Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๕. โรหิตสฺสวโคฺค

    5. Rohitassavaggo

    ๑. สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา

    1. Samādhibhāvanāsuttavaṇṇanā

    ๔๑. ปญฺจมสฺส ปฐเม ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถาย, นิกฺกิเลสตาย นิรามิเสน สุเขน วิหรณตฺถายาติ อโตฺถฯ อิมินา จตฺตาริ ผลสมาปตฺติชฺฌานานิ ขีณาสวสฺส อาสวกฺขยาธิคมโต อปรภาเค อธิคตรูปารูปชฺฌานานิ จ กถิตานิฯ ทิพฺพจกฺขุญาณทสฺสนปฺปฎิลาภายาติ ทิพฺพจกฺขุญาณปฺปฎิลาภตฺถายฯ ทิพฺพจกฺขุญาณญฺหิ รูปคตสฺส ทิพฺพสฺส อิตรสฺส จ ทสฺสนเฎฺฐน อิธ ‘‘ญาณทสฺสน’’นฺติ อธิเปฺปตํฯ อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรตีติ ทิวา วา รตฺติํ วา สูริยทีปจนฺทมณิอุกฺกาวิชฺชุลตาทีนํ อาโลโก ทิวา รตฺติญฺจ อุปลโทฺธ, ยถาลทฺธวเสเนว อาโลกํ มนสิ กโรติ จิเตฺต ฐเปติ, ตถา จ นํ มนสิ กโรติ, ยถาสฺส สุภาวิตาโลกกสิณสฺส วิย กสิณาโลโก ยถิจฺฉกํ ยาวทิจฺฉกญฺจ โส อาโลโก รตฺติยํ อุปติฎฺฐติ , เยน ตตฺถ ทิวาสญฺญํ ฐเปติ, ทิวา วิย วิคตถินมิโทฺธ โหติฯ เตนาห ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติฯ

    41. Pañcamassa paṭhame diṭṭhadhammasukhavihārāyāti imasmiṃyeva attabhāve sukhavihāratthāya, nikkilesatāya nirāmisena sukhena viharaṇatthāyāti attho. Iminā cattāri phalasamāpattijjhānāni khīṇāsavassa āsavakkhayādhigamato aparabhāge adhigatarūpārūpajjhānāni ca kathitāni. Dibbacakkhuñāṇadassanappaṭilābhāyāti dibbacakkhuñāṇappaṭilābhatthāya. Dibbacakkhuñāṇañhi rūpagatassa dibbassa itarassa ca dassanaṭṭhena idha ‘‘ñāṇadassana’’nti adhippetaṃ. Ālokasaññaṃ manasi karotīti divā vā rattiṃ vā sūriyadīpacandamaṇiukkāvijjulatādīnaṃ āloko divā rattiñca upaladdho, yathāladdhavaseneva ālokaṃ manasi karoti citte ṭhapeti, tathā ca naṃ manasi karoti, yathāssa subhāvitālokakasiṇassa viya kasiṇāloko yathicchakaṃ yāvadicchakañca so āloko rattiyaṃ upatiṭṭhati , yena tattha divāsaññaṃ ṭhapeti, divā viya vigatathinamiddho hoti. Tenāha ‘‘yathā divā tathā ratti’’nti.

    ยถา ทิวา อาโลกสญฺญา มนสิ กตา, ตเถว นํ รตฺติมฺปิ มนสิ กโรตีติ ยถา ทิวา ทิโฎฺฐ อาโลโก, ตเถว ตํ รตฺติํ มนสิ กโรติฯ ทุติยปเทติ ‘‘ยถา รตฺติํ ตถา ทิวา’’ติ อิมสฺมิํ วาเกฺยฯ เอส นโยติ อิมินา ยถา รตฺติยํ จนฺทาโลกาทิ อาโลโก ทิโฎฺฐ, เอวเมว รตฺติํ ทิฎฺฐากาเรเนว ทิวา ตํ อาโลกํ มนสิ กโรติ จิเตฺต ฐเปตีติ อิมมตฺถํ อติทิสติฯ อิติ วิวเฎน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิเตฺตน, ถินมิทฺธาปิธาเนน อปิหิตจิเตฺตนาติ วุตฺตํ โหติฯ อปริโยนเทฺธนาติ สมนฺตโต อนเทฺธน อสญฺฉาทิเตนฯ กิญฺจาปีติอาทินา อตฺตนา วุตฺตเมวตฺถํ สมเตฺถติฯ อาโลกสทิสํ กตํ ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติอาทินาฯ

    Yathā divā ālokasaññā manasi katā, tatheva naṃ rattimpi manasi karotīti yathā divā diṭṭho āloko, tatheva taṃ rattiṃ manasi karoti. Dutiyapadeti ‘‘yathā rattiṃ tathā divā’’ti imasmiṃ vākye. Esa nayoti iminā yathā rattiyaṃ candālokādi āloko diṭṭho, evameva rattiṃ diṭṭhākāreneva divā taṃ ālokaṃ manasi karoti citte ṭhapetīti imamatthaṃ atidisati. Iti vivaṭena cetasāti evaṃ apihitena cittena, thinamiddhāpidhānena apihitacittenāti vuttaṃ hoti. Apariyonaddhenāti samantato anaddhena asañchāditena. Kiñcāpītiādinā attanā vuttamevatthaṃ samattheti. Ālokasadisaṃ kataṃ ‘‘yathā divā tathā ratti’’ntiādinā.

    สตฺตฎฺฐานิกสฺสาติ ‘‘อภิกฺกเนฺต ปฎิกฺกเนฺต สมฺปชานการี โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๔; ๒.๓๗๖; ม. นิ. ๑.๑๐๙) วุตฺตสฺส สตฺตฎฺฐานิกสฺส สติสมฺปชญฺญสฺส อตฺถายฯ ปริคฺคหิตวตฺถารมฺมณตายาติ วตฺถุโน อารมฺมณสฺส จ ยาถาวโต วิทิตภาเวนฯ ยถา หิ สปฺปํ ปริเยสเนฺตน ตสฺส อาสเย วิทิเต โสปิ วิทิโต คหิโต เอว จ โหติ มนฺตาคทพเลน ตสฺส คหณสฺส สุกรตฺตา, เอวํ เวทนาย อาสยภูเต วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ จ วิทิเต อาทิกมฺมิกสฺสปิ เวทนา วิทิตา คหิตา เอว โหติ สลกฺขณโต สามญฺญลกฺขณโต จ ตสฺสา คหณสฺส สุกรตฺตาฯ ปเคว ปริญฺญาตวตฺถุกสฺส ขีณาสวสฺสฯ ตสฺส หิ อุปฺปาทกฺขเณปิ ฐิติกฺขเณปิ ภงฺคกฺขเณปิ เวทนา วิทิตา ปากฎา โหนฺติ ‘‘ตา เวทนา เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา’’ติอาทินาฯ น เกวลญฺจ เวทนา เอว, อิธ วุตฺตา สญฺญาทโยปิ อวุตฺตา เจตนาทโยปิ วิทิตาว อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฎฺฐนฺติ จ นิรุชฺฌนฺติ จฯ นิทสฺสนมตฺตเญฺหตํ, ยทิทํ ปาฬิยํ เวทนาสญฺญาวิตกฺกคฺคหณํฯ เตน อนวเสสโต สพฺพธมฺมานมฺปิ อุปฺปาทาทิโต วิทิตภาวํ ทเสฺสติฯ

    Sattaṭṭhānikassāti ‘‘abhikkante paṭikkante sampajānakārī hotī’’tiādinā (dī. ni. 1.214; 2.376; ma. ni. 1.109) vuttassa sattaṭṭhānikassa satisampajaññassa atthāya. Pariggahitavatthārammaṇatāyāti vatthuno ārammaṇassa ca yāthāvato viditabhāvena. Yathā hi sappaṃ pariyesantena tassa āsaye vidite sopi vidito gahito eva ca hoti mantāgadabalena tassa gahaṇassa sukarattā, evaṃ vedanāya āsayabhūte vatthumhi ārammaṇe ca vidite ādikammikassapi vedanā viditā gahitā eva hoti salakkhaṇato sāmaññalakkhaṇato ca tassā gahaṇassa sukarattā. Pageva pariññātavatthukassa khīṇāsavassa. Tassa hi uppādakkhaṇepi ṭhitikkhaṇepi bhaṅgakkhaṇepi vedanā viditā pākaṭā honti ‘‘tā vedanā evaṃ uppajjitvā’’tiādinā. Na kevalañca vedanā eva, idha vuttā saññādayopi avuttā cetanādayopi viditāva uppajjanti ceva tiṭṭhanti ca nirujjhanti ca. Nidassanamattañhetaṃ, yadidaṃ pāḷiyaṃ vedanāsaññāvitakkaggahaṇaṃ. Tena anavasesato sabbadhammānampi uppādādito viditabhāvaṃ dasseti.

    อปิจ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ, อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ, อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ ? อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสโนฺตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส สมุทยํ ปสฺสติฯ เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ กถํ เวทนาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ, ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ, อนตฺตโต มนสิกโรโต สุญฺญตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ เอวํ เวทนาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ อิติ ขยโต ภยโต สุญฺญโต ชานาติฯ กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ…เป.… เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ อิมินาปิ นเยเนตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    Apica vedanāya uppādo vidito hoti, upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti, atthaṅgamo vidito hoti. Kathaṃ vedanāya uppādo vidito hoti ? Avijjāsamudayā vedanāsamudayo, taṇhāsamudayā kammasamudayo, phassasamudayā vedanāsamudayoti nibbattilakkhaṇaṃ passantopi vedanākkhandhassa samudayaṃ passati. Evaṃ vedanāya uppādo vidito hoti. Kathaṃ vedanāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti? Aniccato manasikaroto khayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti, dukkhato manasikaroto bhayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti, anattato manasikaroto suññatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Evaṃ vedanāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Iti khayato bhayato suññato jānāti. Kathaṃ vedanāya atthaṅgamo vidito hoti? Avijjānirodhā vedanānirodho…pe… evaṃ vedanāya atthaṅgamo vidito hoti. Imināpi nayenettha attho veditabbo.

    อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติสโทฺท อนวเสสโต รูปสฺส สรูปนิทสฺสนโตฺถติ ตสฺส อิทํ รูปนฺติ เอเตน สาธารณโต สรูปนิทสฺสนมาห, เอตฺตกํ รูปนฺติ เอเตน อนวเสสโต, น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถีติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อญฺญสฺส อภาวํฯ อิติ เวทนาติอาทีสุปิ อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, อิโต ปรํ เวทนา นตฺถิฯ อยํ สญฺญา…เป.… อิเม สงฺขารา…เป.… อิทํ วิญฺญาณํ, เอตฺตกํ วิญฺญาณํ, อิโต ปรํ วิญฺญาณํ นตฺถีติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพติ อาห ‘‘เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติฯ

    Iti rūpanti ettha itisaddo anavasesato rūpassa sarūpanidassanatthoti tassa idaṃ rūpanti etena sādhāraṇato sarūpanidassanamāha, ettakaṃ rūpanti etena anavasesato, na ito paraṃ rūpaṃ atthīti tabbinimuttassa aññassa abhāvaṃ. Iti vedanātiādīsupi ayaṃ vedanā, ettakā vedanā, ito paraṃ vedanā natthi. Ayaṃ saññā…pe… ime saṅkhārā…pe… idaṃ viññāṇaṃ, ettakaṃ viññāṇaṃ, ito paraṃ viññāṇaṃ natthīti evamattho daṭṭhabboti āha ‘‘vedanādīsupi eseva nayo’’ti.

    ญาเณน ชานิตฺวา ปโรปรานิฯ ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จฯ อุตฺตมาธมานีติ ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ อุตฺตมาธมานิฯ จลิตนฺติ ตณฺหาทิฎฺฐิวิปฺผนฺทิตํฯ อนีโฆติ ราคาทิอีฆรหิโตฯ อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตริฯ

    Ñāṇena jānitvā paroparāni. Paroparānīti parāni ca oparāni ca. Uttamādhamānīti parattabhāvasakattabhāvādīni uttamādhamāni. Calitanti taṇhādiṭṭhivipphanditaṃ. Anīghoti rāgādiīgharahito. Atāri soti so evarūpo arahā jātijaraṃ atari.

    สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Samādhibhāvanāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑. สมาธิภาวนาสุตฺตํ • 1. Samādhibhāvanāsuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. สมาธิภาวนาสุตฺตวณฺณนา • 1. Samādhibhāvanāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact