Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā |
๘. สมฺมปฺปธานวิภโงฺค
8. Sammappadhānavibhaṅgo
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
๓๙๐. การณปฺปธานาติ ‘‘อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิอตฺถา’’ติ คหิตา ตเถว เต โหนฺตีติ ตํ อตฺถํ สาเธนฺติเยวาติ เอตสฺส อตฺถสฺส ทีปโก สมฺมา-สโทฺทติ ยถาธิเปฺปตตฺถสฺส อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิโน การณภูตา, ปธานการณภูตาติ อโตฺถฯ สมฺมาสทฺทสฺส อุปายโยนิโสอตฺถทีปกตํ สนฺธาย ‘‘อุปายปฺปธานา โยนิโสปธานา’’ติ วุตฺตํฯ ปฎิปนฺนโกติ ภาวนมนุยุโตฺตฯ ภุสํ โยโค ปโยโค, ปโยโคว ปรกฺกโม ปโยคปรกฺกโมฯ เอตานีติ ‘‘วายมตี’’ติอาทีนิ ‘‘อาเสวมาโน วายมตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพานิฯ
390. Kāraṇappadhānāti ‘‘anuppannapāpakānuppādādiatthā’’ti gahitā tatheva te hontīti taṃ atthaṃ sādhentiyevāti etassa atthassa dīpako sammā-saddoti yathādhippetatthassa anuppannapāpakānuppādādino kāraṇabhūtā, padhānakāraṇabhūtāti attho. Sammāsaddassa upāyayonisoatthadīpakataṃ sandhāya ‘‘upāyappadhānā yonisopadhānā’’ti vuttaṃ. Paṭipannakoti bhāvanamanuyutto. Bhusaṃ yogo payogo, payogova parakkamo payogaparakkamo. Etānīti ‘‘vāyamatī’’tiādīni ‘‘āsevamāno vāyamatī’’tiādinā yojetabbāni.
อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานนฺติ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนานํฯ
Anuppannāti avattabbataṃ āpannānanti bhūmiladdhārammaṇādhiggahitāvikkhambhitāsamugghātituppannānaṃ.
๓๙๑. ธมฺมจฺฉโนฺทติ ตณฺหาทิฎฺฐิวีริยจฺฉนฺทา วิย น อโญฺญ ธโมฺม, อถ โข ฉนฺทนิยสภาโว เอวาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สภาวจฺฉโนฺท’’ติฯ ตตฺถ ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉโนฺท’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๑๐๓) ตณฺหา ฉโนฺทติ วุตฺตาติ เวทิตโพฺพ, ‘‘สเพฺพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอโชฺฌสานา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๖๖) เอตฺถ ทิฎฺฐิ, ปมาทนิเทฺทเส ‘‘นิกฺขิตฺตฉนฺทตา นิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ วีริยนฺติ วเณฺณติฯ
391. Dhammacchandoti taṇhādiṭṭhivīriyacchandā viya na añño dhammo, atha kho chandaniyasabhāvo evāti dassento āha ‘‘sabhāvacchando’’ti. Tattha ‘‘yo kāmesu kāmacchando’’tiādīsu (dha. sa. 1103) taṇhā chandoti vuttāti veditabbo, ‘‘sabbeva nu kho, mārisa, samaṇabrāhmaṇā ekantavādā ekantasīlā ekantachandā ekantaajjhosānā’’ti (dī. ni. 2.366) ettha diṭṭhi, pamādaniddese ‘‘nikkhittachandatā nikkhittadhuratā’’ti vīriyanti vaṇṇeti.
๓๙๔. วายมติ วีริยํ อารภตีติ ปททฺวยสฺสปิ นิเทฺทโส วีริยนิเทฺทโสเยวาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วีริยนิเทฺทเส’’ติฯ
394. Vāyamativīriyaṃ ārabhatīti padadvayassapi niddeso vīriyaniddesoyevāti adhippāyenāha ‘‘vīriyaniddese’’ti.
๔๐๖. สพฺพปุพฺพภาเคติ สพฺพมคฺคานํ ปุพฺพภาเคฯ ปุริมสฺมินฺติ ‘‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’’นฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพา’’ติ วุตฺตํ อฎฺฐกถายํ, ตํ ปน มคฺคานุปฺปนฺนตาย ภาวโต อนุปฺปชฺชมาเน จ ตสฺมิํ วฎฺฎานตฺถสํวตฺตนโต น ยุตฺตนฺติ ปฎิกฺขิปติฯ
406. Sabbapubbabhāgeti sabbamaggānaṃ pubbabhāge. Purimasminti ‘‘anuppannā me kusalā dhammā anuppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’’nti etthāpi ‘‘samathavipassanāva gahetabbā’’ti vuttaṃ aṭṭhakathāyaṃ, taṃ pana maggānuppannatāya bhāvato anuppajjamāne ca tasmiṃ vaṭṭānatthasaṃvattanato na yuttanti paṭikkhipati.
มหนฺตํ คารวํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สงฺฆคารเวน ยถารุจิ วินฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ สเงฺฆน สห น นิกฺขมิฯ อติมนฺทานิ โนติ นนุ อติมนฺทานีติ อโตฺถฯ สนฺตสมาปตฺติโต อญฺญํ สนฺถมฺภนการณํ พลวํ นตฺถีติ ‘‘ตโต ปริหีนา สนฺถมฺภิตุํ น สโกฺกนฺตี’’ติ อาหฯ น หิ มหารชฺชุมฺหิ ฉิเนฺน สุตฺตตนฺตู สนฺธาเรตุํ สโกฺกนฺตีติฯ สมเถ วตฺถุํ ทเสฺสตฺวา เตน สมานคติกา วิปสฺสนา จาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา…เป.… สํวตฺตนฺตี’’ติฯ
Mahantaṃgāravaṃ hoti, tasmā ‘‘saṅghagāravena yathāruci vindituṃ na sakkā’’ti saṅghena saha na nikkhami. Atimandāni noti nanu atimandānīti attho. Santasamāpattito aññaṃ santhambhanakāraṇaṃ balavaṃ natthīti ‘‘tato parihīnā santhambhituṃ na sakkontī’’ti āha. Na hi mahārajjumhi chinne suttatantū sandhāretuṃ sakkontīti. Samathe vatthuṃ dassetvā tena samānagatikā vipassanā cāti iminā adhippāyenāha ‘‘evaṃ uppannā samathavipassanā…pe… saṃvattantī’’ti.
ตตฺถ อนุปฺปนฺนานนฺติ เอตฺถ ตตฺถ ทุวิธาย สมฺมปฺปธานกถาย, ตตฺถ วา ปาฬิยํ ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติ เอตสฺส อยํ วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโยฯ เอเตเยวาติ อนมตเคฺค สํสาเร อุปฺปนฺนาเยวฯ
Tattha anuppannānanti ettha tattha duvidhāya sammappadhānakathāya, tattha vā pāḷiyaṃ ‘‘anuppannāna’’nti etassa ayaṃ vinicchayoti adhippāyo. Eteyevāti anamatagge saṃsāre uppannāyeva.
จุทฺทส มหาวตฺตานิ ขนฺธเก วุตฺตานิ อาคนฺตุกอาวาสิกคมิกอนุโมทน ภตฺตคฺค ปิณฺฑจาริก อารญฺญิก เสนาสน ชนฺตาฆรวจฺจกุฎิ อาจริยอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอเนฺตวาสิกวตฺตานิ จุทฺทสฯ ตโต อญฺญานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ทฺวาสีติ ขุทฺทกวตฺตานีติ กถิตานิ ทฎฺฐพฺพานิฯ น หิ ตานิ สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา มหาวเตฺต อคณิตานิฯ ตตฺถ ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปญฺญาเปสฺสามี’’ติ อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป.… น ฉมายํ จงฺกมเนฺต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตานิ ปกตเตฺต จริตพฺพวตฺตาวสานานิ ฉสฎฺฐิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ, มูลายปฎิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๘๒) ปกตเตฺต จริตเพฺพหิ อนญฺญตฺตา วิสุํ วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิเณฺฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คเณตพฺพานิ ปญฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุเกฺขปนียกมฺมกตวเตฺตสุ วตฺตปญฺญาปนวเสน วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ…เป.… นหาเน ปิฎฺฐิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสฺสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตโตฺต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ โหนฺติฯ เอเตเสฺวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติวตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Cuddasa mahāvattāni khandhake vuttāni āgantukaāvāsikagamikaanumodana bhattagga piṇḍacārika āraññika senāsana jantāgharavaccakuṭi ācariyaupajjhāyasaddhivihārikaantevāsikavattāni cuddasa. Tato aññāni pana kadāci tajjanīyakammakatādikāle pārivāsikādikāle ca caritabbāni dvāsīti khuddakavattānīti kathitāni daṭṭhabbāni. Na hi tāni sabbāsu avatthāsu caritabbāni, tasmā mahāvatte agaṇitāni. Tattha ‘‘pārivāsikānaṃ bhikkhūnaṃ vattaṃ paññāpessāmī’’ti ārabhitvā ‘‘na upasampādetabbaṃ…pe… na chamāyaṃ caṅkamante caṅkame caṅkamitabba’’nti (cūḷava. 76) vuttāni pakatatte caritabbavattāvasānāni chasaṭṭhi, tato paraṃ ‘‘na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pārivāsikavuḍḍhatarena bhikkhunā saddhiṃ, mūlāyapaṭikassanārahena, mānattārahena, mānattacārikena, abbhānārahena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabba’’ntiādīni (cūḷava. 82) pakatatte caritabbehi anaññattā visuṃ visuṃ agaṇetvā pārivāsikavuḍḍhatarādīsu puggalantaresu caritabbattā tesaṃ vasena sampiṇḍetvā ekekaṃ katvā gaṇetabbāni pañcāti ekasattati vattāni, ukkhepanīyakammakatavattesu vattapaññāpanavasena vuttaṃ ‘‘na pakatattassa bhikkhuno abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ…pe… nahāne piṭṭhiparikammaṃ sāditabba’’nti (cūḷava. 75) idaṃ abhivādanādīnaṃ assādiyanaṃ ekaṃ, ‘‘na pakatatto bhikkhu sīlavipattiyā anuddhaṃsetabbo’’tiādīni (cūḷava. 51) ca dasāti evaṃ dvāsīti honti. Etesveva kānici tajjanīyakammakatādivattāni, kānici pārivāsikādivattānīti aggahitaggahaṇena dvāsītivattanti daṭṭhabbaṃ.
อิธ วิปากานุภวนวเสน ตทารมฺมณํ, อวิปกฺกวิปากสฺส สพฺพถา อวิคตตฺตา ภวิตฺวา วิคตมตฺตวเสน กมฺมญฺจ ‘‘ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น อฎฺฐสาลินิยํ (ธ. ส. อฎฺฐ. ๑) วิย รชฺชนาทิวเสน อนุภุตฺวาปคตํ ชวนํ, อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธตาวเสน ภูตาปคตสงฺขาตํ เสสสงฺขตญฺจ ‘‘ภูตาปคตุปฺปนฺน’’นฺติ, ตสฺมา อิธ โอกาสกตุปฺปนฺนํ วิปากเมว วทติ, น ตตฺถ วิย กมฺมมฺปีติฯ อนุสยิตกิเลสาติ อปฺปหีนา มเคฺคน ปหาตพฺพา อธิเปฺปตาฯ เตนาห ‘‘อตีตา วา…เป.… น วตฺตพฺพา’’ติฯ เตสญฺหิ อมฺพตรุโณปมาย วตฺตมานาทิตา น วตฺตพฺพาติฯ
Idha vipākānubhavanavasena tadārammaṇaṃ, avipakkavipākassa sabbathā avigatattā bhavitvā vigatamattavasena kammañca ‘‘bhutvā vigatuppanna’’nti vuttaṃ, na aṭṭhasāliniyaṃ (dha. sa. aṭṭha. 1) viya rajjanādivasena anubhutvāpagataṃ javanaṃ, uppajjitvā niruddhatāvasena bhūtāpagatasaṅkhātaṃ sesasaṅkhatañca ‘‘bhūtāpagatuppanna’’nti, tasmā idha okāsakatuppannaṃ vipākameva vadati, na tattha viya kammampīti. Anusayitakilesāti appahīnā maggena pahātabbā adhippetā. Tenāha ‘‘atītā vā…pe… na vattabbā’’ti. Tesañhi ambataruṇopamāya vattamānāditā na vattabbāti.
อาหตขีรรุโกฺข วิย นิมิตฺตคฺคาหวเสน อธิคตํ อารมฺมณํ, อนาหตขีรรุโกฺข วิย อวิกฺขมฺภิตตาย อโนฺตคธกิเลสํ อารมฺมณํ ทฎฺฐพฺพํ, นิมิตฺตคฺคาหกาวิกฺขมฺภิตกิเลสา วา ปุคฺคลา อาหตานาหตขีรรุกฺขสทิสาฯ ปุริมนเยเนวาติ อวิกฺขมฺภิตุปฺปเนฺน วิย ‘‘อิมสฺมิํ นาม ฐาเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา อสมุคฺฆาฎิตตฺตา’’ติ โยเชตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํฯ
Āhatakhīrarukkho viya nimittaggāhavasena adhigataṃ ārammaṇaṃ, anāhatakhīrarukkho viya avikkhambhitatāya antogadhakilesaṃ ārammaṇaṃ daṭṭhabbaṃ, nimittaggāhakāvikkhambhitakilesā vā puggalā āhatānāhatakhīrarukkhasadisā. Purimanayenevāti avikkhambhituppanne viya ‘‘imasmiṃ nāma ṭhāne nuppajjissantīti na vattabbā asamugghāṭitattā’’ti yojetvā vitthāretabbaṃ.
ปาฬิยนฺติ ปฎิสมฺภิทาปาฬิยํ (ปฎิ. ม. ๓.๒๑)ฯ มเคฺคน ปหีนกิเลสานเมว ติธา นวตฺตพฺพตํ อปากฎํ ปากฎํ กาตุํ อชาตผลรุโกฺข อาภโต, อตีตาทีนํ อปฺปหีนตาทสฺสนตฺถมฺปิ ‘‘ชาตผลรุเกฺขน ทีเปตพฺพ’’นฺติ อาหฯ ตตฺถ ยถา อจฺฉิเนฺน รุเกฺข นิพฺพตฺติรหานิ ผลานิ ฉิเนฺน อนุปฺปชฺชมานานิ น กทาจิ สสภาวานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จาติ อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพานิ, เอวํ มเคฺคน ปหีนกิเลสา จ ทฎฺฐพฺพาฯ ยถา จ เฉเท อสติ ผลานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สติ จ นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ เฉทสฺส สาตฺถกตา, เอวํ มคฺคภาวนาย จ สาตฺถกตา โยเชตพฺพาฯ
Pāḷiyanti paṭisambhidāpāḷiyaṃ (paṭi. ma. 3.21). Maggena pahīnakilesānameva tidhā navattabbataṃ apākaṭaṃ pākaṭaṃ kātuṃ ajātaphalarukkho ābhato, atītādīnaṃ appahīnatādassanatthampi ‘‘jātaphalarukkhena dīpetabba’’nti āha. Tattha yathā acchinne rukkhe nibbattirahāni phalāni chinne anuppajjamānāni na kadāci sasabhāvāni ahesuṃ honti bhavissanti cāti atītādibhāvena na vattabbāni, evaṃ maggena pahīnakilesā ca daṭṭhabbā. Yathā ca chede asati phalāni uppajjissanti, sati ca nuppajjissantīti chedassa sātthakatā, evaṃ maggabhāvanāya ca sātthakatā yojetabbā.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttantabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.
๓. ปญฺหปุจฺฉกวณฺณนา
3. Pañhapucchakavaṇṇanā
๔๒๗. ปญฺหปุจฺฉเก ยํ วุตฺตํ ‘‘วีริยเชฎฺฐิกาย ปน อญฺญสฺส วีริยสฺส อภาวา น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ วา น มคฺคาธิปตีนีติ วา’’ติ, เอตฺถ ‘‘มคฺคาธิปตีนี’’ติ น วตฺตพฺพตาย เอว อญฺญสฺส วีริยสฺส อภาโว การณนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ ฉนฺทสฺส ปน จิตฺตสฺส วา นมคฺคภูตสฺส อธิปติโน ตทา อภาวา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ น วตฺตพฺพานีติ วุตฺตํฯ ฉนฺทจิตฺตานํ วิย นมคฺคภูตสฺส อญฺญสฺส วีริยาธิปติโน อภาวาติ วา อธิปฺปาโยฯ สมฺมปฺปธานานํ ตทา มคฺคสงฺขาตอธิปติภาวโต วา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ นวตฺตพฺพตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ
427. Pañhapucchake yaṃ vuttaṃ ‘‘vīriyajeṭṭhikāya pana aññassa vīriyassa abhāvā na vattabbāni maggādhipatīnīti vā na maggādhipatīnīti vā’’ti, ettha ‘‘maggādhipatīnī’’ti na vattabbatāya eva aññassa vīriyassa abhāvo kāraṇanti daṭṭhabbaṃ. Chandassa pana cittassa vā namaggabhūtassa adhipatino tadā abhāvā ‘‘na maggādhipatīnī’’ti na vattabbānīti vuttaṃ. Chandacittānaṃ viya namaggabhūtassa aññassa vīriyādhipatino abhāvāti vā adhippāyo. Sammappadhānānaṃ tadā maggasaṅkhātaadhipatibhāvato vā ‘‘na maggādhipatīnī’’ti navattabbatā vuttāti veditabbā.
ปญฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañhapucchakavaṇṇanā niṭṭhitā.
สมฺมปฺปธานวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sammappadhānavibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๘. สมฺมปฺปธานวิภโงฺค • 8. Sammappadhānavibhaṅgo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
๓. ปญฺหาปุจฺฉกวณฺณนา • 3. Pañhāpucchakavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๘. สมฺมปฺปธานวิภโงฺค • 8. Sammappadhānavibhaṅgo