Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๑๒๔. สงฺฆปวารณาทิปฺปเภทา
124. Saṅghapavāraṇādippabhedā
๒๑๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย ปญฺจ ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปญฺญตฺตํ ‘สเงฺฆน ปวาเรตพฺพ’นฺติฯ มยญฺจมฺหา ปญฺจ ชนาฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปวาเรตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจนฺนํ สเงฺฆ ปวาเรตุนฺติฯ
215. Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya pañca bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā paññattaṃ ‘saṅghena pavāretabba’nti. Mayañcamhā pañca janā. Kathaṃ nu kho amhehi pavāretabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, pañcannaṃ saṅghe pavāretunti.
๒๑๖. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ ปญฺจนฺนํ สเงฺฆ ปวาเรตุนฺติฯ มยญฺจมฺหา จตฺตาโร ชนาฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปวาเรตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปวาเรตพฺพํฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –
216. Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya cattāro bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ pañcannaṃ saṅghe pavāretunti. Mayañcamhā cattāro janā. Kathaṃ nu kho amhehi pavāretabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, catunnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Evañca pana, bhikkhave, pavāretabbaṃ. Byattena bhikkhunā paṭibalena te bhikkhū ñāpetabbā –
‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมโนฺตฯ อชฺช ปวารณาฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ
‘‘Suṇantu me āyasmanto. Ajja pavāraṇā. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, mayaṃ aññamaññaṃ pavāreyyāmā’’ti.
เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Therena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti.
นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Navakena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ ปญฺจนฺนํ สเงฺฆ ปวาเรตุํ, จตุนฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ มยญฺจมฺหา ตโย ชนาฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปวาเรตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปวาเรตพฺพํฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –
Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya tayo bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ pañcannaṃ saṅghe pavāretuṃ, catunnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Mayañcamhā tayo janā. Kathaṃ nu kho amhehi pavāretabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, tiṇṇaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Evañca pana, bhikkhave, pavāretabbaṃ. Byattena bhikkhunā paṭibalena te bhikkhū ñāpetabbā –
‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตาฯ อชฺช ปวารณาฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ
‘‘Suṇantu me āyasmantā. Ajja pavāraṇā. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, mayaṃ aññamaññaṃ pavāreyyāmā’’ti.
เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Therena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti.
นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติ ฯ
Navakena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti .
๒๑๗. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย เทฺว ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ ปญฺจนฺนํ สเงฺฆ ปวาเรตุํ, จตุนฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํ, ติณฺณํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ มยญฺจมฺหา เทฺว ชนาฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปวาเรตพฺพ’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปวาเรตพฺพํฯ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา นโว ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
217. Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya dve bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ pañcannaṃ saṅghe pavāretuṃ, catunnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ, tiṇṇaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Mayañcamhā dve janā. Kathaṃ nu kho amhehi pavāretabba’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dvinnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Evañca pana, bhikkhave, pavāretabbaṃ. Therena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā navo bhikkhu evamassa vacanīyo – ‘‘ahaṃ, āvuso, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, āvuso, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti.
นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เถโร ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, ภเนฺต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, ภเนฺต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Navakena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā thero bhikkhu evamassa vacanīyo – ‘‘ahaṃ, bhante, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, bhante, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā. Vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya. Passanto paṭikarissāmī’’ti.
๒๑๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย เอโก ภิกฺขุ วิหรติฯ อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ ปญฺจนฺนํ สเงฺฆ ปวาเรตุํ, จตุนฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํ, ติณฺณํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํ, ทฺวินฺนํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตุํฯ อหญฺจมฺหิ เอกโกฯ กถํ นุ โข มยา ปวาเรตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ
218. Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya eko bhikkhu viharati. Atha kho tassa bhikkhuno etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ pañcannaṃ saṅghe pavāretuṃ, catunnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ, tiṇṇaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ, dvinnaṃ aññamaññaṃ pavāretuṃ. Ahañcamhi ekako. Kathaṃ nu kho mayā pavāretabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย เอโก ภิกฺขุ วิหรติฯ เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ยตฺถ ภิกฺขู ปฎิกฺกมนฺติ อุปฎฺฐานสาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา, โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปตฺวา อาสนํ ปญฺญเปตฺวา ปทีปํ กตฺวา นิสีทิตพฺพํฯ สเจ อเญฺญ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธิํ ปวาเรตพฺพํ; โน เจ อาคจฺฉนฺติ, ‘อชฺช เม ปวารณา’ติ อธิฎฺฐาตพฺพํฯ โน เจ อธิเฎฺฐยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya eko bhikkhu viharati. Tena, bhikkhave, bhikkhunā yattha bhikkhū paṭikkamanti upaṭṭhānasālāya vā maṇḍape vā rukkhamūle vā, so deso sammajjitvā pānīyaṃ paribhojanīyaṃ upaṭṭhāpetvā āsanaṃ paññapetvā padīpaṃ katvā nisīditabbaṃ. Sace aññe bhikkhū āgacchanti, tehi saddhiṃ pavāretabbaṃ; no ce āgacchanti, ‘ajja me pavāraṇā’ti adhiṭṭhātabbaṃ. No ce adhiṭṭheyya, āpatti dukkaṭassa.
ตตฺร , ภิกฺขเว, ยตฺถ ปญฺจ ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา
Tatra , bhikkhave, yattha pañca bhikkhū viharanti, na ekassa pavāraṇaṃ āharitvā
จตูหิ สเงฺฆ ปวาเรตพฺพํฯ ปวาเรยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตีหิ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตพฺพํฯ ปวาเรยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ทฺวีหิ อญฺญมญฺญํ ปวาเรตพฺพํฯ ปวาเรยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ เทฺว ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา เอเกน อธิฎฺฐาตพฺพํฯ อธิเฎฺฐยฺย เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ
Catūhi saṅghe pavāretabbaṃ. Pavāreyyuṃ ce, āpatti dukkaṭassa. Tatra, bhikkhave, yattha cattāro bhikkhū viharanti, na ekassa pavāraṇaṃ āharitvā tīhi aññamaññaṃ pavāretabbaṃ. Pavāreyyuṃ ce, āpatti dukkaṭassa. Tatra, bhikkhave, yattha tayo bhikkhū viharanti, na ekassa pavāraṇaṃ āharitvā dvīhi aññamaññaṃ pavāretabbaṃ. Pavāreyyuṃ ce, āpatti dukkaṭassa. Tatra, bhikkhave, yattha dve bhikkhū viharanti, na ekassa pavāraṇaṃ āharitvā ekena adhiṭṭhātabbaṃ. Adhiṭṭheyya ce, āpatti dukkaṭassāti.
สงฺฆปวารณาทิปฺปเภทา นิฎฺฐิตาฯ
Saṅghapavāraṇādippabhedā niṭṭhitā.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ปวารณาทานานุชานนกถา • Pavāraṇādānānujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๒๑. ปวารณาเภทกถา • 121. Pavāraṇābhedakathā