Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๕. สามญฺญกานิเตฺถรคาถาวณฺณนา
5. Sāmaññakānittheragāthāvaṇṇanā
สุขํ สุขโตฺถติ อายสฺมโต สามญฺญกานิเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภเว กุสลํ อุปจินโนฺต อิโต เอกนวุเต กเปฺป วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มนุสฺสโยนิยํ นิพฺพโตฺต วิปสฺสิํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส เอกํ มญฺจํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อญฺญตรสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ สามญฺญกานีติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถุ ยมกปาฎิหาริยํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส สาสเน ปพฺพชิตฺวา จริยานุกูลํ กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา ฌานํ นิพฺพเตฺตตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓๖.๓๐-๓๓) –
Sukhaṃsukhatthoti āyasmato sāmaññakānittherassa gāthā. Kā uppatti? So kira purimabuddhesu katādhikāro hutvā tattha tattha bhave kusalaṃ upacinanto ito ekanavute kappe vipassissa bhagavato kāle manussayoniyaṃ nibbatto vipassiṃ bhagavantaṃ disvā pasannamānaso ekaṃ mañcaṃ adāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde aññatarassa paribbājakassa putto hutvā nibbatti. Sāmaññakānītissa nāmaṃ ahosi. So viññutaṃ patto satthu yamakapāṭihāriyaṃ disvā pasannamānaso sāsane pabbajitvā cariyānukūlaṃ kammaṭṭhānaṃ gahetvā jhānaṃ nibbattetvā jhānaṃ pādakaṃ katvā vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.36.30-33) –
‘‘วิปสฺสิโน ภควโต, โลกเชฎฺฐสฺส ตาทิโน;
‘‘Vipassino bhagavato, lokajeṭṭhassa tādino;
เอกํ มญฺจํ มยา ทินฺนํ, ปสเนฺนน สปาณินาฯ
Ekaṃ mañcaṃ mayā dinnaṃ, pasannena sapāṇinā.
‘‘หตฺถิยานํ อสฺสยานํ, ทิพฺพยานํ สมชฺฌคํ;
‘‘Hatthiyānaṃ assayānaṃ, dibbayānaṃ samajjhagaṃ;
เตน มญฺจก ทาเนน, ปโตฺตมฺหิ อาสวกฺขยํฯ
Tena mañcaka dānena, pattomhi āsavakkhayaṃ.
‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ มญฺจมททิํ ตทา;
‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ mañcamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, มญฺจทานสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, mañcadānassidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
เถรสฺส ปน คิหิสหายโก กาติยาโน นาม ปริพฺพาชโก พุทฺธุปฺปาทโต ปฎฺฐาย ติตฺถิยานํ หตลาภสกฺการตาย ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ อลภโนฺต อาชีวกาปกโต เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุเมฺห สากิยปุตฺติยา นาม มหาลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตา สุเขน ชีวถ, มยํ ปน ทุกฺขิตา กิจฺฉชีวิกา, กถํ นุ โข ปฎิปชฺชมานสฺส ทิฎฺฐธมฺมิกเญฺจว สมฺปรายิกญฺจ สุขํ สมฺปชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิฯ อถสฺส เถโร ‘‘นิปฺปริยายโต สุขํ นาม โลกุตฺตรสุขเมว, ตญฺจ ตทนุรูปํ ปฎิปตฺติํ ปฎิปชฺชนฺตเสฺสวา’’ติ อตฺตนา ตสฺส อธิคตภาวํ ปริยาเยน วิภาเวโนฺต ‘‘สุขํ สุขโตฺถ ลภเต ตทาจร’’นฺติ คาถํ อภาสิฯ
Therassa pana gihisahāyako kātiyāno nāma paribbājako buddhuppādato paṭṭhāya titthiyānaṃ hatalābhasakkāratāya ghāsacchādanamattampi alabhanto ājīvakāpakato theraṃ upasaṅkamitvā ‘‘tumhe sākiyaputtiyā nāma mahālābhaggayasaggappattā sukhena jīvatha, mayaṃ pana dukkhitā kicchajīvikā, kathaṃ nu kho paṭipajjamānassa diṭṭhadhammikañceva samparāyikañca sukhaṃ sampajjatī’’ti pucchi. Athassa thero ‘‘nippariyāyato sukhaṃ nāma lokuttarasukhameva, tañca tadanurūpaṃ paṭipattiṃ paṭipajjantassevā’’ti attanā tassa adhigatabhāvaṃ pariyāyena vibhāvento ‘‘sukhaṃ sukhattho labhate tadācara’’nti gāthaṃ abhāsi.
๓๕. ตตฺถ สุขนฺติ นิรามิสํ สุขํ อิธาธิเปฺปตํฯ ตญฺจ ผลสมาปตฺติ เจว นิพฺพานญฺจฯ ตถา หิ ‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติญฺจ สุขวิปาโก’’ (ที. นิ. ๓.๓๕๕; อ. นิ. ๕.๒๗; วิภ. ๘๐๔) ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔) จ วุตฺตํฯ สุขโตฺถติ สุขปฺปโยชโน, ยถาวุเตฺตน สุเขน อตฺถิโกฯ ลภเตติ ปาปุณาติ, อตฺถิกเสฺสเวทํ สุขํ, น อิตรสฺสฯ โก ปน อตฺถิโกติ อาห ‘‘ตทาจร’’นฺติ ตทตฺถํ อาจรโนฺต, ยาย ปฎิปตฺติยา ตํ ปฎิปตฺติํ ปฎิปชฺชโนฺตติ อโตฺถฯ น เกวลํ ตทาจรํ สุขเมว ลภเต, อถ โข กิตฺติญฺจ ปโปฺปติ ‘‘อิติปิ สีลวา สุปริสุทฺธกายวจีกมฺมโนฺต สุปริสุทฺธาชีโว ฌายี ฌานยุโตฺต’’ติอาทินา กิตฺติํ ปรมฺมุขา ปตฺถฎยสตํ ปาปุณาติฯ ยสสฺส วฑฺฒตีติ สมฺมุเข คุณาภิตฺถวสงฺขาโต ปริวารสมฺปทาสงฺขาโต จ ยโส อสฺส ปริพฺรูหติฯ อิทานิ ‘‘ตทาจร’’นฺติ สามญฺญโต วุตฺตมตฺถํ สรูปโต ทเสฺสโนฺต – ‘‘โย อริยมฎฺฐงฺคิกมญฺชสํ อุชุํ, ภาเวติ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยา’’ติ อาหฯ ตสฺสโตฺถ โย ปุคฺคโล กิเลเสหิ อารกตฺตา ปริสุทฺธเฎฺฐน ปฎิปชฺชนฺตานํ อริยภาวกรณเฎฺฐน อริยํ, สมฺมาทิฎฺฐิอาทิอฎฺฐงฺคสมุทายตาย อฎฺฐงฺคิกํ, อนฺตทฺวยรหิตมชฺฌิมปฎิปตฺติภาวโต อกุฎิลเฎฺฐน อญฺชสํ, กายวงฺกาทิปฺปหานโต อุชุํ, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนิยเฎฺฐน กิเลเส มาเรโนฺต คมนเฎฺฐน จ ‘‘มคฺค’’นฺติ ลทฺธนามํ ทุกฺขนิโรธคามินิปฎิปทํ อมตสฺส อสงฺขตาย ธาตุยา ปตฺติยา อธิคมาย ภาเวติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทติ วเฑฺฒติ จ, โส นิปฺปริยาเยน ‘‘สุขโตฺถ ตทาจร’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตํ สุขํ ลภติฯ ตํ สุตฺวา ปริพฺพาชโก ปสนฺนมานโส ปพฺพชิตฺวา สมฺมา ปฎิปชฺชโนฺต นจิรเสฺสว วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อิทเมว เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณํ อโหสิฯ
35. Tattha sukhanti nirāmisaṃ sukhaṃ idhādhippetaṃ. Tañca phalasamāpatti ceva nibbānañca. Tathā hi ‘‘ayaṃ samādhi paccuppannasukho ceva āyatiñca sukhavipāko’’ (dī. ni. 3.355; a. ni. 5.27; vibha. 804) ‘‘nibbānaṃ paramaṃ sukha’’nti (dha. pa. 203-204) ca vuttaṃ. Sukhatthoti sukhappayojano, yathāvuttena sukhena atthiko. Labhateti pāpuṇāti, atthikassevedaṃ sukhaṃ, na itarassa. Ko pana atthikoti āha ‘‘tadācara’’nti tadatthaṃ ācaranto, yāya paṭipattiyā taṃ paṭipattiṃ paṭipajjantoti attho. Na kevalaṃ tadācaraṃ sukhameva labhate, atha kho kittiñca pappoti ‘‘itipi sīlavā suparisuddhakāyavacīkammanto suparisuddhājīvo jhāyī jhānayutto’’tiādinā kittiṃ parammukhā patthaṭayasataṃ pāpuṇāti. Yasassa vaḍḍhatīti sammukhe guṇābhitthavasaṅkhāto parivārasampadāsaṅkhāto ca yaso assa paribrūhati. Idāni ‘‘tadācara’’nti sāmaññato vuttamatthaṃ sarūpato dassento – ‘‘yo ariyamaṭṭhaṅgikamañjasaṃ ujuṃ, bhāveti maggaṃ amatassa pattiyā’’ti āha. Tassattho yo puggalo kilesehi ārakattā parisuddhaṭṭhena paṭipajjantānaṃ ariyabhāvakaraṇaṭṭhena ariyaṃ, sammādiṭṭhiādiaṭṭhaṅgasamudāyatāya aṭṭhaṅgikaṃ, antadvayarahitamajjhimapaṭipattibhāvato akuṭilaṭṭhena añjasaṃ, kāyavaṅkādippahānato ujuṃ, nibbānatthikehi magganiyaṭṭhena kilese mārento gamanaṭṭhena ca ‘‘magga’’nti laddhanāmaṃ dukkhanirodhagāminipaṭipadaṃ amatassa asaṅkhatāya dhātuyā pattiyā adhigamāya bhāveti attano santāne uppādeti vaḍḍheti ca, so nippariyāyena ‘‘sukhattho tadācara’’nti vuccati, tasmā yathāvuttaṃ sukhaṃ labhati. Taṃ sutvā paribbājako pasannamānaso pabbajitvā sammā paṭipajjanto nacirasseva vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Idameva therassa aññābyākaraṇaṃ ahosi.
สามญฺญกานิเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sāmaññakānittheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๕. สามญฺญกานิเตฺถรคาถา • 5. Sāmaññakānittheragāthā