Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi

    ๔. สกุลาเถรีอปทานํ

    4. Sakulātherīapadānaṃ

    ๑๓๑.

    131.

    ‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

    ‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbadhammāna pāragū;

    อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ นายโกฯ

    Ito satasahassamhi, kappe uppajji nāyako.

    ๑๓๒.

    132.

    ‘‘หิตาย สพฺพสตฺตานํ, สุขาย วทตํ วโร;

    ‘‘Hitāya sabbasattānaṃ, sukhāya vadataṃ varo;

    อตฺถาย ปุริสาชโญฺญ, ปฎิปโนฺน สเทวเกฯ

    Atthāya purisājañño, paṭipanno sadevake.

    ๑๓๓.

    133.

    ‘‘ยสคฺคปโตฺต สิริมา, กิตฺติวณฺณคโต ชิโน;

    ‘‘Yasaggapatto sirimā, kittivaṇṇagato jino;

    ปูชิโต สพฺพโลกสฺส, ทิสาสพฺพาสุ วิสฺสุโตฯ

    Pūjito sabbalokassa, disāsabbāsu vissuto.

    ๑๓๔.

    134.

    ‘‘อุตฺติณฺณวิจิกิโจฺฉ โส, วีติวตฺตกถํกโถ;

    ‘‘Uttiṇṇavicikiccho so, vītivattakathaṃkatho;

    สมฺปุณฺณมนสงฺกโปฺป, ปโตฺต สโมฺพธิมุตฺตมํฯ

    Sampuṇṇamanasaṅkappo, patto sambodhimuttamaṃ.

    ๑๓๕.

    135.

    ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส, อุปฺปาเทตา นรุตฺตโม;

    ‘‘Anuppannassa maggassa, uppādetā naruttamo;

    อนกฺขาตญฺจ อกฺขาสิ, อสญฺชาตญฺจ สญฺชนีฯ

    Anakkhātañca akkhāsi, asañjātañca sañjanī.

    ๑๓๖.

    136.

    ‘‘มคฺคญฺญู จ มคฺควิทู, มคฺคกฺขายี นราสโภ;

    ‘‘Maggaññū ca maggavidū, maggakkhāyī narāsabho;

    มคฺคสฺส กุสโล สตฺถา, สารถีนํ วรุตฺตโมฯ

    Maggassa kusalo satthā, sārathīnaṃ varuttamo.

    ๑๓๗.

    137.

    ‘‘มหาการุณิโก สตฺถา, ธมฺมํ เทเสสิ นายโก;

    ‘‘Mahākāruṇiko satthā, dhammaṃ desesi nāyako;

    นิมุเคฺค กามปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเนฯ

    Nimugge kāmapaṅkamhi, samuddharati pāṇine.

    ๑๓๘.

    138.

    ‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา ขตฺติยนนฺทนา;

    ‘‘Tadāhaṃ haṃsavatiyaṃ, jātā khattiyanandanā;

    สุรูปา สธนา จาปิ, ทยิตา จ สิรีมตีฯ

    Surūpā sadhanā cāpi, dayitā ca sirīmatī.

    ๑๓๙.

    139.

    ‘‘อานนฺทสฺส มหารโญฺญ, ธีตา ปรมโสภณา;

    ‘‘Ānandassa mahārañño, dhītā paramasobhaṇā;

    เวมาตา 1 ภคินี จาปิ, ปทุมุตฺตรนามิโนฯ

    Vemātā 2 bhaginī cāpi, padumuttaranāmino.

    ๑๔๐.

    140.

    ‘‘ราชกญฺญาหิ สหิตา, สพฺพาภรณภูสิตา;

    ‘‘Rājakaññāhi sahitā, sabbābharaṇabhūsitā;

    อุปาคมฺม มหาวีรํ, อโสฺสสิํ ธมฺมเทสนํฯ

    Upāgamma mahāvīraṃ, assosiṃ dhammadesanaṃ.

    ๑๔๑.

    141.

    ‘‘ตทา หิ โส โลกครุ, ภิกฺขุนิํ ทิพฺพจกฺขุกํ;

    ‘‘Tadā hi so lokagaru, bhikkhuniṃ dibbacakkhukaṃ;

    กิตฺตยํ ปริสามเชฺฌ 3, อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิ ตํฯ

    Kittayaṃ parisāmajjhe 4, aggaṭṭhāne ṭhapesi taṃ.

    ๑๔๒.

    142.

    ‘‘สุณิตฺวา ตมหํ หฎฺฐา, ทานํ ทตฺวาน สตฺถุโน;

    ‘‘Suṇitvā tamahaṃ haṭṭhā, dānaṃ datvāna satthuno;

    ปูชิตฺวาน จ สมฺพุทฺธํ, ทิพฺพจกฺขุํ อปตฺถยิํฯ

    Pūjitvāna ca sambuddhaṃ, dibbacakkhuṃ apatthayiṃ.

    ๑๔๓.

    143.

    ‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, ‘นเนฺท ลจฺฉสิ ปตฺถิตํ;

    ‘‘Tato avoca maṃ satthā, ‘nande lacchasi patthitaṃ;

    ปทีปธมฺมทานานํ, ผลเมตํ สุนิจฺฉิตํฯ

    Padīpadhammadānānaṃ, phalametaṃ sunicchitaṃ.

    ๑๔๔.

    144.

    ‘‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

    ‘‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;

    โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ

    Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.

    ๑๔๕.

    145.

    ‘‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

    ‘‘‘Tassa dhammesu dāyādā, orasā dhammanimmitā;

    สกุลา นาม นาเมน 5, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา’ฯ

    Sakulā nāma nāmena 6, hessati satthu sāvikā’.

    ๑๔๖.

    146.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ๑๔๗.

    147.

    ‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กเปฺป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

    ‘‘Imamhi bhaddake kappe, brahmabandhu mahāyaso;

    กสฺสโป นาม โคเตฺตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโรฯ

    Kassapo nāma gottena, uppajji vadataṃ varo.

    ๑๔๘.

    148.

    ‘‘ปริพฺพาชกินี อาสิํ, ตทาหํ เอกจารินี;

    ‘‘Paribbājakinī āsiṃ, tadāhaṃ ekacārinī;

    ภิกฺขาย วิจริตฺวาน, อลภิํ เตลมตฺตกํฯ

    Bhikkhāya vicaritvāna, alabhiṃ telamattakaṃ.

    ๑๔๙.

    149.

    ‘‘เตน ทีปํ ปทีเปตฺวา, อุปฎฺฐิํ สพฺพสํวริํ;

    ‘‘Tena dīpaṃ padīpetvā, upaṭṭhiṃ sabbasaṃvariṃ;

    เจติยํ ทฺวิปทคฺคสฺส 7, วิปฺปสเนฺนน เจตสาฯ

    Cetiyaṃ dvipadaggassa 8, vippasannena cetasā.

    ๑๕๐.

    150.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ๑๕๑.

    151.

    ‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

    ‘‘Yattha yatthūpapajjāmi, tassa kammassa vāhasā;

    ปชฺชลนฺติ 9 มหาทีปา, ตตฺถ ตตฺถ คตาย เมฯ

    Pajjalanti 10 mahādīpā, tattha tattha gatāya me.

    ๑๕๒.

    152.

    ‘‘ติโรกุฎฺฎํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;

    ‘‘Tirokuṭṭaṃ tiroselaṃ, samatiggayha pabbataṃ;

    ปสฺสามหํ ยทิจฺฉามิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Passāmahaṃ yadicchāmi, dīpadānassidaṃ phalaṃ.

    ๑๕๓.

    153.

    ‘‘วิสุทฺธนยนา โหมิ, ยสสา จ ชลามหํ;

    ‘‘Visuddhanayanā homi, yasasā ca jalāmahaṃ;

    สทฺธาปญฺญาวตี เจว, ทีปทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Saddhāpaññāvatī ceva, dīpadānassidaṃ phalaṃ.

    ๑๕๔.

    154.

    ‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา วิปฺปกุเล อหํ;

    ‘‘Pacchime ca bhave dāni, jātā vippakule ahaṃ;

    ปหูตธนธญฺญมฺหิ, มุทิเต ราชปูชิเตฯ

    Pahūtadhanadhaññamhi, mudite rājapūjite.

    ๑๕๕.

    155.

    ‘‘อหํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, สพฺพาภรณภูสิตา;

    ‘‘Ahaṃ sabbaṅgasampannā, sabbābharaṇabhūsitā;

    ปุรปฺปเวเส สุคตํ, วาตปาเน ฐิตา อหํฯ

    Purappavese sugataṃ, vātapāne ṭhitā ahaṃ.

    ๑๕๖.

    156.

    ‘‘ทิสฺวา ชลนฺตํ ยสสา, เทวมนุสฺสสกฺกตํ;

    ‘‘Disvā jalantaṃ yasasā, devamanussasakkataṃ;

    อนุพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ, ลกฺขเณหิ วิภูสิตํฯ

    Anubyañjanasampannaṃ, lakkhaṇehi vibhūsitaṃ.

    ๑๕๗.

    157.

    ‘‘อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิํ;

    ‘‘Udaggacittā sumanā, pabbajjaṃ samarocayiṃ;

    น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณิํฯ

    Na cireneva kālena, arahattamapāpuṇiṃ.

    ๑๕๘.

    158.

    ‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

    ‘‘Iddhīsu ca vasī homi, dibbāya sotadhātuyā;

    ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกาฯ

    Paracittāni jānāmi, satthusāsanakārikā.

    ๑๕๙.

    159.

    ‘‘ปุเพฺพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

    ‘‘Pubbenivāsaṃ jānāmi, dibbacakkhu visodhitaṃ;

    เขเปตฺวา อาสเว สเพฺพ, วิสุทฺธาสิํ สุนิมฺมลาฯ

    Khepetvā āsave sabbe, visuddhāsiṃ sunimmalā.

    ๑๖๐.

    160.

    ‘‘ปริจิโณฺณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

    ‘‘Pariciṇṇo mayā satthā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ;

    โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตาฯ

    Ohito garuko bhāro, bhavanetti samūhatā.

    ๑๖๑.

    161.

    ‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

    ‘‘Yassatthāya pabbajitā, agārasmānagāriyaṃ;

    โส เม อโตฺถ อนุปฺปโตฺต, สพฺพสํโยชนกฺขโยฯ

    So me attho anuppatto, sabbasaṃyojanakkhayo.

    ๑๖๒.

    162.

    ‘‘ตโต มหาการุณิโก, เอตทเคฺค ฐเปสิ มํ;

    ‘‘Tato mahākāruṇiko, etadagge ṭhapesi maṃ;

    ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคา, สกุลาติ นรุตฺตโมฯ

    Dibbacakkhukānaṃ aggā, sakulāti naruttamo.

    ๑๖๓.

    163.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสวาฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavā.

    ๑๖๔.

    164.

    ‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

    ‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.

    ๑๖๕.

    165.

    ‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ

    ‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.

    อิตฺถํ สุทํ สกุลา ภิกฺขุนี อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ

    Itthaṃ sudaṃ sakulā bhikkhunī imā gāthāyo abhāsitthāti.

    สกุลาเถริยาปทานํ จตุตฺถํฯ

    Sakulātheriyāpadānaṃ catutthaṃ.







    Footnotes:
    1. เวมาตุ (สี.)
    2. vemātu (sī.)
    3. จตุปริสาย มเชฺฌ (สฺยา.)
    4. catuparisāya majjhe (syā.)
    5. สกุลาติ จ นาเมน (สฺยา.)
    6. sakulāti ca nāmena (syā.)
    7. ทิปทคฺคสฺส (สี. สฺยา. ปี.)
    8. dipadaggassa (sī. syā. pī.)
    9. สญฺชลนฺติ (สฺยา. ก.), สํจรนฺติ (ปี.)
    10. sañjalanti (syā. ka.), saṃcaranti (pī.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact