Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi |
๗. สกฺกุทานสุตฺตํ
7. Sakkudānasuttaṃ
๒๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปิปฺปลิคุหายํ วิหรติ, สตฺตาหํ เอกปลฺลเงฺกน นิสิโนฺน โหติ อญฺญตรํ 1 สมาธิํ สมาปชฺชิตฺวาฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐาสิฯ อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐิตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิเสยฺย’’นฺติฯ
27. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmā mahākassapo pippaliguhāyaṃ viharati, sattāhaṃ ekapallaṅkena nisinno hoti aññataraṃ 2 samādhiṃ samāpajjitvā. Atha kho āyasmā mahākassapo tassa sattāhassa accayena tamhā samādhimhā vuṭṭhāsi. Atha kho āyasmato mahākassapassa tamhā samādhimhā vuṭṭhitassa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ rājagahaṃ piṇḍāya paviseyya’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ปญฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนานิ โหนฺติ อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตปฎิลาภายฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตานิ ปญฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ
Tena kho pana samayena pañcamattāni devatāsatāni ussukkaṃ āpannāni honti āyasmato mahākassapassa piṇḍapātapaṭilābhāya. Atha kho āyasmā mahākassapo tāni pañcamattāni devatāsatāni paṭikkhipitvā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya rājagahaṃ piṇḍāya pāvisi.
เตน โข ปน สมเยน สโกฺก เทวานมิโนฺท อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม โหติฯ เปสการวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ตนฺตํ วินาติฯ สุชา 3 อสุรกญฺญา ตสรํ ปูเรติฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ราชคเห สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข สโกฺก เทวานมิโนฺท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปจฺจุคนฺตฺวา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ฆรํ ปวิสิตฺวา 4 ฆฎิยา โอทนํ อุทฺธริตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส อทาสิฯ โส อโหสิ ปิณฺฑปาโต อเนกสูโป อเนกพฺยญฺชโน อเนกรสพฺยญฺชโน 5ฯ อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข อยํ สโตฺต ยสฺสายํ เอวรูโป อิทฺธานุภาโว’’ติ ? อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สโกฺก โข อยํ เทวานมิโนฺท’’ติฯ อิติ วิทิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กตํ โข เต อิทํ, โกสิย; มา 6 ปุนปิ เอวรูปมกาสี’’ติฯ ‘‘อมฺหากมฺปิ, ภเนฺต กสฺสป, ปุเญฺญน อโตฺถ; อมฺหากมฺปิ ปุเญฺญน กรณีย’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena sakko devānamindo āyasmato mahākassapassa piṇḍapātaṃ dātukāmo hoti. Pesakāravaṇṇaṃ abhinimminitvā tantaṃ vināti. Sujā 7 asurakaññā tasaraṃ pūreti. Atha kho āyasmā mahākassapo rājagahe sapadānaṃ piṇḍāya caramāno yena sakkassa devānamindassa nivesanaṃ tenupasaṅkami. Addasā kho sakko devānamindo āyasmantaṃ mahākassapaṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna gharā nikkhamitvā paccugantvā hatthato pattaṃ gahetvā gharaṃ pavisitvā 8 ghaṭiyā odanaṃ uddharitvā pattaṃ pūretvā āyasmato mahākassapassa adāsi. So ahosi piṇḍapāto anekasūpo anekabyañjano anekarasabyañjano 9. Atha kho āyasmato mahākassapassa etadahosi – ‘‘ko nu kho ayaṃ satto yassāyaṃ evarūpo iddhānubhāvo’’ti ? Atha kho āyasmato mahākassapassa etadahosi – ‘‘sakko kho ayaṃ devānamindo’’ti. Iti viditvā sakkaṃ devānamindaṃ etadavoca – ‘‘kataṃ kho te idaṃ, kosiya; mā 10 punapi evarūpamakāsī’’ti. ‘‘Amhākampi, bhante kassapa, puññena attho; amhākampi puññena karaṇīya’’nti.
อถ โข สโกฺก เทวานมิโนฺท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิเกฺข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ 11 กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิต’’นฺติ!!! อโสฺสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิเกฺข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺส – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฎฺฐิต’’นฺติ!!!
Atha kho sakko devānamindo āyasmantaṃ mahākassapaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā vehāsaṃ abbhuggantvā ākāse antalikkhe tikkhattuṃ udānaṃ udānesi – ‘‘aho dānaṃ paramadānaṃ 12 kassape suppatiṭṭhitaṃ! Aho dānaṃ paramadānaṃ kassape suppatiṭṭhitaṃ!! Aho dānaṃ paramadānaṃ kassape suppatiṭṭhita’’nti!!! Assosi kho bhagavā dibbāya sotadhātuyā visuddhāya atikkantamānusikāya sakkassa devānamindassa vehāsaṃ abbhuggantvā ākāse antalikkhe tikkhattuṃ udānaṃ udānentassa – ‘‘aho dānaṃ paramadānaṃ kassape suppatiṭṭhitaṃ! Aho dānaṃ paramadānaṃ kassape suppatiṭṭhitaṃ!! Aho dānaṃ paramadānaṃ kassape suppatiṭṭhita’’nti!!!
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –
‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,
‘‘Piṇḍapātikassa bhikkhuno,
อตฺตภรสฺส อนญฺญโปสิโน;
Attabharassa anaññaposino;
เทวา ปิหยนฺติ ตาทิโน,
Devā pihayanti tādino,
อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติฯ สตฺตมํ;
Upasantassa sadā satīmato’’ti. sattamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā / ๗. สกฺกุทานสุตฺตวณฺณนา • 7. Sakkudānasuttavaṇṇanā