Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๗. จิตฺตสํยุตฺตํ
7. Cittasaṃyuttaṃ
๑. สํโยชนสุตฺตํ
1. Saṃyojanasuttaṃ
๓๔๓. เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู มจฺฉิกาสเณฺฑ วิหรนฺติ อมฺพาฎกวเนฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยญฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ? ตเตฺรกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ โหติ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จา’’ติฯ เอกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ โหติ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติฯ
343. Ekaṃ samayaṃ sambahulā therā bhikkhū macchikāsaṇḍe viharanti ambāṭakavane. Tena kho pana samayena sambahulānaṃ therānaṃ bhikkhūnaṃ pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantānaṃ maṇḍalamāḷe sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā nānābyañjanā udāhu ekatthā byañjanameva nāna’’nti? Tatrekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ hoti – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā ceva nānābyañjanā cā’’ti. Ekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ hoti – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā ekatthā byañjanameva nāna’’nti.
เตน โข ปน สมเยน จิโตฺต คหปติ มิคปถกํ อนุปฺปโตฺต โหติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อโสฺสสิ โข จิโตฺต คหปติ สมฺพหุลานํ กิร เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยญฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ? ตเตฺรกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส , ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จา’’ติฯ เอกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ ‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นานนฺติฯ อถ โข จิโตฺต คหปติ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข จิโตฺต คหปติ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภเนฺต, สมฺพหุลานํ กิร เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยญฺชนา อุทาหุ เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ? เอกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ – ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จา’’ติฯ เอกเจฺจหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ เอวํ พฺยากตํ ‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, อาวุโส, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติฯ
Tena kho pana samayena citto gahapati migapathakaṃ anuppatto hoti kenacideva karaṇīyena. Assosi kho citto gahapati sambahulānaṃ kira therānaṃ bhikkhūnaṃ pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantānaṃ maṇḍalamāḷe sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā nānābyañjanā udāhu ekatthā byañjanameva nāna’’nti? Tatrekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso , ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā ceva nānābyañjanā cā’’ti. Ekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ ‘saṃyojana’nti vā, āvuso ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā ekatthā byañjanameva nānanti. Atha kho citto gahapati yena therā bhikkhū tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā there bhikkhū abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho citto gahapati there bhikkhū etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bhante, sambahulānaṃ kira therānaṃ bhikkhūnaṃ pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantānaṃ maṇḍalamāḷe sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā nānābyañjanā udāhu ekatthā byañjanameva nāna’’nti? Ekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ – ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā ceva nānābyañjanā cā’’ti. Ekaccehi therehi bhikkhūhi evaṃ byākataṃ ‘‘‘saṃyojana’nti vā, āvuso, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā ekatthā byañjanameva nāna’’nti. ‘‘Evaṃ, gahapatī’’ti.
‘‘‘สํโยชน’นฺติ วา, ภเนฺต, ‘สํโยชนิยา ธมฺมา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จฯ เตน หิ, ภเนฺต, อุปมํ โว กริสฺสามิฯ อุปมายปิเธกเจฺจ วิญฺญู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, กาโฬ จ พลีพโทฺท โอทาโต จ พลีพโทฺท เอเกน ทาเมน วา โยเตฺตน วา สํยุตฺตา อสฺสุฯ โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘กาโฬ พลีพโทฺท โอทาตสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชนํ , โอทาโต พลีพโทฺท กาฬสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชน’นฺติ, สมฺมา นุ โข โส วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, คหปติ! น โข, คหปติ, กาโฬ พลีพโทฺท โอทาตสฺส พลีพทฺทสฺส สํโยชนํ, นปิ โอทาโต พลีพโทฺท กาฬสฺส พฬีพทฺทสฺส สํโยชนํ; เยน โข เต เอเกน ทาเมน วา โยเตฺตน วา สํยุตฺตา ตํ ตตฺถ สํโยชน’’นฺติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภเนฺต, น จกฺขุ รูปานํ สํโยชนํ, น รูปา จกฺขุสฺส สํโยชนํ; ยญฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชนํฯ น โสตํ สทฺทานํ… น ฆานํ คนฺธานํ… น ชิวฺหา รสานํ… น กาโย โผฎฺฐพฺพานํ สํโยชนํ, น โผฎฺฐพฺพา กายสฺส สํโยชนํ; ยญฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชนํฯ น มโน ธมฺมานํ สํโยชนํ, น ธมฺมา มนสฺส สํโยชนํ; ยญฺจ ตตฺถ ตทุภยํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ สํโยชน’’นฺติฯ ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ, ยสฺส เต คมฺภีเร พุทฺธวจเน ปญฺญาจกฺขุ กมตี’’ติฯ ปฐมํฯ
‘‘‘Saṃyojana’nti vā, bhante, ‘saṃyojaniyā dhammā’ti vā ime dhammā nānatthā ceva nānābyañjanā ca. Tena hi, bhante, upamaṃ vo karissāmi. Upamāyapidhekacce viññū purisā bhāsitassa atthaṃ ājānanti. Seyyathāpi, bhante, kāḷo ca balībaddo odāto ca balībaddo ekena dāmena vā yottena vā saṃyuttā assu. Yo nu kho evaṃ vadeyya – ‘kāḷo balībaddo odātassa balībaddassa saṃyojanaṃ , odāto balībaddo kāḷassa balībaddassa saṃyojana’nti, sammā nu kho so vadamāno vadeyyā’’ti? ‘‘No hetaṃ, gahapati! Na kho, gahapati, kāḷo balībaddo odātassa balībaddassa saṃyojanaṃ, napi odāto balībaddo kāḷassa baḷībaddassa saṃyojanaṃ; yena kho te ekena dāmena vā yottena vā saṃyuttā taṃ tattha saṃyojana’’nti. ‘‘Evameva kho, bhante, na cakkhu rūpānaṃ saṃyojanaṃ, na rūpā cakkhussa saṃyojanaṃ; yañca tattha tadubhayaṃ paṭicca uppajjati chandarāgo taṃ tattha saṃyojanaṃ. Na sotaṃ saddānaṃ… na ghānaṃ gandhānaṃ… na jivhā rasānaṃ… na kāyo phoṭṭhabbānaṃ saṃyojanaṃ, na phoṭṭhabbā kāyassa saṃyojanaṃ; yañca tattha tadubhayaṃ paṭicca uppajjati chandarāgo taṃ tattha saṃyojanaṃ. Na mano dhammānaṃ saṃyojanaṃ, na dhammā manassa saṃyojanaṃ; yañca tattha tadubhayaṃ paṭicca uppajjati chandarāgo taṃ tattha saṃyojana’’nti. ‘‘Lābhā te, gahapati, suladdhaṃ te, gahapati, yassa te gambhīre buddhavacane paññācakkhu kamatī’’ti. Paṭhamaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา • 1. Saṃyojanasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา • 1. Saṃyojanasuttavaṇṇanā