Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๐. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา
10. Samiddhisuttavaṇṇanā
๒๐. ตปนภาเวน ตปโนทกตฺตา ตโปทาติ ตสฺส รหทสฺส นามํฯ เตนาห ‘‘ตโตฺตทกสฺส รหทสฺสา’’ติฯ ตโตติ นาคภวเน อุทกรหทโต ตโปทา นาม นที สนฺทติฯ สา หิ นที ภูมิตลํ อาโรหติฯ ‘‘เอทิสา ชาตา’’ติ วจนเสโสฯ เปตโลโกติ โลหกุมฺภินิรยา อิธาธิเปฺปตาติ วทนฺติฯ รหทสฺส ปน อาทิโต ปพฺพตปาทวนนฺตเรสุ พหู เปตา วิหรนฺติ, สฺวายมโตฺถ เปตวตฺถุปาฬิยา ลกฺขณสํยุเตฺตน จ ทีเปตโพฺพฯ ยตายนฺติ ยโต รหทโต อยํฯ สาโตทโกติ มธุโรทโกฯ เสโตทโกติ ปริสุโทฺธทโก, อนาวิโลทโกติ อโตฺถฯ ตโตติ ตโปทานทิโตฯ
20. Tapanabhāvena tapanodakattā tapodāti tassa rahadassa nāmaṃ. Tenāha ‘‘tattodakassa rahadassā’’ti. Tatoti nāgabhavane udakarahadato tapodā nāma nadī sandati. Sā hi nadī bhūmitalaṃ ārohati. ‘‘Edisā jātā’’ti vacanaseso. Petalokoti lohakumbhinirayā idhādhippetāti vadanti. Rahadassa pana ādito pabbatapādavanantaresu bahū petā viharanti, svāyamattho petavatthupāḷiyālakkhaṇasaṃyuttena ca dīpetabbo. Yatāyanti yato rahadato ayaṃ. Sātodakoti madhurodako. Setodakoti parisuddhodako, anāvilodakoti attho. Tatoti tapodānadito.
สมิโทฺธติ อวยวานํ สมฺปุณฺณตาย สํสิทฺธิยาว สมฺมา อิโทฺธฯ เตนาห ‘‘อภิรูโป’’ติอาทิฯ ปธาเน สมฺมสนธเมฺม นิยุโตฺต, ตํ วา เอตฺถ อตฺถีติ ปธานิโกฯ เสนาสนํ สุฎฺฐปิตทฺวารวาตปานํ, เตสํ ปิทหเนน อุตุํ คาหาเปตฺวาฯ
Samiddhoti avayavānaṃ sampuṇṇatāya saṃsiddhiyāva sammā iddho. Tenāha ‘‘abhirūpo’’tiādi. Padhāne sammasanadhamme niyutto, taṃ vā ettha atthīti padhāniko. Senāsanaṃ suṭṭhapitadvāravātapānaṃ, tesaṃ pidahanena utuṃ gāhāpetvā.
ปุพฺพาปยมาโนติ นฺหานโต ปุพฺพภาเค วิย โวทกภาวํ อาปชฺชมาโน คเมโนฺตฯ อวตฺตํ ปฎิกฺขิปิตฺวา วตฺตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตตฺถ…เป.… น โอตริตพฺพ’’นฺติ ปฐมํ วุตฺตํฯ สพฺพทิสาปโลกนํ ยถา นฺหายนฎฺฐานสฺส มนุเสฺสหิ วิวิตฺตภาวชานนตฺถํฯ ขาณุอาทิววตฺถาปนํ จีวราทีนํ ฐปนตฺถํ อุทกสมีเปติ อธิปฺปาโยฯ อุกฺกาสนํ อมนุสฺสานํ อปคมนตฺถํฯ อวกุชฺชฎฺฐานํ ตงฺขเณปิ อุปริมกายสฺส อุชุกํ อวิวฎกรณตฺถํฯ จีวรปิเฎฺฐเยว ฐเปตพฺพํ ยตฺถ วา ตตฺถ วา อฎฺฐเปตฺวาฯ อุทกเนฺตติ อุทกสมีเปฯ สินฺนฎฺฐานนฺติ เสทคตปเทโสฯ ปสาเรตพฺพํ ตสฺส สุกฺขาปนตฺถํฯ สํหริตฺวา ฐปนํ ปุน สุเขน คเหตฺวา นิวาสนตฺถํฯ นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตรณํ ตาวตา อุทกปฎิจฺฉาทิลกฺขณปฺปตฺตโตฯ วีจิํ อนุฎฺฐาเปเนฺตนาติอาทิ สํยตการิตาทสฺสนํฯ นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวาติ อนฺตรวาสกํ กฎิปฺปเทสสฺส ยถา ปริโต โหติ, เอวํ ขิปิตฺวา ปริวสิตฺวาฯ
Pubbāpayamānoti nhānato pubbabhāge viya vodakabhāvaṃ āpajjamāno gamento. Avattaṃ paṭikkhipitvā vattaṃ dassetuṃ ‘‘tattha…pe… na otaritabba’’nti paṭhamaṃ vuttaṃ. Sabbadisāpalokanaṃ yathā nhāyanaṭṭhānassa manussehi vivittabhāvajānanatthaṃ. Khāṇuādivavatthāpanaṃ cīvarādīnaṃ ṭhapanatthaṃ udakasamīpeti adhippāyo. Ukkāsanaṃ amanussānaṃ apagamanatthaṃ. Avakujjaṭṭhānaṃ taṅkhaṇepi uparimakāyassa ujukaṃ avivaṭakaraṇatthaṃ. Cīvarapiṭṭheyeva ṭhapetabbaṃ yattha vā tattha vā aṭṭhapetvā. Udakanteti udakasamīpe. Sinnaṭṭhānanti sedagatapadeso. Pasāretabbaṃ tassa sukkhāpanatthaṃ. Saṃharitvā ṭhapanaṃ puna sukhena gahetvā nivāsanatthaṃ. Nābhippamāṇamattaṃotaraṇaṃ tāvatā udakapaṭicchādilakkhaṇappattato. Vīciṃ anuṭṭhāpentenātiādi saṃyatakāritādassanaṃ. Nivāsanaṃ parikkhipitvāti antaravāsakaṃ kaṭippadesassa yathā parito hoti, evaṃ khipitvā parivasitvā.
สรีรวโณฺณปิ วิปฺปสีทิ สมฺมเทว ภาวนานุสฺสติมฺปิ วินฺทนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ สมนํ นิคฺคเหตุนฺติ กิเลสวสํ คตํ อตฺตโน จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํฯ กามูปนีตาติ กามํ อุปคตจิตฺตาฯ อถ วา กิเลสกาเมน เถเร อุปนีตจิตฺตาฯ
Sarīravaṇṇopi vippasīdi sammadeva bhāvanānussatimpi vindantassāti adhippāyo. Samanaṃ niggahetunti kilesavasaṃ gataṃ attano cittaṃ niggaṇhituṃ. Kāmūpanītāti kāmaṃ upagatacittā. Atha vā kilesakāmena there upanītacittā.
อปริภุญฺชิตฺวาติ อนนุโภตฺวาฯ อนุภวิตพฺพนฺติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ อาห ‘‘ปญฺจกามคุเณ’’ติ ฯ ภิกฺขสีติ ยาจสิฯ ตญฺจ ภิกฺขาจริยวเสนาติ อาห ‘‘ปิณฺฑาย จรสี’’ติฯ กามปริโภคครุคมนกาโล นาม วิเสสโต ปฐมโยพฺพนาวตฺถาติ อาห ‘‘ทหรโยพฺพนกาโล’’ติฯ โอภเคฺคนาติ มเชฺฌ สํภคฺคกาเยนฯ ชิณฺณกาเล หิ สตฺตานํ กฎิยํ กาโย โอภโคฺค โหติฯ
Aparibhuñjitvāti ananubhotvā. Anubhavitabbanti atthato āpannamevāti āha ‘‘pañcakāmaguṇe’’ti . Bhikkhasīti yācasi. Tañca bhikkhācariyavasenāti āha ‘‘piṇḍāya carasī’’ti. Kāmaparibhogagarugamanakālo nāma visesato paṭhamayobbanāvatthāti āha ‘‘daharayobbanakālo’’ti. Obhaggenāti majjhe saṃbhaggakāyena. Jiṇṇakāle hi sattānaṃ kaṭiyaṃ kāyo obhaggo hoti.
โวติ นิปาตมตฺตํ ‘‘เย หิ โว อริยา’’ติอาทีสุ วิยฯ สตฺตานนฺติ สามญฺญวจนํ, น มนุสฺสานํ เอวฯ เทหนิเกฺขปนนฺติ กเฬวรฎฺฐปิตฎฺฐานํฯ นตฺถิ เอเตสํ นิมิตฺตนฺติ อนิมิตฺตา, ‘‘เอตฺตกํ อยํ ชีวตี’’ติอาทินา สญฺชานนนิมิตฺตรหิตาติ อโตฺถฯ น นายเรติ น ญายนฺติฯ อิโต ปรนฺติ เอตฺถ ปรนฺติ อญฺญํ กาลํฯ เตน โอรกาลสฺสปิ สงฺคโห สิโทฺธ โหติฯ ปรมายุโน โอรกาเล เอว เจตฺถ ปรนฺติ อธิเปฺปตํ ตโต ปรํ สตฺตานํ ชีวิตสฺส อภาวโตฯ ววตฺถานาภาวโตติ กาลวเสน ววตฺถานาภาวโตฯ ววตฺถานนฺติ เจตฺถ ปริเจฺฉโท เวทิตโพฺพ, น อสงฺกรโต ววตฺถานํ, นิจฺฉโย วาฯ อพฺพุทเปสีติอาทีสุ อพฺพุทกาโล เปสิกาโลติอาทินา กาล-สโทฺท ปเจฺจกํ โยเชตโพฺพฯ กาโลติ อิธ ปุพฺพณฺหาทิเวลา อธิเปฺปตาฯ เตนาห ปุพฺพเณฺหปิ หีติอาทิ ฯ อิเธว เทเหน ปติตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อเนกปฺปการโตติ นคเร ชาตานํ คาเม, คาเม ชาตานํ นคเร, วเน ชาตานํ ชนปเท, ชนปเท ชาตานํ วเนติอาทินา อเนกปฺปการโตฯ อิโต จุเตนาติ อิโต คติโต จุเตนฯ อิธ อิมิสฺสํ คติยํฯ ยเนฺต ยุตฺตโคโณ วิยาติ ยถา ยเนฺต ยุตฺตโคโณ ยนฺตํ นาติวตฺตติ, เอวํ กาโล คติปญฺจกนฺติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํฯ
Voti nipātamattaṃ ‘‘ye hi vo ariyā’’tiādīsu viya. Sattānanti sāmaññavacanaṃ, na manussānaṃ eva. Dehanikkhepananti kaḷevaraṭṭhapitaṭṭhānaṃ. Natthi etesaṃ nimittanti animittā, ‘‘ettakaṃ ayaṃ jīvatī’’tiādinā sañjānananimittarahitāti attho. Na nāyareti na ñāyanti. Ito paranti ettha paranti aññaṃ kālaṃ. Tena orakālassapi saṅgaho siddho hoti. Paramāyuno orakāle eva cettha paranti adhippetaṃ tato paraṃ sattānaṃ jīvitassa abhāvato. Vavatthānābhāvatoti kālavasena vavatthānābhāvato. Vavatthānanti cettha paricchedo veditabbo, na asaṅkarato vavatthānaṃ, nicchayo vā. Abbudapesītiādīsu abbudakālo pesikālotiādinā kāla-saddo paccekaṃ yojetabbo. Kāloti idha pubbaṇhādivelā adhippetā. Tenāha pubbaṇhepi hītiādi . Idheva dehena patitabbanti sambandho. Anekappakāratoti nagare jātānaṃ gāme, gāme jātānaṃ nagare, vane jātānaṃ janapade, janapade jātānaṃ vanetiādinā anekappakārato. Ito cutenāti ito gatito cutena. Idha imissaṃ gatiyaṃ. Yante yuttagoṇo viyāti yathā yante yuttagoṇo yantaṃ nātivattati, evaṃ kālo gatipañcakanti evaṃ upamāsaṃsandanaṃ veditabbaṃ.
