Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๔๖. สํวรนิเทฺทสวณฺณนา
46. Saṃvaraniddesavaṇṇanā
๔๕๓. จกฺขุโสตาทิเภเทหีติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓, ๔๕๔; ม. นิ. ๑.๔๑๑; อ. นิ. ๔.๑๙๘; ธ. ส. ๑๓๕๒-๑๓๕๔; มหานิ. ๑๙๖) จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมนสงฺขาเตหิ ฉหิ อินฺทฺริเยหีติ อโตฺถฯ รูปสทฺทาทิโคจเรติ รูปสทฺทคนฺธรสโผฎฺฐพฺพธมฺมสงฺขาเตสุ ฉสุ โคจเรสูติ อโตฺถฯ เอตฺถ ปน หตฺถปาทหสิตกถิตวิโลกิตาทิเภทํ สุภาการํ คเหตฺวา อโยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส อภิชฺฌา อุปฺปชฺชติฯ ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, จรติ, จริสฺสตี’’ติอาทินา (ปริ. อฎฺฐ. ๓๒๙) นเยน ปฎิฆนิมิตฺตํ คเหตฺวา อโยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส พฺยาปาโท อุปฺปชฺชติฯ เอตฺถ ปน อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ อคฺคณฺหิตฺวา ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตาทินา ปฎิปชฺชิตฺวา อสุภนิมิเตฺต โยนิโส มนสิการํ พหุลีกโรนฺตสฺส อภิชฺฌาย ปหานํ โหติฯ ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติอาทินา วา เมตฺตาภาวนาทิวเสน วา โยนิโส มนสิ กโรนฺตสฺส พฺยาปาทปฺปหานํ โหติฯ เอวมิทํ สเงฺขปโต รูปาทีสุ กิเลสานุพนฺธนิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณํ อินฺทฺริยสํวรสีลนฺติ เวทิตพฺพํฯ
453.Cakkhusotādibhedehīti (dī. ni. 1.213, 454; ma. ni. 1.411; a. ni. 4.198; dha. sa. 1352-1354; mahāni. 196) cakkhusotaghānajivhākāyamanasaṅkhātehi chahi indriyehīti attho. Rūpasaddādigocareti rūpasaddagandharasaphoṭṭhabbadhammasaṅkhātesu chasu gocaresūti attho. Ettha pana hatthapādahasitakathitavilokitādibhedaṃ subhākāraṃ gahetvā ayoniso manasi karontassa abhijjhā uppajjati. ‘‘Anatthaṃ me acari, carati, carissatī’’tiādinā (pari. aṭṭha. 329) nayena paṭighanimittaṃ gahetvā ayoniso manasi karontassa byāpādo uppajjati. Ettha pana itthipurisanimittaṃ vā subhanimittādikaṃ kilesavatthubhūtaṃ nimittaṃ aggaṇhitvā diṭṭhe diṭṭhamattādinā paṭipajjitvā asubhanimitte yoniso manasikāraṃ bahulīkarontassa abhijjhāya pahānaṃ hoti. ‘‘Anatthaṃ me acari, taṃ kutettha labbhā’’tiādinā vā mettābhāvanādivasena vā yoniso manasi karontassa byāpādappahānaṃ hoti. Evamidaṃ saṅkhepato rūpādīsu kilesānubandhanimittādiggāhaparivajjanalakkhaṇaṃ indriyasaṃvarasīlanti veditabbaṃ.
๔๕๔.
454.
นิคฺคเณฺหยฺยาติ นิวาเรยฺย;
Niggaṇheyyāti nivāreyya;
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมิํ; (อชิตาติ ภควา,)
‘‘Yāni sotāni lokasmiṃ; (Ajitāti bhagavā,)
สติ เตสํ นิวารณํ;
Sati tesaṃ nivāraṇaṃ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ;
Sotānaṃ saṃvaraṃ brūmi;
ปญฺญาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติ –ฯ (สุ. นิ. ๑๐๔๑);
Paññāyete pidhiyyare’’ti –. (su. ni. 1041);
วุตฺตตฺตา ‘‘สติมา สมฺปชาโน วา’’ติ วุตฺตํฯ เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ สมฺปชญฺญํ สาตฺถกสปฺปายโคจรอสโมฺมหวเสนฯ สํวรวินิจฺฉโยฯ
Vuttattā ‘‘satimā sampajāno vā’’ti vuttaṃ. Ettha pana catubbidhaṃ sampajaññaṃ sātthakasappāyagocaraasammohavasena. Saṃvaravinicchayo.
สํวรนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saṃvaraniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.