Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๓๗. สเลฺลขฎฺฐญาณนิเทฺทสวณฺณนา
37. Sallekhaṭṭhañāṇaniddesavaṇṇanā
๘๘. สเลฺลขฎฺฐญาณนิเทฺทเส ราโค ปุถูติ ราโค วิสุํ, โลกุตฺตเรหิ อสมฺมิโสฺสติ อโตฺถฯ เอส นโย เสเสสุฯ ราโคติ รญฺชนเฎฺฐนฯ โทโสติ ทุสฺสนเฎฺฐนฯ โมโหติ มุยฺหนเฎฺฐนฯ รญฺชนลกฺขโณ ราโค, ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส, มุยฺหนลกฺขโณ โมโหติ อิเม ตโย สีสกิเลเส วตฺวา อิทานิ ปเภทโต ทเสฺสโนฺต โกโธติอาทิมาหฯ ตตฺถ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธติ อิธ สตฺตวตฺถุโก อธิเปฺปโตฯ อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห, ทฬฺหภาวปฺปโตฺต โกโธเยวฯ ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มโกฺข, ปรคุณปุญฺฉนนฺติ อโตฺถฯ ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ยุคคฺคาหวเสน ปรคุณทสฺสนนฺติ อโตฺถฯ ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, อุสูยนาติ อโตฺถ ฯ อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, ‘‘มยฺหํ อจฺฉริยํ มา ปรสฺส โหตู’’ติ อโตฺถฯ อตฺตนา กตปาปปฎิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ปฎิจฺฉาทนเฎฺฐน มายา วิยาติ อโตฺถฯ อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเฐยฺยํ, สฐภาโวติ อโตฺถฯ จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถโมฺภ, ถทฺธภาโวติ อโตฺถฯ กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารโมฺภฯ อุนฺนติลกฺขโณ มาโนฯ อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโนฯ มตฺตภาวลกฺขโณ มโทฯ ปญฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโทฯ
88. Sallekhaṭṭhañāṇaniddese rāgo puthūti rāgo visuṃ, lokuttarehi asammissoti attho. Esa nayo sesesu. Rāgoti rañjanaṭṭhena. Dosoti dussanaṭṭhena. Mohoti muyhanaṭṭhena. Rañjanalakkhaṇo rāgo, dussanalakkhaṇo doso, muyhanalakkhaṇo mohoti ime tayo sīsakilese vatvā idāni pabhedato dassento kodhotiādimāha. Tattha kujjhanalakkhaṇo kodhoti idha sattavatthuko adhippeto. Upanandhanalakkhaṇo upanāho, daḷhabhāvappatto kodhoyeva. Paraguṇamakkhanalakkhaṇo makkho, paraguṇapuñchananti attho. Yugaggāhalakkhaṇo paḷāso, yugaggāhavasena paraguṇadassananti attho. Parasampattikhīyanalakkhaṇā issā, usūyanāti attho . Attasampattinigūhanalakkhaṇaṃ macchariyaṃ, ‘‘mayhaṃ acchariyaṃ mā parassa hotū’’ti attho. Attanā katapāpapaṭicchādanalakkhaṇā māyā, paṭicchādanaṭṭhena māyā viyāti attho. Attano avijjamānaguṇappakāsanalakkhaṇaṃ sāṭheyyaṃ, saṭhabhāvoti attho. Cittassa uddhumātabhāvalakkhaṇo thambho, thaddhabhāvoti attho. Karaṇuttariyalakkhaṇo sārambho. Unnatilakkhaṇo māno. Abbhunnatilakkhaṇo atimāno. Mattabhāvalakkhaṇo mado. Pañcasu kāmaguṇesu cittavosaggalakkhaṇo pamādo.
เอวํ วิสุํ วิสุํ กิเลสวเสน ปุถู ทเสฺสตฺวา วุตฺตกิเลเส จ อวุเตฺต จ อเญฺญ สพฺพสงฺคาหิกวเสน ทเสฺสตุํ สเพฺพ กิเลสาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทิฎฺฐธมฺมสมฺปราเยสุ สเตฺต กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสาฯ อกุสลกมฺมปถสงฺคหิตา จ อสงฺคหิตา จฯ ทุฎฺฐุ จริตา, ทุฎฺฐา วา จริตาติ ทุจฺจริตาฯ เต ปน กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตนฺติ ติปฺปการาฯ วิปากํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อภิสงฺขาราฯ เตปิ ปุญฺญาภิสงฺขาโร อปุญฺญาภิสงฺขาโร อาเนญฺชาภิสงฺขาโรติ ติปฺปการาฯ วิปากวเสน ภวํ คจฺฉนฺตีติภวคามิโน , ภวคามิโน กมฺมา ภวคามิกมฺมาฯ อิมินา อภิสงฺขารภาเวปิ สติ อเวทนียานิ กมฺมานิ ปฎิกฺขิตฺตานิ โหนฺตีติ อยํ วิเสโสฯ ‘‘ทุจฺจริตา’’ติ จ ‘‘กมฺมา’’ติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส กโตฯ นานเตฺตกตฺตนฺติ เอตฺถ อุเทฺทเส เอกตฺตสทฺทสฺส อภาเวปิ นานเตฺตกตฺตานํ อญฺญมญฺญาเปกฺขตฺตา เอกตฺตมฺปิ นิทฺทิสิตุกาเมน ‘‘นานเตฺตกตฺต’’นฺติ อุเทฺทโส กโตฯ นานตฺตสเลฺลขเก เอกเตฺต ทสฺสิเต สเลฺลขญาณํ สุเขน ทสฺสียตีติฯ นานตฺตนฺติ อนวฎฺฐิตตฺตา สปริปฺผนฺทตฺตา จ นานาสภาโวฯ เอกตฺตนฺติ อวฎฺฐิตตฺตา อปริปฺผนฺทตฺตา จ เอกสภาโวฯ
Evaṃ visuṃ visuṃ kilesavasena puthū dassetvā vuttakilese ca avutte ca aññe sabbasaṅgāhikavasena dassetuṃ sabbe kilesātiādimāha. Tattha diṭṭhadhammasamparāyesu satte kilesenti upatāpenti vibādhentīti kilesā. Akusalakammapathasaṅgahitā ca asaṅgahitā ca. Duṭṭhu caritā, duṭṭhā vā caritāti duccaritā. Te pana kāyaduccaritaṃ vacīduccaritaṃ manoduccaritanti tippakārā. Vipākaṃ abhisaṅkharontīti abhisaṅkhārā. Tepi puññābhisaṅkhāro apuññābhisaṅkhāro āneñjābhisaṅkhāroti tippakārā. Vipākavasena bhavaṃ gacchantītibhavagāmino , bhavagāmino kammā bhavagāmikammā. Iminā abhisaṅkhārabhāvepi sati avedanīyāni kammāni paṭikkhittāni hontīti ayaṃ viseso. ‘‘Duccaritā’’ti ca ‘‘kammā’’ti ca liṅgavipallāso kato. Nānattekattanti ettha uddese ekattasaddassa abhāvepi nānattekattānaṃ aññamaññāpekkhattā ekattampi niddisitukāmena ‘‘nānattekatta’’nti uddeso kato. Nānattasallekhake ekatte dassite sallekhañāṇaṃ sukhena dassīyatīti. Nānattanti anavaṭṭhitattā saparipphandattā ca nānāsabhāvo. Ekattanti avaṭṭhitattā aparipphandattā ca ekasabhāvo.
จรณเตโชติ จรนฺติ เตน อคตํ ทิสํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ จรณํฯ กิํ ตํ? สีลํฯ ตเทว ปฎิปกฺขตาปนเฎฺฐน เตโชฯ คุณเตโชติ สีเลน ลทฺธปติโฎฺฐ สมาธิเตโชฯ ปญฺญาเตโชติ สมาธินา ลทฺธปติโฎฺฐ วิปสฺสนาเตโชฯ ปุญฺญเตโชติ วิปสฺสนาหิ ลทฺธปติโฎฺฐ อริยมคฺคกุสลเตโชฯ ธมฺมเตโชติ จตุนฺนํ เตชานํ ปติฎฺฐาภูโต พุทฺธวจนเตโชฯ จรณเตเชน เตชิตตฺตาติ สีลเตเชน ติขิณีกตตฺตาฯ ทุสฺสีลฺยเตชนฺติ ทุสฺสีลภาวสงฺขาตํ เตชํฯ ตมฺปิ หิ สนฺตานํ ตาปนโต เตโช นามฯ ปริยาทิยตีติ เขเปติฯ อคุณเตชนฺติ สมาธิสฺส ปฎิปกฺขํ วิเกฺขปเตชํฯ ทุปฺปญฺญเตชนฺติ วิปสฺสนาญาณปฎิปกฺขํ โมหเตชํฯ อปุญฺญเตชนฺติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหาเนน กิเลสสหายํ อกุสลกมฺมเตชํฯ น เกวลเญฺหตํ อปุญฺญเมว เขเปติ, ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓๓; ที. นิ. ๓.๓๑๒; ม. นิ. ๒.๑๘) วจนโต กุสลกมฺมมฺปิ เขเปติเยวฯ ปุญฺญเตชปฎิปกฺขวเสน อปุญฺญเตชเมว วุตฺตํฯ อธมฺมเตชนฺติ นานาติตฺถิยานํ สมยวจนเตชํฯ อิมสฺส ญาณสฺส อุเทฺทสวณฺณนายํ วุเตฺต ทุติเย อตฺถวิกเปฺป ราคาทโย เอกูนวีสติ ปุถุ ทุสฺสีลฺยเตชา โหนฺติฯ ‘‘อภิสงฺขารา, ภวคามิกมฺมา’’ติ เอตฺถ อปุญฺญาภิสงฺขารา อกุสลกมฺมญฺจ อปุญฺญเตชา โหนฺติ, อาเนญฺชาภิสงฺขารานิ โลกิยกุสลกมฺมานิ ปุญฺญเตเชเนว เขปนียโต อปุญฺญเตชปกฺขิกาว โหนฺติฯ กามจฺฉนฺทาทโย ปญฺจทส นานตฺตา อคุณเตชา โหนฺติ, นิจฺจสญฺญาทโย อฎฺฐารส นานตฺตา ทุปฺปญฺญเตชา โหนฺติ, จตุมคฺควชฺฌา จตฺตาโร นานตฺตา อปุญฺญเตชา โหนฺติฯ โสตาปตฺติมคฺควชฺฌนานเตฺตน อธมฺมเตโช สงฺคเหตโพฺพฯ
Caraṇatejoti caranti tena agataṃ disaṃ nibbānaṃ gacchantīti caraṇaṃ. Kiṃ taṃ? Sīlaṃ. Tadeva paṭipakkhatāpanaṭṭhena tejo. Guṇatejoti sīlena laddhapatiṭṭho samādhitejo. Paññātejoti samādhinā laddhapatiṭṭho vipassanātejo. Puññatejoti vipassanāhi laddhapatiṭṭho ariyamaggakusalatejo. Dhammatejoti catunnaṃ tejānaṃ patiṭṭhābhūto buddhavacanatejo. Caraṇatejena tejitattāti sīlatejena tikhiṇīkatattā. Dussīlyatejanti dussīlabhāvasaṅkhātaṃ tejaṃ. Tampi hi santānaṃ tāpanato tejo nāma. Pariyādiyatīti khepeti. Aguṇatejanti samādhissa paṭipakkhaṃ vikkhepatejaṃ. Duppaññatejanti vipassanāñāṇapaṭipakkhaṃ mohatejaṃ. Apuññatejanti taṃtaṃmaggavajjhakilesappahānena kilesasahāyaṃ akusalakammatejaṃ. Na kevalañhetaṃ apuññameva khepeti, ‘‘atthi, bhikkhave, kammaṃ akaṇhaṃ asukkaṃ akaṇhaasukkavipākaṃ kammaṃ kammakkhayāya saṃvattatī’’ti (a. ni. 4.233; dī. ni. 3.312; ma. ni. 2.18) vacanato kusalakammampi khepetiyeva. Puññatejapaṭipakkhavasena apuññatejameva vuttaṃ. Adhammatejanti nānātitthiyānaṃ samayavacanatejaṃ. Imassa ñāṇassa uddesavaṇṇanāyaṃ vutte dutiye atthavikappe rāgādayo ekūnavīsati puthu dussīlyatejā honti. ‘‘Abhisaṅkhārā, bhavagāmikammā’’ti ettha apuññābhisaṅkhārā akusalakammañca apuññatejā honti, āneñjābhisaṅkhārāni lokiyakusalakammāni puññatejeneva khepanīyato apuññatejapakkhikāva honti. Kāmacchandādayo pañcadasa nānattā aguṇatejā honti, niccasaññādayo aṭṭhārasa nānattā duppaññatejā honti, catumaggavajjhā cattāro nānattā apuññatejā honti. Sotāpattimaggavajjhanānattena adhammatejo saṅgahetabbo.
นิเทฺทเส สเลฺลขปฎิปเกฺขน อสเลฺลเขน สเลฺลขํ ทเสฺสตุกาเมน อสเลฺลขปุพฺพโก สเลฺลโข นิทฺทิโฎฺฐฯ เนกฺขมฺมาทโย สตฺตติํส เอกตฺตธมฺมาว ปจฺจนีกานํ สลฺลิขนโต ‘‘สเลฺลโข’’ติ วุตฺตาฯ ตสฺมิํ เนกฺขมฺมาทิเก สตฺตติํสปเภเท สเลฺลเข ญาณํ สเลฺลขเฎฺฐ ญาณนฺติฯ
Niddese sallekhapaṭipakkhena asallekhena sallekhaṃ dassetukāmena asallekhapubbako sallekho niddiṭṭho. Nekkhammādayo sattatiṃsa ekattadhammāva paccanīkānaṃ sallikhanato ‘‘sallekho’’ti vuttā. Tasmiṃ nekkhammādike sattatiṃsapabhede sallekhe ñāṇaṃ sallekhaṭṭhe ñāṇanti.
สเลฺลขฎฺฐญาณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sallekhaṭṭhañāṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๓๗. สเลฺลขฎฺฐญาณนิเทฺทโส • 37. Sallekhaṭṭhañāṇaniddeso