อยํ กาโลติ อยํ มรณกาโลฯ ปจฺฉิเม กาเลติ ปจฺฉิเม วเยฯ ติโสฺส วโยสีมาติฯ ปฐมาทิกา ติโสฺส วยสฺส สีมา อติกฺกเนฺตนฯ ปุริมานํ หิ ทฺวินฺนํ วยานํ สพฺพโส สีมา อติกฺกมิตฺวา ปจฺฉิมสฺส อาทิสีมํ อติกฺกโนฺต ตถา วุโตฺตฯ ‘‘อยญฺหิ สมณธโมฺม…เป.… น สกฺกา กาตุ’’นฺติ วตฺวา ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘ตทา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ คณฺหิตุนฺติ ปาฬิโต อตฺถโต จ หทเย ฐปนวเสน คณฺหิตุํฯ ปริภุญฺชิตุนฺติ วุตฺตธมฺมปริหรณสุขํ อนุภวิตุํฯ เอกสฺส กถนโต ปฐมํ คาถํ สุตฺตํ วา อุสฺสาเรติ, ตสฺมิํ นิฎฺฐิเต อิตโร ธมฺมกถิโก ตํเยว วิตฺถาเรโนฺต ธมฺมํ กเถติ, อยํ สรภาณธมฺมกถาฯ สุตฺตเคยฺยานุสาเรน ยาว ปริโยสานา อุสฺสารณํ สรภญฺญธมฺมกถาฯ ‘‘มา มํ กาโล อุปจฺจคา’’ติ วทโนฺต ‘‘สมณธมฺมสฺส กรณสฺส อยํ เม กาโล’’ติ กเถติ, ตโต ปโร ‘‘ปจฺฉิมวโย อโญฺญ กาโล’’ติ กเถติฯ ‘‘กาลํ โวหํ…เป.… ตสฺมา อภุตฺวา ภิกฺขามี’’ติ วทโนฺต อตฺตนา กตํ ปฎิปตฺติญฺจ สเหตุกํ สานิสํสํ กเถติฯ
Ayaṃ kāloti ayaṃ maraṇakālo. Pacchime kāleti pacchime vaye. Tisso vayosīmāti. Paṭhamādikā tisso vayassa sīmā atikkantena. Purimānaṃ hi dvinnaṃ vayānaṃ sabbaso sīmā atikkamitvā pacchimassa ādisīmaṃ atikkanto tathā vutto. ‘‘Ayañhi samaṇadhammo…pe… na sakkā kātu’’nti vatvā tamatthaṃ vitthārato dassetuṃ ‘‘tadā hī’’tiādi vuttaṃ. Gaṇhitunti pāḷito atthato ca hadaye ṭhapanavasena gaṇhituṃ. Paribhuñjitunti vuttadhammapariharaṇasukhaṃ anubhavituṃ. Ekassa kathanato paṭhamaṃ gāthaṃ suttaṃ vā ussāreti, tasmiṃ niṭṭhite itaro dhammakathiko taṃyeva vitthārento dhammaṃ katheti, ayaṃ sarabhāṇadhammakathā. Suttageyyānusārena yāva pariyosānā ussāraṇaṃ sarabhaññadhammakathā. ‘‘Mā maṃ kālo upaccagā’’ti vadanto ‘‘samaṇadhammassa karaṇassa ayaṃ me kālo’’ti katheti, tato paro ‘‘pacchimavayo añño kālo’’ti katheti. ‘‘Kālaṃ vohaṃ…pe… tasmā abhutvā bhikkhāmī’’ti vadanto attanā kataṃ paṭipattiñca sahetukaṃ sānisaṃsaṃ katheti.
ตํ คารวการณํ สนฺธายฯ เอตนฺติ ‘‘อถ โข สา เทวตา ปถวิยํ ปติฎฺฐหิตฺวา’’ติ เอตํ วุตฺตํฯ ทหโร ตฺวนฺติอาทิมาห โลภาภิภูตตาย อธิคตตฺตาฯ สพฺพสมฺปตฺติยุโตฺตติ โภคสมฺปทา ปริวารสมฺปทาติ สพฺพสมฺปตฺตีหิ ยุโตฺตฯ อลงฺการปริหารนฺติ อลงฺการกรณํฯ อนิกฺกีฬิตาวีติ อกีฬิตปุโพฺพฯ กีฬนเญฺจตฺถ กามานํ ปริโภโคติ อาห ‘‘อภุตฺตาวี’’ติฯ อกตกามกีโฬติ อกตกามานุภวนปฺปโยโคฯ สยํ อตฺตนา เอว ทิสฺสนฺตีติ สนฺทิฎฺฐา, สนฺทิฎฺฐา เอว สนฺทิฎฺฐิกา, อตฺตปจฺจกฺขโต สนฺทิฎฺฐิกาฯ ปกโฎฺฐ กาโล ปโตฺต เอเตสนฺติ กาลิกา, เต กาลิเกฯ
Taṃ gāravakāraṇaṃ sandhāya. Etanti ‘‘atha kho sā devatā pathaviyaṃ patiṭṭhahitvā’’ti etaṃ vuttaṃ. Daharo tvantiādimāha lobhābhibhūtatāya adhigatattā. Sabbasampattiyuttoti bhogasampadā parivārasampadāti sabbasampattīhi yutto. Alaṅkāraparihāranti alaṅkārakaraṇaṃ. Anikkīḷitāvīti akīḷitapubbo. Kīḷanañcettha kāmānaṃ paribhogoti āha ‘‘abhuttāvī’’ti. Akatakāmakīḷoti akatakāmānubhavanappayogo. Sayaṃ attanā eva dissantīti sandiṭṭhā, sandiṭṭhā eva sandiṭṭhikā, attapaccakkhato sandiṭṭhikā. Pakaṭṭho kālo patto etesanti kālikā, te kālike.
จิตฺตานนฺตรนฺติ อิจฺฉิตจิตฺตานนฺตรํ, อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณากาเรติ อโตฺถฯ เตเนวาห ‘‘จิตฺตานนฺตรํ อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณานุภวนํ น สมฺปชฺชตี’’ติอาทิฯ จิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพตายาติ อนนฺตริตสมาธิจิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพผลตายฯ สโมหิเตสุปีติ สมฺภเตสุปิฯ สมฺปนฺนกามสฺสาติ สมิทฺธกามสฺสฯ จิตฺตการา รูปลาเภน, โปตฺถการา ปฎิมาการกา, รูปการา ทนฺตรูปกฎฺฐรูป-โลหรูปาทิการกาฯ อาทิสเทฺทน นานารูปเวสธารีนํ นฎาทีนํ สงฺคโหฯ เสสทฺวาเรสูติ เอตฺถ คนฺธพฺพมาลาการสูปการาทโย วตฺตพฺพาฯ
Cittānantaranti icchitacittānantaraṃ, icchiticchitārammaṇākāreti attho. Tenevāha ‘‘cittānantaraṃ icchiticchitārammaṇānubhavanaṃ na sampajjatī’’tiādi. Cittānantaraṃ laddhabbatāyāti anantaritasamādhicittānantaraṃ laddhabbaphalatāya. Samohitesupīti sambhatesupi. Sampannakāmassāti samiddhakāmassa. Cittakārā rūpalābhena, potthakārā paṭimākārakā, rūpakārā dantarūpakaṭṭharūpa-loharūpādikārakā. Ādisaddena nānārūpavesadhārīnaṃ naṭādīnaṃ saṅgaho. Sesadvāresūti ettha gandhabbamālākārasūpakārādayo vattabbā.
