Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๑๐. สามาเถรีคาถาวณฺณนา
10. Sāmātherīgāthāvaṇṇanā
จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุนฺติอาทิกา สามาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท โกสมฺพิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สามาติสฺสา นามํ อโหสิฯ สา วิญฺญุตํ ปตฺตา สามาวติยา อุปาสิกาย ปิยสหายิกา หุตฺวา ตาย กาลงฺกตาย สญฺชาตสํเวคา ปพฺพชิฯ ปพฺพชิตฺวา จ สามาวติกํ อารพฺภ อุปฺปนฺนโสกํ วิโนเทตุํ อสโกฺกนฺตี อริยมคฺคํ คณฺหิตุํ นาสกฺขิฯ อปรภาเค อาสนสาลาย นิสินฺนสฺส อานนฺทเตฺถรสฺส โอวาทํ สุตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา ตโต สตฺตเม ทิวเส สห ปฎิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ
Catukkhattuṃpañcakkhattuntiādikā sāmāya theriyā gāthā. Ayampi purimabuddhesu katādhikārā tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinitvā sugatīsuyeva saṃsarantī imasmiṃ buddhuppāde kosambiyaṃ gahapatimahāsālakule nibbattitvā sāmātissā nāmaṃ ahosi. Sā viññutaṃ pattā sāmāvatiyā upāsikāya piyasahāyikā hutvā tāya kālaṅkatāya sañjātasaṃvegā pabbaji. Pabbajitvā ca sāmāvatikaṃ ārabbha uppannasokaṃ vinodetuṃ asakkontī ariyamaggaṃ gaṇhituṃ nāsakkhi. Aparabhāge āsanasālāya nisinnassa ānandattherassa ovādaṃ sutvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā tato sattame divase saha paṭisambhidāhi arahattaṃ pāpuṇi.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตํ ปกาเสนฺตี –
Arahattaṃ pana patvā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā taṃ pakāsentī –
๓๗.
37.
‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมิํ;
‘‘Catukkhattuṃ pañcakkhattuṃ, vihārā upanikkhamiṃ;
อลทฺธา เจตโส สนฺติํ, จิเตฺต อวสวตฺตินี;
Aladdhā cetaso santiṃ, citte avasavattinī;
ตสฺสา เม อฎฺฐมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา สมูหตาฯ
Tassā me aṭṭhamī ratti, yato taṇhā samūhatā.
๓๘.
38.
‘‘พหูหิ ทุกฺขธเมฺมหิ, อปฺปมาทรตาย เม;
‘‘Bahūhi dukkhadhammehi, appamādaratāya me;
ตณฺหกฺขโย อนุปฺปโตฺต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ –
Taṇhakkhayo anuppatto, kataṃ buddhassa sāsana’’nti. –
อุทานวเสน อิมา เทฺว คาถา อภาสิฯ
Udānavasena imā dve gāthā abhāsi.
ตตฺถ จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมินฺติ ‘‘มม วสนกวิหาเร วิปสฺสนามนสิกาเรน นิสินฺนา สมณกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสโกฺกนฺตี อุตุสปฺปายาภาเวน นนุ โข มยฺหํ วิปสฺสนา มเคฺคน ฆเฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา จตฺตาโร ปญฺจ จาติ นว วาเร วิหารา อุปสฺสยโต พหิ นิกฺขมิํฯ เตนาห ‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺติํ, จิเตฺต อวสวตฺตินี’’ติฯ ตตฺถ เจตโส สนฺตินฺติ อริยมคฺคสมาธิํ สนฺธายาหฯ จิเตฺต อวสวตฺตินีติ วีริยสมตาย อภาเวน มม ภาวนาจิเตฺต น วสวตฺตินีฯ สา กิร อติวิย ปคฺคหิตวีริยา อโหสิฯ ตสฺสา เม อฎฺฐมี รตฺตีติ ยโต ปฎฺฐาย อานนฺทเตฺถรสฺส สนฺติเก โอวาทํ ปฎิลภิํ, ตโต ปฎฺฐาย รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี รตฺติยํ จตุกฺขตฺตุํ ปญฺจกฺขตฺตุํ วิหารโต นิกฺขมิตฺวา มนสิการํ ปวเตฺตนฺตี วิเสสํ อนธิคนฺตฺวา อฎฺฐมิยํ รตฺติยํ วีริยสมตํ ลภิตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยา กิเลเส เขเปสินฺติ อโตฺถฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺสา เม อฎฺฐมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา สมูหตา’’ติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Tattha catukkhattuṃ pañcakkhattuṃ, vihārā upanikkhaminti ‘‘mama vasanakavihāre vipassanāmanasikārena nisinnā samaṇakiccaṃ matthakaṃ pāpetuṃ asakkontī utusappāyābhāvena nanu kho mayhaṃ vipassanā maggena ghaṭṭetī’’ti cintetvā cattāro pañca cāti nava vāre vihārā upassayato bahi nikkhamiṃ. Tenāha ‘‘aladdhā cetaso santiṃ, citte avasavattinī’’ti. Tattha cetaso santinti ariyamaggasamādhiṃ sandhāyāha. Citte avasavattinīti vīriyasamatāya abhāvena mama bhāvanācitte na vasavattinī. Sā kira ativiya paggahitavīriyā ahosi. Tassā me aṭṭhamī rattīti yato paṭṭhāya ānandattherassa santike ovādaṃ paṭilabhiṃ, tato paṭṭhāya rattindivamatanditā vipassanāya kammaṃ karontī rattiyaṃ catukkhattuṃ pañcakkhattuṃ vihārato nikkhamitvā manasikāraṃ pavattentī visesaṃ anadhigantvā aṭṭhamiyaṃ rattiyaṃ vīriyasamataṃ labhitvā maggapaṭipāṭiyā kilese khepesinti attho. Tena vuttaṃ – ‘‘tassā me aṭṭhamī ratti, yato taṇhā samūhatā’’ti. Sesaṃ vuttanayameva.
สามาเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sāmātherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
ทุกนิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dukanipātavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๑๐. สามาเถรีคาถา • 10. Sāmātherīgāthā