Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๙๑. สงฺฆุโปสถาทิปฺปเภทํ

    91. Saṅghuposathādippabhedaṃ

    ๑๖๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปญฺญตฺตํ ‘อุโปสโถ กาตโพฺพ’ติ, มยญฺจมฺหา จตฺตาโร ชนา, กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุนฺติฯ

    168. Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahuposathe cattāro bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā paññattaṃ ‘uposatho kātabbo’ti, mayañcamhā cattāro janā, kathaṃ nu kho amhehi uposatho kātabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, catunnaṃ pātimokkhaṃ uddisitunti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, มยญฺจมฺหา ตโย ชนา, กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตโพฺพฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –

    Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahuposathe tayo bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ catunnaṃ pātimokkhaṃ uddisituṃ, mayañcamhā tayo janā, kathaṃ nu kho amhehi uposatho kātabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, tiṇṇaṃ pārisuddhiuposathaṃ kātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, kātabbo. Byattena bhikkhunā paṭibalena te bhikkhū ñāpetabbā –

    ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตาฯ อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโสฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติฯ

    ‘‘Suṇantu me āyasmantā. Ajjuposatho pannaraso. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, mayaṃ aññamaññaṃ pārisuddhiuposathaṃ kareyyāmā’’ti.

    เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถา’’ติฯ

    Therena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhārethā’’ti.

    นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถา’’ติฯ

    Navakena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā te bhikkhū evamassu vacanīyā – ‘‘parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhārethā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ เทฺว ภิกฺขู วิหรนฺติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํฯ มยญฺจมฺหา เทฺว ชนาฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ ฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตโพฺพฯ เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา นโว ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรหิฯ ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรหิฯ ปริสุโทฺธ อหํ, อาวุโส; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรหี’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahuposathe dve bhikkhū viharanti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ catunnaṃ pātimokkhaṃ uddisituṃ, tiṇṇannaṃ pārisuddhiuposathaṃ kātuṃ. Mayañcamhā dve janā. Kathaṃ nu kho amhehi uposatho kātabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dvinnaṃ pārisuddhiuposathaṃ kātuṃ . Evañca pana, bhikkhave, kātabbo. Therena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā navo bhikkhu evamassa vacanīyo – ‘‘parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhārehi. Parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhārehi. Parisuddho ahaṃ, āvuso; parisuddhoti maṃ dhārehī’’ti.

    นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เถโร ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถฯ ปริสุโทฺธ อหํ, ภเนฺต; ปริสุโทฺธติ มํ ธาเรถา’’ติฯ

    Navakena bhikkhunā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā thero bhikkhu evamassa vacanīyo – ‘‘parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhāretha. Parisuddho ahaṃ, bhante; parisuddhoti maṃ dhārethā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ เอโก ภิกฺขุ วิหรติฯ อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํฯ อหญฺจมฺหิ เอกโกฯ กถํ นุ โข มยา อุโปสโถ กาตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ เอโก ภิกฺขุ วิหรติฯ เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ยตฺถ ภิกฺขู ปฎิกฺกมนฺติ อุปฎฺฐานสาลาย วา, มณฺฑเป วา, รุกฺขมูเล วา, โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปตฺวา อาสนํ ปญฺญเปตฺวา ปทีปํ กตฺวา นิสีทิตพฺพํฯ สเจ อเญฺญ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธิํ อุโปสโถ กาตโพฺพฯ โน เจ อาคจฺฉนฺติ, อชฺช เม อุโปสโถติ อธิฎฺฐาตโพฺพฯ โน เจ อธิฎฺฐเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahuposathe eko bhikkhu viharati. Atha kho tassa bhikkhuno etadahosi – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ catunnaṃ pātimokkhaṃ uddisituṃ, tiṇṇannaṃ pārisuddhiuposathaṃ kātuṃ, dvinnaṃ pārisuddhiuposathaṃ kātuṃ. Ahañcamhi ekako. Kathaṃ nu kho mayā uposatho kātabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahuposathe eko bhikkhu viharati. Tena, bhikkhave, bhikkhunā yattha bhikkhū paṭikkamanti upaṭṭhānasālāya vā, maṇḍape vā, rukkhamūle vā, so deso sammajjitvā pānīyaṃ paribhojanīyaṃ upaṭṭhāpetvā āsanaṃ paññapetvā padīpaṃ katvā nisīditabbaṃ. Sace aññe bhikkhū āgacchanti, tehi saddhiṃ uposatho kātabbo. No ce āgacchanti, ajja me uposathoti adhiṭṭhātabbo. No ce adhiṭṭhaheyya, āpatti dukkaṭassa.

    ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ตีหิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํฯ อุทฺทิเสยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ทฺวีหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตโพฺพฯ กเรยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ เทฺว ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา เอเกน อธิฎฺฐาตโพฺพฯ อธิฎฺฐเหยฺย เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ

    Tatra, bhikkhave, yattha cattāro bhikkhū viharanti, na ekassa pārisuddhiṃ āharitvā tīhi pātimokkhaṃ uddisitabbaṃ. Uddiseyyuṃ ce, āpatti dukkaṭassa. Tatra, bhikkhave, yattha tayo bhikkhū viharanti, na ekassa pārisuddhiṃ āharitvā dvīhi pārisuddhiuposatho kātabbo. Kareyyuṃ ce, āpatti dukkaṭassa. Tatra, bhikkhave, yattha dve bhikkhū viharanti, na ekassa pārisuddhiṃ āharitvā ekena adhiṭṭhātabbo. Adhiṭṭhaheyya ce, āpatti dukkaṭassāti.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / สงฺฆุโปสถาทิกถา • Saṅghuposathādikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สงฺฆุโปสถาทิกถาวณฺณนา • Saṅghuposathādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ฉนฺททานกถาทิวณฺณนา • Chandadānakathādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๙๑. สงฺฆุโปสถาทิกถา • 91. Saṅghuposathādikathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact