Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๔. สมณสุขุมาลสุตฺตํ

    4. Samaṇasukhumālasuttaṃ

    ๑๐๔. ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติฯ

    104. ‘‘Pañcahi, bhikkhave, dhammehi samannāgato bhikkhu samaṇesu samaṇasukhumālo hoti.

    ‘‘กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภุญฺชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภุญฺชติ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชติ, อปฺปํ อยาจิโตฯ เยหิ โข ปน สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรติ , ตฺยสฺส 1 มนาเปเนว พหุลํ กายกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ วจีกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํฯ ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ ปิตฺตสมุฎฺฐานานิ วา เสมฺหสมุฎฺฐานานิ วา วาตสมุฎฺฐานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา, ตานิสฺส น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติฯ อปฺปาพาโธ โหติ, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สมเณสุ สมณสุขุมาโล โหติฯ

    ‘‘Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, bhikkhu yācitova bahulaṃ cīvaraṃ paribhuñjati, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ piṇḍapātaṃ paribhuñjati, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ senāsanaṃ paribhuñjati, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ gilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ paribhuñjati, appaṃ ayācito. Yehi kho pana sabrahmacārīhi saddhiṃ viharati , tyassa 2 manāpeneva bahulaṃ kāyakammena samudācaranti, appaṃ amanāpena; manāpeneva bahulaṃ vacīkammena samudācaranti, appaṃ amanāpena; manāpeneva bahulaṃ manokammena samudācaranti, appaṃ amanāpena; manāpaṃyeva upahāraṃ upaharanti, appaṃ amanāpaṃ. Yāni kho pana tāni vedayitāni pittasamuṭṭhānāni vā semhasamuṭṭhānāni vā vātasamuṭṭhānāni vā sannipātikāni vā utupariṇāmajāni vā visamaparihārajāni vā opakkamikāni vā kammavipākajāni vā, tānissa na bahudeva uppajjanti. Appābādho hoti, catunnaṃ jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Imehi kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu samaṇesu samaṇasukhumālo hoti.

    ‘‘ยญฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’ติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา 3 วทมาโน วเทยฺย – ‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’ติ ฯ อหญฺหิ, ภิกฺขเว, ยาจิโตว พหุลํ จีวรํ ปริภุญฺชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ เสนาสนํ ปริภุญฺชามิ, อปฺปํ อยาจิโต; ยาจิโตว พหุลํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชามิ, อปฺปํ อยาจิโตฯ เยหิ โข ปน ภิกฺขูหิ สทฺธิํ วิหรามิ, เต มํ มนาเปเนว พหุลํ กายกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน ; มนาเปเนว พหุลํ วจีกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาเปเนว พหุลํ มโนกเมฺมน สมุทาจรนฺติ, อปฺปํ อมนาเปน; มนาปํเยว อุปหารํ อุปหรนฺติ, อปฺปํ อมนาปํฯ ยานิ โข ปน ตานิ เวทยิตานิ – ปิตฺตสมุฎฺฐานานิ วา เสมฺหสมุฎฺฐานานิ วา วาตสมุฎฺฐานานิ วา สนฺนิปาติกานิ วา อุตุปริณามชานิ วา วิสมปริหารชานิ วา โอปกฺกมิกานิ วา กมฺมวิปากชานิ วา – ตานิ เม น พหุเทว อุปฺปชฺชนฺติฯ อปฺปาพาโธหมสฺมิ, จตุนฺนํ โข ปนสฺมิ 4 ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี 5 อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานํ ขยา…เป.… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ

    ‘‘Yañhi taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ‘samaṇesu samaṇasukhumālo’ti, mameva taṃ, bhikkhave, sammā 6 vadamāno vadeyya – ‘samaṇesu samaṇasukhumālo’ti . Ahañhi, bhikkhave, yācitova bahulaṃ cīvaraṃ paribhuñjāmi, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ piṇḍapātaṃ paribhuñjāmi, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ senāsanaṃ paribhuñjāmi, appaṃ ayācito; yācitova bahulaṃ gilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ paribhuñjāmi, appaṃ ayācito. Yehi kho pana bhikkhūhi saddhiṃ viharāmi, te maṃ manāpeneva bahulaṃ kāyakammena samudācaranti, appaṃ amanāpena ; manāpeneva bahulaṃ vacīkammena samudācaranti, appaṃ amanāpena; manāpeneva bahulaṃ manokammena samudācaranti, appaṃ amanāpena; manāpaṃyeva upahāraṃ upaharanti, appaṃ amanāpaṃ. Yāni kho pana tāni vedayitāni – pittasamuṭṭhānāni vā semhasamuṭṭhānāni vā vātasamuṭṭhānāni vā sannipātikāni vā utupariṇāmajāni vā visamaparihārajāni vā opakkamikāni vā kammavipākajāni vā – tāni me na bahudeva uppajjanti. Appābādhohamasmi, catunnaṃ kho panasmi 7 jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī 8 akicchalābhī akasiralābhī, āsavānaṃ khayā…pe… sacchikatvā upasampajja viharāmi.

    ‘‘ยญฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’ติ, มเมว ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’’’ติฯ จตุตฺถํฯ

    ‘‘Yañhi taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ‘samaṇesu samaṇasukhumālo’ti, mameva taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ‘samaṇesu samaṇasukhumālo’’’ti. Catutthaṃ.







    Footnotes:
    1. ตฺยาสฺส (ก.) อ. นิ. ๔.๘๗
    2. tyāssa (ka.) a. ni. 4.87
    3. มเมว ตํ สมฺมา (?)
    4. จตุนฺนํ โข ปน (สี.), จตุนฺนํ (สฺยา. ปี.)
    5. นิกามลาภี โหมิ (สี. ก.)
    6. mameva taṃ sammā (?)
    7. catunnaṃ kho pana (sī.), catunnaṃ (syā. pī.)
    8. nikāmalābhī homi (sī. ka.)



    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๔. สารชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-4. Sārajjasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact