Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา
Saṅghikacīvaruppādakathā
๓๖๓. ตุเยฺหว ภิกฺขุ ตานิ จีวรานีติ อญฺญตฺถ คเหตฺวา หฎานิปิ ตุเยฺหว; น เตสํ อโญฺญ โกจิ อิสฺสโรติฯ เอวญฺจ ปน วตฺวา อนาคเตปิ นิกฺกุกฺกุจฺจา คณฺหิสฺสนฺตีติ ทเสฺสตุํ อิธ ปนาติอาทิมาหฯ ตเสฺสว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภาราติ สเจ คณปูรเก ภิกฺขู ลภิตฺวา กถินํ อตฺถตํ โหติ, ปญฺจมาเส; โน เจ อตฺถตํ โหติ, เอกํ จีวรมาสเมวฯ ยํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา เทนฺติ, สเจปิ มตกจีวรํ อวิภชิตฺวา ตํ วิหารํ ปวิสนฺติ, ตํ สพฺพํ ตเสฺสว ภิกฺขุโน โหติฯ ยมฺปิ โส วสฺสาวาสตฺถาย วฑฺฒิํ ปโยเชตฺวา ฐปิตอุปนิเกฺขปโต วา ตตฺรุปฺปาทโต วา วสฺสาวาสิกํ คณฺหาติ, สพฺพํ สุคฺคหิตเมว โหติฯ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ, เยน เตนากาเรน สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนํ วตฺถํ อตฺถตกถินสฺส ปญฺจมาเส, อนตฺถตกถินสฺส เอกํ จีวรมาสํ ปาปุณาตีติฯ ยํ ปน ‘‘อิทํ อิธ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา วตฺวา ทินฺนํ, ตํ อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปญฺจมาเส ปาปุณาติฯ ตโต ปรํ ปน อุปฺปนฺนํ วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํ – ‘‘กิํ อตีตวเสฺส อิทํ วสฺสาวาสิกํ, อุทาหุ อนาคตวเสฺส’’ติ! กสฺมา? ปิฎฺฐิสมเย อุปฺปนฺนตฺตาฯ
363.Tuyheva bhikkhu tāni cīvarānīti aññattha gahetvā haṭānipi tuyheva; na tesaṃ añño koci issaroti. Evañca pana vatvā anāgatepi nikkukkuccā gaṇhissantīti dassetuṃ idha panātiādimāha. Tasseva tāni cīvarāni yāva kathinassa ubbhārāti sace gaṇapūrake bhikkhū labhitvā kathinaṃ atthataṃ hoti, pañcamāse; no ce atthataṃ hoti, ekaṃ cīvaramāsameva. Yaṃ ‘‘saṅghassa demā’’ti vā denti, ‘‘saṅghaṃ uddissa demā’’ti vā denti, ‘‘vassaṃvutthasaṅghassa demā’’ti vā denti, ‘‘vassāvāsikaṃ demā’’ti vā denti, sacepi matakacīvaraṃ avibhajitvā taṃ vihāraṃ pavisanti, taṃ sabbaṃ tasseva bhikkhuno hoti. Yampi so vassāvāsatthāya vaḍḍhiṃ payojetvā ṭhapitaupanikkhepato vā tatruppādato vā vassāvāsikaṃ gaṇhāti, sabbaṃ suggahitameva hoti. Idamettha lakkhaṇaṃ, yena tenākārena saṅghassa uppannaṃ vatthaṃ atthatakathinassa pañcamāse, anatthatakathinassa ekaṃ cīvaramāsaṃ pāpuṇātīti. Yaṃ pana ‘‘idaṃ idha vassaṃvutthasaṅghassa demā’’ti vā ‘‘vassāvāsikaṃ demā’’ti vā vatvā dinnaṃ, taṃ anatthatakathinassāpi pañcamāse pāpuṇāti. Tato paraṃ pana uppannaṃ vassāvāsikaṃ pucchitabbaṃ – ‘‘kiṃ atītavasse idaṃ vassāvāsikaṃ, udāhu anāgatavasse’’ti! Kasmā? Piṭṭhisamaye uppannattā.
อุตุกาลนฺติ วสฺสานโต อญฺญํ กาลํฯ ตานิ จีวรานิ อาทาย สาวตฺถิํ คนฺตฺวาติ เอตฺถ ตานิ จีวรานิ คตคตฎฺฐาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ, ภิกฺขูหิ ทิฎฺฐมตฺตเมเวตฺถ ปมาณํฯ ตสฺมา สเจ เกจิ ปฎิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘กุหิํ อาวุโส คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘กิํ อาวุโส มยํ สโงฺฆ น โหมา’’ติ ตเตฺถว ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตานิฯ สเจปิ เอส มคฺคา โอกฺกมิตฺวา กญฺจิ วิหารํ วา อาสนสาลํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต เอกํ เคหเมว วา ปวิสติ, ตตฺร จ นํ ภิกฺขู ทิสฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตาเนวฯ
Utukālanti vassānato aññaṃ kālaṃ. Tāni cīvarāni ādāya sāvatthiṃ gantvāti ettha tāni cīvarāni gatagataṭṭhāne saṅghikāneva honti, bhikkhūhi diṭṭhamattamevettha pamāṇaṃ. Tasmā sace keci paṭipathaṃ āgacchantā ‘‘kuhiṃ āvuso gacchasī’’ti pucchitvā tamatthaṃ sutvā ‘‘kiṃ āvuso mayaṃ saṅgho na homā’’ti tattheva bhājetvā gaṇhanti, suggahitāni. Sacepi esa maggā okkamitvā kañci vihāraṃ vā āsanasālaṃ vā piṇḍāya caranto ekaṃ gehameva vā pavisati, tatra ca naṃ bhikkhū disvā tamatthaṃ pucchitvā bhājetvā gaṇhanti, suggahitāneva.
อธิฎฺฐาตุนฺติ เอตฺถ อธิฎฺฐหเนฺตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ ฯ เตน หิ ภิกฺขุนา ฆณฺฎิํ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา สเจ ฆณฺฎิสญฺญาย วา กาลสญฺญาย วา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธิํ ภาเชตพฺพานิฯ โน เจ อาคจฺฉนฺติ, ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานิ ปาปุณนฺตี’’ติ อธิฎฺฐาตพฺพานิฯ เอวํ อธิฎฺฐิเต สพฺพานิ ตเสฺสว โหนฺติ, ฐิติกา ปน น ติฎฺฐติฯ
Adhiṭṭhātunti ettha adhiṭṭhahantena vattaṃ jānitabbaṃ . Tena hi bhikkhunā ghaṇṭiṃ paharitvā kālaṃ ghosetvā thokaṃ āgametvā sace ghaṇṭisaññāya vā kālasaññāya vā bhikkhū āgacchanti, tehi saddhiṃ bhājetabbāni. No ce āgacchanti, ‘‘mayhimāni cīvarāni pāpuṇantī’’ti adhiṭṭhātabbāni. Evaṃ adhiṭṭhite sabbāni tasseva honti, ṭhitikā pana na tiṭṭhati.
สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อยํ ปฐมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ คณฺหาติ, คหิตานิ จ สุคฺคหิตานิ โหนฺติ, ฐิติกา จ ติฎฺฐติฯ เอวํ ปาเปตฺวา คณฺหเนฺตนาปิ อธิฎฺฐิตเมว โหติฯ สเจ ปน ฆณฺฎิํ ปหริตฺวา วา อปฺปหริตฺวา วา กาลมฺปิ โฆเสตฺวา วา อโฆเสตฺวา วา ‘‘อหเมเวตฺถ มยฺหเมว อิมานิ จีวรานี’’ติ คณฺหาติ, ทุคฺคหิตานิ โหนฺติฯ อถ ‘‘อโญฺญ โกจิ อิธ นตฺถิ, มยฺหํ เอตานิ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิฯ
Sace ekekaṃ uddharitvā ‘‘ayaṃ paṭhamabhāgo mayhaṃ pāpuṇāti, ayaṃ dutiyabhāgo’’ti evaṃ gaṇhāti, gahitāni ca suggahitāni honti, ṭhitikā ca tiṭṭhati. Evaṃ pāpetvā gaṇhantenāpi adhiṭṭhitameva hoti. Sace pana ghaṇṭiṃ paharitvā vā appaharitvā vā kālampi ghosetvā vā aghosetvā vā ‘‘ahamevettha mayhameva imāni cīvarānī’’ti gaṇhāti, duggahitāni honti. Atha ‘‘añño koci idha natthi, mayhaṃ etāni pāpuṇantī’’ti gaṇhāti, suggahitāni.
ปาติเต กุเสติ เอกโกฎฺฐาเส กุสทณฺฑเก ปาติตมเตฺต สเจปิ ภิกฺขุสหสฺสํ โหติ, คหิตเมว นาม จีวรํฯ นากามา ภาโค ทาตโพฺพฯ สเจ ปน อตฺตโน รุจิยา ทาตุกามา โหนฺติ, เทนฺตุฯ อนุภาเคปิ เอเสว นโยฯ
Pātite kuseti ekakoṭṭhāse kusadaṇḍake pātitamatte sacepi bhikkhusahassaṃ hoti, gahitameva nāma cīvaraṃ. Nākāmā bhāgo dātabbo. Sace pana attano ruciyā dātukāmā honti, dentu. Anubhāgepi eseva nayo.
สจีวรานีติ ‘‘กาลจีวรมฺปิ สงฺฆสฺส อิโตว ทสฺสาม, วิสุํ สชฺชิยมาเน อติจิรํ โหตี’’ติ ขิปฺปํเยว สจีวรานิ ภตฺตานิ อกํสุฯ เถเร อาคมฺม อุปฺปนฺนานีติ ตุเมฺหสุ ปสาเทน ขิปฺปํ อุปฺปนฺนานิฯ
Sacīvarānīti ‘‘kālacīvarampi saṅghassa itova dassāma, visuṃ sajjiyamāne aticiraṃ hotī’’ti khippaṃyeva sacīvarāni bhattāni akaṃsu. There āgamma uppannānīti tumhesu pasādena khippaṃ uppannāni.
สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ เทนฺตีติ สกลมฺปิ จีวรกาลํ สณิกํ สณิกํ เทนฺติเยวฯ ปุริเมสุ ปน ทฺวีสุ วตฺถูสุ ปจฺฉินฺนทานตฺตา อทํสูติ วุตฺตํฯ สมฺพหุลา เถราติ วินยธรปาโมกฺขเถราฯ อิทํ ปน วตฺถุํ สทฺธิํ ปุริเมน เทฺวภาติกวตฺถุนา ปรินิพฺพุเต ภควติ อุปฺปนฺนํ, อิเม จ เถรา ทิฎฺฐปุพฺพา ตถาคตํ, ตสฺมา ปุริเมสุ วตฺถูสุ ตถาคเตน ปญฺญตฺตนเยเนว กเถสุํฯ
Saṅghassa demāti cīvarāni dentīti sakalampi cīvarakālaṃ saṇikaṃ saṇikaṃ dentiyeva. Purimesu pana dvīsu vatthūsu pacchinnadānattā adaṃsūti vuttaṃ. Sambahulā therāti vinayadharapāmokkhatherā. Idaṃ pana vatthuṃ saddhiṃ purimena dvebhātikavatthunā parinibbute bhagavati uppannaṃ, ime ca therā diṭṭhapubbā tathāgataṃ, tasmā purimesu vatthūsu tathāgatena paññattanayeneva kathesuṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒๒๒. สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา • 222. Saṅghikacīvaruppādakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา • Saṅghikacīvaruppādakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา • Saṅghikacīvaruppādakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา • Saṅghikacīvaruppādakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๒๒. สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา • 222. Saṅghikacīvaruppādakathā