Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya

    ๑๐. สงฺคีติสุตฺตํ

    10. Saṅgītisuttaṃ

    ๒๙๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มเลฺลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน ปาวา นาม มลฺลานํ นครํ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเนฯ

    296. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā mallesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi yena pāvā nāma mallānaṃ nagaraṃ tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā pāvāyaṃ viharati cundassa kammāraputtassa ambavane.

    อุพฺภตกนวสนฺธาคารํ

    Ubbhatakanavasandhāgāraṃ

    ๒๙๗. เตน โข ปน สมเยน ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ อุพฺภตกํ นาม นวํ สนฺธาคารํ 1 อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฎฺฐํ 2 สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ อโสฺสสุํ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา – ‘‘ภควา กิร มเลฺลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ ปาวํ อนุปฺปโตฺต ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน’’ติฯ อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภเนฺต, ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ อุพฺภตกํ นาม นวํ สนฺธาคารํ อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฎฺฐํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ ตญฺจ โข, ภเนฺต, ภควา ปฐมํ ปริภุญฺชตุ, ภควตา ปฐมํ ปริภุตฺตํ ปจฺฉา ปาเวยฺยกา มลฺลา ปริภุญฺชิสฺสนฺติฯ ตทสฺส ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ อธิวาเสสิ โข ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    297. Tena kho pana samayena pāveyyakānaṃ mallānaṃ ubbhatakaṃ nāma navaṃ sandhāgāraṃ 3 acirakāritaṃ hoti anajjhāvuṭṭhaṃ 4 samaṇena vā brāhmaṇena vā kenaci vā manussabhūtena. Assosuṃ kho pāveyyakā mallā – ‘‘bhagavā kira mallesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi pāvaṃ anuppatto pāvāyaṃ viharati cundassa kammāraputtassa ambavane’’ti. Atha kho pāveyyakā mallā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho pāveyyakā mallā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘idha, bhante, pāveyyakānaṃ mallānaṃ ubbhatakaṃ nāma navaṃ sandhāgāraṃ acirakāritaṃ hoti anajjhāvuṭṭhaṃ samaṇena vā brāhmaṇena vā kenaci vā manussabhūtena. Tañca kho, bhante, bhagavā paṭhamaṃ paribhuñjatu, bhagavatā paṭhamaṃ paribhuttaṃ pacchā pāveyyakā mallā paribhuñjissanti. Tadassa pāveyyakānaṃ mallānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Adhivāsesi kho bhagavā tuṇhībhāvena.

    ๒๙๘. อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถริํ 5 สนฺธาคารํ สนฺถริตฺวา ภควโต อาสนานิ ปญฺญาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฎฺฐเปตฺวา เตลปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เต ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ 6, ภเนฺต, สนฺธาคารํ, ภควโต อาสนานิ ปญฺญตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฎฺฐาปิโต, เตลปทีโป อาโรปิโตฯ ยสฺสทานิ, ภเนฺต, ภควา กาลํ มญฺญตี’’ติฯ

    298. Atha kho pāveyyakā mallā bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā yena sandhāgāraṃ tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā sabbasanthariṃ 7 sandhāgāraṃ santharitvā bhagavato āsanāni paññāpetvā udakamaṇikaṃ patiṭṭhapetvā telapadīpaṃ āropetvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhaṃsu. Ekamantaṃ ṭhitā kho te pāveyyakā mallā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘sabbasantharisanthataṃ 8, bhante, sandhāgāraṃ, bhagavato āsanāni paññattāni, udakamaṇiko patiṭṭhāpito, telapadīpo āropito. Yassadāni, bhante, bhagavā kālaṃ maññatī’’ti.

    ๒๙๙. อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆน เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิฯ ภิกฺขุสโงฺฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺติํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ ปาเวยฺยกาปิ โข มลฺลา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺติํ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทิํสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ อถ โข ภควา ปาเวยฺยเก มเลฺล พหุเทว รตฺติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุโยฺยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, วาเสฎฺฐา, รตฺติฯ ยสฺสทานิ ตุเมฺห กาลํ มญฺญถา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ

    299. Atha kho bhagavā nivāsetvā pattacīvaramādāya saddhiṃ bhikkhusaṅghena yena sandhāgāraṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā pāde pakkhāletvā sandhāgāraṃ pavisitvā majjhimaṃ thambhaṃ nissāya puratthābhimukho nisīdi. Bhikkhusaṅghopi kho pāde pakkhāletvā sandhāgāraṃ pavisitvā pacchimaṃ bhittiṃ nissāya puratthābhimukho nisīdi bhagavantaṃyeva purakkhatvā. Pāveyyakāpi kho mallā pāde pakkhāletvā sandhāgāraṃ pavisitvā puratthimaṃ bhittiṃ nissāya pacchimābhimukhā nisīdiṃsu bhagavantaṃyeva purakkhatvā. Atha kho bhagavā pāveyyake malle bahudeva rattiṃ dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uyyojesi – ‘‘abhikkantā kho, vāseṭṭhā, ratti. Yassadāni tumhe kālaṃ maññathā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho pāveyyakā mallā bhagavato paṭissutvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu.

    ๓๐๐. อถ โข ภควา อจิรปกฺกเนฺตสุ ปาเวยฺยเกสุ มเลฺลสุ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสํฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘‘วิคตถินมิโทฺธ 9 โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสโงฺฆฯ ปฎิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมีกถาฯ ปิฎฺฐิ เม อาคิลายติฯ ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ 10ฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฎิํ ปญฺญเปตฺวา ทกฺขิเณน ปเสฺสน สีหเสยฺยํ กเปฺปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฎฺฐานสญฺญํ มนสิ กริตฺวาฯ

    300. Atha kho bhagavā acirapakkantesu pāveyyakesu mallesu tuṇhībhūtaṃ tuṇhībhūtaṃ bhikkhusaṃghaṃ anuviloketvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ āmantesi – ‘‘vigatathinamiddho 11 kho, sāriputta, bhikkhusaṅgho. Paṭibhātu taṃ, sāriputta, bhikkhūnaṃ dhammīkathā. Piṭṭhi me āgilāyati. Tamahaṃ āyamissāmī’’ti 12. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā sāriputto bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā catugguṇaṃ saṅghāṭiṃ paññapetvā dakkhiṇena passena sīhaseyyaṃ kappesi pāde pādaṃ accādhāya, sato sampajāno uṭṭhānasaññaṃ manasi karitvā.

    ภินฺนนิคณฺฐวตฺถุ

    Bhinnanigaṇṭhavatthu

    ๓๐๑. เตน โข ปน สมเยน นิคโณฺฐ นาฎปุโตฺต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต โหติฯ ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺฐา เทฺวธิกชาตา 13 ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ 14 – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กิํ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ! มิจฺฉาปฎิปโนฺน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฎิปโนฺนฯ สหิตํ เม, อสหิตํ เตฯ ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจฯ อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิเพฺพเฐหิ วา สเจ ปโหสี’’ติฯ วโธเยว โข มเญฺญ นิคเณฺฐสุ นาฎปุตฺติเยสุ วตฺตติฯ เยปิ 15 นิคณฺฐสฺส นาฎปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา , เตปิ นิคเณฺฐสุ นาฎปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา วิรตฺตรูปา ปฎิวานรูปา, ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฎิสรเณฯ

    301. Tena kho pana samayena nigaṇṭho nāṭaputto pāvāyaṃ adhunākālaṅkato hoti. Tassa kālaṅkiriyāya bhinnā nigaṇṭhā dvedhikajātā 16 bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharanti 17 – ‘‘na tvaṃ imaṃ dhammavinayaṃ ājānāsi, ahaṃ imaṃ dhammavinayaṃ ājānāmi, kiṃ tvaṃ imaṃ dhammavinayaṃ ājānissasi! Micchāpaṭipanno tvamasi, ahamasmi sammāpaṭipanno. Sahitaṃ me, asahitaṃ te. Purevacanīyaṃ pacchā avaca, pacchāvacanīyaṃ pure avaca. Adhiciṇṇaṃ te viparāvattaṃ, āropito te vādo, niggahito tvamasi, cara vādappamokkhāya, nibbeṭhehi vā sace pahosī’’ti. Vadhoyeva kho maññe nigaṇṭhesu nāṭaputtiyesu vattati. Yepi 18 nigaṇṭhassa nāṭaputtassa sāvakā gihī odātavasanā , tepi nigaṇṭhesu nāṭaputtiyesu nibbinnarūpā virattarūpā paṭivānarūpā, yathā taṃ durakkhāte dhammavinaye duppavedite aniyyānike anupasamasaṃvattanike asammāsambuddhappavedite bhinnathūpe appaṭisaraṇe.

    ๓๐๒. อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘นิคโณฺฐ, อาวุโส, นาฎปุโตฺต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต, ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺฐา เทฺวธิกชาตา…เป.… ภินฺนถูเป อปฺปฎิสรเณ’’ฯ ‘‘เอวเญฺหตํ, อาวุโส, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ อยํ โข ปนาวุโส อมฺหากํ 19 ภควตา 20 ธโมฺม สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโตฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    302. Atha kho āyasmā sāriputto bhikkhū āmantesi – ‘‘nigaṇṭho, āvuso, nāṭaputto pāvāyaṃ adhunākālaṅkato, tassa kālaṅkiriyāya bhinnā nigaṇṭhā dvedhikajātā…pe… bhinnathūpe appaṭisaraṇe’’. ‘‘Evañhetaṃ, āvuso, hoti durakkhāte dhammavinaye duppavedite aniyyānike anupasamasaṃvattanike asammāsambuddhappavedite. Ayaṃ kho panāvuso amhākaṃ 21 bhagavatā 22 dhammo svākkhāto suppavedito niyyāniko upasamasaṃvattaniko sammāsambuddhappavedito. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ‘‘กตโม จาวุโส, อมฺหากํ ภควตา 23 ธโมฺม สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต; ยตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ?

    ‘‘Katamo cāvuso, amhākaṃ bhagavatā 24 dhammo svākkhāto suppavedito niyyāniko upasamasaṃvattaniko sammāsambuddhappavedito; yattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ?

    เอกกํ

    Ekakaṃ

    ๓๐๓. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน เอโก ธโมฺม สมฺมทกฺขาโตฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ , ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตโม เอโก ธโมฺม? สเพฺพ สตฺตา อาหารฎฺฐิติกาฯ สเพฺพ สตฺตา สงฺขารฎฺฐิติกาฯ อยํ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน เอโก ธโมฺม สมฺมทกฺขาโตฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ , ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    303. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena eko dhammo sammadakkhāto. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ , tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katamo eko dhammo? Sabbe sattā āhāraṭṭhitikā. Sabbe sattā saṅkhāraṭṭhitikā. Ayaṃ kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena eko dhammo sammadakkhāto. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ , yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ทุกํ

    Dukaṃ

    ๓๐๔. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน เทฺว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม เทฺว 25?

    304. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena dve dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame dve 26?

    ‘‘นามญฺจ รูปญฺจฯ

    ‘‘Nāmañca rūpañca.

    ‘‘อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จฯ

    ‘‘Avijjā ca bhavataṇhā ca.

    ‘‘ภวทิฎฺฐิ จ วิภวทิฎฺฐิ จฯ

    ‘‘Bhavadiṭṭhi ca vibhavadiṭṭhi ca.

    ‘‘อหิริกญฺจ 27 อโนตฺตปฺปญฺจฯ

    ‘‘Ahirikañca 28 anottappañca.

    ‘‘หิรี จ โอตฺตปฺปญฺจฯ

    ‘‘Hirī ca ottappañca.

    ‘‘โทวจสฺสตา จ ปาปมิตฺตตา จฯ

    ‘‘Dovacassatā ca pāpamittatā ca.

    ‘‘โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จฯ

    ‘‘Sovacassatā ca kalyāṇamittatā ca.

    ‘‘อาปตฺติกุสลตา จ อาปตฺติวุฎฺฐานกุสลตา จฯ

    ‘‘Āpattikusalatā ca āpattivuṭṭhānakusalatā ca.

    ‘‘สมาปตฺติกุสลตา จ สมาปตฺติวุฎฺฐานกุสลตา จฯ

    ‘‘Samāpattikusalatā ca samāpattivuṭṭhānakusalatā ca.

    ‘‘ธาตุกุสลตา จ มนสิการกุสลตา จฯ

    ‘‘Dhātukusalatā ca manasikārakusalatā ca.

    ‘‘อายตนกุสลตา จ ปฎิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา จฯ

    ‘‘Āyatanakusalatā ca paṭiccasamuppādakusalatā ca.

    ‘‘ฐานกุสลตา จ อฎฺฐานกุสลตา จฯ

    ‘‘Ṭhānakusalatā ca aṭṭhānakusalatā ca.

    ‘‘อชฺชวญฺจ ลชฺชวญฺจฯ

    ‘‘Ajjavañca lajjavañca.

    ‘‘ขนฺติ จ โสรจฺจญฺจฯ

    ‘‘Khanti ca soraccañca.

    ‘‘สาขลฺยญฺจ ปฎิสนฺถาโร จฯ

    ‘‘Sākhalyañca paṭisanthāro ca.

    ‘‘อวิหิํสา จ โสเจยฺยญฺจฯ

    ‘‘Avihiṃsā ca soceyyañca.

    ‘‘มุฎฺฐสฺสจฺจญฺจ อสมฺปชญฺญญฺจฯ

    ‘‘Muṭṭhassaccañca asampajaññañca.

    ‘‘สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ ฯ

    ‘‘Sati ca sampajaññañca .

    ‘‘อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา จ โภชเน อมตฺตญฺญุตา จฯ

    ‘‘Indriyesu aguttadvāratā ca bhojane amattaññutā ca.

    ‘‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา จ โภชเน มตฺตญฺญุตา จฯ

    ‘‘Indriyesu guttadvāratā ca bhojane mattaññutā ca.

    ‘‘ปฎิสงฺขานพลญฺจ 29 ภาวนาพลญฺจฯ

    ‘‘Paṭisaṅkhānabalañca 30 bhāvanābalañca.

    ‘‘สติพลญฺจ สมาธิพลญฺจฯ

    ‘‘Satibalañca samādhibalañca.

    ‘‘สมโถ จ วิปสฺสนา จฯ

    ‘‘Samatho ca vipassanā ca.

    ‘‘สมถนิมิตฺตญฺจ ปคฺคหนิมิตฺตญฺจฯ

    ‘‘Samathanimittañca paggahanimittañca.

    ‘‘ปคฺคโห จ อวิเกฺขโป จฯ

    ‘‘Paggaho ca avikkhepo ca.

    ‘‘สีลวิปตฺติ จ ทิฎฺฐิวิปตฺติ จฯ

    ‘‘Sīlavipatti ca diṭṭhivipatti ca.

    ‘‘สีลสมฺปทา จ ทิฎฺฐิสมฺปทา จฯ

    ‘‘Sīlasampadā ca diṭṭhisampadā ca.

    ‘‘สีลวิสุทฺธิ จ ทิฎฺฐิวิสุทฺธิ จฯ

    ‘‘Sīlavisuddhi ca diṭṭhivisuddhi ca.

    ‘‘ทิฎฺฐิวิสุทฺธิ โข ปน ยถา ทิฎฺฐิสฺส จ ปธานํฯ

    ‘‘Diṭṭhivisuddhi kho pana yathā diṭṭhissa ca padhānaṃ.

    ‘‘สํเวโค จ สํเวชนีเยสุ ฐาเนสุ สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธานํฯ

    ‘‘Saṃvego ca saṃvejanīyesu ṭhānesu saṃviggassa ca yoniso padhānaṃ.

    ‘‘อสนฺตุฎฺฐิตา จ กุสเลสุ ธเมฺมสุ อปฺปฎิวานิตา จ ปธานสฺมิํฯ

    ‘‘Asantuṭṭhitā ca kusalesu dhammesu appaṭivānitā ca padhānasmiṃ.

    ‘‘วิชฺชา จ วิมุตฺติ จฯ

    ‘‘Vijjā ca vimutti ca.

    ‘‘ขเยญาณํ อนุปฺปาเทญาณํฯ

    ‘‘Khayeñāṇaṃ anuppādeñāṇaṃ.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน เทฺว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena dve dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ติกํ

    Tikaṃ

    ๓๐๕. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ตโย ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม ตโย?

    305. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena tayo dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame tayo?

    ‘‘ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํฯ

    ‘‘Tīṇi akusalamūlāni – lobho akusalamūlaṃ, doso akusalamūlaṃ, moho akusalamūlaṃ.

    ‘‘ตีณิ กุสลมูลานิ – อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํฯ

    ‘‘Tīṇi kusalamūlāni – alobho kusalamūlaṃ, adoso kusalamūlaṃ, amoho kusalamūlaṃ.

    ‘‘ตีณิ ทุจฺจริตานิ – กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํฯ

    ‘‘Tīṇi duccaritāni – kāyaduccaritaṃ, vacīduccaritaṃ, manoduccaritaṃ.

    ‘‘ตีณิ สุจริตานิ – กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ , มโนสุจริตํฯ

    ‘‘Tīṇi sucaritāni – kāyasucaritaṃ, vacīsucaritaṃ , manosucaritaṃ.

    ‘‘ตโย อกุสลวิตกฺกา – กามวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตโกฺก, วิหิํสาวิตโกฺกฯ

    ‘‘Tayo akusalavitakkā – kāmavitakko, byāpādavitakko, vihiṃsāvitakko.

    ‘‘ตโย กุสลวิตกฺกา – เนกฺขมฺมวิตโกฺก, อพฺยาปาทวิตโกฺก, อวิหิํสาวิตโกฺกฯ

    ‘‘Tayo kusalavitakkā – nekkhammavitakko, abyāpādavitakko, avihiṃsāvitakko.

    ‘‘ตโย อกุสลสงฺกปฺปา – กามสงฺกโปฺป, พฺยาปาทสงฺกโปฺป, วิหิํสาสงฺกโปฺปฯ

    ‘‘Tayo akusalasaṅkappā – kāmasaṅkappo, byāpādasaṅkappo, vihiṃsāsaṅkappo.

    ‘‘ตโย กุสลสงฺกปฺปา – เนกฺขมฺมสงฺกโปฺป, อพฺยาปาทสงฺกโปฺป, อวิหิํสาสงฺกโปฺปฯ

    ‘‘Tayo kusalasaṅkappā – nekkhammasaṅkappo, abyāpādasaṅkappo, avihiṃsāsaṅkappo.

    ‘‘ติโสฺส อกุสลสญฺญา – กามสญฺญา, พฺยาปาทสญฺญา, วิหิํสาสญฺญาฯ

    ‘‘Tisso akusalasaññā – kāmasaññā, byāpādasaññā, vihiṃsāsaññā.

    ‘‘ติโสฺส กุสลสญฺญา – เนกฺขมฺมสญฺญา, อพฺยาปาทสญฺญา, อวิหิํสาสญฺญาฯ

    ‘‘Tisso kusalasaññā – nekkhammasaññā, abyāpādasaññā, avihiṃsāsaññā.

    ‘‘ติโสฺส อกุสลธาตุโย – กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหิํสาธาตุฯ

    ‘‘Tisso akusaladhātuyo – kāmadhātu, byāpādadhātu, vihiṃsādhātu.

    ‘‘ติโสฺส กุสลธาตุโย – เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหิํสาธาตุฯ

    ‘‘Tisso kusaladhātuyo – nekkhammadhātu, abyāpādadhātu, avihiṃsādhātu.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ธาตุโย – กามธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุฯ

    ‘‘Aparāpi tisso dhātuyo – kāmadhātu, rūpadhātu, arūpadhātu.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ธาตุโย – รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุฯ

    ‘‘Aparāpi tisso dhātuyo – rūpadhātu, arūpadhātu, nirodhadhātu.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ธาตุโย – หีนธาตุ, มชฺฌิมธาตุ, ปณีตธาตุฯ

    ‘‘Aparāpi tisso dhātuyo – hīnadhātu, majjhimadhātu, paṇītadhātu.

    ‘‘ติโสฺส ตณฺหา – กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาฯ

    ‘‘Tisso taṇhā – kāmataṇhā, bhavataṇhā, vibhavataṇhā.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ตณฺหา – กามตณฺหา, รูปตณฺหา, อรูปตณฺหาฯ

    ‘‘Aparāpi tisso taṇhā – kāmataṇhā, rūpataṇhā, arūpataṇhā.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ตณฺหา – รูปตณฺหา, อรูปตณฺหา, นิโรธตณฺหาฯ

    ‘‘Aparāpi tisso taṇhā – rūpataṇhā, arūpataṇhā, nirodhataṇhā.

    ‘‘ตีณิ สํโยชนานิ – สกฺกายทิฎฺฐิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโสฯ

    ‘‘Tīṇi saṃyojanāni – sakkāyadiṭṭhi, vicikicchā, sīlabbataparāmāso.

    ‘‘ตโย อาสวา – กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโวฯ

    ‘‘Tayo āsavā – kāmāsavo, bhavāsavo, avijjāsavo.

    ‘‘ตโย ภวา – กามภโว, รูปภโว, อรูปภโวฯ

    ‘‘Tayo bhavā – kāmabhavo, rūpabhavo, arūpabhavo.

    ‘‘ติโสฺส เอสนา – กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนาฯ

    ‘‘Tisso esanā – kāmesanā, bhavesanā, brahmacariyesanā.

    ‘‘ติโสฺส วิธา – เสโยฺยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธาฯ

    ‘‘Tisso vidhā – seyyohamasmīti vidhā, sadisohamasmīti vidhā, hīnohamasmīti vidhā.

