Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๓. ตติยวโคฺค
3. Tatiyavaggo
๑. สมฺพหุลสุตฺตํ
1. Sambahulasuttaṃ
๑๕๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สเกฺกสุ วิหรติ สิลาวติยํฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺติฯ อถ โข มาโร ปาปิมา พฺราหฺมณวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา มหเนฺตน ชฎณฺฑุเวน อชินกฺขิปนิวโตฺถ ชิโณฺณ โคปานสิวโงฺก ฆุรุฆุรุปสฺสาสี อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ทหรา ภวโนฺต ปพฺพชิตา สุสู กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกฺกีฬิตาวิโน กาเมสุฯ ภุญฺชนฺตุ ภวโนฺต มานุสเก กาเมฯ มา สนฺทิฎฺฐิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิตฺถา’’ติฯ ‘‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, สนฺทิฎฺฐิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวามฯ กาลิกญฺจ โข มยํ, พฺราหฺมณ, หิตฺวา สนฺทิฎฺฐิกํ อนุธาวามฯ กาลิกา หิ, พฺราหฺมณ, กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิโยฺยฯ สนฺทิฎฺฐิโก อยํ ธโมฺม อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, มาโร ปาปิมา สีสํ โอกเมฺปตฺวา ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวา ติวิสาขํ นลาเฎ นลาฎิกํ วุฎฺฐาเปตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภ ปกฺกามิฯ
157. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sakkesu viharati silāvatiyaṃ. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū bhagavato avidūre appamattā ātāpino pahitattā viharanti. Atha kho māro pāpimā brāhmaṇavaṇṇaṃ abhinimminitvā mahantena jaṭaṇḍuvena ajinakkhipanivattho jiṇṇo gopānasivaṅko ghurughurupassāsī udumbaradaṇḍaṃ gahetvā yena te bhikkhū tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘daharā bhavanto pabbajitā susū kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikkīḷitāvino kāmesu. Bhuñjantu bhavanto mānusake kāme. Mā sandiṭṭhikaṃ hitvā kālikaṃ anudhāvitthā’’ti. ‘‘Na kho mayaṃ, brāhmaṇa, sandiṭṭhikaṃ hitvā kālikaṃ anudhāvāma. Kālikañca kho mayaṃ, brāhmaṇa, hitvā sandiṭṭhikaṃ anudhāvāma. Kālikā hi, brāhmaṇa, kāmā vuttā bhagavatā bahudukkhā bahupāyāsā, ādīnavo ettha bhiyyo. Sandiṭṭhiko ayaṃ dhammo akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhī’’ti. Evaṃ vutte, māro pāpimā sīsaṃ okampetvā jivhaṃ nillāletvā tivisākhaṃ nalāṭe nalāṭikaṃ vuṭṭhāpetvā daṇḍamolubbha pakkāmi.
อถ โข เต ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ มยํ, ภเนฺต, ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามฯ อถ โข, ภเนฺต, อญฺญตโร พฺราหฺมโณ มหเนฺตน ชฎณฺฑุเวน อชินกฺขิปนิวโตฺถ ชิโณฺณ โคปานสิวโงฺก ฆุรุฆุรุปสฺสาสี อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา เยน มยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเมฺห เอตทโวจ – ‘ทหรา ภวโนฺต ปพฺพชิตา สุสู กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกฺกีฬิตาวิโน กาเมสุฯ ภุญฺชนฺตุ ภวโนฺต มานุสเก กาเมฯ มา สนฺทิฎฺฐิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิตฺถา’ติฯ เอวํ วุเตฺต, มยํ, ภเนฺต, ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุมฺห – ‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, สนฺทิฎฺฐิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวามฯ กาลิกญฺจ โข มยํ, พฺราหฺมณ, หิตฺวา สนฺทิฎฺฐิกํ อนุธาวามฯ กาลิกา หิ, พฺราหฺมณ, กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิโยฺยฯ สนฺทิฎฺฐิโก อยํ ธโมฺม อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’ติฯ เอวํ วุเตฺต, ภเนฺต, โส พฺราหฺมโณ สีสํ โอกเมฺปตฺวา ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวา ติวิสาขํ นลาเฎ นลาฎิกํ วุฎฺฐาเปตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภ ปกฺกโนฺต’’ติฯ
Atha kho te bhikkhū yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘idha mayaṃ, bhante, bhagavato avidūre appamattā ātāpino pahitattā viharāma. Atha kho, bhante, aññataro brāhmaṇo mahantena jaṭaṇḍuvena ajinakkhipanivattho jiṇṇo gopānasivaṅko ghurughurupassāsī udumbaradaṇḍaṃ gahetvā yena mayaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā amhe etadavoca – ‘daharā bhavanto pabbajitā susū kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikkīḷitāvino kāmesu. Bhuñjantu bhavanto mānusake kāme. Mā sandiṭṭhikaṃ hitvā kālikaṃ anudhāvitthā’ti. Evaṃ vutte, mayaṃ, bhante, taṃ brāhmaṇaṃ etadavocumha – ‘na kho mayaṃ, brāhmaṇa, sandiṭṭhikaṃ hitvā kālikaṃ anudhāvāma. Kālikañca kho mayaṃ, brāhmaṇa, hitvā sandiṭṭhikaṃ anudhāvāma. Kālikā hi, brāhmaṇa, kāmā vuttā bhagavatā bahudukkhā bahupāyāsā, ādīnavo ettha bhiyyo. Sandiṭṭhiko ayaṃ dhammo akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhī’ti. Evaṃ vutte, bhante, so brāhmaṇo sīsaṃ okampetvā jivhaṃ nillāletvā tivisākhaṃ nalāṭe nalāṭikaṃ vuṭṭhāpetvā daṇḍamolubbha pakkanto’’ti.
‘‘เนโส, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณฯ มาโร เอโส ปาปิมา ตุมฺหากํ วิจกฺขุกมฺมาย อาคโต’’ติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘Neso, bhikkhave, brāhmaṇo. Māro eso pāpimā tumhākaṃ vicakkhukammāya āgato’’ti. Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ,
‘‘Yo dukkhamaddakkhi yatonidānaṃ,
กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย;
Kāmesu so jantu kathaṃ nameyya;
อุปธิํ วิทิตฺวา สโงฺคติ โลเก,
Upadhiṃ viditvā saṅgoti loke,
ตเสฺสว ชนฺตุ วินยาย สิเกฺข’’ติฯ
Tasseva jantu vinayāya sikkhe’’ti.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา • 1. Sambahulasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา • 1. Sambahulasuttavaṇṇanā