Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi

    ๒. อุพฺพริวโคฺค

    2. Ubbarivaggo

    ๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุ

    1. Saṃsāramocakapetivatthu

    ๙๕.

    95.

    ‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

    ‘‘Naggā dubbaṇṇarūpāsi, kisā dhamanisanthatā;

    อุปฺผาสุลิเก 1 กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฎฺฐสี’’ติฯ

    Upphāsulike 2 kisike, kā nu tvaṃ idha tiṭṭhasī’’ti.

    ๙๖.

    96.

    ‘‘อหํ ภทเนฺต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

    ‘‘Ahaṃ bhadante petīmhi, duggatā yamalokikā;

    ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ

    Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gatā’’ti.

    ๙๗.

    97.

    ‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;

    ‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;

    กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ

    Kissa kammavipākena, petalokaṃ ito gatā’’ti.

    ๙๘.

    98.

    ‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภเนฺต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ ญาตกา;

    ‘‘Anukampakā mayhaṃ nāhesuṃ bhante, pitā ca mātā athavāpi ñātakā;

    เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํฯ

    Ye maṃ niyojeyyuṃ dadāhi dānaṃ, pasannacittā samaṇabrāhmaṇānaṃ.

    ๙๙.

    99.

    ‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปญฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;

    ‘‘Ito ahaṃ vassasatāni pañca, yaṃ evarūpā vicarāmi naggā;

    ขุทาย ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํฯ

    Khudāya taṇhāya ca khajjamānā, pāpassa kammassa phalaṃ mamedaṃ.

    ๑๐๐.

    100.

    ‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;

    ‘‘Vandāmi taṃ ayya pasannacittā, anukampa maṃ vīra mahānubhāva;

    ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิญฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทเนฺต’’ติฯ

    Datvā ca me ādisa yaṃ hi kiñci, mocehi maṃ duggatiyā bhadante’’ti.

    ๑๐๑.

    101.

    สาธูติ โส ปฎิสฺสุตฺวา, สาริปุโตฺตนุกมฺปโก;

    Sādhūti so paṭissutvā, sāriputtonukampako;

    ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตญฺจ โจฬกํ;

    Bhikkhūnaṃ ālopaṃ datvā, pāṇimattañca coḷakaṃ;

    ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิฯ

    Thālakassa ca pānīyaṃ, tassā dakkhiṇamādisi.

    ๑๐๒.

    102.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

    Samanantarānuddiṭṭhe, vipāko udapajjatha;

    โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํฯ

    Bhojanacchādanapānīyaṃ, dakkhiṇāya idaṃ phalaṃ.

    ๑๐๓.

    103.

    ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

    Tato suddhā sucivasanā, kāsikuttamadhārinī;

    วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิฯ

    Vicittavatthābharaṇā, sāriputtaṃ upasaṅkami.

    ๑๐๔.

    104.

    ‘‘อภิกฺกเนฺตน วเณฺณน, ยา ตฺวํ ติฎฺฐสิ เทวเต;

    ‘‘Abhikkantena vaṇṇena, yā tvaṃ tiṭṭhasi devate;

    โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ

    Obhāsentī disā sabbā, osadhī viya tārakā.

    ๑๐๕.

    105.

    ‘‘เกน เตตาทิโส วโณฺณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

    ‘‘Kena tetādiso vaṇṇo, kena te idha mijjhati;

    อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ

    Uppajjanti ca te bhogā, ye keci manaso piyā.

    ๑๐๖.

    106.

    ‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;

    ‘‘Pucchāmi taṃ devi mahānubhāve, manussabhūtā kimakāsi puññaṃ;

    เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

    Kenāsi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsatī’’ti.

    ๑๐๗.

    107.

    ‘‘อุปฺปณฺฑุกิํ กิสํ ฉาตํ, นคฺคํ สมฺปติตจฺฉวิํ 3;

    ‘‘Uppaṇḍukiṃ kisaṃ chātaṃ, naggaṃ sampatitacchaviṃ 4;

    มุนิ การุณิโก โลเก, ตํ มํ อทฺทกฺขิ ทุคฺคตํฯ

    Muni kāruṇiko loke, taṃ maṃ addakkhi duggataṃ.

    ๑๐๘.

    108.

    ‘‘ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตญฺจ โจฬกํ;

    ‘‘Bhikkhūnaṃ ālopaṃ datvā, pāṇimattañca coḷakaṃ;

    ถาลกสฺส จ ปานียํ, มม ทกฺขิณมาทิสิฯ

    Thālakassa ca pānīyaṃ, mama dakkhiṇamādisi.

    ๑๐๙.

    109.

    ‘‘อาโลปสฺส ผลํ ปสฺส, ภตฺตํ วสฺสสตํ ทส;

    ‘‘Ālopassa phalaṃ passa, bhattaṃ vassasataṃ dasa;

    ภุญฺชามิ กามกามินี, อเนกรสพฺยญฺชนํฯ

    Bhuñjāmi kāmakāminī, anekarasabyañjanaṃ.

    ๑๑๐.

    110.

    ‘‘ปาณิมตฺตสฺส โจฬสฺส, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

    ‘‘Pāṇimattassa coḷassa, vipākaṃ passa yādisaṃ;

    ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมิํ ปฎิจฺฉทาฯ

    Yāvatā nandarājassa, vijitasmiṃ paṭicchadā.

    ๑๑๑.

    111.

    ‘‘ตโต พหุตรา ภเนฺต, วตฺถานจฺฉาทนานิ เม;

    ‘‘Tato bahutarā bhante, vatthānacchādanāni me;

    โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จฯ

    Koseyyakambalīyāni, khomakappāsikāni ca.

    ๑๑๒.

    112.

    ‘‘วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร;

    ‘‘Vipulā ca mahagghā ca, tepākāsevalambare;

    สาหํ ตํ ปริทหามิ, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํฯ

    Sāhaṃ taṃ paridahāmi, yaṃ yaṃ hi manaso piyaṃ.

    ๑๑๓.

    113.

    ‘‘ถาลกสฺส จ ปานียํ, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

    ‘‘Thālakassa ca pānīyaṃ, vipākaṃ passa yādisaṃ;

    คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรโญฺญ สุนิมฺมิตาฯ

    Gambhīrā caturassā ca, pokkharañño sunimmitā.

    ๑๑๔.

    114.

    ‘‘เสโตทกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฎิคนฺธิยา;

    ‘‘Setodakā suppatitthā, sītā appaṭigandhiyā;

    ปทุมุปฺปลสญฺฉนฺนา, วาริกิญฺชกฺขปูริตาฯ

    Padumuppalasañchannā, vārikiñjakkhapūritā.

    ๑๑๕.

    115.

    ‘‘สาหํ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;

    ‘‘Sāhaṃ ramāmi kīḷāmi, modāmi akutobhayā;

    มุนิํ การุณิกํ โลเก, ภเนฺต วนฺทิตุมาคตา’’ติฯ

    Muniṃ kāruṇikaṃ loke, bhante vanditumāgatā’’ti.

    สํสารโมจกเปติวตฺถุ ปฐมํฯ

    Saṃsāramocakapetivatthu paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. อุปฺปาสุฬิเก (ก.)
    2. uppāsuḷike (ka.)
    3. อาปติตจฺฉวิํ (สี.)
    4. āpatitacchaviṃ (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุวณฺณนา • 1. Saṃsāramocakapetivatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact