Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๑๐. สงฺคารวสุตฺตํ

    10. Saṅgāravasuttaṃ

    ๖๑. อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นามฯ ยญฺญํ ยชามปิ ยชาเปมปิฯ ตตฺร, โภ โคตม, โย เจว ยชติ 1 โย จ ยชาเปติ สเพฺพ เต อเนกสารีริกํ ปุญฺญปฺปฎิปทํ ปฎิปนฺนา โหนฺติ, ยทิทํ ยญฺญาธิกรณํฯ โย ปนายํ, โภ โคตม, ยสฺส วา ตสฺส วา กุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต เอกมตฺตานํ ทเมติ, เอกมตฺตานํ สเมติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปติ, เอวมสฺสายํ เอกสารีริกํ ปุญฺญปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน โหติ, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติฯ

    61. Atha kho saṅgāravo brāhmaṇo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho saṅgāravo brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘mayamassu, bho gotama, brāhmaṇā nāma. Yaññaṃ yajāmapi yajāpemapi. Tatra, bho gotama, yo ceva yajati 2 yo ca yajāpeti sabbe te anekasārīrikaṃ puññappaṭipadaṃ paṭipannā honti, yadidaṃ yaññādhikaraṇaṃ. Yo panāyaṃ, bho gotama, yassa vā tassa vā kulā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito ekamattānaṃ dameti, ekamattānaṃ sameti, ekamattānaṃ parinibbāpeti, evamassāyaṃ ekasārīrikaṃ puññappaṭipadaṃ paṭipanno hoti, yadidaṃ pabbajjādhikaraṇa’’nti.

    ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตเญฺญเวตฺถ ปฎิปุจฺฉิสฺสามิฯ ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, พฺราหฺมณ, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาฯ โส เอวมาห – ‘เอถายํ มโคฺค อยํ ปฎิปทา ยถาปฎิปโนฺน อหํ อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทมิ; เอถ 3, ตุเมฺหปิ ตถา ปฎิปชฺชถ, ยถาปฎิปนฺนา ตุเมฺหปิ อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริโยคธํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติฯ อิติ อยเญฺจว 4 สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, ปเร จ ตถตฺถาย ปฎิปชฺชนฺติ, ตานิ โข ปน โหนฺติ อเนกานิปิ สตานิ อเนกานิปิ สหสฺสานิ อเนกานิปิ สตสหสฺสานิฯ

    ‘‘Tena hi, brāhmaṇa, taññevettha paṭipucchissāmi. Yathā te khameyya tathā naṃ byākareyyāsi. Taṃ kiṃ maññasi, brāhmaṇa, idha tathāgato loke uppajjati arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā. So evamāha – ‘ethāyaṃ maggo ayaṃ paṭipadā yathāpaṭipanno ahaṃ anuttaraṃ brahmacariyogadhaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedemi; etha 5, tumhepi tathā paṭipajjatha, yathāpaṭipannā tumhepi anuttaraṃ brahmacariyogadhaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharissathā’ti. Iti ayañceva 6 satthā dhammaṃ deseti, pare ca tathatthāya paṭipajjanti, tāni kho pana honti anekānipi satāni anekānipi sahassāni anekānipi satasahassāni.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, พฺราหฺมณ, อิจฺจายํ เอวํ สเนฺต เอกสารีริกา วา ปุญฺญปฺปฎิปทา โหติ อเนกสารีริกา วา, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติ? ‘‘อิจฺจายมฺปิ 7, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต อเนกสารีริกา ปุญฺญปฺปฎิปทา โหติ, ยทิทํ ปพฺพชฺชาธิกรณ’’นฺติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, brāhmaṇa, iccāyaṃ evaṃ sante ekasārīrikā vā puññappaṭipadā hoti anekasārīrikā vā, yadidaṃ pabbajjādhikaraṇa’’nti? ‘‘Iccāyampi 8, bho gotama, evaṃ sante anekasārīrikā puññappaṭipadā hoti, yadidaṃ pabbajjādhikaraṇa’’nti.

    เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อานโนฺท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฎิปทานํ กตมา ปฎิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? เอวํ วุเตฺต สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานโนฺทฯ เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติฯ

    Evaṃ vutte āyasmā ānando saṅgāravaṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘imāsaṃ te, brāhmaṇa, dvinnaṃ paṭipadānaṃ katamā paṭipadā khamati appatthatarā ca appasamārambhatarā ca mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’ti? Evaṃ vutte saṅgāravo brāhmaṇo āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘seyyathāpi bhavaṃ gotamo bhavaṃ cānando. Ete me pujjā, ete me pāsaṃsā’’ti.

    ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘เก วา เต ปุชฺชา เก วา เต ปาสํสา’ติ? เอวํ โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, ปุจฺฉามิ – ‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฎิปทานํ กตมา ปฎิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’’ติ? ทุติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานโนฺทฯ เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติฯ

    Dutiyampi kho āyasmā ānando saṅgāravaṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘na kho tyāhaṃ, brāhmaṇa, evaṃ pucchāmi – ‘ke vā te pujjā ke vā te pāsaṃsā’ti? Evaṃ kho tyāhaṃ, brāhmaṇa, pucchāmi – ‘imāsaṃ te, brāhmaṇa, dvinnaṃ paṭipadānaṃ katamā paṭipadā khamati appatthatarā ca appasamārambhatarā ca mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’’ti? Dutiyampi kho saṅgāravo brāhmaṇo āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘seyyathāpi bhavaṃ gotamo bhavaṃ cānando. Ete me pujjā, ete me pāsaṃsā’’ti.

    ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘น โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘เก วา เต ปุชฺชา เก วา เต ปาสํสา’ติ? เอวํ โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, ปุจฺฉามิ – ‘อิมาสํ เต, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ ปฎิปทานํ กตมา ปฎิปทา ขมติ อปฺปตฺถตรา จ อปฺปสมารมฺภตรา จ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’’ติ? ตติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโม ภวํ จานโนฺทฯ เอเต เม ปุชฺชา, เอเต เม ปาสํสา’’ติฯ

    Tatiyampi kho āyasmā ānando saṅgāravaṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘na kho tyāhaṃ, brāhmaṇa, evaṃ pucchāmi – ‘ke vā te pujjā ke vā te pāsaṃsā’ti? Evaṃ kho tyāhaṃ, brāhmaṇa, pucchāmi – ‘imāsaṃ te, brāhmaṇa, dvinnaṃ paṭipadānaṃ katamā paṭipadā khamati appatthatarā ca appasamārambhatarā ca mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’’ti? Tatiyampi kho saṅgāravo brāhmaṇo āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘seyyathāpi bhavaṃ gotamo bhavaṃ cānando. Ete me pujjā, ete me pāsaṃsā’’ti.

    อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยาว ตติยมฺปิ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ อานเนฺทน สหธมฺมิกํ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สํสาเทติ 9 โน วิสฺสเชฺชติฯ ยํนูนาหํ ปริโมเจยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กา นฺวชฺช, พฺราหฺมณ, ราชเนฺตปุเร ราชปุริสานํ 10 สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาที’’ติ? ‘‘อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตม, ราชเนฺตปุเร ราชปุริสานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘ปุเพฺพ สุทํ อปฺปตรา เจว ภิกฺขู อเหสุํ พหุตรา จ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสสุํ; เอตรหิ ปน พหุตรา เจว ภิกฺขู อปฺปตรา จ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสนฺตี’ติฯ อยํ ขฺวชฺช, โภ โคตม, ราชเนฺตปุเร ราชปุริสานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อนฺตรากถา อุทปาที’’ติฯ

    Atha kho bhagavato etadahosi – ‘‘yāva tatiyampi kho saṅgāravo brāhmaṇo ānandena sahadhammikaṃ pañhaṃ puṭṭho saṃsādeti 11 no vissajjeti. Yaṃnūnāhaṃ parimoceyya’’nti. Atha kho bhagavā saṅgāravaṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘kā nvajja, brāhmaṇa, rājantepure rājapurisānaṃ 12 sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ antarākathā udapādī’’ti? ‘‘Ayaṃ khvajja, bho gotama, rājantepure rājapurisānaṃ sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ antarākathā udapādi – ‘pubbe sudaṃ appatarā ceva bhikkhū ahesuṃ bahutarā ca uttari manussadhammā iddhipāṭihāriyaṃ dassesuṃ; etarahi pana bahutarā ceva bhikkhū appatarā ca uttari manussadhammā iddhipāṭihāriyaṃ dassentī’ti. Ayaṃ khvajja, bho gotama, rājantepure rājapurisānaṃ sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ antarākathā udapādī’’ti.

    13 ‘‘ตีณิ โข อิมานิ, พฺราหฺมณ, ปาฎิหาริยานิฯ กตมานิ ตีณิ? อิทฺธิปาฎิหาริยํ, อาเทสนาปาฎิหาริยํ , อนุสาสนีปาฎิหาริยํฯ กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, อิทฺธิปาฎิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกโจฺจ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – ‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลเงฺกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ 14 ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตติ’ฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อิทฺธิปาฎิหาริยํ ฯ

    15 ‘‘Tīṇi kho imāni, brāhmaṇa, pāṭihāriyāni. Katamāni tīṇi? Iddhipāṭihāriyaṃ, ādesanāpāṭihāriyaṃ , anusāsanīpāṭihāriyaṃ. Katamañca, brāhmaṇa, iddhipāṭihāriyaṃ? Idha, brāhmaṇa, ekacco anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhoti – ‘ekopi hutvā bahudhā hoti, bahudhāpi hutvā eko hoti; āvibhāvaṃ, tirobhāvaṃ; tirokuṭṭaṃ tiropākāraṃ tiropabbataṃ asajjamāno gacchati, seyyathāpi ākāse; pathaviyāpi ummujjanimujjaṃ karoti, seyyathāpi udake; udakepi abhijjamāne gacchati, seyyathāpi pathaviyaṃ; ākāsepi pallaṅkena kamati, seyyathāpi pakkhī sakuṇo; imepi candimasūriye evaṃmahiddhike evaṃmahānubhāve pāṇinā parimasati 16 parimajjati, yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vatteti’. Idaṃ vuccati, brāhmaṇa, iddhipāṭihāriyaṃ .

    ‘‘กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, อาเทสนาปาฎิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกโจฺจ นิมิเตฺตน อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติฯ โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ

    ‘‘Katamañca, brāhmaṇa, ādesanāpāṭihāriyaṃ? Idha, brāhmaṇa, ekacco nimittena ādisati – ‘evampi te mano, itthampi te mano, itipi te citta’nti. So bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā.

    ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกโจฺจ น เหว โข นิมิเตฺตน อาทิสติ , อปิ จ โข มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติฯ โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ

    ‘‘Idha pana, brāhmaṇa, ekacco na heva kho nimittena ādisati , api ca kho manussānaṃ vā amanussānaṃ vā devatānaṃ vā saddaṃ sutvā ādisati – ‘evampi te mano, itthampi te mano, itipi te citta’nti. So bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā.

    ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกโจฺจ น เหว โข นิมิเตฺตน อาทิสติ นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติฯ โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ

    ‘‘Idha pana, brāhmaṇa, ekacco na heva kho nimittena ādisati napi manussānaṃ vā amanussānaṃ vā devatānaṃ vā saddaṃ sutvā ādisati, api ca kho vitakkayato vicārayato vitakkavipphārasaddaṃ sutvā ādisati – ‘evampi te mano, itthampi te mano, itipi te citta’nti. So bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā.

    ‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกโจฺจ น เหว โข นิมิเตฺตน อาทิสติ, นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, นปิ วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิํ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตเกฺกสฺสตี’ติฯ โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อาเทสนาปาฎิหาริยํฯ

    ‘‘Idha pana, brāhmaṇa, ekacco na heva kho nimittena ādisati, napi manussānaṃ vā amanussānaṃ vā devatānaṃ vā saddaṃ sutvā ādisati, napi vitakkayato vicārayato vitakkavipphārasaddaṃ sutvā ādisati, api ca kho avitakkaṃ avicāraṃ samādhiṃ samāpannassa cetasā ceto paricca pajānāti – ‘yathā imassa bhoto manosaṅkhārā paṇihitā imassa cittassa anantarā amuṃ nāma vitakkaṃ vitakkessatī’ti. So bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā. Idaṃ vuccati, brāhmaṇa, ādesanāpāṭihāriyaṃ.

    ‘‘กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, อนุสาสนีปาฎิหาริยํ? อิธ, พฺราหฺมณ , เอกโจฺจ เอวมนุสาสติ – ‘เอวํ วิตเกฺกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อนุสาสนีปาฎิหาริยํฯ อิมานิ โข, พฺราหฺมณ, ตีณิ ปาฎิหาริยานิฯ อิเมสํ เต, พฺราหฺมณ, ติณฺณํ ปาฎิหาริยานํ กตมํ ปาฎิหาริยํ ขมติ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจา’’ติ?

    ‘‘Katamañca, brāhmaṇa, anusāsanīpāṭihāriyaṃ? Idha, brāhmaṇa , ekacco evamanusāsati – ‘evaṃ vitakketha, mā evaṃ vitakkayittha; evaṃ manasi karotha, mā evaṃ manasākattha; idaṃ pajahatha, idaṃ upasampajja viharathā’ti. Idaṃ vuccati, brāhmaṇa, anusāsanīpāṭihāriyaṃ. Imāni kho, brāhmaṇa, tīṇi pāṭihāriyāni. Imesaṃ te, brāhmaṇa, tiṇṇaṃ pāṭihāriyānaṃ katamaṃ pāṭihāriyaṃ khamati abhikkantatarañca paṇītatarañcā’’ti?

    ‘‘ตตฺร, โภ โคตม, ยทิทํ 17 ปาฎิหาริยํ อิเธกโจฺจ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ…เป.… ยาว พฺราหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตติ, อิทํ, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ โยว 18 นํ กโรติ โสว 19 นํ ปฎิสํเวเทติ, โยว 20 นํ กโรติ ตเสฺสว 21 ตํ โหติฯ อิทํ เม, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายติฯ

    ‘‘Tatra, bho gotama, yadidaṃ 22 pāṭihāriyaṃ idhekacco anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhoti…pe… yāva brāhmalokāpi kāyena vasaṃ vatteti, idaṃ, bho gotama, pāṭihāriyaṃ yova 23 naṃ karoti sova 24 naṃ paṭisaṃvedeti, yova 25 naṃ karoti tasseva 26 taṃ hoti. Idaṃ me, bho gotama, pāṭihāriyaṃ māyāsahadhammarūpaṃ viya khāyati.

    ‘‘ยมฺปิทํ , โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ อิเธกโจฺจ นิมิเตฺตน อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ, โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ อิธ ปน, โภ โคตม, เอกโจฺจ น เหว โข นิมิเตฺตน อาทิสติ, อปิ จ โข มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ…เป.… นปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ…เป.… นปิ วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, อปิ จ โข อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิํ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมฺหํ นาม วิตกฺกํ วิตเกฺกสฺสตี’ติ, โส พหุํ เจปิ อาทิสติ ตเถว ตํ โหติ, โน อญฺญถาฯ อิทมฺปิ, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ โยว นํ กโรติ โสว นํ ปฎิสํเวเทติ, โยว นํ กโรติ ตเสฺสว ตํ โหติฯ อิทมฺปิ เม, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ มายาสหธมฺมรูปํ วิย ขายติฯ

    ‘‘Yampidaṃ , bho gotama, pāṭihāriyaṃ idhekacco nimittena ādisati – ‘evampi te mano, itthampi te mano, itipi te citta’nti, so bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā. Idha pana, bho gotama, ekacco na heva kho nimittena ādisati, api ca kho manussānaṃ vā amanussānaṃ vā devatānaṃ vā saddaṃ sutvā ādisati…pe… napi manussānaṃ vā amanussānaṃ vā devatānaṃ vā saddaṃ sutvā ādisati, api ca kho vitakkayato vicārayato vitakkavipphārasaddaṃ sutvā ādisati…pe… napi vitakkayato vicārayato vitakkavipphārasaddaṃ sutvā ādisati, api ca kho avitakkaṃ avicāraṃ samādhiṃ samāpannassa cetasā ceto paricca pajānāti – ‘yathā imassa bhoto manosaṅkhārā paṇihitā imassa cittassa anantarā amhaṃ nāma vitakkaṃ vitakkessatī’ti, so bahuṃ cepi ādisati tatheva taṃ hoti, no aññathā. Idampi, bho gotama, pāṭihāriyaṃ yova naṃ karoti sova naṃ paṭisaṃvedeti, yova naṃ karoti tasseva taṃ hoti. Idampi me, bho gotama, pāṭihāriyaṃ māyāsahadhammarūpaṃ viya khāyati.

    ‘‘ยญฺจ โข อิทํ, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ อิเธกโจฺจ เอวํ อนุสาสติ – ‘เอวํ วิตเกฺกถ , มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติฯ อิทเมว, โภ โคตม, ปาฎิหาริยํ ขมติ อิเมสํ ติณฺณํ ปาฎิหาริยานํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ

    ‘‘Yañca kho idaṃ, bho gotama, pāṭihāriyaṃ idhekacco evaṃ anusāsati – ‘evaṃ vitakketha , mā evaṃ vitakkayittha; evaṃ manasi karotha, mā evaṃ manasākattha; idaṃ pajahatha, idaṃ upasampajja viharathā’ti. Idameva, bho gotama, pāṭihāriyaṃ khamati imesaṃ tiṇṇaṃ pāṭihāriyānaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.

    ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาวสุภาสิตมิทํ โภตา โคตเมน อิเมหิ จ มยํ ตีหิ ปาฎิหาริเยหิ สมนฺนาคตํ ภวนฺตํ โคตมํ ธาเรมฯ ภวญฺหิ โคตโม อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ…เป.… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตติ, ภวญฺหิ โคตโม อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิํ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตเกฺกสฺสตี’ติฯ ภวญฺหิ โคตโม เอวมนุสาสติ – ‘เอวํ วิตเกฺกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’’ติฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bho gotama, abbhutaṃ, bho gotama! Yāvasubhāsitamidaṃ bhotā gotamena imehi ca mayaṃ tīhi pāṭihāriyehi samannāgataṃ bhavantaṃ gotamaṃ dhārema. Bhavañhi gotamo anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhoti…pe… yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vatteti, bhavañhi gotamo avitakkaṃ avicāraṃ samādhiṃ samāpannassa cetasā ceto paricca pajānāti – ‘yathā imassa bhoto manosaṅkhārā paṇihitā imassa cittassa anantarā amuṃ nāma vitakkaṃ vitakkessatī’ti. Bhavañhi gotamo evamanusāsati – ‘evaṃ vitakketha, mā evaṃ vitakkayittha; evaṃ manasi karotha, mā evaṃ manasākattha; idaṃ pajahatha, idaṃ upasampajja viharathā’’’ti.

    ‘‘อทฺธา โข ตฺยาหํ, พฺราหฺมณ, อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตา; อปิ จ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิฯ อหญฺหิ, พฺราหฺมณ, อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภมิ…เป.… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตมิฯ อหญฺหิ , พฺราหฺมณ, อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิํ สมาปนฺนสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา, อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตเกฺกสฺสตี’ติฯ อหญฺหิ, พฺราหฺมณ, เอวมนุสาสามิ – ‘เอวํ วิตเกฺกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ; เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ; อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’’ติฯ

    ‘‘Addhā kho tyāhaṃ, brāhmaṇa, āsajja upanīya vācā bhāsitā; api ca tyāhaṃ byākarissāmi. Ahañhi, brāhmaṇa, anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhomi…pe… yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vattemi. Ahañhi , brāhmaṇa, avitakkaṃ avicāraṃ samādhiṃ samāpannassa cetasā ceto paricca pajānāmi – ‘yathā imassa bhoto manosaṅkhārā paṇihitā, imassa cittassa anantarā amuṃ nāma vitakkaṃ vitakkessatī’ti. Ahañhi, brāhmaṇa, evamanusāsāmi – ‘evaṃ vitakketha, mā evaṃ vitakkayittha; evaṃ manasi karotha, mā evaṃ manasākattha; idaṃ pajahatha, idaṃ upasampajja viharathā’’’ti.

    ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อโญฺญ เอกภิกฺขุปิ โย อิเมหิ ตีหิ ปาฎิหาริเยหิ สมนฺนาคโต, อญฺญตฺร โภตา โคตเมนา’’ติ? ‘‘น โข, พฺราหฺมณ, เอกํเยว สตํ น เทฺว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปญฺจ สตานิ, อถ โข ภิโยฺยว, เย 27 ภิกฺขู อิเมหิ ตีหิ ปาฎิหาริเยหิ สมนฺนาคตา’’ติฯ ‘‘กหํ ปน, โภ โคตม, เอตรหิ เต ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘อิมสฺมิํเยว โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุสเงฺฆ’’ติฯ

    ‘‘Atthi pana, bho gotama, añño ekabhikkhupi yo imehi tīhi pāṭihāriyehi samannāgato, aññatra bhotā gotamenā’’ti? ‘‘Na kho, brāhmaṇa, ekaṃyeva sataṃ na dve satāni na tīṇi satāni na cattāri satāni na pañca satāni, atha kho bhiyyova, ye 28 bhikkhū imehi tīhi pāṭihāriyehi samannāgatā’’ti. ‘‘Kahaṃ pana, bho gotama, etarahi te bhikkhū viharantī’’ti? ‘‘Imasmiṃyeva kho, brāhmaṇa, bhikkhusaṅghe’’ti.

    ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ทสมํฯ

    ‘‘Abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama! Seyyathāpi bho gotama, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti, evamevaṃ bhotā gotamena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāmi, dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsakaṃ maṃ bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Dasamaṃ.

    พฺราหฺมณวโคฺค ปฐโมฯ

    Brāhmaṇavaggo paṭhamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    เทฺว พฺราหฺมณา จญฺญตโร, ปริพฺพาชเกน นิพฺพุตํ;

    Dve brāhmaṇā caññataro, paribbājakena nibbutaṃ;

    ปโลกวโจฺฉ ติกโณฺณ, โสณิ สงฺคารเวน จาติฯ

    Palokavaccho tikaṇṇo, soṇi saṅgāravena cāti.







    Footnotes:
    1. โย เจว ยญฺญํ ยชติ (สฺยา. กํ.)
    2. yo ceva yaññaṃ yajati (syā. kaṃ.)
    3. เอตํ (ก.)
    4. สยํ เจว (ก.)
    5. etaṃ (ka.)
    6. sayaṃ ceva (ka.)
    7. อิจฺจายเนฺต (ก.)
    8. iccāyante (ka.)
    9. ม. นิ. ๑.๓๓๗
    10. ราชปริสายํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    11. ma. ni. 1.337
    12. rājaparisāyaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    13. ปฎิ. ม. ๓.๓๐; ที. นิ. ๑.๔๘๓
    14. ปรามสติ (ที. นิ. ๑.๔๘๔; ปฎิ. ม. ๑.๑๐๒
    15. paṭi. ma. 3.30; dī. ni. 1.483
    16. parāmasati (dī. ni. 1.484; paṭi. ma. 1.102
    17. ยมิทํ (สฺยา. กํ. ปี.)
    18. โย จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    19. โสจ จ (สฺยา. กํ ปี. ก.)
    20. โย จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    21. ตสฺสเมว (สี. ก.), ตสฺส เจว (สฺยา. กํ. ปี.)
    22. yamidaṃ (syā. kaṃ. pī.)
    23. yo ca (syā. kaṃ. pī. ka.)
    24. soca ca (syā. kaṃ pī. ka.)
    25. yo ca (syā. kaṃ. pī. ka.)
    26. tassameva (sī. ka.), tassa ceva (syā. kaṃ. pī.)
    27. เต (ก.) ปสฺส ม. นิ. ๒.๑๙๕
    28. te (ka.) passa ma. ni. 2.195



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา • 10. Saṅgāravasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา • 10. Saṅgāravasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact