Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. สชฺฌายสุตฺตวณฺณนา
10. Sajjhāyasuttavaṇṇanā
๒๓๐. ทสเม ยํ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํฯ สชฺฌายพหุโลติ นิสฺสรณปริยตฺติวเสน สชฺฌายนโต พหุตรํ กาลํ สชฺฌายโนฺตฯ โส กิร อาจริยสฺส ทิวาฎฺฐานํ สมฺมชฺชิตฺวา อาจริยํ อุทิกฺขโนฺต ติฎฺฐติฯ อถ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฎิคฺคเหตฺวา ปญฺญตฺตาสเน นิสินฺนสฺส ตาลวณฺฎวาตํ ทตฺวา ปานียํ อาปุจฺฉิตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตลํ มเกฺขตฺวา วนฺทิตฺวา ฐิโต อุเทฺทสํ คเหตฺวา ยาว สูริยตฺถงฺคมา สชฺฌายํ กโรติฯ โส นฺหานโกฎฺฐเก อุทกํ อุปฎฺฐเปตฺวา องฺคารกปเลฺล อคฺคิํ กโรติฯ อาจริยสฺส นฺหตฺวา อาคตสฺส ปาเทสุ อุทกํ ปุญฺฉิตฺวา ปิฎฺฐิปริกมฺมํ กตฺวา วนฺทิตฺวา อุเทฺทสํ คเหตฺวา ปฐมยาเม สชฺฌายํ กตฺวา มชฺฌิมยาเม สรีรํ สมสฺสาเสตฺวา ปจฺฉิมยาเม อุเทฺทสํ คเหตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สชฺฌายํ กตฺวา นิรุทฺธสทฺทํ ขยโต สมฺมสติฯ ตโต เสสํ อุปาทายรูปํ ภูตรูปํ นามรูปนฺติ ปญฺจสุ ขเนฺธสุ วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อโปฺปสฺสุโกฺกติ อุเทฺทสคฺคหเณ จ สชฺฌายกรณีเย จ นิรุสฺสุโกฺกฯ สงฺกสายตีติ ยสฺส ทานิ อตฺถาย อหํ สชฺฌายํ กเรยฺยํ, โส เม อโตฺถ มตฺถกํ ปโตฺตฯ กิํ เม อิทานิ สชฺฌาเยนาติ ผลสมาปตฺติสุเขน กาลํ อติวเตฺตติฯ อชฺฌภาสีติ, ‘‘กิํ นุ โข อสฺส เถรสฺส อผาสุกํ ชาตํ, อุทาหุสฺส อาจริยสฺส? เกน นุ โข การเณน ปุเพฺพ วิย มธุรสฺสเรน น สชฺฌายตี’’ติ? อาคนฺตฺวา สนฺติเก ฐิตา อภาสิฯ
230. Dasame yaṃ sudanti nipātamattaṃ. Sajjhāyabahuloti nissaraṇapariyattivasena sajjhāyanato bahutaraṃ kālaṃ sajjhāyanto. So kira ācariyassa divāṭṭhānaṃ sammajjitvā ācariyaṃ udikkhanto tiṭṭhati. Atha naṃ āgacchantaṃ disvāva paccuggantvā pattacīvaraṃ paṭiggahetvā paññattāsane nisinnassa tālavaṇṭavātaṃ datvā pānīyaṃ āpucchitvā pāde dhovitvā telaṃ makkhetvā vanditvā ṭhito uddesaṃ gahetvā yāva sūriyatthaṅgamā sajjhāyaṃ karoti. So nhānakoṭṭhake udakaṃ upaṭṭhapetvā aṅgārakapalle aggiṃ karoti. Ācariyassa nhatvā āgatassa pādesu udakaṃ puñchitvā piṭṭhiparikammaṃ katvā vanditvā uddesaṃ gahetvā paṭhamayāme sajjhāyaṃ katvā majjhimayāme sarīraṃ samassāsetvā pacchimayāme uddesaṃ gahetvā yāva aruṇuggamanā sajjhāyaṃ katvā niruddhasaddaṃ khayato sammasati. Tato sesaṃ upādāyarūpaṃ bhūtarūpaṃ nāmarūpanti pañcasu khandhesu vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Appossukkoti uddesaggahaṇe ca sajjhāyakaraṇīye ca nirussukko. Saṅkasāyatīti yassa dāni atthāya ahaṃ sajjhāyaṃ kareyyaṃ, so me attho matthakaṃ patto. Kiṃ me idāni sajjhāyenāti phalasamāpattisukhena kālaṃ ativatteti. Ajjhabhāsīti, ‘‘kiṃ nu kho assa therassa aphāsukaṃ jātaṃ, udāhussa ācariyassa? Kena nu kho kāraṇena pubbe viya madhurassarena na sajjhāyatī’’ti? Āgantvā santike ṭhitā abhāsi.
ธมฺมปทานีติ อิธ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ อธิเปฺปตํ ฯ นาธียสีติ น สชฺฌายสิฯ นาทิยสีติ วา ปาโฐ, น คณฺหาสีติ อโตฺถฯ ปสํสนฺติ ธมฺมภาณโก ปสํสํ ลภติ, อาภิธมฺมิโก สุตฺตนฺติโก วินยธโรติสฺส ปสํสิตา ภวนฺติฯ วิราเคนาติ อริยมเคฺคนฯ อญฺญายาติ ชานิตฺวาฯ นิเกฺขปนนฺติ ตสฺส ทิฎฺฐสุตาทิโน วิสฺสชฺชนํ สโนฺต วทนฺตีติ ทีเปติ, น พุทฺธวจนสฺสฯ เอตฺตาวตา ‘‘เถโร พุทฺธวจนํ น วิสฺสชฺชาเปตี’’ติ น นิจฺจกาลํ สชฺฌายเนฺตเนว ภวิตพฺพํ, สชฺฌายิตฺวา ปน – ‘‘เอตฺตกสฺสาหํ อตฺถสฺส วา ธมฺมสฺส วา อาธาโร ภวิตุํ สมโตฺถ’’ติ ญตฺวา วฎฺฎทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย ปฎิปชฺชิตพฺพํฯ ทสมํฯ
Dhammapadānīti idha sabbampi buddhavacanaṃ adhippetaṃ . Nādhīyasīti na sajjhāyasi. Nādiyasīti vā pāṭho, na gaṇhāsīti attho. Pasaṃsanti dhammabhāṇako pasaṃsaṃ labhati, ābhidhammiko suttantiko vinayadharotissa pasaṃsitā bhavanti. Virāgenāti ariyamaggena. Aññāyāti jānitvā. Nikkhepananti tassa diṭṭhasutādino vissajjanaṃ santo vadantīti dīpeti, na buddhavacanassa. Ettāvatā ‘‘thero buddhavacanaṃ na vissajjāpetī’’ti na niccakālaṃ sajjhāyanteneva bhavitabbaṃ, sajjhāyitvā pana – ‘‘ettakassāhaṃ atthassa vā dhammassa vā ādhāro bhavituṃ samattho’’ti ñatvā vaṭṭadukkhassa antakiriyāya paṭipajjitabbaṃ. Dasamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. สชฺฌายสุตฺตํ • 10. Sajjhāyasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. สชฺฌายสุตฺตวณฺณนา • 10. Sajjhāyasuttavaṇṇanā