โสติ สมิทฺธิเตฺถโรฯ สโมหิตสมฺปตฺตินาติ สงฺคาหโภคูปกรณสมฺปตฺตินาฯ ปตฺตพฺพทุกฺขสฺสาติ กามานํ อาปชฺชนรกฺขณวเสน ลทฺธพฺพสฺส กายิกเจตสิกทุกฺขสฺสฯ อุปายาสสฺสาติ ทฬฺหปริสฺสมสฺส วิรตสฺสฯ ‘‘วิสฺสาตสฺสา’’ติ เกจิฯ ‘‘ปจฺจเวกฺขณญาเณนา’’ติ เกจิ ปฐนฺติฯ อสุกสฺมิํ นาม กาเล ผลํ โหตีติ เอวํ อุทิกฺขิตโพฺพ นสฺส กาโลติ อกาโลฯ เอตฺถาติ เอเตสุ นวสุ โลกุตฺตรธเมฺมสุฯ เอหิปสฺสวิธินฺติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ปวตฺตวิธิวจนํฯ อุปเนตโพฺพติ วา อุปเนโยฺย, โส เอว โอปเนยฺยิโกฯ วิญฺญูหีติ วิทูหิ ปฎิวิทฺธสเจฺจหิฯ เต เอกํสโต อุคฺฆฎิตญฺญูอาทโย โหนฺตีติ อาห ‘‘อุคฺฆฎิตญฺญูอาทีหี’’ติฯ ‘‘ปจฺจตฺต’’นฺติ เอตสฺส ปติอตฺตนีติ ภุมฺมวเสน อโตฺถ คเหตโพฺพติ อาห ‘‘อตฺตนิ อตฺตนี’’ติฯ
Soti samiddhitthero. Samohitasampattināti saṅgāhabhogūpakaraṇasampattinā. Pattabbadukkhassāti kāmānaṃ āpajjanarakkhaṇavasena laddhabbassa kāyikacetasikadukkhassa. Upāyāsassāti daḷhaparissamassa viratassa. ‘‘Vissātassā’’ti keci. ‘‘Paccavekkhaṇañāṇenā’’ti keci paṭhanti. Asukasmiṃ nāma kāle phalaṃ hotīti evaṃ udikkhitabbo nassa kāloti akālo. Etthāti etesu navasu lokuttaradhammesu. Ehipassavidhinti ‘‘ehi passā’’ti evaṃ pavattavidhivacanaṃ. Upanetabboti vā upaneyyo, so eva opaneyyiko. Viññūhīti vidūhi paṭividdhasaccehi. Te ekaṃsato ugghaṭitaññūādayo hontīti āha ‘‘ugghaṭitaññūādīhī’’ti. ‘‘Paccatta’’nti etassa patiattanīti bhummavasena attho gahetabboti āha ‘‘attani attanī’’ti.
สพฺพปเทหิ สมฺพโนฺธติ ‘‘กถํ อาทีนโว เอตฺถ ภิโยฺย, กถํ อกาลิโก’’ติอาทินา สเพฺพหิ ปเจฺจกํ สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ
Sabbapadehi sambandhoti ‘‘kathaṃ ādīnavo ettha bhiyyo, kathaṃ akāliko’’tiādinā sabbehi paccekaṃ sambandho veditabbo.
นโวติ ตรุโณ น จิรวโสฺสฯ เย ภิกฺขุโนวาทกลกฺขณปฺปตฺตา, เต สนฺธาย ‘‘วีสติวสฺสโต ปฎฺฐาย เถโร’’ติ วุตฺตํฯ อิธ สาสนํ นาม สิกฺขตฺตยสงฺคหํ ปิฎกตฺตยนฺติ อาห ‘‘ธเมฺมน หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ ธเมฺมน วินโย เอตฺถ วินา ทณฺฑสเตฺถหีติ ธมฺมวินโยฯ ธมฺมาย วินโย เอตฺถ น อามิสตฺถนฺติ ธมฺมวินโยฯ ธมฺมโต วินโย น อธมฺมโตติ ธมฺมวินโยฯ ธโมฺม วา ภควา ธมฺมสฺสามี ธมฺมกายตฺตา, ตสฺส ธมฺมสญฺญิตสฺส สตฺถุ วินโย, น ตกฺกิกานนฺติ ธมฺมวินโยฯ ธเมฺม วินโย น อธเมฺม วินโยฯ ธโมฺม จ โส ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชมาเน สเตฺต อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ, สเพฺพ สํกิเลสโต วิเนตีติ วินโย จาติ ธมฺมวินโยฯ เตนาห ‘‘อุภยเมฺปตํ สาสนเสฺสว นาม’’นฺติฯ
Navoti taruṇo na ciravasso. Ye bhikkhunovādakalakkhaṇappattā, te sandhāya ‘‘vīsativassato paṭṭhāya thero’’ti vuttaṃ. Idha sāsanaṃ nāma sikkhattayasaṅgahaṃ piṭakattayanti āha ‘‘dhammenahī’’tiādi. Tattha dhammena vinayo ettha vinā daṇḍasatthehīti dhammavinayo. Dhammāya vinayo ettha na āmisatthanti dhammavinayo. Dhammato vinayo na adhammatoti dhammavinayo. Dhammo vā bhagavā dhammassāmī dhammakāyattā, tassa dhammasaññitassa satthu vinayo, na takkikānanti dhammavinayo. Dhamme vinayo na adhamme vinayo. Dhammo ca so yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjamāne satte apāyesu apatamāne dhāretīti, sabbe saṃkilesato vinetīti vinayo cāti dhammavinayo. Tenāha ‘‘ubhayampetaṃ sāsanasseva nāma’’nti.
ธมฺมวินโยติ ธเมฺมน ยุโตฺต วินโยติ ธมฺมวินโย อาชญฺญรโถ วิยฯ ธโมฺม จ วินโย จาติ วา ธมฺมวินโย, ตํ ธมฺมวินยํฯ ธมฺมวินยานญฺหิ สตฺถุภาววจนโต ธมฺมวินยตฺตสํสิทฺธิ ธมฺมวินยานํ อญฺญมญฺญํ วิเสสนโตฯ อภิธเมฺมปิ วินยวจนนฺติ ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิ, เทสิตปญฺญตฺตวจนโต ธมฺมวินยสิทฺธิฯ ธโมฺม จตุธา เทสิโต สนฺทสฺสน-สมาทาปน-สมุเตฺตชน-สมฺปหํสนวเสน, วินโย จตุธา ปญฺญโตฺต สีลาจารโต ปราชิตวเสนฯ ธมฺมจริยา สกวิสโย, วินยปญฺญตฺติ พุทฺธวิสโยฯ ปริยาเยน เทสิโต ธโมฺม, นิปฺปริยาเยน ปญฺญโตฺต วินโยฯ ธมฺมเทสนา อธิปฺปายตฺถปฺปธานา, วินยปญฺญตฺติ วจนตฺถปฺปธานาฯ ปรมตฺถสจฺจปฺปธาโน ธโมฺม, สมฺมุติสจฺจปฺปธาโน วินโยฯ อาสยสุทฺธิปธาโน ธโมฺม, ปโยคสุทฺธิปธาโน วินโยฯ
Dhammavinayoti dhammena yutto vinayoti dhammavinayo ājaññaratho viya. Dhammo ca vinayo cāti vā dhammavinayo, taṃ dhammavinayaṃ. Dhammavinayānañhi satthubhāvavacanato dhammavinayattasaṃsiddhi dhammavinayānaṃ aññamaññaṃ visesanato. Abhidhammepi vinayavacananti dhammavinayadvayasiddhi, desitapaññattavacanato dhammavinayasiddhi. Dhammo catudhā desito sandassana-samādāpana-samuttejana-sampahaṃsanavasena, vinayo catudhā paññatto sīlācārato parājitavasena. Dhammacariyā sakavisayo, vinayapaññatti buddhavisayo. Pariyāyena desito dhammo, nippariyāyena paññatto vinayo. Dhammadesanā adhippāyatthappadhānā, vinayapaññatti vacanatthappadhānā. Paramatthasaccappadhāno dhammo, sammutisaccappadhāno vinayo. Āsayasuddhipadhāno dhammo, payogasuddhipadhāno vinayo.
กิริยทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยสิทฺธิฯ ธเมฺมน หิ อนุสาสนสิทฺธิ, วินเยน โอวาทสิทฺธิฯ ธเมฺมน ธมฺมกถาสิทฺธิ, วินเยน อริยตุณฺหีภาวสิทฺธิฯ สาวชฺชทฺวยปริวชฺชนโต ธมฺมวินยสิทฺธิฯ ธเมฺมน หิ วิเสสโต ปกติสาวชฺชปริจฺจาคสิทฺธิ, วินเยน ปญฺญตฺติสาวชฺชปริจฺจาคสิทฺธิฯ คหฎฺฐปพฺพชิตานํ สาธารณาสาธารณคุณทฺวยสิทฺธิฯ พหุสฺสุตสุตปสนฺนทฺวยโต ปริยตฺติ-ปริยาปุณน-ธมฺมวิหาร-วิภาคโต ธมฺมธรวินยธรวิภาคโต จ ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิ, สรณทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิฯ อิธ สตฺตานํ ทุวิธํ สรณํ ธโมฺม อตฺตา จฯ ตตฺถ ธโมฺม สุจิโณฺณ สรณํฯ ‘‘ธโมฺม หเว รกฺขติ ธมฺมจาริ’’นฺติ (เถรคา. ๓๐๓; ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕) หิ วุตฺตํฯ สุทโนฺต อตฺตาปิ สรณํ ‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ’’ติ (ธ. ป. ๑๖๐, ๓๘๐) วจนโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สรณทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยสิทฺธี’’ติฯ ตตฺถ ยตสฺส ธมฺมสิทฺธิ, ยโต จ วินยสิทฺธิ, ตทุภยํ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘ธเมฺมน เหตฺถ เทฺว ปิฎกานิ วุตฺตานิ, วินเยน วินยปิฎก’’นฺติฯ อธุนา อาคโต อิทาเนว น จิรเสฺสว อุปคโตฯ
Kiriyadvayasiddhiyā dhammavinayasiddhi. Dhammena hi anusāsanasiddhi, vinayena ovādasiddhi. Dhammena dhammakathāsiddhi, vinayena ariyatuṇhībhāvasiddhi. Sāvajjadvayaparivajjanato dhammavinayasiddhi. Dhammena hi visesato pakatisāvajjapariccāgasiddhi, vinayena paññattisāvajjapariccāgasiddhi. Gahaṭṭhapabbajitānaṃ sādhāraṇāsādhāraṇaguṇadvayasiddhi. Bahussutasutapasannadvayato pariyatti-pariyāpuṇana-dhammavihāra-vibhāgato dhammadharavinayadharavibhāgato ca dhammavinayadvayasiddhi, saraṇadvayasiddhiyā dhammavinayadvayasiddhi. Idha sattānaṃ duvidhaṃ saraṇaṃ dhammo attā ca. Tattha dhammo suciṇṇo saraṇaṃ. ‘‘Dhammo have rakkhati dhammacāri’’nti (theragā. 303; jā. 1.10.102; 1.15.385) hi vuttaṃ. Sudanto attāpi saraṇaṃ ‘‘attā hi attano nātho’’ti (dha. pa. 160, 380) vacanato. Tena vuttaṃ ‘‘saraṇadvayasiddhiyā dhammavinayasiddhī’’ti. Tattha yatassa dhammasiddhi, yato ca vinayasiddhi, tadubhayaṃ dassento āha – ‘‘dhammena hettha dve piṭakāni vuttāni, vinayena vinayapiṭaka’’nti. Adhunā āgato idāneva na cirasseva upagato.
มหเนฺต ฐาเน ฐเปตฺวาติ มเหสกฺขตาทสฺสนตฺถํ อตฺตโน ปริวาเรน มหนฺตฎฺฐาเน ฐปิตภาวํ ปเวเทตฺวาฯ มหติยาติ อุปสงฺกมนวนฺทนาทิวจนาปชฺชนวเสน สมาจิณฺณายฯ สเพฺพปิ กิร นิสีทนฺตา ตํ ฐานํ ฐเปตฺวาว นิสีทนฺติฯ ถิรกรณวเสนาติ ทฬฺหีกรณวเสนฯ อยํ กิร เทวตา ญาณสมฺปนฺนา มานชาติกา, ตสฺมา นายํ มานํ อปฺปหาย มม เทสนํ ปฎิวิชฺฌิตุํ สโกฺกตีติ มานนิคฺคณฺหนตฺถํ อาทิโต ทุวิเญฺญยฺยํ กเถโนฺต ภควา ‘‘อเกฺขยฺยสญฺญิโน’’ติอาทินา ตาย ญาตุมิจฺฉิตกามานํ กาลิกาทิภาวํ, ธมฺมสฺส จ สนฺทิฎฺฐิกาทิภาวํ วิภาเวโนฺต เทฺว คาถา อภาสิฯ
Mahanteṭhāne ṭhapetvāti mahesakkhatādassanatthaṃ attano parivārena mahantaṭṭhāne ṭhapitabhāvaṃ pavedetvā. Mahatiyāti upasaṅkamanavandanādivacanāpajjanavasena samāciṇṇāya. Sabbepi kira nisīdantā taṃ ṭhānaṃ ṭhapetvāva nisīdanti. Thirakaraṇavasenāti daḷhīkaraṇavasena. Ayaṃ kira devatā ñāṇasampannā mānajātikā, tasmā nāyaṃ mānaṃ appahāya mama desanaṃ paṭivijjhituṃ sakkotīti mānaniggaṇhanatthaṃ ādito duviññeyyaṃ kathento bhagavā ‘‘akkheyyasaññino’’tiādinā tāya ñātumicchitakāmānaṃ kālikādibhāvaṃ, dhammassa ca sandiṭṭhikādibhāvaṃ vibhāvento dve gāthā abhāsi.
อเกฺขยฺยโตติ คิหิลิงฺคปริยายนามวิเสสาทิวเสน ตถา ตถา อกฺขาตพฺพโตฯ เตนาห ‘‘กถานํ วตฺถุภูตโต’’ติฯ เอเตสนฺติ สตฺตานํฯ ปติฎฺฐิตาติ ปวตฺติตา อาสตฺตาฯ ปญฺจนฺนํ กามสงฺคาทีนํ วเสน อาสตฺตา โหนฺตุ, อิตเรสํ ปน กถนฺติ? อนิฎฺฐงฺคโตปิ หิ ‘‘อิทํ นุ โข’’ติอาทินา กงฺขโต ตตฺถ อาสโตฺต เอว นาม อวิชหนโต, ตถา วิเกฺขปคโต วิเกฺขปวตฺถุสฺมิํ, อนุสยานํ ปน อาสตฺตภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ มจฺจุโน โยคนฺติ, มจฺจุพนฺธนํ, มรณธมฺมตนฺติ อโตฺถฯ ยสฺมา อปริญฺญาตวตฺถุกา อนตีตมรณตฺตา มจฺจุนา ยถารุจิ ปโยเชตพฺพา, ตตฺถ ตตฺถ อุปรูปริ จ ขิปิตาย อาณาย อพฺภนฺตเร เอว โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปโยคํ…เป.… อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ ยสฺมา เตภูมกา ธมฺมา กมนียเฎฺฐน กามา, เนสมฺปิ กาลสฺส ลทฺธพฺพตาย กาลิกตา อิธ อเกฺขยฺยวจเนน ปเวทิตาฯ เตนาห – ‘‘เอวมิมาย คาถาย กาลิกา กามา กถิตา’’ติฯ สเพฺพปิ เตภูมกา ธมฺมา กมนียา, ยสฺมา จ กาลิกานํ กามานํ ตถาสภาวตา กถิตาฯ อยมฺปิ คาถา ตทตฺถเมว ทีเปตีติ อิมาย เต กถิตา เอว โหนฺติฯ เย จ สตฺตา ปญฺจสุ ขเนฺธสุ ทิฎฺฐิตณฺหาทิวเสน ปติฎฺฐิตา ‘‘อิตฺถี, ปุริโส, อหํ, มมา’’ติ จ อภินิวิสิย กาเม ปริภุญฺชนฺติ, เต มรณํ นาติวตฺตนฺติฯ เอวเมฺปตฺถ กามานํ กาลิกโตฺถ กถิโตติ อาห ‘‘กาลิกา กามา กถิตา’’ติฯ
Akkheyyatoti gihiliṅgapariyāyanāmavisesādivasena tathā tathā akkhātabbato. Tenāha ‘‘kathānaṃ vatthubhūtato’’ti. Etesanti sattānaṃ. Patiṭṭhitāti pavattitā āsattā. Pañcannaṃ kāmasaṅgādīnaṃ vasena āsattā hontu, itaresaṃ pana kathanti? Aniṭṭhaṅgatopi hi ‘‘idaṃ nu kho’’tiādinā kaṅkhato tattha āsatto eva nāma avijahanato, tathā vikkhepagato vikkhepavatthusmiṃ, anusayānaṃ pana āsattabhāve vattabbameva natthi. Maccuno yoganti, maccubandhanaṃ, maraṇadhammatanti attho. Yasmā apariññātavatthukā anatītamaraṇattā maccunā yathāruci payojetabbā, tattha tattha uparūpari ca khipitāya āṇāya abbhantare eva honti, tasmā vuttaṃ ‘‘payogaṃ…pe… āgacchantī’’ti. Yasmā tebhūmakā dhammā kamanīyaṭṭhena kāmā, nesampi kālassa laddhabbatāya kālikatā idha akkheyyavacanena paveditā. Tenāha – ‘‘evamimāya gāthāya kālikā kāmā kathitā’’ti. Sabbepi tebhūmakā dhammā kamanīyā, yasmā ca kālikānaṃ kāmānaṃ tathāsabhāvatā kathitā. Ayampi gāthā tadatthameva dīpetīti imāya te kathitā eva honti. Ye ca sattā pañcasu khandhesu diṭṭhitaṇhādivasena patiṭṭhitā ‘‘itthī, puriso, ahaṃ, mamā’’ti ca abhinivisiya kāme paribhuñjanti, te maraṇaṃ nātivattanti. Evampettha kāmānaṃ kālikattho kathitoti āha ‘‘kālikā kāmā kathitā’’ti.
อยํ ญาตปริญฺญาติ รูปารูปธเมฺม ลกฺขณาทิโต ญาเต กตฺวา ปริจฺฉินฺทนปญฺญาฯ เตนาห ‘‘เอวํ ญาตํ กตฺวา’’ติอาทิฯ ปทฎฺฐานคฺคหเณเนว เจตฺถ เตสํ รูปารูปธมฺมานํ ปจฺจโย คหิโตติ ปจฺจยปริคฺคหสฺสปิ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ ตีเรติ ตุเลติ วีมํสติฯ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหีติ อิมินา มตฺถกปฺปตฺตํ มหาวิปสฺสนํ ทเสฺสติฯ เต ปน อาการา วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพาฯ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสญฺญํ ปชหตี’’ติอาทินา วิปสฺสนากฺขเณปิ เอกเทเสน ปหานํ ลพฺภเตว, อนวเสสโต ปน ปหานวเสน ปหานปริญฺญํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อคฺคมเคฺคน …เป.… อยํ ปหานปริญฺญา’’ติฯ ตถา จ อาห ‘‘เอวํ ตีหิ ปริญฺญาหี’’ติอาทิฯ
Ayaṃ ñātapariññāti rūpārūpadhamme lakkhaṇādito ñāte katvā paricchindanapaññā. Tenāha ‘‘evaṃ ñātaṃ katvā’’tiādi. Padaṭṭhānaggahaṇeneva cettha tesaṃ rūpārūpadhammānaṃ paccayo gahitoti paccayapariggahassapi saṅgaho daṭṭhabbo. Tīreti tuleti vīmaṃsati. Dvācattālīsāya ākārehīti iminā matthakappattaṃ mahāvipassanaṃ dasseti. Te pana ākārā visuddhimaggasaṃvaṇṇanāya vuttanayena veditabbā. ‘‘Aniccānupassanāya niccasaññaṃ pajahatī’’tiādinā vipassanākkhaṇepi ekadesena pahānaṃ labbhateva, anavasesato pana pahānavasena pahānapariññaṃ dassento āha ‘‘aggamaggena…pe… ayaṃ pahānapariññā’’ti. Tathā ca āha ‘‘evaṃ tīhi pariññāhī’’tiādi.
อกฺขาตารนฺติ อกฺขาตพฺพํ, น อเกฺขยฺยกํฯ เตนาห ‘‘กมฺมวเสน การก’’นฺติอาทิฯ การกนฺติ จ สาธนมาหฯ น มญฺญตีติ วา มญฺญนํ นปฺปวเตฺตติ อกฺขาตารนฺติ ขีณาสวํฯ อถ วา ตญฺหิ ตสฺส น โหตีติ ตํ การณํ ตสฺส ขีณาสวสฺส น โหติ น วิชฺชติ, เยน ทิฎฺฐิตณฺหาทิการเณน อเกฺขยฺยํ ขนฺธปญฺจกํ ‘‘ติโสฺส’’ติ วา ‘‘ผุโสฺส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา อภินิวิสฺส วเทยฺยาติ เอวเมตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ มนุสฺสนาคาทีหิ ปูชนียตฺตา ‘‘ยโกฺข’’ติ สพฺพเทวานํ สาธารณวจนนฺติ เทวธีตาปิ ‘‘ยกฺขี’’ติ วุตฺตาฯ อเกฺขยฺยนฺติ ปหานปริญฺญาย ปหานมโคฺค, ตสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานมฺปิ คหิตํฯ น มญฺญตีติ ขีณาสวสฺส อสฺส ผลปฺปตฺตีติ อาห ‘‘นววิโธ โลกุตฺตรธโมฺม กถิโต’’ติฯ
Akkhātāranti akkhātabbaṃ, na akkheyyakaṃ. Tenāha ‘‘kammavasena kāraka’’ntiādi. Kārakanti ca sādhanamāha. Na maññatīti vā maññanaṃ nappavatteti akkhātāranti khīṇāsavaṃ. Atha vā tañhi tassa na hotīti taṃ kāraṇaṃ tassa khīṇāsavassa na hoti na vijjati, yena diṭṭhitaṇhādikāraṇena akkheyyaṃ khandhapañcakaṃ ‘‘tisso’’ti vā ‘‘phusso’’ti vā ‘‘itthī’’ti vā ‘‘puriso’’ti vā abhinivissa vadeyyāti evamettha attho veditabbo. Manussanāgādīhi pūjanīyattā ‘‘yakkho’’ti sabbadevānaṃ sādhāraṇavacananti devadhītāpi ‘‘yakkhī’’ti vuttā. Akkheyyanti pahānapariññāya pahānamaggo, tassa ārammaṇabhūtaṃ nibbānampi gahitaṃ. Na maññatīti khīṇāsavassa assa phalappattīti āha ‘‘navavidho lokuttaradhammo kathito’’ti.
วิเสสีติ วิเสสชาติอาทิวเสน เสโยฺยติ อโตฺถฯ เตสุ คหิเตสูติ เตสุ เสยฺยมานาทีสุ ตีสุ มาเนสุ คหิเตสุฯ ตโย เสยฺยมานา, ตโย สทิสมานา, ตโย หีนมานา คหิตาว โหนฺติฯ โส ปุคฺคโลติ โส อปฺปหีนมญฺญนปุคฺคโลฯ เตเนว มาเนน เหตุภูเตนฯ อุปฑฺฒคาถายาติ ปุริมเทฺธน ปน วตฺถุกามา วุตฺตาติ อาห ‘‘กาลิกา กามา กถิตา’’ติฯ
Visesīti visesajātiādivasena seyyoti attho. Tesu gahitesūti tesu seyyamānādīsu tīsu mānesu gahitesu. Tayo seyyamānā, tayo sadisamānā, tayo hīnamānā gahitāva honti. So puggaloti so appahīnamaññanapuggalo. Teneva mānena hetubhūtena. Upaḍḍhagāthāyāti purimaddhena pana vatthukāmā vuttāti āha ‘‘kālikā kāmā kathitā’’ti.
วิธียติ วิสทิสากาเรน ฐปียตีติ วิธา, โกฎฺฐาโสฯ กถํวิธนฺติ กถํ ปติฎฺฐิตํ, เกน ปกาเรน ปวตฺติตนฺติ อโตฺถฯ วิทหนโต หีนาทิวเสน วิวิเธนากาเรน ทหนโต อุปธารณโต วิธา, มาโนฯ มาเนสูติ นิมิตฺตเตฺถ ภุมฺมํ, มานเหตูติ อโตฺถฯ น จลตีติ น เวธติ อตฺตโน ปริสุทฺธปกติํ อวิชหนโตฯ
Vidhīyati visadisākārena ṭhapīyatīti vidhā, koṭṭhāso. Kathaṃvidhanti kathaṃ patiṭṭhitaṃ, kena pakārena pavattitanti attho. Vidahanato hīnādivasena vividhenākārena dahanato upadhāraṇato vidhā, māno. Mānesūti nimittatthe bhummaṃ, mānahetūti attho. Na calatīti na vedhati attano parisuddhapakatiṃ avijahanato.
ปญฺญา ‘‘สงฺขา’’ติ อาคตา, ปญฺญาติ โยนิโส ปฎิสงฺขานํฯ สงฺขายโกติ สงฺกลนปทุปฺปาทนาทิ-ปิณฺฑคณนาวเสน คณโก ปปญฺจสงฺขาติ มานาทิปปญฺจภาคาฯ เต เต ธมฺมา สมฺมา ยาถาวโต สงฺขายนฺติ อุปติฎฺฐนฺติ เอตายาติ สงฺขา, ปญฺญาฯ เอกํ เทฺวติอาทินา สงฺขานํ คณนํ ปริจฺฉินฺทนนฺติ สงฺขา, คณนาฯ สงฺขายติ ภาคโส กถียตีติ สงฺขา , โกฎฺฐาโสฯ สงฺขานํ สโตฺต ปุคฺคโลติอาทินา สญฺญาปนนฺติ สงฺขา, รโตฺตติอาทิ ปณฺณตฺติฯ ขีณาสโว ชหิ ปชหิ ราคาทีนํ สุปฺปหีนตฺตาฯ นวเภทํ ปเภทโต, สเงฺขปโต ติวิธมานนฺติ อโตฺถฯ นววิธนฺติ วา ปาเฐ นวเภทตฺตา อนฺตรเภทวเสน นววิธนฺติ อโตฺถฯ ปจฺจยวิเสเสหิ อิตฺถิภาวาทิวิเสเสหิ วิเสเสน มานียติ คโพฺภ เอตฺถาติ วิมานํ, คพฺภาสโยฯ น อุปคจฺฉีติ น อุปคมิสฺสติฯ เตนาห ‘‘อนาคตเตฺถ อตีตวจน’’นฺติฯ ‘‘นาชฺฌคา’’ติ หิ อตีตํ ‘‘น คมิสฺสตี’’ติ เอตสฺมิํ อเตฺถฯ ฉินฺทิ อริยมคฺคสเตฺถนฯ โอโลกยมานา อุปปตฺตีสุฯ สตฺตนิเวสเนสูติ สตฺตานํ อุปปชฺชฎฺฐาเนสุฯ โลกุตฺตรธมฺมเมว กเถสิ อรหตฺตสฺส ปเวทิตตฺตาฯ
Paññā ‘‘saṅkhā’’ti āgatā, paññāti yoniso paṭisaṅkhānaṃ. Saṅkhāyakoti saṅkalanapaduppādanādi-piṇḍagaṇanāvasena gaṇako papañcasaṅkhāti mānādipapañcabhāgā. Te te dhammā sammā yāthāvato saṅkhāyanti upatiṭṭhanti etāyāti saṅkhā, paññā. Ekaṃ dvetiādinā saṅkhānaṃ gaṇanaṃ paricchindananti saṅkhā, gaṇanā. Saṅkhāyati bhāgaso kathīyatīti saṅkhā, koṭṭhāso. Saṅkhānaṃ satto puggalotiādinā saññāpananti saṅkhā, rattotiādi paṇṇatti. Khīṇāsavo jahi pajahi rāgādīnaṃ suppahīnattā. Navabhedaṃ pabhedato, saṅkhepato tividhamānanti attho. Navavidhanti vā pāṭhe navabhedattā antarabhedavasena navavidhanti attho. Paccayavisesehi itthibhāvādivisesehi visesena mānīyati gabbho etthāti vimānaṃ, gabbhāsayo. Na upagacchīti na upagamissati. Tenāha ‘‘anāgatatthe atītavacana’’nti. ‘‘Nājjhagā’’ti hi atītaṃ ‘‘na gamissatī’’ti etasmiṃ atthe. Chindi ariyamaggasatthena. Olokayamānā upapattīsu. Sattanivesanesūti sattānaṃ upapajjaṭṭhānesu. Lokuttaradhammameva kathesi arahattassa paveditattā.
‘‘คาถาย อตฺถํ กเถตุํ วฎฺฎตี’’ติ อตฺถ-สโทฺท อาหริตฺวา วตฺตโพฺพฯ อฎฺฐงฺคิกมคฺควเสนปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ สติสมฺปชญฺญํ นาม กุสลธมฺมานุโยเค การณนฺติ อาห ‘‘ทสกุสลกมฺมปถการณ’’นฺติฯ
‘‘Gāthāya atthaṃ kathetuṃ vaṭṭatī’’ti attha-saddo āharitvā vattabbo. Aṭṭhaṅgikamaggavasenapīti etthāpi eseva nayo. Satisampajaññaṃ nāma kusaladhammānuyoge kāraṇanti āha ‘‘dasakusalakammapathakāraṇa’’nti.
อฎฺฐงฺคิกมคฺควเสน จ คาถาอตฺถวจเน อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน วิตฺถาร-นโยฯ ตสฺมิํ กิร ฐาเนติ ตสฺมิํ กิร เทวตาย ปุจฺฉิตํ ปญฺหํ วิสฺสชฺชนฎฺฐาเนฯ เทวตาย ญาณปริปากํ โอโลเกตฺวา อนุปุพฺพิยา กถาย สทฺธิํ สามุกฺกํสิกเทสนา มหตี ธมฺมเทสนา อโหสิฯ ญาณํ เปเสตฺวาติ สตฺถุเทสนาย อนุสฺสรณวเสน ปตฺตวิสุทฺธิปฎิปาฎิปวตฺตํ ภาวนาญาณํ พนฺธิตฺวาฯ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐายาติ สตฺถุเทสนาวิลาเสน อตฺตโน จ ปริปกฺกญาณตฺตา ปฐมํ ผลํ ปตฺวาฯ เอวมาหาติ เอวํ ‘‘ปาปํ น กยิรา’’ติอาทิปฺปกาเรน คาถมาหฯ องฺคํ น โหติ, อาชีโว ยถา กุปฺปมาโน วาจากมฺมนฺตวเสน กุปฺปติ, ตถา สมฺปชฺชมาโนปีติฯ โส วาจากมฺมนฺตปกฺขิโก, ตสฺมา ตคฺคหเณน คหิโตว โหติฯ วายามสติสมาธโย คหิตา สมาธิกฺขนฺธสงฺคหโตฯ สมฺมาทิฎฺฐิสมฺมาสงฺกปฺปา คหิตา ปญฺญากฺขนฺธสงฺคหโตฯ อนฺตทฺวยวิวชฺชนํ คหิตํ สรูเปเนวาติ อธิปฺปาโยฯ อิตีติอาทิ นิคมนํฯ
Aṭṭhaṅgikamaggavasena ca gāthāatthavacane ayaṃ idāni vuccamāno vitthāra-nayo. Tasmiṃ kira ṭhāneti tasmiṃ kira devatāya pucchitaṃ pañhaṃ vissajjanaṭṭhāne. Devatāya ñāṇaparipākaṃ oloketvā anupubbiyā kathāya saddhiṃ sāmukkaṃsikadesanā mahatī dhammadesanā ahosi. Ñāṇaṃ pesetvāti satthudesanāya anussaraṇavasena pattavisuddhipaṭipāṭipavattaṃ bhāvanāñāṇaṃ bandhitvā. Sotāpattiphale patiṭṭhāyāti satthudesanāvilāsena attano ca paripakkañāṇattā paṭhamaṃ phalaṃ patvā. Evamāhāti evaṃ ‘‘pāpaṃ na kayirā’’tiādippakārena gāthamāha. Aṅgaṃ na hoti, ājīvo yathā kuppamāno vācākammantavasena kuppati, tathā sampajjamānopīti. So vācākammantapakkhiko, tasmā taggahaṇena gahitova hoti. Vāyāmasatisamādhayo gahitā samādhikkhandhasaṅgahato. Sammādiṭṭhisammāsaṅkappā gahitā paññākkhandhasaṅgahato. Antadvayavivajjanaṃ gahitaṃ sarūpenevāti adhippāyo. Itītiādi nigamanaṃ.
สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Samiddhisuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
นนฺทนวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nandanavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. สมิทฺธิสุตฺตํ • 10. Samiddhisuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา • 10. Samiddhisuttavaṇṇanā