Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๖๘] ๘. สาเกตชาตกวณฺณนา

    [68] 8. Sāketajātakavaṇṇanā

    ยสฺมิํ มโน นิวิสตีติ อิทํ สตฺถา สาเกตํ นิสฺสาย อญฺชนวเน วิหรโนฺต เอกํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ ภควโต กิร ภิกฺขุสงฺฆปริวุตสฺส สาเกตํ ปิณฺฑาย ปวิสนกาเล เอโก สาเกตนครวาสี มหลฺลกพฺราหฺมโณ นครโต พหิ คจฺฉโนฺต อนฺตรทฺวาเร ทสพลํ ทิสฺวา ปาเทสุ ปติตฺวา โคปฺผเกสุ คาฬฺหํ คเหตฺวา ‘‘ตาต, นนุ นาม ปุเตฺตหิ ชิณฺณกาเล มาตาปิตโร ปฎิชคฺคิตพฺพา, กสฺมา เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ อตฺตานํ น ทเสฺสสิ? มยา ตาว ทิโฎฺฐสิ, มาตรํ ปน ปสฺสิตุํ เอหี’’ติ สตฺถารํ คเหตฺวา อตฺตโน เคหํ อคมาสิฯ สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา นิสีทิ ปญฺญเตฺต อาสเน สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ พฺราหฺมณีปิ อาคนฺตฺวา สตฺถุ ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตาต, เอตฺตกํ กาลํ กหํ คโตสิ, นนุ นาม มาตาปิตโร มหลฺลกกาเล อุปฎฺฐาตพฺพา’’ติ ปริเทวิฯ ปุตฺตธีตโรปิ ‘‘เอถ, ภาตรํ วนฺทถา’’ติ วนฺทาเปสิฯ อุโภ ตุฎฺฐมานสา มหาทานํ อทํสุฯ สตฺถา ภตฺตกิจฺจํ นิฎฺฐาเปตฺวา เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ ชราสุตฺตํ (สุ. นิ. ๘๑๐ อาทโย) กเถสิฯ สุตฺตปริโยสาเน อุโภปิ อนาคามิผเล ปติฎฺฐหิํสุฯ สตฺถา อุฎฺฐายาสนา อญฺชนวนเมว อคมาสิฯ

    Yasmiṃmano nivisatīti idaṃ satthā sāketaṃ nissāya añjanavane viharanto ekaṃ brāhmaṇaṃ ārabbha kathesi. Bhagavato kira bhikkhusaṅghaparivutassa sāketaṃ piṇḍāya pavisanakāle eko sāketanagaravāsī mahallakabrāhmaṇo nagarato bahi gacchanto antaradvāre dasabalaṃ disvā pādesu patitvā gopphakesu gāḷhaṃ gahetvā ‘‘tāta, nanu nāma puttehi jiṇṇakāle mātāpitaro paṭijaggitabbā, kasmā ettakaṃ kālaṃ amhākaṃ attānaṃ na dassesi? Mayā tāva diṭṭhosi, mātaraṃ pana passituṃ ehī’’ti satthāraṃ gahetvā attano gehaṃ agamāsi. Satthā tattha gantvā nisīdi paññatte āsane saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Brāhmaṇīpi āgantvā satthu pādesu patitvā ‘‘tāta, ettakaṃ kālaṃ kahaṃ gatosi, nanu nāma mātāpitaro mahallakakāle upaṭṭhātabbā’’ti paridevi. Puttadhītaropi ‘‘etha, bhātaraṃ vandathā’’ti vandāpesi. Ubho tuṭṭhamānasā mahādānaṃ adaṃsu. Satthā bhattakiccaṃ niṭṭhāpetvā tesaṃ dvinnampi janānaṃ jarāsuttaṃ (su. ni. 810 ādayo) kathesi. Suttapariyosāne ubhopi anāgāmiphale patiṭṭhahiṃsu. Satthā uṭṭhāyāsanā añjanavanameva agamāsi.

    ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ ‘‘อาวุโส, พฺราหฺมโณ ‘ตถาคตสฺส ปิตา สุโทฺธทโน, มาตา มหามายา’ติ ชานาติ, ชานโนฺตว สทฺธิํ พฺราหฺมณิยา ตถาคตํ ‘อมฺหากํ ปุโตฺต’ติ วทติ, สตฺถาปิ อธิวาเสติฯ กิํ นุ โข การณ’’นฺติ? สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, อุโภปิ เต อตฺตโน ปุตฺตเมว ‘ปุโตฺต’ติ วทนฺตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Bhikkhū dhammasabhāyaṃ sannisinnā kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ ‘‘āvuso, brāhmaṇo ‘tathāgatassa pitā suddhodano, mātā mahāmāyā’ti jānāti, jānantova saddhiṃ brāhmaṇiyā tathāgataṃ ‘amhākaṃ putto’ti vadati, satthāpi adhivāseti. Kiṃ nu kho kāraṇa’’nti? Satthā tesaṃ kathaṃ sutvā ‘‘bhikkhave, ubhopi te attano puttameva ‘putto’ti vadantī’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    ภิกฺขเว, อยํ พฺราหฺมโณ อตีเต นิรนฺตรํ ปญฺจ ชาติสตานิ มยฺหํ ปิตา อโหสิ, ปญฺจ ชาติสตานิ จูฬปิตา, ปญฺจ ชาติสตานิ มหาปิตาฯ เอสาปิ พฺราหฺมณี นิรนฺตรเมว ปญฺจ ชาติสตานิ มาตา อโหสิ, ปญฺจ ชาติสตานิ จูฬมาตา, ปญฺจ ชาติสตานิ มหามาตาฯ เอวาหํ ทิยฑฺฒชาติสหสฺสํ พฺราหฺมณสฺส หเตฺถ สํวโฑฺฒ, ทิยฑฺฒชาติสหสฺสํ พฺราหฺมณิยา หเตฺถ สํวโฑฺฒติ ตีณิ ชาติสหสฺสานิ กเถตฺวา อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา อิมํ คาถมาห –

    Bhikkhave, ayaṃ brāhmaṇo atīte nirantaraṃ pañca jātisatāni mayhaṃ pitā ahosi, pañca jātisatāni cūḷapitā, pañca jātisatāni mahāpitā. Esāpi brāhmaṇī nirantarameva pañca jātisatāni mātā ahosi, pañca jātisatāni cūḷamātā, pañca jātisatāni mahāmātā. Evāhaṃ diyaḍḍhajātisahassaṃ brāhmaṇassa hatthe saṃvaḍḍho, diyaḍḍhajātisahassaṃ brāhmaṇiyā hatthe saṃvaḍḍhoti tīṇi jātisahassāni kathetvā abhisambuddho hutvā imaṃ gāthamāha –

    ๖๘.

    68.

    ‘‘ยสฺมิํ มโน นิวิสติ, จิตฺตญฺจาปิ ปสีทติ;

    ‘‘Yasmiṃ mano nivisati, cittañcāpi pasīdati;

    อทิฎฺฐปุพฺพเก โปเส, กามํ ตสฺมิมฺปิ วิสฺสเส’’ติฯ

    Adiṭṭhapubbake pose, kāmaṃ tasmimpi vissase’’ti.

    ตตฺถ ยสฺมิํ มโน นิวิสตีติ ยสฺมิํ ปุคฺคเล ทิฎฺฐมเตฺตเยว จิตฺตํ ปติฎฺฐาติฯ จิตฺตญฺจาปิ ปสีทตีติ ยสฺมิํ ทิฎฺฐมเตฺต จิตฺตํ ปสีทติ, มุทุกํ โหติฯ อทิฎฺฐปุพฺพเก โปเสติ ปกติยา ตสฺมิํ อตฺตภาเว อทิฎฺฐปุเพฺพปิ ปุคฺคเลฯ กามํ ตสฺมิมฺปิ วิสฺสเสติ อนุภูตปุพฺพสิเนเหเนว ตสฺมิมฺปิ ปุคฺคเล เอกํเสน วิสฺสเส, วิสฺสาสํ อาปชฺชติเยวาติ อโตฺถฯ

    Tattha yasmiṃ mano nivisatīti yasmiṃ puggale diṭṭhamatteyeva cittaṃ patiṭṭhāti. Cittañcāpi pasīdatīti yasmiṃ diṭṭhamatte cittaṃ pasīdati, mudukaṃ hoti. Adiṭṭhapubbake poseti pakatiyā tasmiṃ attabhāve adiṭṭhapubbepi puggale. Kāmaṃ tasmimpi vissaseti anubhūtapubbasineheneva tasmimpi puggale ekaṃsena vissase, vissāsaṃ āpajjatiyevāti attho.

    เอวํ สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พฺราหฺมโณ จ พฺราหฺมณี จ เอเต เอว อเหสุํ, ปุโตฺต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Evaṃ satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā brāhmaṇo ca brāhmaṇī ca ete eva ahesuṃ, putto pana ahameva ahosi’’nti.

    สาเกตชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ

    Sāketajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๖๘. สาเกตชาตกํ • 68. Sāketajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact