Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๖๗] ๗. สาฬิยชาตกวณฺณนา

    [367] 7. Sāḷiyajātakavaṇṇanā

    ยฺวายํ สาฬิยฉาโปตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรโนฺต ‘‘อาวุโส, เทวทโตฺต ตาสการโกปิ ภวิตุํ นาสกฺขี’’ติ วจนํ อารพฺภ กเถสิฯ ตทา หิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปส มม ตาสการโกปิ ภวิตุํ นาสกฺขี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Yvāyaṃ sāḷiyachāpotīti idaṃ satthā veḷuvane viharanto ‘‘āvuso, devadatto tāsakārakopi bhavituṃ nāsakkhī’’ti vacanaṃ ārabbha kathesi. Tadā hi satthā ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesa mama tāsakārakopi bhavituṃ nāsakkhī’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต คามเก กุฎุมฺพิกกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ตรุณกาเล ปํสุกีฬเกหิ ทารเกหิ สทฺธิํ คามทฺวาเร นิโคฺรธรุกฺขมูเล กีฬติฯ ตทา เอโก ทุพฺพลเวโชฺช คาเม กิญฺจิ อลภิตฺวา นิกฺขมโนฺต ตํ ฐานํ ปตฺวา เอกํ สปฺปํ วิฎปพฺภนฺตเรน สีสํ นีหริตฺวา นิทฺทายนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยา คาเม กิญฺจิ น ลทฺธํ, อิเม ทารเก วเญฺจตฺวา สเปฺปน ฑํสาเปตฺวา ติกิจฺฉิตฺวา กิญฺจิเทว คณฺหิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา โพธิสตฺตํ อาห ‘‘สเจ สาฬิยฉาปํ ปเสฺสยฺยาสิ, คเณฺหยฺยาสี’’ติฯ ‘‘อาม, คเณฺหยฺย’’นฺติ ฯ ‘‘ปเสฺสโส วิฎปพฺภนฺตเร สยิโต’’ติฯ โส ตสฺส สปฺปภาวํ อชานโนฺต รุกฺขํ อารุยฺห ตํ คีวายํ คเหตฺวา ‘‘สโปฺป’’ติ ญตฺวา นิวตฺติตุํ อเทโนฺต สุคฺคหิตํ คเหตฺวา เวเคน ขิปิฯ โส คนฺตฺวา เวชฺชสฺส คีวายํ ปติโต คีวํ ปลิเวเฐตฺวา ‘‘กร กรา’’ติ ฑํสิตฺวา ตเตฺถว นํ ปาเตตฺวา ปลายิฯ มนุสฺสา ปริวารยิํสุฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto gāmake kuṭumbikakule nibbattitvā taruṇakāle paṃsukīḷakehi dārakehi saddhiṃ gāmadvāre nigrodharukkhamūle kīḷati. Tadā eko dubbalavejjo gāme kiñci alabhitvā nikkhamanto taṃ ṭhānaṃ patvā ekaṃ sappaṃ viṭapabbhantarena sīsaṃ nīharitvā niddāyantaṃ disvā ‘‘mayā gāme kiñci na laddhaṃ, ime dārake vañcetvā sappena ḍaṃsāpetvā tikicchitvā kiñcideva gaṇhissāmī’’ti cintetvā bodhisattaṃ āha ‘‘sace sāḷiyachāpaṃ passeyyāsi, gaṇheyyāsī’’ti. ‘‘Āma, gaṇheyya’’nti . ‘‘Passeso viṭapabbhantare sayito’’ti. So tassa sappabhāvaṃ ajānanto rukkhaṃ āruyha taṃ gīvāyaṃ gahetvā ‘‘sappo’’ti ñatvā nivattituṃ adento suggahitaṃ gahetvā vegena khipi. So gantvā vejjassa gīvāyaṃ patito gīvaṃ paliveṭhetvā ‘‘kara karā’’ti ḍaṃsitvā tattheva naṃ pātetvā palāyi. Manussā parivārayiṃsu.

    มหาสโตฺต สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสโนฺต อิมา คาถา อภาสิ –

    Mahāsatto sampattaparisāya dhammaṃ desento imā gāthā abhāsi –

    ๙๐.

    90.

    ‘‘ยฺวายํ สาฬิยฉาโปติ, กณฺหสปฺปํ อคาหยิ;

    ‘‘Yvāyaṃ sāḷiyachāpoti, kaṇhasappaṃ agāhayi;

    เตน สเปฺปนยํ ทโฎฺฐ, หโต ปาปานุสาสโกฯ

    Tena sappenayaṃ daṭṭho, hato pāpānusāsako.

    ๙๑.

    91.

    ‘‘อหนฺตารมหนฺตารํ, โย นโร หนฺตุมิจฺฉติ;

    ‘‘Ahantāramahantāraṃ, yo naro hantumicchati;

    เอวํ โส นิหโต เสติ, ยถายํ ปุริโส หโตฯ

    Evaṃ so nihato seti, yathāyaṃ puriso hato.

    ๙๒.

    92.

    ‘‘อหนฺตารมฆาเตนฺตํ , โย นโร หนฺตุมิจฺฉติ;

    ‘‘Ahantāramaghātentaṃ , yo naro hantumicchati;

    เอวํ โส นิหโต เสติ, ยถายํ ปุริโส หโตฯ

    Evaṃ so nihato seti, yathāyaṃ puriso hato.

    ๙๓.

    93.

    ‘‘ยถา ปํสุมุฎฺฐิํ ปุริโส, ปฎิวาตํ ปฎิกฺขิเป;

    ‘‘Yathā paṃsumuṭṭhiṃ puriso, paṭivātaṃ paṭikkhipe;

    ตเมว โส รโช หนฺติ, ตถายํ ปุริโส หโตฯ

    Tameva so rajo hanti, tathāyaṃ puriso hato.

    ๙๔.

    94.

    ‘‘โย อปฺปทุฎฺฐสฺส นรสฺส ทุสฺสติ, สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส;

    ‘‘Yo appaduṭṭhassa narassa dussati, suddhassa posassa anaṅgaṇassa;

    ตเมว พาลํ ปเจฺจติ ปาปํ, สุขุโม รโช ปฎิวาตํว ขิโตฺต’’ติฯ

    Tameva bālaṃ pacceti pāpaṃ, sukhumo rajo paṭivātaṃva khitto’’ti.

    ตตฺถ ยฺวายนฺติ โย อยํ, อยเมว วา ปาโฐฯ สเปฺปนยนฺติ โส อยํ เตน สเปฺปน ทโฎฺฐฯ ปาปานุสาสโกติ ปาปกํ อนุสาสโกฯ

    Tattha yvāyanti yo ayaṃ, ayameva vā pāṭho. Sappenayanti so ayaṃ tena sappena daṭṭho. Pāpānusāsakoti pāpakaṃ anusāsako.

    อหนฺตารนฺติ อปหรนฺตํฯ อหนฺตารนฺติ อมาเรนฺตํฯ เสตีติ มตสยนํ สยติฯ อฆาเตนฺตนฺติ อมาเรนฺตํฯ สุทฺธสฺสาติ นิรปราธสฺสฯ โปสสฺสาติ สตฺตสฺสฯ อนงฺคณสฺสาติ อิทมฺปิ นิรปราธภาวเญฺญว สนฺธาย วุตฺตํฯ ปเจฺจตีติ กมฺมสริกฺขกํ หุตฺวา ปติเอติฯ

    Ahantāranti apaharantaṃ. Ahantāranti amārentaṃ. Setīti matasayanaṃ sayati. Aghātentanti amārentaṃ. Suddhassāti niraparādhassa. Posassāti sattassa. Anaṅgaṇassāti idampi niraparādhabhāvaññeva sandhāya vuttaṃ. Paccetīti kammasarikkhakaṃ hutvā patieti.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ทุพฺพลเวโชฺช เทวทโตฺต อโหสิ, ปณฺฑิตทารโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā dubbalavejjo devadatto ahosi, paṇḍitadārako pana ahameva ahosi’’nti.

    สาฬิยชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ

    Sāḷiyajātakavaṇṇanā sattamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๖๗. สาฬิยชาตกํ • 367. Sāḷiyajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact