Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi

    ๒. สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ

    2. Sāṇavāsītherapetavatthu

    ๔๐๘.

    408.

    กุณฺฑินาคริโย เถโร, สาณวาสิ 1 นิวาสิโก;

    Kuṇḍināgariyo thero, sāṇavāsi 2 nivāsiko;

    โปฎฺฐปาโทติ นาเมน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโยฯ

    Poṭṭhapādoti nāmena, samaṇo bhāvitindriyo.

    ๔๐๙.

    409.

    ตสฺส มาตา ปิตา ภาตา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

    Tassa mātā pitā bhātā, duggatā yamalokikā;

    ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ

    Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gatā.

    ๔๑๐.

    410.

    เต ทุคฺคตา สูจิกฎฺฎา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;

    Te duggatā sūcikaṭṭā, kilantā naggino kisā;

    อุตฺตสนฺตา 3 มหตฺตาสา 4, น ทเสฺสนฺติ กุรูริโน 5

    Uttasantā 6 mahattāsā 7, na dassenti kurūrino 8.

    ๔๑๑.

    411.

    ตสฺส ภาตา วิตริตฺวา, นโคฺค เอกปเถกโก;

    Tassa bhātā vitaritvā, naggo ekapathekako;

    จตุกุณฺฑิโก ภวิตฺวาน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํฯ

    Catukuṇḍiko bhavitvāna, therassa dassayītumaṃ.

    ๔๑๒.

    412.

    เถโร จามนสิกตฺวา, ตุณฺหีภูโต อติกฺกมิ;

    Thero cāmanasikatvā, tuṇhībhūto atikkami;

    โส จ วิญฺญาปยี เถรํ, ‘ภาตา เปตคโต อหํ’ฯ

    So ca viññāpayī theraṃ, ‘bhātā petagato ahaṃ’.

    ๔๑๓.

    413.

    ‘‘มาตา ปิตา จ เต ภเนฺต, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

    ‘‘Mātā pitā ca te bhante, duggatā yamalokikā;

    ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ

    Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gatā.

    ๔๑๔.

    414.

    ‘‘เต ทุคฺคตา สูจิกฎฺฎา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;

    ‘‘Te duggatā sūcikaṭṭā, kilantā naggino kisā;

    อุตฺตสนฺตา มหตฺตาสา, น ทเสฺสนฺติ กุรูริโนฯ

    Uttasantā mahattāsā, na dassenti kurūrino.

    ๔๑๕.

    415.

    ‘‘อนุกมฺปสฺสุ การุณิโก, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ โน;

    ‘‘Anukampassu kāruṇiko, datvā anvādisāhi no;

    ตว ทิเนฺนน ทาเนน, ยาเปสฺสนฺติ กุรูริโน’’ติฯ

    Tava dinnena dānena, yāpessanti kurūrino’’ti.

    ๔๑๖.

    416.

    เถโร จริตฺวา ปิณฺฑาย, ภิกฺขู อเญฺญ จ ทฺวาทส;

    Thero caritvā piṇḍāya, bhikkhū aññe ca dvādasa;

    เอกชฺฌํ สนฺนิปติํสุ, ภตฺตวิสฺสคฺคการณาฯ

    Ekajjhaṃ sannipatiṃsu, bhattavissaggakāraṇā.

    ๔๑๗.

    417.

    เถโร สเพฺพว เต อาห, ‘‘ยถาลทฺธํ ททาถ เม;

    Thero sabbeva te āha, ‘‘yathāladdhaṃ dadātha me;

    สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามิ, อนุกมฺปาย ญาตินํ’’ฯ

    Saṅghabhattaṃ karissāmi, anukampāya ñātinaṃ’’.

    ๔๑๘.

    418.

    นิยฺยาทยิํสุ เถรสฺส, เถโร สงฺฆํ นิมนฺตยิ;

    Niyyādayiṃsu therassa, thero saṅghaṃ nimantayi;

    ทตฺวา อนฺวาทิสิ เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

    Datvā anvādisi thero, mātu pitu ca bhātuno;

    ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ฯ

    ‘‘Idaṃ me ñātīnaṃ hotu, sukhitā hontu ñātayo’’.

    ๔๑๙.

    419.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ, โภชนํ อุทปชฺชถ;

    Samanantarānuddiṭṭhe, bhojanaṃ udapajjatha;

    สุจิํ ปณีตํ สมฺปนฺนํ, อเนกรสพฺยญฺชนํฯ

    Suciṃ paṇītaṃ sampannaṃ, anekarasabyañjanaṃ.

    ๔๒๐.

    420.

    ตโต อุทฺทสฺสยี 9 ภาตา, วณฺณวา พลวา สุขี;

    Tato uddassayī 10 bhātā, vaṇṇavā balavā sukhī;

    ‘‘ปหูตํ โภชนํ ภเนฺต, ปสฺส นคฺคามฺหเส มยํ;

    ‘‘Pahūtaṃ bhojanaṃ bhante, passa naggāmhase mayaṃ;

    ตถา ภเนฺต ปรกฺกม, ยถา วตฺถํ ลภามเส’’ติฯ

    Tathā bhante parakkama, yathā vatthaṃ labhāmase’’ti.

    ๔๒๑.

    421.

    เถโร สงฺการกูฎมฺหา, อุจฺจินิตฺวาน นนฺตเก;

    Thero saṅkārakūṭamhā, uccinitvāna nantake;

    ปิโลติกํ ปฎํ กตฺวา, สเงฺฆ จาตุทฺทิเส อทาฯ

    Pilotikaṃ paṭaṃ katvā, saṅghe cātuddise adā.

    ๔๒๒.

    422.

    ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

    Datvā anvādisī thero, mātu pitu ca bhātuno;

    ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ฯ

    ‘‘Idaṃ me ñātīnaṃ hotu, sukhitā hontu ñātayo’’.

    ๔๒๓.

    423.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ, วตฺถานิ อุทปชฺชิสุํ;

    Samanantarānuddiṭṭhe, vatthāni udapajjisuṃ;

    ตโต สุวตฺถวสโน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํฯ

    Tato suvatthavasano, therassa dassayītumaṃ.

    ๔๒๔.

    424.

    ‘‘ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมิํ ปฎิจฺฉทา;

    ‘‘Yāvatā nandarājassa, vijitasmiṃ paṭicchadā;

    ตโต พหุตรา ภเนฺต, วตฺถานจฺฉาทนานิ โนฯ

    Tato bahutarā bhante, vatthānacchādanāni no.

    ๔๒๕.

    425.

    ‘‘โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขม กปฺปาสิกานิ จ;

    ‘‘Koseyyakambalīyāni, khoma kappāsikāni ca;

    วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเรฯ

    Vipulā ca mahagghā ca, tepākāsevalambare.

    ๔๒๖.

    426.

    ‘‘เต มยํ ปริทหาม, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ;

    ‘‘Te mayaṃ paridahāma, yaṃ yaṃ hi manaso piyaṃ;

    ตถา ภเนฺต ปรกฺกม, ยถา เคหํ ลภามเส’’ติฯ

    Tathā bhante parakkama, yathā gehaṃ labhāmase’’ti.

    ๔๒๗.

    427.

    เถโร ปณฺณกุฎิํ กตฺวา, สเงฺฆ จาตุทฺทิเส อทา;

    Thero paṇṇakuṭiṃ katvā, saṅghe cātuddise adā;

    ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

    Datvā anvādisī thero, mātu pitu ca bhātuno;

    ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ฯ

    ‘‘Idaṃ me ñātīnaṃ hotu, sukhitā hontu ñātayo’’.

    ๔๒๘.

    428.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ , ฆรานิ อุทปชฺชิสุํ;

    Samanantarānuddiṭṭhe , gharāni udapajjisuṃ;

    กูฎาคารนิเวสนา, วิภตฺตา ภาคโส มิตาฯ

    Kūṭāgāranivesanā, vibhattā bhāgaso mitā.

    ๔๒๙.

    429.

    ‘‘น มนุเสฺสสุ อีทิสา, ยาทิสา โน ฆรา อิธ;

    ‘‘Na manussesu īdisā, yādisā no gharā idha;

    อปิ ทิเพฺพสุ ยาทิสา, ตาทิสา โน ฆรา อิธฯ

    Api dibbesu yādisā, tādisā no gharā idha.

    ๔๓๐.

    430.

    ‘‘ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ 11, สมนฺตา จตุโร ทิสา;

    ‘‘Daddallamānā ābhenti 12, samantā caturo disā;

    ‘ตถา ภเนฺต ปรกฺกม, ยถา ปานียํ ลภามเส’’ติฯ

    ‘Tathā bhante parakkama, yathā pānīyaṃ labhāmase’’ti.

    ๔๓๑.

    431.

    เถโร กรณํ 13 ปูเรตฺวา, สเงฺฆ จาตุทฺทิเส อทา;

    Thero karaṇaṃ 14 pūretvā, saṅghe cātuddise adā;

    ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

    Datvā anvādisī thero, mātu pitu ca bhātuno;

    ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’ฯ

    ‘‘Idaṃ me ñātīnaṃ hotu, sukhitā hontu ñātayo’.

    ๔๓๒.

    432.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ, ปานียํ อุทปชฺชถ;

    Samanantarānuddiṭṭhe, pānīyaṃ udapajjatha;

    คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรโญฺญ สุนิมฺมิตาฯ

    Gambhīrā caturassā ca, pokkharañño sunimmitā.

    ๔๓๓.

    433.

    สีโตทิกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฎิคนฺธิยา;

    Sītodikā suppatitthā, sītā appaṭigandhiyā;

    ปทุมุปฺปลสญฺฉนฺนา, วาริกิญฺชกฺขปูริตาฯ

    Padumuppalasañchannā, vārikiñjakkhapūritā.

    ๔๓๔.

    434.

    ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ, เถรสฺส ปฎิทสฺสยุํ;

    Tattha nhatvā pivitvā ca, therassa paṭidassayuṃ;

    ‘‘ปหูตํ ปานียํ ภเนฺต, ปาทา ทุกฺขา ผลนฺติ โน’’ฯ

    ‘‘Pahūtaṃ pānīyaṃ bhante, pādā dukkhā phalanti no’’.

    ๔๓๕.

    435.

    ‘‘อาหิณฺฑมานา ขญฺชาม, สกฺขเร กุสกณฺฎเก;

    ‘‘Āhiṇḍamānā khañjāma, sakkhare kusakaṇṭake;

    ‘ตถา ภเนฺต ปรกฺกม, ยถา ยานํ ลภามเส’’’ติฯ

    ‘Tathā bhante parakkama, yathā yānaṃ labhāmase’’’ti.

    ๔๓๖.

    436.

    เถโร สิปาฎิกํ ลทฺธา, สเงฺฆ จาตุทฺทิเส อทา;

    Thero sipāṭikaṃ laddhā, saṅghe cātuddise adā;

    ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;

    Datvā anvādisī thero, mātu pitu ca bhātuno;

    ‘‘อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย’’ฯ

    ‘‘Idaṃ me ñātīnaṃ hotu, sukhitā hontu ñātayo’’.

    ๔๓๗.

    437.

    สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ , เปตา รเถน มาคมุํ;

    Samanantarānuddiṭṭhe , petā rathena māgamuṃ;

    ‘‘อนุกมฺปิตมฺห ภทเนฺต, ภเตฺตนจฺฉาทเนน จฯ

    ‘‘Anukampitamha bhadante, bhattenacchādanena ca.

    ๔๓๘.

    438.

    ‘‘ฆเรน ปานียทาเนน, ยานทาเนน จูภยํ;

    ‘‘Gharena pānīyadānena, yānadānena cūbhayaṃ;

    มุนิํ การุณิกํ โลเก, ภเนฺต วนฺทิตุมาคตา’’ติฯ

    Muniṃ kāruṇikaṃ loke, bhante vanditumāgatā’’ti.

    สาณวาสีเถรเปตวตฺถุ ทุติยํฯ

    Sāṇavāsītherapetavatthu dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. สานุวาสิ (สี.), สานวาสิ (สฺยา.)
    2. sānuvāsi (sī.), sānavāsi (syā.)
    3. โอตฺตปฺปนฺตา (สฺยา. ก.)
    4. มหาตาสา (สี.)
    5. กุรุทฺทิโน (ก.)
    6. ottappantā (syā. ka.)
    7. mahātāsā (sī.)
    8. kuruddino (ka.)
    9. อุทฺทิสยี (สี. ก.), อุทฺทิสฺสติ (สฺยา. ก.)
    10. uddisayī (sī. ka.), uddissati (syā. ka.)
    11. อาภนฺติ (ก.)
    12. ābhanti (ka.)
    13. กรกํ (สี. สฺยา. ปี.)
    14. karakaṃ (sī. syā. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๒. สาณวาสิเตฺถรเปตวตฺถุวณฺณนา • 2. Sāṇavāsittherapetavatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact