Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi |
๑๐. สาลมณฺฑปิยเตฺถรอปทานํ
10. Sālamaṇḍapiyattheraapadānaṃ
๑๙๐.
190.
‘‘อโชฺฌคาเหตฺวา สาลวนํ, สุกโต อสฺสโม มม;
‘‘Ajjhogāhetvā sālavanaṃ, sukato assamo mama;
สาลปุเปฺผหิ สญฺฉโนฺน, วสามิ วิปิเน ตทาฯ
Sālapupphehi sañchanno, vasāmi vipine tadā.
๑๙๑.
191.
‘‘ปิยทสฺสี จ ภควา, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;
‘‘Piyadassī ca bhagavā, sayambhū aggapuggalo;
วิเวกกาโม สมฺพุโทฺธ, สาลวนมุปาคมิฯ
Vivekakāmo sambuddho, sālavanamupāgami.
๑๙๒.
192.
‘‘อสฺสมา อภินิกฺขมฺม, ปวนํ อคมาสหํ;
‘‘Assamā abhinikkhamma, pavanaṃ agamāsahaṃ;
มูลผลํ คเวสโนฺต, อาหิณฺฑามิ วเน ตทาฯ
Mūlaphalaṃ gavesanto, āhiṇḍāmi vane tadā.
๑๙๓.
193.
‘‘ตตฺถทฺทสาสิํ สมฺพุทฺธํ, ปิยทสฺสิํ มหายสํ;
‘‘Tatthaddasāsiṃ sambuddhaṃ, piyadassiṃ mahāyasaṃ;
สุนิสินฺนํ สมาปนฺนํ, วิโรจนฺตํ มหาวเนฯ
Sunisinnaṃ samāpannaṃ, virocantaṃ mahāvane.
๑๙๔.
194.
‘‘จตุทเณฺฑ ฐเปตฺวาน, พุทฺธสฺส อุปรี อหํ;
‘‘Catudaṇḍe ṭhapetvāna, buddhassa uparī ahaṃ;
มณฺฑปํ สุกตํ กตฺวา, สาลปุเปฺผหิ ฉาทยิํฯ
Maṇḍapaṃ sukataṃ katvā, sālapupphehi chādayiṃ.
๑๙๕.
195.
‘‘สตฺตาหํ ธารยิตฺวาน, มณฺฑปํ สาลฉาทิตํ;
‘‘Sattāhaṃ dhārayitvāna, maṇḍapaṃ sālachāditaṃ;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, พุทฺธเสฎฺฐมวนฺทหํฯ
Tattha cittaṃ pasādetvā, buddhaseṭṭhamavandahaṃ.
๑๙๖.
196.
‘‘ภควา ตมฺหิ สมเย, วุฎฺฐหิตฺวา สมาธิโต;
‘‘Bhagavā tamhi samaye, vuṭṭhahitvā samādhito;
ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโน, นิสีทิ ปุริสุตฺตโมฯ
Yugamattaṃ pekkhamāno, nisīdi purisuttamo.
๑๙๗.
197.
‘‘สาวโก วรุโณ นาม, ปิยทสฺสิสฺส สตฺถุโน;
‘‘Sāvako varuṇo nāma, piyadassissa satthuno;
วสีสตสหเสฺสหิ, อุปคจฺฉิ วินายกํฯ
Vasīsatasahassehi, upagacchi vināyakaṃ.
๑๙๘.
198.
‘‘ปิยทสฺสี จ ภควา, โลกเชโฎฺฐ นราสโภ;
‘‘Piyadassī ca bhagavā, lokajeṭṭho narāsabho;
ภิกฺขุสเงฺฆ นิสีทิตฺวา, สิตํ ปาตุกรี ชิโนฯ
Bhikkhusaṅghe nisīditvā, sitaṃ pātukarī jino.
๑๙๙.
199.
‘‘อนุรุโทฺธ อุปฎฺฐาโก, ปิยทสฺสิสฺส สตฺถุโน;
‘‘Anuruddho upaṭṭhāko, piyadassissa satthuno;
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, อปุจฺฉิตฺถ มหามุนิํฯ
Ekaṃsaṃ cīvaraṃ katvā, apucchittha mahāmuniṃ.
๒๐๐.
200.
‘‘‘โก นุ โข ภควา เหตุ, สิตกมฺมสฺส สตฺถุโน;
‘‘‘Ko nu kho bhagavā hetu, sitakammassa satthuno;
การเณ วิชฺชมานมฺหิ, สตฺถา ปาตุกเร สิตํ’ฯ
Kāraṇe vijjamānamhi, satthā pātukare sitaṃ’.
๒๐๑.
201.
ตสฺส กมฺมํ สริตฺวาน, สิตํ ปาตุกริํ อหํฯ
Tassa kammaṃ saritvāna, sitaṃ pātukariṃ ahaṃ.
๒๐๒.
202.
เทวโลเก มนุเสฺส วา, โอกาโสว น สมฺมติฯ
Devaloke manusse vā, okāsova na sammati.
๒๐๓.
203.
‘‘‘เทวโลเก วสนฺตสฺส, ปุญฺญกมฺมสมงฺคิโน;
‘‘‘Devaloke vasantassa, puññakammasamaṅgino;
ยาวตา ปริสา ตสฺส, สาลจฺฉนฺนา ภวิสฺสติฯ
Yāvatā parisā tassa, sālacchannā bhavissati.
๒๐๔.
204.
‘‘‘ตตฺถ ทิเพฺพหิ นเจฺจหิ, คีเตหิ วาทิเตหิ จ;
‘‘‘Tattha dibbehi naccehi, gītehi vāditehi ca;
รมิสฺสติ สทา สโนฺต, ปุญฺญกมฺมสมาหิโตฯ
Ramissati sadā santo, puññakammasamāhito.
๒๐๕.
205.
‘‘‘ยาวตา ปริสา ตสฺส, คนฺธคนฺธี ภวิสฺสติ;
‘‘‘Yāvatā parisā tassa, gandhagandhī bhavissati;
สาลสฺส ปุปฺผวโสฺส จ, ปวสฺสิสฺสติ ตาวเทฯ
Sālassa pupphavasso ca, pavassissati tāvade.
๒๐๖.
206.
‘‘‘ตโต จุโตยํ มนุโช, มานุสํ อาคมิสฺสติ;
‘‘‘Tato cutoyaṃ manujo, mānusaṃ āgamissati;
๒๐๗.
207.
‘‘‘อิธ นจฺจญฺจ คีตญฺจ, สมฺมตาฬสมาหิตํ;
‘‘‘Idha naccañca gītañca, sammatāḷasamāhitaṃ;
ปริวาเรสฺสนฺติ มํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Parivāressanti maṃ niccaṃ, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
๒๐๘.
208.
‘‘‘อุคฺคจฺฉเนฺต จ สูริเย, สาลวสฺสํ ปวสฺสติ;
‘‘‘Uggacchante ca sūriye, sālavassaṃ pavassati;
ปุญฺญกเมฺมน สํยุตฺตํ, วสฺสเต สพฺพกาลิกํฯ
Puññakammena saṃyuttaṃ, vassate sabbakālikaṃ.
๒๐๙.
209.
‘‘‘อฎฺฐารเส กปฺปสเต, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
‘‘‘Aṭṭhārase kappasate, okkākakulasambhavo;
โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ
Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.
๒๑๐.
210.
‘‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
‘‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;
สพฺพาสเว ปริญฺญาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโวฯ
Sabbāsave pariññāya, nibbāyissatināsavo.
๒๑๑.
211.
‘‘‘ธมฺมํ อภิสเมนฺตสฺส, สาลจฺฉนฺนํ ภวิสฺสติ;
‘‘‘Dhammaṃ abhisamentassa, sālacchannaṃ bhavissati;
จิตเก ฌายมานสฺส, ฉทนํ ตตฺถ เหสฺสติ’ฯ
Citake jhāyamānassa, chadanaṃ tattha hessati’.
๒๑๒.
212.
‘‘วิปากํ กิตฺตยิตฺวาน, ปิยทสฺสี มหามุนิ;
‘‘Vipākaṃ kittayitvāna, piyadassī mahāmuni;
ปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ, ตเปฺปโนฺต ธมฺมวุฎฺฐิยาฯ
Parisāya dhammaṃ desesi, tappento dhammavuṭṭhiyā.
๒๑๓.
213.
‘‘ติํสกปฺปานิ เทเวสุ, เทวรชฺชมการยิํ;
‘‘Tiṃsakappāni devesu, devarajjamakārayiṃ;
สฎฺฐิ จ สตฺตกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํฯ
Saṭṭhi ca sattakkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ.
๒๑๔.
214.
‘‘เทวโลกา อิธาคนฺตฺวา, ลภามิ วิปุลํ สุขํ;
‘‘Devalokā idhāgantvā, labhāmi vipulaṃ sukhaṃ;
อิธาปิ สาลจฺฉทนํ, มณฺฑปสฺส อิทํ ผลํฯ
Idhāpi sālacchadanaṃ, maṇḍapassa idaṃ phalaṃ.
๒๑๕.
215.
‘‘อยํ ปจฺฉิมโก มยฺหํ, จริโม วตฺตเต ภโว;
‘‘Ayaṃ pacchimako mayhaṃ, carimo vattate bhavo;
อิธาปิ สาลจฺฉทนํ, เหสฺสติ สพฺพกาลิกํฯ
Idhāpi sālacchadanaṃ, hessati sabbakālikaṃ.
๒๑๖.
216.
‘‘มหามุนิํ โตสยิตฺวา, โคตมํ สกฺยปุงฺควํ;
‘‘Mahāmuniṃ tosayitvā, gotamaṃ sakyapuṅgavaṃ;
ปโตฺตมฺหิ อจลํ ฐานํ, หิตฺวา ชยปราชยํฯ
Pattomhi acalaṃ ṭhānaṃ, hitvā jayaparājayaṃ.
๒๑๗.
217.
‘‘อฎฺฐารเส กปฺปสเต, ยํ พุทฺธมภิปูชยิํ;
‘‘Aṭṭhārase kappasate, yaṃ buddhamabhipūjayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
๒๑๘.
218.
กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสโวฯ
Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavo.
๒๑๙.
219.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๒๒๐.
220.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา สาลมณฺฑปิโย เถโร อิมา คาถาโย
Itthaṃ sudaṃ āyasmā sālamaṇḍapiyo thero imā gāthāyo
อภาสิตฺถาติฯ
Abhāsitthāti.
สาลมณฺฑปิยเตฺถรสฺสาปทานํ ทสมํฯ
Sālamaṇḍapiyattherassāpadānaṃ dasamaṃ.
ปํสุกูลวโคฺค เอกูนปญฺญาสโมฯ
Paṃsukūlavaggo ekūnapaññāsamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ปํสุกูลํ พุทฺธสญฺญี, ภิสโท ญาณกิตฺตโก;
Paṃsukūlaṃ buddhasaññī, bhisado ñāṇakittako;
จนฺทนี ธาตุปูชี จ, ปุลินุปฺปาทโกปิ จฯ
Candanī dhātupūjī ca, pulinuppādakopi ca.
ตรโณ ธมฺมรุจิโก, สาลมณฺฑปิโย ตถา;
Taraṇo dhammaruciko, sālamaṇḍapiyo tathā;
สตานิ เทฺว โหนฺติ คาถา, อูนวีสติเมว จฯ
Satāni dve honti gāthā, ūnavīsatimeva ca.
Footnotes: