Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi |
๑๖. สมาโรปนหารวิภโงฺค
16. Samāropanahāravibhaṅgo
๕๐. ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หาโร? ‘‘เย ธมฺมา ยํมูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา’’ติฯ
50. Tattha katamo samāropano hāro? ‘‘Ye dhammā yaṃmūlā, ye cekatthā pakāsitā muninā’’ti.
เอกสฺมิํ ปทฎฺฐาเน ยตฺตกานิ ปทฎฺฐานานิ โอตรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ สมาโรปยิตพฺพานิฯ ยถา อาวเฎฺฎ หาเร พหุกานิ ปทฎฺฐานานิ โอตรนฺตีติฯ ตตฺถ สมาโรปนา จตุพฺพิธา ปทฎฺฐานํ, เววจนํ, ภาวนา, ปหานมิติฯ
Ekasmiṃ padaṭṭhāne yattakāni padaṭṭhānāni otaranti, sabbāni tāni samāropayitabbāni. Yathā āvaṭṭe hāre bahukāni padaṭṭhānāni otarantīti. Tattha samāropanā catubbidhā padaṭṭhānaṃ, vevacanaṃ, bhāvanā, pahānamiti.
ตตฺถ กตมา ปทฎฺฐาเนน สมาโรปนา?
Tattha katamā padaṭṭhānena samāropanā?
‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;
‘‘Sabbapāpassa akaraṇaṃ, kusalassa upasampadā;
สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติฯ
Sacittapariyodapanaṃ, etaṃ buddhāna sāsana’’nti.
ตสฺส กิํ ปทฎฺฐานํ? ตีณิ สุจริตานิ – กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ – อิทํ ปทฎฺฐานํ; ตตฺถ ยํ กายิกญฺจ วาจสิกญฺจ สุจริตํ, อยํ สีลกฺขโนฺธฯ มโนสุจริเต ยา อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท จ, อยํ สมาธิกฺขโนฺธฯ ยา สมฺมาทิฎฺฐิ, อยํ ปญฺญากฺขโนฺธฯ อิทํ ปทฎฺฐานํ, ตตฺถ สีลกฺขโนฺธ จ สมาธิกฺขโนฺธ จ สมโถ, ปญฺญากฺขโนฺธ วิปสฺสนาฯ อิทํ ปทฎฺฐานํ, ตตฺถ สมถสฺส ผลํ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนา ผลํ อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติฯ อิทํ ปทฎฺฐานํฯ
Tassa kiṃ padaṭṭhānaṃ? Tīṇi sucaritāni – kāyasucaritaṃ vacīsucaritaṃ manosucaritaṃ – idaṃ padaṭṭhānaṃ; tattha yaṃ kāyikañca vācasikañca sucaritaṃ, ayaṃ sīlakkhandho. Manosucarite yā anabhijjhā abyāpādo ca, ayaṃ samādhikkhandho. Yā sammādiṭṭhi, ayaṃ paññākkhandho. Idaṃ padaṭṭhānaṃ, tattha sīlakkhandho ca samādhikkhandho ca samatho, paññākkhandho vipassanā. Idaṃ padaṭṭhānaṃ, tattha samathassa phalaṃ rāgavirāgā cetovimutti, vipassanā phalaṃ avijjāvirāgā paññāvimutti. Idaṃ padaṭṭhānaṃ.
วนํ วนถสฺส ปทฎฺฐานํฯ กิญฺจ วนํ? โก จ วนโถ? วนํ นาม ปญฺจ กามคุณา, ตณฺหา วนโถฯ อิทํ ปทฎฺฐานํฯ วนํ นาม นิมิตฺตคฺคาโห ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วาฯ วนโถ นาม เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ อนุพฺยญฺชนคฺคาโห ‘‘อโห จกฺขุ, อโห โสตํ, อโห ฆานํ, อโห ชิวฺหา, อโห กาโย, อิติฯ อิทํ ปทฎฺฐานํฯ วนํ นาม ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ อปริญฺญาตานิฯ ยํ ตทุภยํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ, อยํ วนโถฯ อิทํ ปทฎฺฐานํฯ วนํ นาม อนุสโยฯ วนโถ นาม ปริยุฎฺฐานํฯ อิทํ ปทฎฺฐานํฯ เตนาห ภควา ‘‘เฉตฺวา วนญฺจ วนถญฺจา’’ติฯ อยํ ปทฎฺฐาเนน สมาโรปนาฯ
Vanaṃ vanathassa padaṭṭhānaṃ. Kiñca vanaṃ? Ko ca vanatho? Vanaṃ nāma pañca kāmaguṇā, taṇhā vanatho. Idaṃ padaṭṭhānaṃ. Vanaṃ nāma nimittaggāho ‘‘itthī’’ti vā ‘‘puriso’’ti vā. Vanatho nāma tesaṃ tesaṃ aṅgapaccaṅgānaṃ anubyañjanaggāho ‘‘aho cakkhu, aho sotaṃ, aho ghānaṃ, aho jivhā, aho kāyo, iti. Idaṃ padaṭṭhānaṃ. Vanaṃ nāma cha ajjhattikabāhirāni āyatanāni apariññātāni. Yaṃ tadubhayaṃ paṭicca uppajjati saṃyojanaṃ, ayaṃ vanatho. Idaṃ padaṭṭhānaṃ. Vanaṃ nāma anusayo. Vanatho nāma pariyuṭṭhānaṃ. Idaṃ padaṭṭhānaṃ. Tenāha bhagavā ‘‘chetvā vanañca vanathañcā’’ti. Ayaṃ padaṭṭhānena samāropanā.
๕๑. ตตฺถ กตมา เววจเนน สมาโรปนา? ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ; อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติ อเสกฺขผลํฯ อิทํ เววจนํฯ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิผลํ; อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติ อคฺคผลํ อรหตฺตํฯ อิทํ เววจนํฯ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ กามธาตุสมติกฺกมนํ; อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติ เตธาตุสมติกฺกมนํฯ อิทํ เววจนํฯ ปญฺญินฺทฺริยํ, ปญฺญาพลํ, อธิปญฺญาสิกฺขา, ปญฺญากฺขโนฺธ, ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌโงฺค, อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค, ญาณํ, สมฺมาทิฎฺฐิ, ตีรณา, สนฺตีรณา, หิรี, วิปสฺสนา, ธเมฺม ญาณํ, สพฺพํ, อิทํ เววจนํฯ อยํ เววจเนน สมาโรปนาฯ
51. Tattha katamā vevacanena samāropanā? Rāgavirāgā cetovimutti sekkhaphalaṃ; avijjāvirāgā paññāvimutti asekkhaphalaṃ. Idaṃ vevacanaṃ. Rāgavirāgā cetovimutti anāgāmiphalaṃ; avijjāvirāgā paññāvimutti aggaphalaṃ arahattaṃ. Idaṃ vevacanaṃ. Rāgavirāgā cetovimutti kāmadhātusamatikkamanaṃ; avijjāvirāgā paññāvimutti tedhātusamatikkamanaṃ. Idaṃ vevacanaṃ. Paññindriyaṃ, paññābalaṃ, adhipaññāsikkhā, paññākkhandho, dhammavicayasambojjhaṅgo, upekkhāsambojjhaṅgo, ñāṇaṃ, sammādiṭṭhi, tīraṇā, santīraṇā, hirī, vipassanā, dhamme ñāṇaṃ, sabbaṃ, idaṃ vevacanaṃ. Ayaṃ vevacanena samāropanā.
ตตฺถ กตมา ภาวนาย สมาโรปนา? ยถาห ภควา ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหราหิ, อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ’’ฯ อาตาปีติ วีริยินฺทฺริยํฯ สมฺปชาโนติ ปญฺญินฺทฺริยํฯ สติมาติ สตินฺทฺริยํฯ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ สมาธินฺทฺริยํฯ เอวํ กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฎฺฐานา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ เกน การเณน? เอกลกฺขณตฺตา จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํฯ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ ภาวิยมาเนสุ ปญฺจินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ เอวํ สเพฺพ ฯ เกน การเณน? สเพฺพ หิ โพธงฺคมา ธมฺมา โพธิปกฺขิยา นิยฺยานิกลกฺขเณน เอกลกฺขณา, เต เอกลกฺขณตฺตา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ อยํ ภาวนาย สมาโรปนาฯ
Tattha katamā bhāvanāya samāropanā? Yathāha bhagavā ‘‘tasmātiha tvaṃ bhikkhu kāye kāyānupassī viharāhi, ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ’’. Ātāpīti vīriyindriyaṃ. Sampajānoti paññindriyaṃ. Satimāti satindriyaṃ. Vineyya loke abhijjhādomanassanti samādhindriyaṃ. Evaṃ kāye kāyānupassino viharato cattāro satipaṭṭhānā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Kena kāraṇena? Ekalakkhaṇattā catunnaṃ indriyānaṃ. Catūsu satipaṭṭhānesu bhāviyamānesu cattāro sammappadhānā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Catūsu sammappadhānesu bhāviyamānesu cattāro iddhipādā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Catūsu iddhipādesu bhāviyamānesu pañcindriyāni bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Evaṃ sabbe . Kena kāraṇena? Sabbe hi bodhaṅgamā dhammā bodhipakkhiyā niyyānikalakkhaṇena ekalakkhaṇā, te ekalakkhaṇattā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Ayaṃ bhāvanāya samāropanā.
ตตฺถ กตมา ปหาเนน สมาโรปนา? กาเย กายานุปสฺสี วิหรโนฺต ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กพฬีกาโร จสฺส อาหาโร ปริญฺญํ คจฺฉติ, กามุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, กามโยเคน จ วิสํยุโตฺต ภวติ, อภิชฺฌากายคเนฺถน จ วิปฺปยุชฺชติ, กามาสเวน จ อนาสโว ภวติ, กาโมฆญฺจ อุตฺติโณฺณ ภวติ, ราคสเลฺลน จ วิสโลฺล ภวติ, รูปูปิกา 1 จสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติ ปริญฺญํ คจฺฉติ, รูปธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ ฉนฺทาคติํ คจฺฉติฯ
Tattha katamā pahānena samāropanā? Kāye kāyānupassī viharanto ‘‘asubhe subha’’nti vipallāsaṃ pajahati, kabaḷīkāro cassa āhāro pariññaṃ gacchati, kāmupādānena ca anupādāno bhavati, kāmayogena ca visaṃyutto bhavati, abhijjhākāyaganthena ca vippayujjati, kāmāsavena ca anāsavo bhavati, kāmoghañca uttiṇṇo bhavati, rāgasallena ca visallo bhavati, rūpūpikā 2 cassa viññāṇaṭṭhiti pariññaṃ gacchati, rūpadhātuyaṃ cassa rāgo pahīno bhavati, na ca chandāgatiṃ gacchati.
เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรโนฺต ‘‘ทุเกฺข สุข’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ผโสฺส จสฺส อาหาโร ปริญฺญํ คจฺฉติ, ภวูปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, ภวโยเคน จ วิสํยุโตฺต ภวติ, พฺยาปาทกายคเนฺถน จ วิปฺปยุชฺชติ, ภวาสเวน จ อนาสโว ภวติ, ภโวฆญฺจ อุตฺติโณฺณ ภวติ, โทสสเลฺลน จ วิสโลฺล ภวติ, เวทนูปิกา จสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติ ปริญฺญํ คจฺฉติ, เวทนาธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ โทสาคติํ คจฺฉติฯ
Vedanāsu vedanānupassī viharanto ‘‘dukkhe sukha’’nti vipallāsaṃ pajahati, phasso cassa āhāro pariññaṃ gacchati, bhavūpādānena ca anupādāno bhavati, bhavayogena ca visaṃyutto bhavati, byāpādakāyaganthena ca vippayujjati, bhavāsavena ca anāsavo bhavati, bhavoghañca uttiṇṇo bhavati, dosasallena ca visallo bhavati, vedanūpikā cassa viññāṇaṭṭhiti pariññaṃ gacchati, vedanādhātuyaṃ cassa rāgo pahīno bhavati, na ca dosāgatiṃ gacchati.
จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรโนฺต ‘‘อนิเจฺจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, วิญฺญาณํ จสฺส อาหาโร ปริญฺญํ คจฺฉติ, ทิฎฺฐุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, ทิฎฺฐิโยเคน จ วิสํยุโตฺต ภวติ, สีลพฺพตปรามาสกายคเนฺถน จ วิปฺปยุชฺชติ, ทิฎฺฐาสเวน จ อนาสโว ภวติ, ทิโฎฺฐฆญฺจ อุตฺติโณฺณ ภวติ, มานสเลฺลน จ วิสโลฺล ภวติ, สญฺญูปิกา จสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติ ปริญฺญํ คจฺฉติ, สญฺญาธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ ภยาคติํ คจฺฉติฯ
Citte cittānupassī viharanto ‘‘anicce nicca’’nti vipallāsaṃ pajahati, viññāṇaṃ cassa āhāro pariññaṃ gacchati, diṭṭhupādānena ca anupādāno bhavati, diṭṭhiyogena ca visaṃyutto bhavati, sīlabbataparāmāsakāyaganthena ca vippayujjati, diṭṭhāsavena ca anāsavo bhavati, diṭṭhoghañca uttiṇṇo bhavati, mānasallena ca visallo bhavati, saññūpikā cassa viññāṇaṭṭhiti pariññaṃ gacchati, saññādhātuyaṃ cassa rāgo pahīno bhavati, na ca bhayāgatiṃ gacchati.
ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรโนฺต ‘‘อนตฺตนิ 3 อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, มโนสเญฺจตนา จสฺส อาหาโร ปริญฺญํ คจฺฉติ, อตฺตวาทุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, อวิชฺชาโยเคน จ วิสํยุโตฺต ภวติ, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคเนฺถน จ วิปฺปยุชฺชติ, อวิชฺชาสเวน จ อนาสโว ภวติ, อวิโชฺชฆญฺจ อุตฺติโณฺณ ภวติ, โมหสเลฺลน จ วิสโลฺล ภวติ , สงฺขารูปิกา จสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติ ปริญฺญํ คจฺฉติ, สงฺขารธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ โมหาคติํ คจฺฉติฯ อยํ ปหาเนน สมาโรปนาฯ
Dhammesu dhammānupassī viharanto ‘‘anattani 4 attā’’ti vipallāsaṃ pajahati, manosañcetanā cassa āhāro pariññaṃ gacchati, attavādupādānena ca anupādāno bhavati, avijjāyogena ca visaṃyutto bhavati, idaṃsaccābhinivesakāyaganthena ca vippayujjati, avijjāsavena ca anāsavo bhavati, avijjoghañca uttiṇṇo bhavati, mohasallena ca visallo bhavati , saṅkhārūpikā cassa viññāṇaṭṭhiti pariññaṃ gacchati, saṅkhāradhātuyaṃ cassa rāgo pahīno bhavati, na ca mohāgatiṃ gacchati. Ayaṃ pahānena samāropanā.
เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน –
Tenāha āyasmā mahākaccāyano –
‘‘เย ธมฺมา ยํ มูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา;
‘‘Ye dhammā yaṃ mūlā, ye cekatthā pakāsitā muninā;
เต สมาโรปยิตพฺพา, เอส สมาโรปโน หาโร’’ติฯ
Te samāropayitabbā, esa samāropano hāro’’ti.
นิยุโตฺต สมาโรปโน หาโรฯ
Niyutto samāropano hāro.
นิฎฺฐิโต จ หารวิภโงฺคฯ
Niṭṭhito ca hāravibhaṅgo.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา • 16. Samāropanahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา • 16. Samāropanahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควิภาวนา • 16. Samāropanahāravibhaṅgavibhāvanā