammaṃ paccakkhātuṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu saṅghaṃ paccakkhātuṃ, abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sikkhaṃ paccakkhātuṃ’. Pubbe cāhaṃ, sajjha, etarahi ca evaṃ vadāmi – ‘yo so bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññāvimutto, abhabbo so imāni nava ṭhānāni ajjhācaritu’’’nti. Aṭṭhamaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๘-๑๐. สชฺฌสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Sajjhasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗-๑๐. สุตวาสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-10. Sutavāsuttādivaṇṇanā
