Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā

    ๗. สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา

    7. Sakulātherīgāthāvaṇṇanā

    อคารสฺมิํ วสนฺตีติอาทิกา สกุลาย เถริยา คาถาฯ อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร อานนฺทสฺส รโญฺญ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺตา, สตฺถุ เวมาติกภคินี นนฺทาติ นาเมนฯ สา วิญฺญุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุนิํ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ ฐานนฺตรํ ปเตฺถนฺตี ปณิธานมกาสิฯ สา ตตฺถ ยาวชีวํ พหุํ อุฬารํ กุสลกมฺมํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกจารินี วิจรนฺตี เอกทิวสํ เตลภิกฺขาย อาหิณฺฑิตฺวา เตลํ ลภิตฺวา เตน เตเลน สตฺถุ เจติเย สพฺพรตฺติํ ทีปปูชํ อกาสิฯ สา ตโต จุตา ตาวติํเส นิพฺพตฺติตฺวา สุวิสุทฺธทิพฺพจกฺขุกา หุตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติฯ สกุลาติสฺสา นามํ อโหสิฯ สา วิญฺญุตํ ปตฺตา สตฺถุ เชตวนปฎิคฺคหเณ ปฎิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค อญฺญตรสฺส ขีณาสวเตฺถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สญฺชาตสํเวคา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา ฆเฎนฺตี วายมนฺตี น จิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑๓๑-๑๖๕) –

    Agārasmiṃvasantītiādikā sakulāya theriyā gāthā. Ayaṃ kira padumuttarassa bhagavato kāle haṃsavatīnagare ānandassa rañño dhītā hutvā nibbattā, satthu vemātikabhaginī nandāti nāmena. Sā viññutaṃ patvā ekadivasaṃ satthu santike dhammaṃ suṇantī satthārā ekaṃ bhikkhuniṃ dibbacakkhukānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapentaṃ disvā ussāhajātā adhikārakammaṃ katvā sayampi taṃ ṭhānantaraṃ patthentī paṇidhānamakāsi. Sā tattha yāvajīvaṃ bahuṃ uḷāraṃ kusalakammaṃ katvā devaloke nibbattitvā aparāparaṃ sugatīsuyeva saṃsarantī kassapassa bhagavato kāle brāhmaṇakule nibbattitvā paribbājakapabbajjaṃ pabbajitvā ekacārinī vicarantī ekadivasaṃ telabhikkhāya āhiṇḍitvā telaṃ labhitvā tena telena satthu cetiye sabbarattiṃ dīpapūjaṃ akāsi. Sā tato cutā tāvatiṃse nibbattitvā suvisuddhadibbacakkhukā hutvā ekaṃ buddhantaraṃ devesuyeva saṃsaritvā imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ brāhmaṇakule nibbatti. Sakulātissā nāmaṃ ahosi. Sā viññutaṃ pattā satthu jetavanapaṭiggahaṇe paṭiladdhasaddhā upāsikā hutvā aparabhāge aññatarassa khīṇāsavattherassa santike dhammaṃ sutvā sañjātasaṃvegā pabbajitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā ghaṭentī vāyamantī na cirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. therī 2.3.131-165) –

    ‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

    ‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbadhammāna pāragū;

    อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ นายโกฯ

    Ito satasahassamhi, kappe uppajji nāyako.

    ‘‘หิตาย สพฺพสตฺตานํ, สุขาย วทตํ วโร;

    ‘‘Hitāya sabbasattānaṃ, sukhāya vadataṃ varo;

    อตฺถาย ปุริสาชโญฺญ, ปฎิปโนฺน สเทวเกฯ

    Atthāya purisājañño, paṭipanno sadevake.

    ‘‘ยสคฺคปโตฺต สิริมา, กิตฺติวณฺณคโต ชิโน;

    ‘‘Yasaggapatto sirimā, kittivaṇṇagato jino;

    ปูชิโต สพฺพโลกสฺส, ทิสา สพฺพาสุ วิสฺสุโตฯ

    Pūjito sabbalokassa, disā sabbāsu vissuto.

    ‘‘อุตฺติณฺณวิจิกิโจฺฉ โส, วีติวตฺตกถํกโถ;

    ‘‘Uttiṇṇavicikiccho so, vītivattakathaṃkatho;

    สมฺปุณฺณมนสงฺกโปฺป, ปโตฺต สโมฺพธิมุตฺตมํฯ

    Sampuṇṇamanasaṅkappo, patto sambodhimuttamaṃ.

    ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส, อุปฺปาเทตา นรุตฺตโม;

    ‘‘Anuppannassa maggassa, uppādetā naruttamo;

    อนกฺขาตญฺจ อกฺขาสิ, อสญฺชาตญฺจ สญฺชนีฯ

    Anakkhātañca akkhāsi, asañjātañca sañjanī.

    ‘‘มคฺคญฺญู จ มคฺควิทู, มคฺคกฺขายี นราสโภ;

    ‘‘Maggaññū ca maggavidū, maggakkhāyī narāsabho;

    มคฺคสฺส กุสโล สตฺถา, สารถีนํ วรุตฺตโมฯ

    Maggassa kusalo satthā, sārathīnaṃ varuttamo.

    ‘‘มหาการุณิโก สตฺถา, ธมฺมํ เทเสติ นายโก;

    ‘‘Mahākāruṇiko satthā, dhammaṃ deseti nāyako;

    นิมุเคฺค กามปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเนฯ

    Nimugge kāmapaṅkamhi, samuddharati pāṇine.

    ‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา ขตฺติยนนฺทนา;

    ‘‘Tadāhaṃ haṃsavatiyaṃ, jātā khattiyanandanā;

    สุรูปา สธนา จาปิ, ทยิตา จ สิรีมตีฯ

    Surūpā sadhanā cāpi, dayitā ca sirīmatī.

    ‘‘อานนฺทสฺส มหารโญฺญ, ธีตา ปรมโสภนา;

    ‘‘Ānandassa mahārañño, dhītā paramasobhanā;

    เวมาตา ภคินี จาปิ, ปทุมุตฺตรนามิโนฯ

    Vemātā bhaginī cāpi, padumuttaranāmino.

    ‘‘ราชกญฺญาหิ สหิตา, สพฺพาภรณภูสิตา;

    ‘‘Rājakaññāhi sahitā, sabbābharaṇabhūsitā;

    อุปาคมฺม มหาวีรํ, อโสฺสสิํ ธมฺมเทสนํฯ

    Upāgamma mahāvīraṃ, assosiṃ dhammadesanaṃ.

    ‘‘ตทา หิ โส โลกครุ, ภิกฺขุนิํ ทิพฺพจกฺขุกํ;

    ‘‘Tadā hi so lokagaru, bhikkhuniṃ dibbacakkhukaṃ;

    กิตฺตยํ ปริสามเชฺฌ, อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิ ตํฯ

    Kittayaṃ parisāmajjhe, aggaṭṭhāne ṭhapesi taṃ.

    ‘‘สุณิตฺวา ตมหํ หฎฺฐา, ทานํ ทตฺวาน สตฺถุโน;

    ‘‘Suṇitvā tamahaṃ haṭṭhā, dānaṃ datvāna satthuno;

    ปูชิตฺวาน จ สมฺพุทฺธํ, ทิพฺพจกฺขุํ อปตฺถยิํฯ

    Pūjitvāna ca sambuddhaṃ, dibbacakkhuṃ apatthayiṃ.

    ‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, นเนฺท ลจฺฉสิ ปตฺถิตํ;

    ‘‘Tato avoca maṃ satthā, nande lacchasi patthitaṃ;

    ปทีปธมฺมทานานํ, ผลเมตํ สุนิจฺฉิตํฯ

    Padīpadhammadānānaṃ, phalametaṃ sunicchitaṃ.

    ‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

    ‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;

    โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ

    Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.

    ‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

    ‘‘Tassa dhammesu dāyādā, orasā dhammanimmitā;

    สกุลา นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกาฯ

    Sakulā nāma nāmena, hessati satthu sāvikā.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กเปฺป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

    ‘‘Imamhi bhaddake kappe, brahmabandhu mahāyaso;

    กสฺสโป นาม โคเตฺตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโรฯ

    Kassapo nāma gottena, uppajji vadataṃ varo.

    ‘‘ปริพฺพาชกินี อาสิํ, ตทาหํ เอกจารินี;

    ‘‘Paribbājakinī āsiṃ, tadāhaṃ ekacārinī;

    ภิกฺขาย วิจริตฺวาน, อลภิํ เตลมตฺตกํฯ

    Bhikkhāya vicaritvāna, alabhiṃ telamattakaṃ.

    ‘‘เตน ทีปํ ปทีเปตฺวา, อุปฎฺฐิํ สพฺพสํวริํ;

    ‘‘Tena dīpaṃ padīpetvā, upaṭṭhiṃ sabbasaṃvariṃ;

    เจติยํ ทฺวิปทคฺคสฺส, วิปฺปสเนฺนน เจตสาฯ

    Cetiyaṃ dvipadaggassa, vippasannena cetasā.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

    ‘‘Yattha yatthūpapajjāmi, tassa kammassa vāhasā;

    ปชฺชลนฺติ มหาทีปา, ตตฺถ ตตฺถ คตาย เมฯ

    Pajjalanti mahādīpā, tattha tattha gatāya me.

    ‘‘ติโรกุฎฺฎํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;

    ‘‘Tirokuṭṭaṃ tiroselaṃ, samatiggayha pabbataṃ;

    ปสฺสามหํ ยทิจฺฉามิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Passāmahaṃ yadicchāmi, dīpadānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘วิสุทฺธนยนา โหมิ, ยสสา จ ชลามหํ;

    ‘‘Visuddhanayanā homi, yasasā ca jalāmahaṃ;

    สทฺธาปญฺญาวตี เจว, ทีปทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Saddhāpaññāvatī ceva, dīpadānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา วิปฺปกุเล อหํ;

    ‘‘Pacchime ca bhave dāni, jātā vippakule ahaṃ;

    ปหูตธนธญฺญมฺหิ, มุทิเต ราชปูชิเตฯ

    Pahūtadhanadhaññamhi, mudite rājapūjite.

    ‘‘อหํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, สพฺพาภรณภูสิตา;

    ‘‘Ahaṃ sabbaṅgasampannā, sabbābharaṇabhūsitā;

    ปุรปฺปเวเส สุคตํ, วาตปาเน ฐิตา อหํฯ

    Purappavese sugataṃ, vātapāne ṭhitā ahaṃ.

    ‘‘ทิสฺวา ชลนฺตํ ยสสา, เทวมนุสฺสสกฺกตํ;

    ‘‘Disvā jalantaṃ yasasā, devamanussasakkataṃ;

    อนุพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ, ลกฺขเณหิ วิภูสิตํฯ

    Anubyañjanasampannaṃ, lakkhaṇehi vibhūsitaṃ.

    ‘‘อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิํ;

    ‘‘Udaggacittā sumanā, pabbajjaṃ samarocayiṃ;

    น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณิํฯ

    Na cireneva kālena, arahattamapāpuṇiṃ.

    ‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

    ‘‘Iddhīsu ca vasī homi, dibbāya sotadhātuyā;

    ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกาฯ

    Paracittāni jānāmi, satthusāsanakārikā.

    ‘‘ปุเพฺพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

    ‘‘Pubbenivāsaṃ jānāmi, dibbacakkhu visodhitaṃ;

    เขเปตฺวา อาสเว สเพฺพ, วิสุทฺธาสิํ สุนิมฺมลาฯ

    Khepetvā āsave sabbe, visuddhāsiṃ sunimmalā.

    ‘‘ปริจิโณฺณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

    ‘‘Pariciṇṇo mayā satthā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ;

    โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติสมูหตาฯ

    Ohito garuko bhāro, bhavanettisamūhatā.

    ‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

    ‘‘Yassatthāya pabbajitā, agārasmānagāriyaṃ;

    โส เม อโตฺถ อนุปฺปโตฺต, สพฺพสํโยชนกฺขโยฯ

    So me attho anuppatto, sabbasaṃyojanakkhayo.

    ‘‘ตโต มหาการุณิโก, เอตทเคฺค ฐเปสิ มํ;

    ‘‘Tato mahākāruṇiko, etadagge ṭhapesi maṃ;

    ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคา, สกุลาติ นรุตฺตโมฯ

    Dibbacakkhukānaṃ aggā, sakulāti naruttamo.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา กตาธิการตาย ทิพฺพจกฺขุญาเณ จิณฺณวสี อโหสิฯ เตน นํ สตฺถา ทิพฺพจกฺขุกานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิฯ สา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –

    Arahattaṃ pana patvā katādhikāratāya dibbacakkhuñāṇe ciṇṇavasī ahosi. Tena naṃ satthā dibbacakkhukānaṃ bhikkhunīnaṃ aggaṭṭhāne ṭhapesi. Sā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā pītisomanassajātā udānavasena –

    ๙๗.

    97.

    ‘‘อคารสฺมิํ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโน;

    ‘‘Agārasmiṃ vasantīhaṃ, dhammaṃ sutvāna bhikkhuno;

    อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํฯ

    Addasaṃ virajaṃ dhammaṃ, nibbānaṃ padamaccutaṃ.

    ๙๘.

    98.

    ‘‘สาหํ ปุตฺตํ ธีตรญฺจ, ธนธญฺญญฺจ ฉฑฺฑิย;

    ‘‘Sāhaṃ puttaṃ dhītarañca, dhanadhaññañca chaḍḍiya;

    เกเส เฉทาปยิตฺวาน, ปพฺพชิํ อนคาริยํฯ

    Kese chedāpayitvāna, pabbajiṃ anagāriyaṃ.

    ๙๙.

    99.

    ‘‘สิกฺขมานา อหํ สนฺตี, ภาเวนฺตี มคฺคมญฺชสํ;

    ‘‘Sikkhamānā ahaṃ santī, bhāventī maggamañjasaṃ;

    ปหาสิํ ราคโทสญฺจ, ตเทกเฎฺฐ จ อาสเวฯ

    Pahāsiṃ rāgadosañca, tadekaṭṭhe ca āsave.

    ๑๐๐.

    100.

    ‘‘ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺช, ปุพฺพชาติมนุสฺสริํ;

    ‘‘Bhikkhunī upasampajja, pubbajātimanussariṃ;

    ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ, วิมลํ สาธุภาวิตํฯ

    Dibbacakkhu visodhitaṃ, vimalaṃ sādhubhāvitaṃ.

    ๑๐๑.

    101.

    ‘‘สงฺขาเร ปรโต ทิสฺวา, เหตุชาเต ปโลกิเต;

    ‘‘Saṅkhāre parato disvā, hetujāte palokite;

    ปหาสิํ อาสเว สเพฺพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติฯ –

    Pahāsiṃ āsave sabbe, sītibhūtāmhi nibbutā’’ti. –

    อิมา คาถา อภาสิฯ

    Imā gāthā abhāsi.

    ตตฺถ อคารสฺมิํ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโนติ อหํ ปุเพฺพ อคารมเชฺฌ วสมานา อญฺญตรสฺส ภินฺนกิเลสสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก จตุสจฺจคพฺภํ ธมฺมกถํ สุตฺวาฯ อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตนฺติ ราครชาทีนํ อภาเวน วิรชํ, วานโต นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ, จวนาภาวโต อธิคตานํ อจฺจุติเหตุตาย จ นิพฺพานํ อจฺจุตํ, ปทนฺติ จ ลทฺธนามํ อสงฺขตธมฺมํ, สหสฺสนยปฎิมณฺฑิเตน ทสฺสนสงฺขาเตน ธมฺมจกฺขุนา อทฺทสํ ปสฺสิํฯ

    Tattha agārasmiṃ vasantīhaṃ, dhammaṃ sutvāna bhikkhunoti ahaṃ pubbe agāramajjhe vasamānā aññatarassa bhinnakilesassa bhikkhuno santike catusaccagabbhaṃ dhammakathaṃ sutvā. Addasaṃ virajaṃ dhammaṃ, nibbānaṃ padamaccutanti rāgarajādīnaṃ abhāvena virajaṃ, vānato nikkhantattā nibbānaṃ, cavanābhāvato adhigatānaṃ accutihetutāya ca nibbānaṃ accutaṃ, padanti ca laddhanāmaṃ asaṅkhatadhammaṃ, sahassanayapaṭimaṇḍitena dassanasaṅkhātena dhammacakkhunā addasaṃ passiṃ.

    สาหนฺติ สา อหํ วุตฺตปฺปกาเรน โสตาปนฺนา โหมิฯ

    Sāhanti sā ahaṃ vuttappakārena sotāpannā homi.

    สิกฺขมานา อหํ สนฺตีติ อหํ สิกฺขมานาว สมานา ปพฺพชิตฺวา วเสฺส อปริปุเณฺณ เอวฯ ภาเวนฺตี มคฺคมญฺชสนฺติ มชฺฌิมปฎิปตฺติภาวโต อญฺชสํ อุปริมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตีฯ ตเทกเฎฺฐ จ อาสเวติ ราคโทเสหิ สหเชกเฎฺฐ ปหาเนกเฎฺฐ จ ตติยมคฺควเชฺฌ อาสเว ปหาสิํ สมุจฺฉินฺทิํฯ

    Sikkhamānā ahaṃ santīti ahaṃ sikkhamānāva samānā pabbajitvā vasse aparipuṇṇe eva. Bhāventī maggamañjasanti majjhimapaṭipattibhāvato añjasaṃ uparimaggaṃ uppādentī. Tadekaṭṭhe ca āsaveti rāgadosehi sahajekaṭṭhe pahānekaṭṭhe ca tatiyamaggavajjhe āsave pahāsiṃ samucchindiṃ.

    ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺชาติ วเสฺส ปริปุเณฺณ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ภิกฺขุนี หุตฺวาฯ วิมลนฺติ อวิชฺชาทีหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตตาย วิคตมลํ, สาธุ สกฺกจฺจ สมฺมเทว ภาวิตํ, สาธูหิ วา พุทฺธาทีหิ ภาวิตํ อุปฺปาทิตํ ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตนฺติ สมฺพโนฺธฯ

    Bhikkhunīupasampajjāti vasse paripuṇṇe upasampajjitvā bhikkhunī hutvā. Vimalanti avijjādīhi upakkilesehi vimuttatāya vigatamalaṃ, sādhu sakkacca sammadeva bhāvitaṃ, sādhūhi vā buddhādīhi bhāvitaṃ uppāditaṃ dibbacakkhu visodhitanti sambandho.

    สงฺขาเรติ เตภูมกสงฺขาเรฯ ปรโตติ อนตฺตโตฯ เหตุชาเตติ ปจฺจยุปฺปเนฺนฯ ปโลกิเตติ ปลุชฺชนสภาเว ปภงฺคุเน ปญฺญาจกฺขุนา ทิสฺวาฯ ปหาสิํ อาสเว สเพฺพติ อคฺคมเคฺคน อวสิเฎฺฐ สเพฺพปิ อาสเว ปชหิํ, เขเปสินฺติ อโตฺถฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    Saṅkhāreti tebhūmakasaṅkhāre. Paratoti anattato. Hetujāteti paccayuppanne. Palokiteti palujjanasabhāve pabhaṅgune paññācakkhunā disvā. Pahāsiṃ āsave sabbeti aggamaggena avasiṭṭhe sabbepi āsave pajahiṃ, khepesinti attho. Sesaṃ vuttanayameva.

    สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sakulātherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๗. สกุลาเถรีคาถา • 7. Sakulātherīgāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact