Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā |
สมนุภาสนาสมุฎฺฐานวณฺณนา
Samanubhāsanāsamuṭṭhānavaṇṇanā
๒๖๑. เภทานุวตฺตทุพฺพจทูสทุฎฺฐุลฺลทิฎฺฐิ จาติ สงฺฆเภทานุวตฺตกทุพฺพจกุลทูสกทุฎฺฐุลฺลปฺปฎิจฺฉาทนทิฎฺฐิอปฺปฎินิสฺสชฺชนสิกฺขาปทานิฯ ฉนฺทํ อุชฺชคฺฆิกา เทฺว จาติ ฉนฺทํ อทตฺวา คมนสิกฺขาปทํ อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร คมนนิสีทนสิกฺขาปททฺวยญฺจฯ เทฺว จ สทฺทาติ ‘‘อปฺปสโทฺท อนฺตรฆเร คมิสฺสามิ, นิสีทิสฺสามี’’ติ สิกฺขาปททฺวยญฺจฯ น พฺยาหเรติ ‘‘น สกพเฬน มุเขน พฺยาหริสฺสามี’’ติ สิกฺขาปทํฯ
261.Bhedānuvattadubbacadūsaduṭṭhulladiṭṭhicāti saṅghabhedānuvattakadubbacakuladūsakaduṭṭhullappaṭicchādanadiṭṭhiappaṭinissajjanasikkhāpadāni. Chandaṃ ujjagghikā dve cāti chandaṃ adatvā gamanasikkhāpadaṃ ujjagghikāya antaraghare gamananisīdanasikkhāpadadvayañca. Dve ca saddāti ‘‘appasaddo antaraghare gamissāmi, nisīdissāmī’’ti sikkhāpadadvayañca. Na byāhareti ‘‘na sakabaḷena mukhena byāharissāmī’’ti sikkhāpadaṃ.
ฉมา นีจาสเน ฐานํ, ปจฺฉโต อุปฺปเถน จาติ ฉมายํ นิสีทิตฺวา, นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา; ฐิเตน นิสินฺนสฺส, ปจฺฉโต คจฺฉเนฺตน ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส, อุปฺปเถน คจฺฉเนฺตน ปเถน คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทานิฯ วชฺชานุวตฺติคหณาติ วชฺชปฺปฎิจฺฉาทนอุอขตฺตานุวตฺตกหตฺถคฺคหณาทิสงฺขาตานิ ตีณิ ปาราชิกานิฯ โอสาเร ปจฺจาจิกฺขนาติ ‘‘อนปโลเกตฺวา การกสงฺฆํ อนญฺญาย คณสฺส ฉนฺทํ โอสาเรยฺยา’’ติ จ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ
Chamā nīcāsane ṭhānaṃ, pacchato uppathena cāti chamāyaṃ nisīditvā, nīce āsane nisīditvā; ṭhitena nisinnassa, pacchato gacchantena purato gacchantassa, uppathena gacchantena pathena gacchantassa dhammadesanāsikkhāpadāni. Vajjānuvattigahaṇāti vajjappaṭicchādanauakhattānuvattakahatthaggahaṇādisaṅkhātāni tīṇi pārājikāni. Osāre paccācikkhanāti ‘‘anapaloketvā kārakasaṅghaṃ anaññāya gaṇassa chandaṃ osāreyyā’’ti ca ‘‘buddhaṃ paccakkhāmī’’ti ca vuttasikkhāpadadvayaṃ.
กิสฺมิํ สํสฎฺฐา เทฺว วธีติ ‘‘กิสฺมิญฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติ จ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฎฺฐา วิหรนฺตี’’ติ จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฎฺฐาว อเยฺย ตุเมฺห วิหรถา’’ติ จ ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ วิสิเพฺพ ทุกฺขิตาย จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา จีวรํ วิสิเพฺพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ จ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ ปุน สํสฎฺฐา น วูปสเมติ ‘‘สํสฎฺฐา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุเตฺตน วา’’ติ เอวํ ปุน วุตฺตสํสฎฺฐสิกฺขาปทญฺจ ‘‘เอหเยฺย, อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’’ติ วุจฺจมานา, ‘‘สาธู’’ติ ปฎิสฺสุณิตฺวา ‘‘สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมฺมยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทญฺจฯ อารามญฺจ ปวารณาติ ‘‘ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยา’’ติ จ ‘‘อุภโตสเงฺฆ ตีหิ ฐาเนหิ น ปวาเรยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ
Kismiṃ saṃsaṭṭhā dve vadhīti ‘‘kismiñcideva adhikaraṇe paccākatā’’ti ca ‘‘bhikkhuniyo paneva saṃsaṭṭhā viharantī’’ti ca ‘‘yā pana bhikkhunī evaṃ vadeyya saṃsaṭṭhāva ayye tumhe viharathā’’ti ca ‘‘attānaṃ vadhitvā vadhitvā rodeyyā’’ti ca vuttasikkhāpadāni. Visibbe dukkhitāya cāti ‘‘bhikkhuniyā cīvaraṃ visibbetvā vā visibbāpetvā vā’’ti ca ‘‘dukkhitaṃ sahajīvini’’nti ca vuttasikkhāpadadvayaṃ. Puna saṃsaṭṭhā na vūpasameti ‘‘saṃsaṭṭhā vihareyya gahapatinā vā gahapatiputtena vā’’ti evaṃ puna vuttasaṃsaṭṭhasikkhāpadañca ‘‘ehayye, imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasamehī’’ti vuccamānā, ‘‘sādhū’’ti paṭissuṇitvā ‘‘sā pacchā anantarāyikinī neva vūpasammeyyā’’ti vuttasikkhāpadañca. Ārāmañca pavāraṇāti ‘‘jānaṃ sabhikkhukaṃ ārāmaṃ anāpucchā paviseyyā’’ti ca ‘‘ubhatosaṅghe tīhi ṭhānehi na pavāreyyā’’ti ca vuttasikkhāpadadvayaṃ.
อนฺวทฺธํ สหชีวินิํ เทฺวติ ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต เทฺว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทญฺจ, ‘‘สหชีวินิํ วุฎฺฐาเปตฺวา เทฺว วสฺสานิ เนว อนุคฺคเณฺหยฺย, สหชีวินิํ วุฎฺฐาเปตฺวา เนว วูปกาเสยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยญฺจฯ จีวรํ อนุพนฺธนาติ ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อเยฺย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฎฺฐาเปสฺสามี’’ติ จ ‘‘สเจ มํ ตฺวํ, อเยฺย, เทฺว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฎฺฐาเปสฺสามี’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ
Anvaddhaṃ sahajīviniṃ dveti ‘‘anvaddhamāsaṃ bhikkhuniyā bhikkhusaṅghato dve dhammā paccāsīsitabbā’’ti vuttasikkhāpadañca, ‘‘sahajīviniṃ vuṭṭhāpetvā dve vassāni neva anuggaṇheyya, sahajīviniṃ vuṭṭhāpetvā neva vūpakāseyyā’’ti vuttasikkhāpadadvayañca. Cīvaraṃ anubandhanāti ‘‘sace me tvaṃ, ayye, cīvaraṃ dassasi, evāhaṃ taṃ vuṭṭhāpessāmī’’ti ca ‘‘sace maṃ tvaṃ, ayye, dve vassāni anubandhissasi, evāhaṃ taṃ vuṭṭhāpessāmī’’ti ca vuttasikkhāpadadvayaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๔. สมนุภาสนาสมุฎฺฐานํ • 4. Samanubhāsanāsamuṭṭhānaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / สมนุภาสนาสมุฎฺฐานวณฺณนา • Samanubhāsanāsamuṭṭhānavaṇṇanā