    ‘‘ตโย อทฺธา – อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปโนฺน อทฺธาฯ

    ‘‘Tayo addhā – atīto addhā, anāgato addhā, paccuppanno addhā.

    ‘‘ตโย อนฺตา – สกฺกาโย อโนฺต, สกฺกายสมุทโย อโนฺต, สกฺกายนิโรโธ อโนฺตฯ

    ‘‘Tayo antā – sakkāyo anto, sakkāyasamudayo anto, sakkāyanirodho anto.

    ‘‘ติโสฺส เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนาฯ

    ‘‘Tisso vedanā – sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā.

    ‘‘ติโสฺส ทุกฺขตา – ทุกฺขทุกฺขตา, สงฺขารทุกฺขตา, วิปริณามทุกฺขตาฯ

    ‘‘Tisso dukkhatā – dukkhadukkhatā, saṅkhāradukkhatā, vipariṇāmadukkhatā.

    ‘‘ตโย ราสี – มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ, สมฺมตฺตนิยโต ราสิ, อนิยโต ราสิฯ

    ‘‘Tayo rāsī – micchattaniyato rāsi, sammattaniyato rāsi, aniyato rāsi.

    ‘‘ตโย ตมา 31 – อตีตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, อนาคตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, เอตรหิ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติฯ

    ‘‘Tayo tamā 32 – atītaṃ vā addhānaṃ ārabbha kaṅkhati vicikicchati nādhimuccati na sampasīdati, anāgataṃ vā addhānaṃ ārabbha kaṅkhati vicikicchati nādhimuccati na sampasīdati, etarahi vā paccuppannaṃ addhānaṃ ārabbha kaṅkhati vicikicchati nādhimuccati na sampasīdati.

    ‘‘ตีณิ ตถาคตสฺส อรเกฺขยฺยานิ – ปริสุทฺธกายสมาจาโร อาวุโส ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร อาวุโส, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธมโนสมาจาโร, อาวุโส, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส มโนทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ

    ‘‘Tīṇi tathāgatassa arakkheyyāni – parisuddhakāyasamācāro āvuso tathāgato, natthi tathāgatassa kāyaduccaritaṃ, yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhavacīsamācāro āvuso, tathāgato, natthi tathāgatassa vacīduccaritaṃ, yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhamanosamācāro, āvuso, tathāgato, natthi tathāgatassa manoduccaritaṃ yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti.

    ‘‘ตโย กิญฺจนา – ราโค กิญฺจนํ, โทโส กิญฺจนํ, โมโห กิญฺจนํฯ

    ‘‘Tayo kiñcanā – rāgo kiñcanaṃ, doso kiñcanaṃ, moho kiñcanaṃ.

    ‘‘ตโย อคฺคี – ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิฯ

    ‘‘Tayo aggī – rāgaggi, dosaggi, mohaggi.

    ‘‘อปเรปิ ตโย อคฺคี – อาหุเนยฺยคฺคิ, คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิฯ

    ‘‘Aparepi tayo aggī – āhuneyyaggi, gahapataggi, dakkhiṇeyyaggi.

    ‘‘ติวิเธน รูปสงฺคโห – สนิทสฺสนสปฺปฎิฆํ รูปํ 33, อนิทสฺสนสปฺปฎิฆํ รูปํ, อนิทสฺสนอปฺปฎิฆํ รูปํฯ

    ‘‘Tividhena rūpasaṅgaho – sanidassanasappaṭighaṃ rūpaṃ 34, anidassanasappaṭighaṃ rūpaṃ, anidassanaappaṭighaṃ rūpaṃ.

    ‘‘ตโย สงฺขารา – ปุญฺญาภิสงฺขาโร, อปุญฺญาภิสงฺขาโร , อาเนญฺชาภิสงฺขาโรฯ

    ‘‘Tayo saṅkhārā – puññābhisaṅkhāro, apuññābhisaṅkhāro , āneñjābhisaṅkhāro.

    ‘‘ตโย ปุคฺคลา – เสโกฺข ปุคฺคโล, อเสโกฺข ปุคฺคโล, เนวเสโกฺขนาเสโกฺข ปุคฺคโลฯ

    ‘‘Tayo puggalā – sekkho puggalo, asekkho puggalo, nevasekkhonāsekkho puggalo.

    ‘‘ตโย เถรา – ชาติเถโร, ธมฺมเถโร, สมฺมุติเถโร 35

    ‘‘Tayo therā – jātithero, dhammathero, sammutithero 36.

    ‘‘ตีณิ ปุญฺญกิริยวตฺถูนิ – ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุฯ

    ‘‘Tīṇi puññakiriyavatthūni – dānamayaṃ puññakiriyavatthu, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthu.

    ‘‘ตีณิ โจทนาวตฺถูนิ – ทิเฎฺฐน, สุเตน, ปริสงฺกายฯ

    ‘‘Tīṇi codanāvatthūni – diṭṭhena, sutena, parisaṅkāya.

    ‘‘ติโสฺส กามูปปตฺติโย 37 – สนฺตาวุโส สตฺตา ปจฺจุปฎฺฐิตกามา, เต ปจฺจุปฎฺฐิเตสุ กาเมสุ วสํ วเตฺตนฺติ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกเจฺจ จ เทวา เอกเจฺจ จ วินิปาติกาฯ อยํ ปฐมา กามูปปตฺติฯ สนฺตาวุโส, สตฺตา นิมฺมิตกามา, เต นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา กาเมสุ วสํ วเตฺตนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา นิมฺมานรตีฯ อยํ ทุติยา กามูปปตฺติฯ สนฺตาวุโส สตฺตา ปรนิมฺมิตกามา, เต ปรนิมฺมิเตสุ กาเมสุ วสํ วเตฺตนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีฯ อยํ ตติยา กามูปปตฺติฯ

    ‘‘Tisso kāmūpapattiyo 38 – santāvuso sattā paccupaṭṭhitakāmā, te paccupaṭṭhitesu kāmesu vasaṃ vattenti, seyyathāpi manussā ekacce ca devā ekacce ca vinipātikā. Ayaṃ paṭhamā kāmūpapatti. Santāvuso, sattā nimmitakāmā, te nimminitvā nimminitvā kāmesu vasaṃ vattenti, seyyathāpi devā nimmānaratī. Ayaṃ dutiyā kāmūpapatti. Santāvuso sattā paranimmitakāmā, te paranimmitesu kāmesu vasaṃ vattenti, seyyathāpi devā paranimmitavasavattī. Ayaṃ tatiyā kāmūpapatti.

    ‘‘ติโสฺส สุขูปปตฺติโย 39 – สนฺตาวุโส สตฺตา 40 อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปาเทตฺวา สุขํ วิหรนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกาฯ อยํ ปฐมา สุขูปปตฺติฯ สนฺตาวุโส, สตฺตา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนา ปริปูรา ปริปฺผุฎาฯ เต กทาจิ กรหจิ อุทานํ อุทาเนนฺติ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ , เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสราฯ อยํ ทุติยา สุขูปปตฺติฯ สนฺตาวุโส, สตฺตา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนา ปริปูรา ปริปฺผุฎาฯ เต สนฺตํเยว ตุสิตา 41 สุขํ 42 ปฎิสํเวเทนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาฯ อยํ ตติยา สุขูปปตฺติ ฯ

    ‘‘Tisso sukhūpapattiyo 43 – santāvuso sattā 44 uppādetvā uppādetvā sukhaṃ viharanti, seyyathāpi devā brahmakāyikā. Ayaṃ paṭhamā sukhūpapatti. Santāvuso, sattā sukhena abhisannā parisannā paripūrā paripphuṭā. Te kadāci karahaci udānaṃ udānenti – ‘aho sukhaṃ, aho sukha’nti , seyyathāpi devā ābhassarā. Ayaṃ dutiyā sukhūpapatti. Santāvuso, sattā sukhena abhisannā parisannā paripūrā paripphuṭā. Te santaṃyeva tusitā 45 sukhaṃ 46 paṭisaṃvedenti, seyyathāpi devā subhakiṇhā. Ayaṃ tatiyā sukhūpapatti .

    ‘‘ติโสฺส ปญฺญา – เสกฺขา ปญฺญา, อเสกฺขา ปญฺญา, เนวเสกฺขานาเสกฺขา ปญฺญาฯ

    ‘‘Tisso paññā – sekkhā paññā, asekkhā paññā, nevasekkhānāsekkhā paññā.

    ‘‘อปราปิ ติโสฺส ปญฺญา – จินฺตามยา ปญฺญา, สุตมยา ปญฺญา, ภาวนามยา ปญฺญาฯ

    ‘‘Aparāpi tisso paññā – cintāmayā paññā, sutamayā paññā, bhāvanāmayā paññā.

    ‘‘ตีณาวุธานิ – สุตาวุธํ, ปวิเวกาวุธํ, ปญฺญาวุธํฯ

    ‘‘Tīṇāvudhāni – sutāvudhaṃ, pavivekāvudhaṃ, paññāvudhaṃ.

    ‘‘ตีณินฺทฺริยานิ – อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ, อญฺญินฺทฺริยํ, อญฺญาตาวินฺทฺริยํฯ

    ‘‘Tīṇindriyāni – anaññātaññassāmītindriyaṃ, aññindriyaṃ, aññātāvindriyaṃ.

    ‘‘ตีณิ จกฺขูนิ – มํสจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปญฺญาจกฺขุฯ

    ‘‘Tīṇi cakkhūni – maṃsacakkhu, dibbacakkhu, paññācakkhu.

    ‘‘ติโสฺส สิกฺขา – อธิสีลสิกฺขา, อธิจิตฺตสิกฺขา, อธิปญฺญาสิกฺขาฯ

    ‘‘Tisso sikkhā – adhisīlasikkhā, adhicittasikkhā, adhipaññāsikkhā.

    ‘‘ติโสฺส ภาวนา – กายภาวนา, จิตฺตภาวนา, ปญฺญาภาวนาฯ

    ‘‘Tisso bhāvanā – kāyabhāvanā, cittabhāvanā, paññābhāvanā.

    ‘‘ตีณิ อนุตฺตริยานิ – ทสฺสนานุตฺตริยํ, ปฎิปทานุตฺตริยํ, วิมุตฺตานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Tīṇi anuttariyāni – dassanānuttariyaṃ, paṭipadānuttariyaṃ, vimuttānuttariyaṃ.

    ‘‘ตโย สมาธี – สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมโตฺต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิฯ

    ‘‘Tayo samādhī – savitakkasavicāro samādhi, avitakkavicāramatto samādhi, avitakkaavicāro samādhi.

    ‘‘อปเรปิ ตโย สมาธี – สุญฺญโต สมาธิ, อนิมิโตฺต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิฯ

    ‘‘Aparepi tayo samādhī – suññato samādhi, animitto samādhi, appaṇihito samādhi.

    ‘‘ตีณิ โสเจยฺยานิ – กายโสเจยฺยํ, วจีโสเจยฺยํ, มโนโสเจยฺยํฯ

    ‘‘Tīṇi soceyyāni – kāyasoceyyaṃ, vacīsoceyyaṃ, manosoceyyaṃ.

    ‘‘ตีณิ โมเนยฺยานิ – กายโมเนยฺยํ, วจีโมเนยฺยํ, มโนโมเนยฺยํฯ

    ‘‘Tīṇi moneyyāni – kāyamoneyyaṃ, vacīmoneyyaṃ, manomoneyyaṃ.

    ‘‘ตีณิ โกสลฺลานิ – อายโกสลฺลํ, อปายโกสลฺลํ, อุปายโกสลฺลํฯ

    ‘‘Tīṇi kosallāni – āyakosallaṃ, apāyakosallaṃ, upāyakosallaṃ.

    ‘‘ตโย มทา – อาโรคฺยมโท, โยพฺพนมโท, ชีวิตมโทฯ

    ‘‘Tayo madā – ārogyamado, yobbanamado, jīvitamado.

    ‘‘ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ – อตฺตาธิปเตยฺยํ, โลกาธิปเตยฺยํ, ธมฺมาธิปเตยฺยํฯ

    ‘‘Tīṇi ādhipateyyāni – attādhipateyyaṃ, lokādhipateyyaṃ, dhammādhipateyyaṃ.

    ‘‘ตีณิ กถาวตฺถูนิ – อตีตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ อโหสิ อตีตมทฺธาน’นฺติ; อนาคตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ ภวิสฺสติ อนาคตมทฺธาน’นฺติ; เอตรหิ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ โหติ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธาน’นฺติฯ

    ‘‘Tīṇi kathāvatthūni – atītaṃ vā addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ ahosi atītamaddhāna’nti; anāgataṃ vā addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ bhavissati anāgatamaddhāna’nti; etarahi vā paccuppannaṃ addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ hoti etarahi paccuppannaṃ addhāna’nti.

    ‘‘ติโสฺส วิชฺชา – ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณํ วิชฺชา, สตฺตานํ จุตูปปาเตญาณํ วิชฺชา, อาสวานํ ขเยญาณํ วิชฺชาฯ

    ‘‘Tisso vijjā – pubbenivāsānussatiñāṇaṃ vijjā, sattānaṃ cutūpapāteñāṇaṃ vijjā, āsavānaṃ khayeñāṇaṃ vijjā.

    ‘‘ตโย วิหารา – ทิโพฺพ วิหาโร, พฺรหฺมา วิหาโร, อริโย วิหาโรฯ

    ‘‘Tayo vihārā – dibbo vihāro, brahmā vihāro, ariyo vihāro.

    ‘‘ตีณิ ปาฎิหาริยานิ – อิทฺธิปาฎิหาริยํ, อาเทสนาปาฎิหาริยํ, อนุสาสนีปาฎิหาริยํฯ

    ‘‘Tīṇi pāṭihāriyāni – iddhipāṭihāriyaṃ, ādesanāpāṭihāriyaṃ, anusāsanīpāṭihāriyaṃ.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ตโย ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena tayo dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    จตุกฺกํ

    Catukkaṃ

    ๓๐๖. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน จตฺตาโร ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม จตฺตาโร?

    306. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cattāro dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ, na vivaditabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame cattāro?

    ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐานาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป.… จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ

    ‘‘Cattāro satipaṭṭhānā. Idhāvuso, bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Vedanāsu vedanānupassī…pe… citte cittānupassī…pe… dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.

    ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติฯ อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติฯ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติฯ อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ฐิติยา อสโมฺมสาย ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติฯ

    ‘‘Cattāro sammappadhānā. Idhāvuso, bhikkhu anuppannānaṃ pāpakānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ anuppādāya chandaṃ janeti vāyamati vīriyaṃ ārabhati cittaṃ paggaṇhāti padahati. Uppannānaṃ pāpakānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya chandaṃ janeti vāyamati vīriyaṃ ārabhati cittaṃ paggaṇhāti padahati. Anuppannānaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ uppādāya chandaṃ janeti vāyamati vīriyaṃ ārabhati cittaṃ paggaṇhāti padahati. Uppannānaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ ṭhitiyā asammosāya bhiyyobhāvāya vepullāya bhāvanāya pāripūriyā chandaṃ janeti vāyamati vīriyaṃ ārabhati cittaṃ paggaṇhāti padahati.

    ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติฯ จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติฯ วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติฯ วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติฯ

    ‘‘Cattāro iddhipādā. Idhāvuso, bhikkhu chandasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti. Cittasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti. Vīriyasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti. Vīmaṃsāsamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti.

    ‘‘จตฺตาริ ฌานานิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ 47 อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ 48 อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ 49 อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ 50 อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

    ‘‘Cattāri jhānāni. Idhāvuso, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ 51 upasampajja viharati. Vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ 52 upasampajja viharati. Pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato ca sampajāno, sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti, yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti – ‘upekkhako satimā sukhavihārī’ti tatiyaṃ jhānaṃ 53 upasampajja viharati. Sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā, pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā, adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ 54 upasampajja viharati.

    ๓๐๗. ‘‘จตโสฺส สมาธิภาวนาฯ อตฺถาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติฯ อตฺถาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ญาณทสฺสนปฎิลาภาย สํวตฺตติฯ อตฺถาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตติฯ อตฺถาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติฯ

    307. ‘‘Catasso samādhibhāvanā. Atthāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā diṭṭhadhammasukhavihārāya saṃvattati. Atthāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā ñāṇadassanapaṭilābhāya saṃvattati. Atthāvuso samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā satisampajaññāya saṃvattati. Atthāvuso samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā āsavānaṃ khayāya saṃvattati.

    ‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ, อาวุโส , สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Katamā cāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā diṭṭhadhammasukhavihārāya saṃvattati? Idhāvuso, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ, āvuso , samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā diṭṭhadhammasukhavihārāya saṃvattati.

    ‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ญาณทสฺสนปฎิลาภาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรติ, ทิวาสญฺญํ อธิฎฺฐาติ ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ, ยถา รตฺติํ ตถา ทิวาฯ อิติ วิวเฎน เจตสา อปริโยนเทฺธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติฯ อยํ, อาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ญาณทสฺสนปฎิลาภาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Katamā cāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā ñāṇadassanapaṭilābhāya saṃvattati? Idhāvuso, bhikkhu ālokasaññaṃ manasi karoti, divāsaññaṃ adhiṭṭhāti yathā divā tathā rattiṃ, yathā rattiṃ tathā divā. Iti vivaṭena cetasā apariyonaddhena sappabhāsaṃ cittaṃ bhāveti. Ayaṃ, āvuso samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā ñāṇadassanapaṭilābhāya saṃvattati.

    ‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ วิทิตา สญฺญา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ อยํ, อาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Katamā cāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā satisampajaññāya saṃvattati? Idhāvuso, bhikkhuno viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti. Viditā saññā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti. Viditā vitakkā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti. Ayaṃ, āvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā satisampajaññāya saṃvattati.

    ‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติฯ อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโมฯ อิติ เวทนา…เป.… อิติ สญฺญา… อิติ สงฺขารา… อิติ วิญฺญาณํ, อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย, อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโมฯ อยํ, อาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Katamā cāvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā āsavānaṃ khayāya saṃvattati? Idhāvuso, bhikkhu pañcasu upādānakkhandhesu udayabbayānupassī viharati. Iti rūpaṃ, iti rūpassa samudayo, iti rūpassa atthaṅgamo. Iti vedanā…pe… iti saññā… iti saṅkhārā… iti viññāṇaṃ, iti viññāṇassa samudayo, iti viññāṇassa atthaṅgamo. Ayaṃ, āvuso, samādhibhāvanā bhāvitā bahulīkatā āsavānaṃ khayāya saṃvattati.

    ๓๐๘. ‘‘จตโสฺส อปฺปมญฺญาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติฯ ตถา ทุติยํฯ ตถา ตติยํฯ ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน 55 ผริตฺวา วิหรติฯ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป.… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติฯ ตถา ทุติยํฯ ตถา ตติยํฯ ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ

    308. ‘‘Catasso appamaññā. Idhāvuso, bhikkhu mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati. Tathā dutiyaṃ. Tathā tatiyaṃ. Tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena 56 pharitvā viharati. Karuṇāsahagatena cetasā…pe… muditāsahagatena cetasā…pe… upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati. Tathā dutiyaṃ. Tathā tatiyaṃ. Tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati.

    ‘‘จตฺตาโร อารุปฺปาฯ 57 อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

    ‘‘Cattāro āruppā.58 Idhāvuso, bhikkhu sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati.

    ‘‘จตฺตาริ อปเสฺสนานิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฎิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวเชฺชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติฯ

    ‘‘Cattāri apassenāni. Idhāvuso, bhikkhu saṅkhāyekaṃ paṭisevati, saṅkhāyekaṃ adhivāseti, saṅkhāyekaṃ parivajjeti, saṅkhāyekaṃ vinodeti.

    ๓๐๙. ‘‘จตฺตาโร อริยวํสาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฎฺฐิยา จ วณฺณวาที, น จ จีวรเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ จีวรํ อคธิโต 59 อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรจีวรสนฺตุฎฺฐิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วเมฺภติฯ โย หิ ตตฺถ ทโกฺข อนลโส สมฺปชาโน ปฎิสฺสโต, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคเญฺญ อริยวํเส ฐิโต’ฯ

    309. ‘‘Cattāro ariyavaṃsā. Idhāvuso, bhikkhu santuṭṭho hoti itarītarena cīvarena, itarītaracīvarasantuṭṭhiyā ca vaṇṇavādī, na ca cīvarahetu anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjati; aladdhā ca cīvaraṃ na paritassati, laddhā ca cīvaraṃ agadhito 60 amucchito anajjhāpanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati; tāya ca pana itarītaracīvarasantuṭṭhiyā nevattānukkaṃseti na paraṃ vambheti. Yo hi tattha dakkho analaso sampajāno paṭissato, ayaṃ vuccatāvuso – ‘bhikkhu porāṇe aggaññe ariyavaṃse ṭhito’.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฎฺฐิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฎฺฐิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วเมฺภติฯ โย หิ ตตฺถ ทโกฺข อนลโส สมฺปชาโน ปฎิสฺสโต , อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคเญฺญ อริยวํเส ฐิโต’ฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu santuṭṭho hoti itarītarena piṇḍapātena, itarītarapiṇḍapātasantuṭṭhiyā ca vaṇṇavādī, na ca piṇḍapātahetu anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjati; aladdhā ca piṇḍapātaṃ na paritassati, laddhā ca piṇḍapātaṃ agadhito amucchito anajjhāpanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati; tāya ca pana itarītarapiṇḍapātasantuṭṭhiyā nevattānukkaṃseti na paraṃ vambheti. Yo hi tattha dakkho analaso sampajāno paṭissato , ayaṃ vuccatāvuso – ‘bhikkhu porāṇe aggaññe ariyavaṃse ṭhito’.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฎฺฐิยา จ วณฺณวาที, น จ เสนาสนเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ เสนาสนํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ เสนาสนํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฎฺฐิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วเมฺภติฯ โย หิ ตตฺถ ทโกฺข อนลโส สมฺปชาโน ปฎิสฺสโต, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคเญฺญ อริยวํเส ฐิโต’ฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu santuṭṭho hoti itarītarena senāsanena, itarītarasenāsanasantuṭṭhiyā ca vaṇṇavādī, na ca senāsanahetu anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjati; aladdhā ca senāsanaṃ na paritassati, laddhā ca senāsanaṃ agadhito amucchito anajjhāpanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati; tāya ca pana itarītarasenāsanasantuṭṭhiyā nevattānukkaṃseti na paraṃ vambheti. Yo hi tattha dakkho analaso sampajāno paṭissato, ayaṃ vuccatāvuso – ‘bhikkhu porāṇe aggaññe ariyavaṃse ṭhito’.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปหานาราโม โหติ ปหานรโต, ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต; ตาย จ ปน ปหานารามตาย ปหานรติยา ภาวนารามตาย ภาวนารติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วเมฺภติฯ โย หิ ตตฺถ ทโกฺข อนลโส สมฺปชาโน ปฎิสฺสโต อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคเญฺญ อริยวํเส ฐิโต’ฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu pahānārāmo hoti pahānarato, bhāvanārāmo hoti bhāvanārato; tāya ca pana pahānārāmatāya pahānaratiyā bhāvanārāmatāya bhāvanāratiyā nevattānukkaṃseti na paraṃ vambheti. Yo hi tattha dakkho analaso sampajāno paṭissato ayaṃ vuccatāvuso – ‘bhikkhu porāṇe aggaññe ariyavaṃse ṭhito’.

    ๓๑๐. ‘‘จตฺตาริ ปธานานิฯ สํวรปธานํ ปหานปธานํ ภาวนาปธานํ 61 อนุรกฺขณาปธานํ 62ฯ กตมญฺจาวุโส, สํวรปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ อิทํ วุจฺจตาวุโส, สํวรปธานํฯ

    310. ‘‘Cattāri padhānāni. Saṃvarapadhānaṃ pahānapadhānaṃ bhāvanāpadhānaṃ 63 anurakkhaṇāpadhānaṃ 64. Katamañcāvuso, saṃvarapadhānaṃ? Idhāvuso, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī. Yatvādhikaraṇamenaṃ cakkhundriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati, rakkhati cakkhundriyaṃ, cakkhundriye saṃvaraṃ āpajjati. Sotena saddaṃ sutvā… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī. Yatvādhikaraṇamenaṃ manindriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati, rakkhati manindriyaṃ, manindriye saṃvaraṃ āpajjati. Idaṃ vuccatāvuso, saṃvarapadhānaṃ.

    ‘‘กตมญฺจาวุโส, ปหานปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺติํ กโรติ 65 อนภาวํ คเมติฯ อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป.… อุปฺปนฺนํ วิหิํสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปเนฺน ปาปเก อกุสเล ธเมฺม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺติํ กโรติ อนภาวํ คเมติฯ อิทํ วุจฺจตาวุโส, ปหานปธานํฯ

    ‘‘Katamañcāvuso, pahānapadhānaṃ? Idhāvuso, bhikkhu uppannaṃ kāmavitakkaṃ nādhivāseti pajahati vinodeti byantiṃ karoti 66 anabhāvaṃ gameti. Uppannaṃ byāpādavitakkaṃ…pe… uppannaṃ vihiṃsāvitakkaṃ… uppannuppanne pāpake akusale dhamme nādhivāseti pajahati vinodeti byantiṃ karoti anabhāvaṃ gameti. Idaṃ vuccatāvuso, pahānapadhānaṃ.

    ‘‘กตมญฺจาวุโส , ภาวนาปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํฯ ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… วีริยสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํฯ อิทํ วุจฺจตาวุโส, ภาวนาปธานํฯ

    ‘‘Katamañcāvuso , bhāvanāpadhānaṃ? Idhāvuso, bhikkhu satisambojjhaṅgaṃ bhāveti vivekanissitaṃ virāganissitaṃ nirodhanissitaṃ vossaggapariṇāmiṃ. Dhammavicayasambojjhaṅgaṃ bhāveti… vīriyasambojjhaṅgaṃ bhāveti… pītisambojjhaṅgaṃ bhāveti… passaddhisambojjhaṅgaṃ bhāveti… samādhisambojjhaṅgaṃ bhāveti… upekkhāsambojjhaṅgaṃ bhāveti vivekanissitaṃ virāganissitaṃ nirodhanissitaṃ vossaggapariṇāmiṃ. Idaṃ vuccatāvuso, bhāvanāpadhānaṃ.

    ‘‘กตมญฺจาวุโส, อนุรกฺขณาปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ภทฺรกํ 67 สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขติ – อฎฺฐิกสญฺญํ, ปุฬุวกสญฺญํ 68, วินีลกสญฺญํ, วิจฺฉิทฺทกสญฺญํ, อุทฺธุมาตกสญฺญํฯ อิทํ วุจฺจตาวุโส, อนุรกฺขณาปธานํฯ

    ‘‘Katamañcāvuso, anurakkhaṇāpadhānaṃ? Idhāvuso, bhikkhu uppannaṃ bhadrakaṃ 69 samādhinimittaṃ anurakkhati – aṭṭhikasaññaṃ, puḷuvakasaññaṃ 70, vinīlakasaññaṃ, vicchiddakasaññaṃ, uddhumātakasaññaṃ. Idaṃ vuccatāvuso, anurakkhaṇāpadhānaṃ.

    ‘‘จตฺตาริ ญาณานิ – ธเมฺม ญาณํ, อนฺวเย ญาณํ, ปริเย 71 ญาณํ, สมฺมุติยา ญาณํ 72

    ‘‘Cattāri ñāṇāni – dhamme ñāṇaṃ, anvaye ñāṇaṃ, pariye 73 ñāṇaṃ, sammutiyā ñāṇaṃ 74.

    ‘‘อปรานิปิ จตฺตาริ ญาณานิ – ทุเกฺข ญาณํ, ทุกฺขสมุทเย ญาณํ, ทุกฺขนิโรเธ ญาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํฯ

    ‘‘Aparānipi cattāri ñāṇāni – dukkhe ñāṇaṃ, dukkhasamudaye ñāṇaṃ, dukkhanirodhe ñāṇaṃ, dukkhanirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ.

    ๓๑๑. ‘‘จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ – สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสฺสวนํ, โยนิโสมนสิกาโร, ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปตฺติฯ

    311. ‘‘Cattāri sotāpattiyaṅgāni – sappurisasaṃsevo, saddhammassavanaṃ, yonisomanasikāro, dhammānudhammappaṭipatti.

    ‘‘จตฺตาริ โสตาปนฺนสฺส องฺคานิฯ อิธาวุโส, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ, ภควา’ติฯ ธเมฺม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม สนฺทิฎฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก 75 ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’ติฯ สเงฺฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ อุชุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ ญายปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ สามีจิปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฎฺฐ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสโงฺฆ อาหุเนโยฺย ปาหุเนโยฺย ทกฺขิเณโยฺย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสา’ติฯ อริยกเนฺตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขเณฺฑหิ อจฺฉิเทฺทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิเสฺสหิ วิญฺญุปฺปสเตฺถหิ อปรามเฎฺฐหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิฯ

    ‘‘Cattāri sotāpannassa aṅgāni. Idhāvuso, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho, bhagavā’ti. Dhamme aveccappasādena samannāgato hoti – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo sandiṭṭhiko akāliko ehipassiko opaneyyiko 76 paccattaṃ veditabbo viññūhī’ti. Saṅghe aveccappasādena samannāgato hoti – ‘suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho ujuppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho ñāyappaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho sāmīcippaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho yadidaṃ cattāri purisayugāni aṭṭha purisapuggalā, esa bhagavato sāvakasaṅgho āhuneyyo pāhuneyyo dakkhiṇeyyo añjalikaraṇīyo anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassā’ti. Ariyakantehi sīlehi samannāgato hoti akhaṇḍehi acchiddehi asabalehi akammāsehi bhujissehi viññuppasatthehi aparāmaṭṭhehi samādhisaṃvattanikehi.

    ‘‘จตฺตาริ สามญฺญผลานิ – โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตผลํฯ

    ‘‘Cattāri sāmaññaphalāni – sotāpattiphalaṃ, sakadāgāmiphalaṃ, anāgāmiphalaṃ, arahattaphalaṃ.

    ‘‘จตโสฺส ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุฯ

    ‘‘Catasso dhātuyo – pathavīdhātu, āpodhātu, tejodhātu, vāyodhātu.

    ‘‘จตฺตาโร อาหารา – กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผโสฺส ทุติโย, มโนสเญฺจตนา ตติยา, วิญฺญาณํ จตุตฺถํฯ

    ‘‘Cattāro āhārā – kabaḷīkāro āhāro oḷāriko vā sukhumo vā, phasso dutiyo, manosañcetanā tatiyā, viññāṇaṃ catutthaṃ.

    ‘‘จตโสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติโยฯ รูปูปายํ วา, อาวุโส, วิญฺญาณํ ติฎฺฐมานํ ติฎฺฐติ รูปารมฺมณํ 77 รูปปฺปติฎฺฐํ นนฺทูปเสจนํ วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ; เวทนูปายํ วา อาวุโส…เป.… สญฺญูปายํ วา, อาวุโส…เป.… สงฺขารูปายํ วา, อาวุโส, วิญฺญาณํ ติฎฺฐมานํ ติฎฺฐติ สงฺขารารมฺมณํ สงฺขารปฺปติฎฺฐํ นนฺทูปเสจนํ วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติฯ

    ‘‘Catasso viññāṇaṭṭhitiyo. Rūpūpāyaṃ vā, āvuso, viññāṇaṃ tiṭṭhamānaṃ tiṭṭhati rūpārammaṇaṃ 78 rūpappatiṭṭhaṃ nandūpasecanaṃ vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjati; vedanūpāyaṃ vā āvuso…pe… saññūpāyaṃ vā, āvuso…pe… saṅkhārūpāyaṃ vā, āvuso, viññāṇaṃ tiṭṭhamānaṃ tiṭṭhati saṅkhārārammaṇaṃ saṅkhārappatiṭṭhaṃ nandūpasecanaṃ vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjati.

    ‘‘จตฺตาริ อคติคมนานิ – ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติฯ

    ‘‘Cattāri agatigamanāni – chandāgatiṃ gacchati, dosāgati gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati.

    ‘‘จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา – จีวรเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; ปิณฺฑปาตเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; เสนาสนเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; อิติภวาภวเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติฯ

    ‘‘Cattāro taṇhuppādā – cīvarahetu vā, āvuso, bhikkhuno taṇhā uppajjamānā uppajjati; piṇḍapātahetu vā, āvuso, bhikkhuno taṇhā uppajjamānā uppajjati; senāsanahetu vā, āvuso, bhikkhuno taṇhā uppajjamānā uppajjati; itibhavābhavahetu vā, āvuso, bhikkhuno taṇhā uppajjamānā uppajjati.

    ‘‘จตโสฺส ปฎิปทา – ทุกฺขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา, ทุกฺขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา, สุขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา, สุขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญาฯ

    ‘‘Catasso paṭipadā – dukkhā paṭipadā dandhābhiññā, dukkhā paṭipadā khippābhiññā, sukhā paṭipadā dandhābhiññā, sukhā paṭipadā khippābhiññā.

    ‘‘อปราปิ จตโสฺส ปฎิปทา – อกฺขมา ปฎิปทา, ขมา ปฎิปทา, ทมา ปฎิปทา, สมา ปฎิปทาฯ

    ‘‘Aparāpi catasso paṭipadā – akkhamā paṭipadā, khamā paṭipadā, damā paṭipadā, samā paṭipadā.

    ‘‘จตฺตาริ ธมฺมปทานิ – อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํฯ

    ‘‘Cattāri dhammapadāni – anabhijjhā dhammapadaṃ, abyāpādo dhammapadaṃ, sammāsati dhammapadaṃ, sammāsamādhi dhammapadaṃ.

    ‘‘จตฺตาริ ธมฺมสมาทานานิ – อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขเญฺจว อายติญฺจ ทุกฺขวิปากํฯ อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายติํ สุขวิปากํฯ อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายติํ ทุกฺขวิปากํฯ อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขเญฺจว อายติญฺจ สุขวิปากํฯ

    ‘‘Cattāri dhammasamādānāni – atthāvuso, dhammasamādānaṃ paccuppannadukkhañceva āyatiñca dukkhavipākaṃ. Atthāvuso, dhammasamādānaṃ paccuppannadukkhaṃ āyatiṃ sukhavipākaṃ. Atthāvuso, dhammasamādānaṃ paccuppannasukhaṃ āyatiṃ dukkhavipākaṃ. Atthāvuso, dhammasamādānaṃ paccuppannasukhañceva āyatiñca sukhavipākaṃ.

    ‘‘จตฺตาโร ธมฺมกฺขนฺธา – สีลกฺขโนฺธ, สมาธิกฺขโนฺธ, ปญฺญากฺขโนฺธ, วิมุตฺติกฺขโนฺธฯ

    ‘‘Cattāro dhammakkhandhā – sīlakkhandho, samādhikkhandho, paññākkhandho, vimuttikkhandho.

    ‘‘จตฺตาริ พลานิ – วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปญฺญาพลํฯ

    ‘‘Cattāri balāni – vīriyabalaṃ, satibalaṃ, samādhibalaṃ, paññābalaṃ.

    ‘‘จตฺตาริ อธิฎฺฐานานิ – ปญฺญาธิฎฺฐานํ, สจฺจาธิฎฺฐานํ, จาคาธิฎฺฐานํ, อุปสมาธิฎฺฐานํฯ

    ‘‘Cattāri adhiṭṭhānāni – paññādhiṭṭhānaṃ, saccādhiṭṭhānaṃ, cāgādhiṭṭhānaṃ, upasamādhiṭṭhānaṃ.

    ๓๑๒. ‘‘จตฺตาริ ปญฺหพฺยากรณานิ – 79 เอกํสพฺยากรณีโย ปโญฺห, ปฎิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปโญฺห, วิภชฺชพฺยากรณีโย ปโญฺห, ฐปนีโย ปโญฺหฯ

    312. ‘‘Cattāri pañhabyākaraṇāni –80 ekaṃsabyākaraṇīyo pañho, paṭipucchābyākaraṇīyo pañho, vibhajjabyākaraṇīyo pañho, ṭhapanīyo pañho.

    ‘‘จตฺตาริ กมฺมานิ – อตฺถาวุโส, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Cattāri kammāni – atthāvuso, kammaṃ kaṇhaṃ kaṇhavipākaṃ; atthāvuso, kammaṃ sukkaṃ sukkavipākaṃ; atthāvuso, kammaṃ kaṇhasukkaṃ kaṇhasukkavipākaṃ; atthāvuso, kammaṃ akaṇhaasukkaṃ akaṇhaasukkavipākaṃ kammakkhayāya saṃvattati.

    ‘‘จตฺตาโร สจฺฉิกรณียา ธมฺมา – ปุเพฺพนิวาโส สติยา สจฺฉิกรณีโย; สตฺตานํ จุตูปปาโต จกฺขุนา สจฺฉิกรณีโย; อฎฺฐ วิโมกฺขา กาเยน สจฺฉิกรณียา; อาสวานํ ขโย ปญฺญาย สจฺฉิกรณีโยฯ

    ‘‘Cattāro sacchikaraṇīyā dhammā – pubbenivāso satiyā sacchikaraṇīyo; sattānaṃ cutūpapāto cakkhunā sacchikaraṇīyo; aṭṭha vimokkhā kāyena sacchikaraṇīyā; āsavānaṃ khayo paññāya sacchikaraṇīyo.

    ‘‘จตฺตาโร โอฆา – กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิโฎฺฐโฆ, อวิโชฺชโฆฯ

    ‘‘Cattāro oghā – kāmogho, bhavogho, diṭṭhogho, avijjogho.

    ‘‘จตฺตาโร โยคา – กามโยโค, ภวโยโค, ทิฎฺฐิโยโค, อวิชฺชาโยโคฯ

    ‘‘Cattāro yogā – kāmayogo, bhavayogo, diṭṭhiyogo, avijjāyogo.

    ‘‘จตฺตาโร วิสโญฺญคา – กามโยควิสโญฺญโค, ภวโยควิสโญฺญโค, ทิฎฺฐิโยควิสโญฺญโค, อวิชฺชาโยควิสโญฺญโคฯ

    ‘‘Cattāro visaññogā – kāmayogavisaññogo, bhavayogavisaññogo, diṭṭhiyogavisaññogo, avijjāyogavisaññogo.

    ‘‘จตฺตาโร คนฺถา – อภิชฺฌา กายคโนฺถ, พฺยาปาโท กายคโนฺถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคโนฺถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคโนฺถฯ

    ‘‘Cattāro ganthā – abhijjhā kāyagantho, byāpādo kāyagantho, sīlabbataparāmāso kāyagantho, idaṃsaccābhiniveso kāyagantho.

    ‘‘จตฺตาริ อุปาทานานิ – กามุปาทานํ 81, ทิฎฺฐุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํฯ

    ‘‘Cattāri upādānāni – kāmupādānaṃ 82, diṭṭhupādānaṃ, sīlabbatupādānaṃ, attavādupādānaṃ.

    ‘‘จตโสฺส โยนิโย – อณฺฑชโยนิ, ชลาพุชโยนิ, สํเสทชโยนิ, โอปปาติกโยนิฯ

    ‘‘Catasso yoniyo – aṇḍajayoni, jalābujayoni, saṃsedajayoni, opapātikayoni.

    ‘‘จตโสฺส คพฺภาวกฺกนฺติโยฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมิํ ฐาติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ปฐมา คพฺภาวกฺกนฺติฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมิํ ฐาติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมิํ ฐาติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมิํ ฐาติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺติฯ

    ‘‘Catasso gabbhāvakkantiyo. Idhāvuso, ekacco asampajāno mātukucchiṃ okkamati, asampajāno mātukucchismiṃ ṭhāti, asampajāno mātukucchimhā nikkhamati, ayaṃ paṭhamā gabbhāvakkanti. Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco sampajāno mātukucchiṃ okkamati, asampajāno mātukucchismiṃ ṭhāti, asampajāno mātukucchimhā nikkhamati, ayaṃ dutiyā gabbhāvakkanti. Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco sampajāno mātukucchiṃ okkamati, sampajāno mātukucchismiṃ ṭhāti, asampajāno mātukucchimhā nikkhamati, ayaṃ tatiyā gabbhāvakkanti. Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco sampajāno mātukucchiṃ okkamati, sampajāno mātukucchismiṃ ṭhāti, sampajāno mātukucchimhā nikkhamati, ayaṃ catutthā gabbhāvakkanti.

    ‘‘จตฺตาโร อตฺตภาวปฎิลาภาฯ อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฎิลาโภ, ยสฺมิํ อตฺตภาวปฎิลาเภ อตฺตสเญฺจตนาเยว กมติ, โน ปรสเญฺจตนาฯ อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฎิลาโภ, ยสฺมิํ อตฺตภาวปฎิลาเภ ปรสเญฺจตนาเยว กมติ, โน อตฺตสเญฺจตนาฯ อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฎิลาโภ, ยสฺมิํ อตฺตภาวปฎิลาเภ อตฺตสเญฺจตนา เจว กมติ ปรสเญฺจตนา จฯ อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฎิลาโภ, ยสฺมิํ อตฺตภาวปฎิลาเภ เนว อตฺตสเญฺจตนา กมติ, โน ปรสเญฺจตนาฯ

    ‘‘Cattāro attabhāvapaṭilābhā. Atthāvuso, attabhāvapaṭilābho, yasmiṃ attabhāvapaṭilābhe attasañcetanāyeva kamati, no parasañcetanā. Atthāvuso, attabhāvapaṭilābho, yasmiṃ attabhāvapaṭilābhe parasañcetanāyeva kamati, no attasañcetanā. Atthāvuso, attabhāvapaṭilābho, yasmiṃ attabhāvapaṭilābhe attasañcetanā ceva kamati parasañcetanā ca. Atthāvuso, attabhāvapaṭilābho, yasmiṃ attabhāvapaṭilābhe neva attasañcetanā kamati, no parasañcetanā.

    ๓๑๓. ‘‘จตโสฺส ทกฺขิณาวิสุทฺธิโยฯ อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฎิคฺคาหกโตฯ อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ปฎิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ โน ทายกโตฯ อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฎิคฺคาหกโตฯ อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฎิคฺคาหกโต จฯ

    313. ‘‘Catasso dakkhiṇāvisuddhiyo. Atthāvuso, dakkhiṇā dāyakato visujjhati no paṭiggāhakato. Atthāvuso, dakkhiṇā paṭiggāhakato visujjhati no dāyakato. Atthāvuso, dakkhiṇā neva dāyakato visujjhati no paṭiggāhakato. Atthāvuso, dakkhiṇā dāyakato ceva visujjhati paṭiggāhakato ca.

    ‘‘จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ – ทานํ, เปยฺยวชฺชํ 83, อตฺถจริยา, สมานตฺตตาฯ

    ‘‘Cattāri saṅgahavatthūni – dānaṃ, peyyavajjaṃ 84, atthacariyā, samānattatā.

    ‘‘จตฺตาโร อนริยโวหารา – มุสาวาโท, ปิสุณาวาจา, ผรุสาวาจา, สมฺผปฺปลาโปฯ

    ‘‘Cattāro anariyavohārā – musāvādo, pisuṇāvācā, pharusāvācā, samphappalāpo.

    ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา – มุสาวาทา เวรมณี 85, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณีฯ

    ‘‘Cattāro ariyavohārā – musāvādā veramaṇī 86, pisuṇāya vācāya veramaṇī, pharusāya vācāya veramaṇī, samphappalāpā veramaṇī.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อนริยโวหารา – อทิเฎฺฐ ทิฎฺฐวาทิตา, อสฺสุเต สุตวาทิตา, อมุเต มุตวาทิตา, อวิญฺญาเต วิญฺญาตวาทิตาฯ

    ‘‘Aparepi cattāro anariyavohārā – adiṭṭhe diṭṭhavāditā, assute sutavāditā, amute mutavāditā, aviññāte viññātavāditā.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อริยโวหารา – อทิเฎฺฐ อทิฎฺฐวาทิตา, อสฺสุเต อสฺสุตวาทิตา, อมุเต อมุตวาทิตา, อวิญฺญาเต อวิญฺญาตวาทิตาฯ

    ‘‘Aparepi cattāro ariyavohārā – adiṭṭhe adiṭṭhavāditā, assute assutavāditā, amute amutavāditā, aviññāte aviññātavāditā.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อนริยโวหารา – ทิเฎฺฐ อทิฎฺฐวาทิตา, สุเต อสฺสุตวาทิตา, มุเต อมุตวาทิตา, วิญฺญาเต อวิญฺญาตวาทิตาฯ

    ‘‘Aparepi cattāro anariyavohārā – diṭṭhe adiṭṭhavāditā, sute assutavāditā, mute amutavāditā, viññāte aviññātavāditā.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อริยโวหารา – ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐวาทิตา, สุเต สุตวาทิตา, มุเต มุตวาทิตา, วิญฺญาเต วิญฺญาตวาทิตาฯ

    ‘‘Aparepi cattāro ariyavohārā – diṭṭhe diṭṭhavāditā, sute sutavāditā, mute mutavāditā, viññāte viññātavāditā.

    ๓๑๔. ‘‘จตฺตาโร ปุคฺคลาฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต 87 สุขปฺปฎิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ

    314. ‘‘Cattāro puggalā. Idhāvuso, ekacco puggalo attantapo hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto. Idhāvuso, ekacco puggalo parantapo hoti paraparitāpanānuyogamanuyutto. Idhāvuso, ekacco puggalo attantapo ca hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto, parantapo ca paraparitāpanānuyogamanuyutto. Idhāvuso, ekacco puggalo neva attantapo hoti na attaparitāpanānuyogamanuyutto na parantapo na paraparitāpanānuyogamanuyutto. So anattantapo aparantapo diṭṭheva dhamme nicchāto nibbuto sītībhūto 88 sukhappaṭisaṃvedī brahmabhūtena attanā viharati.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลาฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตายฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน อตฺตหิตายฯ อิธาวุโส , เอกโจฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตายฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฎิปโนฺน โหติ ปรหิตาย จฯ

    ‘‘Aparepi cattāro puggalā. Idhāvuso, ekacco puggalo attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya. Idhāvuso, ekacco puggalo parahitāya paṭipanno hoti no attahitāya. Idhāvuso , ekacco puggalo neva attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya. Idhāvuso, ekacco puggalo attahitāya ceva paṭipanno hoti parahitāya ca.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลา – ตโม ตมปรายโน, ตโม โชติปรายโน, โชติ ตมปรายโน, โชติ โชติปรายโนฯ

    ‘‘Aparepi cattāro puggalā – tamo tamaparāyano, tamo jotiparāyano, joti tamaparāyano, joti jotiparāyano.

    ‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลา – สมณมจโล, สมณปทุโม, สมณปุณฺฑรีโก, สมเณสุ สมณสุขุมาโลฯ

    ‘‘Aparepi cattāro puggalā – samaṇamacalo, samaṇapadumo, samaṇapuṇḍarīko, samaṇesu samaṇasukhumālo.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน จตฺตาโร ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cattāro dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ปฐมภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Paṭhamabhāṇavāro niṭṭhito.

    ปญฺจกํ

    Pañcakaṃ

    ๓๑๕. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ปญฺจ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม ปญฺจ?

    315. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena pañca dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame pañca?

    ‘‘ปญฺจกฺขนฺธาฯ รูปกฺขโนฺธ เวทนากฺขโนฺธ สญฺญากฺขโนฺธ สงฺขารกฺขโนฺธ วิญฺญาณกฺขโนฺธฯ

    ‘‘Pañcakkhandhā. Rūpakkhandho vedanākkhandho saññākkhandho saṅkhārakkhandho viññāṇakkhandho.

    ‘‘ปญฺจุปาทานกฺขนฺธาฯ รูปุปาทานกฺขโนฺธ 89 เวทนุปาทานกฺขโนฺธ สญฺญุปาทานกฺขโนฺธ สงฺขารุปาทานกฺขโนฺธ วิญฺญาณุปาทานกฺขโนฺธฯ

    ‘‘Pañcupādānakkhandhā. Rūpupādānakkhandho 90 vedanupādānakkhandho saññupādānakkhandho saṅkhārupādānakkhandho viññāṇupādānakkhandho.

    ‘‘ปญฺจ กามคุณาฯ จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสญฺหิตา รชนียา , โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสญฺหิตา รชนียาฯ

    ‘‘Pañca kāmaguṇā. Cakkhuviññeyyā rūpā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasañhitā rajanīyā , sotaviññeyyā saddā… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasañhitā rajanīyā.

    ‘‘ปญฺจ คติโย – นิรโย, ติรจฺฉานโยนิ, เปตฺติวิสโย, มนุสฺสา, เทวาฯ

    ‘‘Pañca gatiyo – nirayo, tiracchānayoni, pettivisayo, manussā, devā.

    ‘‘ปญฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํฯ

    ‘‘Pañca macchariyāni – āvāsamacchariyaṃ, kulamacchariyaṃ, lābhamacchariyaṃ, vaṇṇamacchariyaṃ, dhammamacchariyaṃ.

    ‘‘ปญฺจ นีวรณานิ – กามจฺฉนฺทนีวรณํ, พฺยาปาทนีวรณํ, ถินมิทฺธนีวรณํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ, วิจิกิจฺฉานีวรณํฯ

    ‘‘Pañca nīvaraṇāni – kāmacchandanīvaraṇaṃ, byāpādanīvaraṇaṃ, thinamiddhanīvaraṇaṃ, uddhaccakukkuccanīvaraṇaṃ, vicikicchānīvaraṇaṃ.

    ‘‘ปญฺจ โอรมฺภาคิยานิ สโญฺญชนานิ – สกฺกายทิฎฺฐิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส, กามจฺฉโนฺท, พฺยาปาโทฯ

    ‘‘Pañca orambhāgiyāni saññojanāni – sakkāyadiṭṭhi, vicikicchā, sīlabbataparāmāso, kāmacchando, byāpādo.

    ‘‘ปญฺจ อุทฺธมฺภาคิยานิ สโญฺญชนานิ – รูปราโค, อรูปราโค, มาโน, อุทฺธจฺจํ, อวิชฺชาฯ

    ‘‘Pañca uddhambhāgiyāni saññojanāni – rūparāgo, arūparāgo, māno, uddhaccaṃ, avijjā.

    ‘‘ปญฺจ สิกฺขาปทานิ – ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฎฺฐานา เวรมณีฯ

    ‘‘Pañca sikkhāpadāni – pāṇātipātā veramaṇī, adinnādānā veramaṇī, kāmesumicchācārā veramaṇī, musāvādā veramaṇī, surāmerayamajjappamādaṭṭhānā veramaṇī.

    ๓๑๖. ‘‘ปญฺจ อภพฺพฎฺฐานานิฯ อภโพฺพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํฯ อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิตุํ 91ฯ อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตุํฯ อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํฯ อภโพฺพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุญฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อาคาริกภูโตฯ

    316. ‘‘Pañca abhabbaṭṭhānāni. Abhabbo, āvuso, khīṇāsavo bhikkhu sañcicca pāṇaṃ jīvitā voropetuṃ. Abhabbo khīṇāsavo bhikkhu adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādiyituṃ 92. Abhabbo khīṇāsavo bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭisevituṃ. Abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sampajānamusā bhāsituṃ. Abhabbo khīṇāsavo bhikkhu sannidhikārakaṃ kāme paribhuñjituṃ, seyyathāpi pubbe āgārikabhūto.

    ‘‘ปญฺจ พฺยสนานิ – ญาติพฺยสนํ, โภคพฺยสนํ, โรคพฺยสนํ, สีลพฺยสนํ, ทิฎฺฐิพฺยสนํฯ นาวุโส, สตฺตา ญาติพฺยสนเหตุ วา โภคพฺยสนเหตุ วา โรคพฺยสนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติฯ สีลพฺยสนเหตุ วา, อาวุโส, สตฺตา ทิฎฺฐิพฺยสนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติฯ

    ‘‘Pañca byasanāni – ñātibyasanaṃ, bhogabyasanaṃ, rogabyasanaṃ, sīlabyasanaṃ, diṭṭhibyasanaṃ. Nāvuso, sattā ñātibyasanahetu vā bhogabyasanahetu vā rogabyasanahetu vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjanti. Sīlabyasanahetu vā, āvuso, sattā diṭṭhibyasanahetu vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjanti.

    ‘‘ปญฺจ สมฺปทา – ญาติสมฺปทา, โภคสมฺปทา, อาโรคฺยสมฺปทา, สีลสมฺปทา, ทิฎฺฐิสมฺปทาฯ นาวุโส, สตฺตา ญาติสมฺปทาเหตุ วา โภคสมฺปทาเหตุ วา อาโรคฺยสมฺปทาเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติฯ สีลสมฺปทาเหตุ วา, อาวุโส, สตฺตา ทิฎฺฐิสมฺปทาเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติฯ

    ‘‘Pañca sampadā – ñātisampadā, bhogasampadā, ārogyasampadā, sīlasampadā, diṭṭhisampadā. Nāvuso, sattā ñātisampadāhetu vā bhogasampadāhetu vā ārogyasampadāhetu vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjanti. Sīlasampadāhetu vā, āvuso, sattā diṭṭhisampadāhetu vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjanti.

    ‘‘ปญฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ อิธาวุโส , ทุสฺสีโล สีลวิปโนฺน ปมาทาธิกรณํ มหติํ โภคชานิํ นิคจฺฉติ, อยํ ปฐโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปโนฺน ยญฺญเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ, อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต, อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปโนฺน สมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ, อยํ จตุโตฺถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปโนฺน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, อยํ ปญฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยาฯ

    ‘‘Pañca ādīnavā dussīlassa sīlavipattiyā. Idhāvuso , dussīlo sīlavipanno pamādādhikaraṇaṃ mahatiṃ bhogajāniṃ nigacchati, ayaṃ paṭhamo ādīnavo dussīlassa sīlavipattiyā. Puna caparaṃ, āvuso, dussīlassa sīlavipannassa pāpako kittisaddo abbhuggacchati, ayaṃ dutiyo ādīnavo dussīlassa sīlavipattiyā. Puna caparaṃ, āvuso, dussīlo sīlavipanno yaññadeva parisaṃ upasaṅkamati yadi khattiyaparisaṃ yadi brāhmaṇaparisaṃ yadi gahapatiparisaṃ yadi samaṇaparisaṃ, avisārado upasaṅkamati maṅkubhūto, ayaṃ tatiyo ādīnavo dussīlassa sīlavipattiyā. Puna caparaṃ, āvuso, dussīlo sīlavipanno sammūḷho kālaṃ karoti, ayaṃ catuttho ādīnavo dussīlassa sīlavipattiyā. Puna caparaṃ, āvuso, dussīlo sīlavipanno kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati, ayaṃ pañcamo ādīnavo dussīlassa sīlavipattiyā.

    ‘‘ปญฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายฯ อิธาวุโส, สีลวา สีลสมฺปโนฺน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ, อยํ ปฐโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปโนฺน ยญฺญเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ, วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต, อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปโนฺน อสมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ, อยํ จตุโตฺถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปโนฺน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, อยํ ปญฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ

    ‘‘Pañca ānisaṃsā sīlavato sīlasampadāya. Idhāvuso, sīlavā sīlasampanno appamādādhikaraṇaṃ mahantaṃ bhogakkhandhaṃ adhigacchati, ayaṃ paṭhamo ānisaṃso sīlavato sīlasampadāya. Puna caparaṃ, āvuso, sīlavato sīlasampannassa kalyāṇo kittisaddo abbhuggacchati, ayaṃ dutiyo ānisaṃso sīlavato sīlasampadāya. Puna caparaṃ, āvuso, sīlavā sīlasampanno yaññadeva parisaṃ upasaṅkamati yadi khattiyaparisaṃ yadi brāhmaṇaparisaṃ yadi gahapatiparisaṃ yadi samaṇaparisaṃ, visārado upasaṅkamati amaṅkubhūto, ayaṃ tatiyo ānisaṃso sīlavato sīlasampadāya. Puna caparaṃ, āvuso, sīlavā sīlasampanno asammūḷho kālaṃ karoti, ayaṃ catuttho ānisaṃso sīlavato sīlasampadāya. Puna caparaṃ, āvuso, sīlavā sīlasampanno kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati, ayaṃ pañcamo ānisaṃso sīlavato sīlasampadāya.

    ‘‘โจทเกน , อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐเปตฺวา ปโร โจเทตโพฺพฯ กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สเณฺหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิเตฺตน 93 วกฺขามิ โน โทสนฺตเรนาติฯ โจทเกน, อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐเปตฺวา ปโร โจเทตโพฺพฯ

    ‘‘Codakena , āvuso, bhikkhunā paraṃ codetukāmena pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhapetvā paro codetabbo. Kālena vakkhāmi no akālena, bhūtena vakkhāmi no abhūtena, saṇhena vakkhāmi no pharusena, atthasaṃhitena vakkhāmi no anatthasaṃhitena, mettacittena 94 vakkhāmi no dosantarenāti. Codakena, āvuso, bhikkhunā paraṃ codetukāmena ime pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhapetvā paro codetabbo.

    ๓๑๗. ‘‘ปญฺจ ปธานิยงฺคานิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สโทฺธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต, โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตโงฺก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมายฯ อสโฐ โหติ อมายาวี, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตา สตฺถริ วา วิญฺญูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุฯ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ ปญฺญวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ

    317. ‘‘Pañca padhāniyaṅgāni. Idhāvuso, bhikkhu saddho hoti, saddahati tathāgatassa bodhiṃ – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato, lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Appābādho hoti appātaṅko, samavepākiniyā gahaṇiyā samannāgato nātisītāya nāccuṇhāya majjhimāya padhānakkhamāya. Asaṭho hoti amāyāvī, yathābhūtaṃ attānaṃ āvikattā satthari vā viññūsu vā sabrahmacārīsu. Āraddhavīriyo viharati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Paññavā hoti udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammādukkhakkhayagāminiyā.

    ๓๑๘. ‘‘ปญฺจ สุทฺธาวาสา – อวิหา, อตปฺปา, สุทสฺสา, สุทสฺสี, อกนิฎฺฐาฯ

    318. ‘‘Pañca suddhāvāsā – avihā, atappā, sudassā, sudassī, akaniṭṭhā.

    ‘‘ปญฺจ อนาคามิโน – อนฺตราปรินิพฺพายี, อุปหจฺจปรินิพฺพายี, อสงฺขารปรินิพฺพายี, สสงฺขารปรินิพฺพายี, อุทฺธํโสโตอกนิฎฺฐคามีฯ

    ‘‘Pañca anāgāmino – antarāparinibbāyī, upahaccaparinibbāyī, asaṅkhāraparinibbāyī, sasaṅkhāraparinibbāyī, uddhaṃsotoakaniṭṭhagāmī.

    ๓๑๙. ‘‘ปญฺจ เจโตขิลาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฐโม เจโตขิโลฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธเมฺม กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ…เป.… สเงฺฆ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ… สิกฺขาย กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิโตฺต ขิลชาโตฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิโตฺต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปญฺจโม เจโตขิโลฯ

    319. ‘‘Pañca cetokhilā. Idhāvuso, bhikkhu satthari kaṅkhati vicikicchati nādhimuccati na sampasīdati. Yo so, āvuso, bhikkhu satthari kaṅkhati vicikicchati nādhimuccati na sampasīdati, tassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya, yassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya, ayaṃ paṭhamo cetokhilo. Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu dhamme kaṅkhati vicikicchati…pe… saṅghe kaṅkhati vicikicchati… sikkhāya kaṅkhati vicikicchati… sabrahmacārīsu kupito hoti anattamano āhatacitto khilajāto. Yo so, āvuso, bhikkhu sabrahmacārīsu kupito hoti anattamano āhatacitto khilajāto, tassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya, yassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya, ayaṃ pañcamo cetokhilo.

    ๓๒๐. ‘‘ปญฺจ เจตโสวินิพนฺธาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉโนฺท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตโณฺหฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉโนฺท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตโณฺห, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานายฯ ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานายฯ อยํ ปฐโม เจตโส วินิพโนฺธฯ ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ กาเย อวีตราโค โหติ…เป.… รูเป อวีตราโค โหติ…เป.… ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุญฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุโตฺต วิหรติ…เป.… ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อญฺญตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร วา’ติฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อญฺญตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร วา’ติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานายฯ ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานายฯ อยํ ปญฺจโม เจตโส วินิพโนฺธฯ

    320. ‘‘Pañca cetasovinibandhā. Idhāvuso, bhikkhu kāmesu avītarāgo hoti avigatacchando avigatapemo avigatapipāso avigatapariḷāho avigatataṇho. Yo so, āvuso, bhikkhu kāmesu avītarāgo hoti avigatacchando avigatapemo avigatapipāso avigatapariḷāho avigatataṇho, tassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya. Yassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya. Ayaṃ paṭhamo cetaso vinibandho. Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu kāye avītarāgo hoti…pe… rūpe avītarāgo hoti…pe… puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu yāvadatthaṃ udarāvadehakaṃ bhuñjitvā seyyasukhaṃ passasukhaṃ middhasukhaṃ anuyutto viharati…pe… puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu aññataraṃ devanikāyaṃ paṇidhāya brahmacariyaṃ carati – ‘imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā devo vā bhavissāmi devaññataro vā’ti. Yo so, āvuso, bhikkhu aññataraṃ devanikāyaṃ paṇidhāya brahmacariyaṃ carati – ‘imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā devo vā bhavissāmi devaññataro vā’ti, tassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya. Yassa cittaṃ na namati ātappāya anuyogāya sātaccāya padhānāya. Ayaṃ pañcamo cetaso vinibandho.

    ‘‘ปญฺจินฺทฺริยานิ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํฯ

    ‘‘Pañcindriyāni – cakkhundriyaṃ, sotindriyaṃ, ghānindriyaṃ, jivhindriyaṃ, kāyindriyaṃ.

    ‘‘อปรานิปิ ปญฺจินฺทฺริยานิ – สุขินฺทฺริยํ, ทุกฺขินฺทฺริยํ, โสมนสฺสินฺทฺริยํ, โทมนสฺสินฺทฺริยํ, อุเปกฺขินฺทฺริยํฯ

    ‘‘Aparānipi pañcindriyāni – sukhindriyaṃ, dukkhindriyaṃ, somanassindriyaṃ, domanassindriyaṃ, upekkhindriyaṃ.

    ‘‘อปรานิปิ ปญฺจินฺทฺริยานิ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปญฺญินฺทฺริยํฯ

    ‘‘Aparānipi pañcindriyāni – saddhindriyaṃ, vīriyindriyaṃ, satindriyaṃ, samādhindriyaṃ, paññindriyaṃ.

    ๓๒๑. ‘‘ปญฺจ นิสฺสรณิยา 95 ธาตุโยฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเม มนสิกโรโต กาเมสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ น วิมุจฺจติฯ เนกฺขมฺมํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต เนกฺขเมฺม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ วิมุจฺจติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฎฺฐิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ กาเมหิฯ เย จ กามปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา 96, มุโตฺต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติฯ อิทมกฺขาตํ กามานํ นิสฺสรณํฯ

    321. ‘‘Pañca nissaraṇiyā97dhātuyo. Idhāvuso, bhikkhuno kāme manasikaroto kāmesu cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati na vimuccati. Nekkhammaṃ kho panassa manasikaroto nekkhamme cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati vimuccati. Tassa taṃ cittaṃ sugataṃ subhāvitaṃ suvuṭṭhitaṃ suvimuttaṃ visaṃyuttaṃ kāmehi. Ye ca kāmapaccayā uppajjanti āsavā vighātā pariḷāhā 98, mutto so tehi, na so taṃ vedanaṃ vedeti. Idamakkhātaṃ kāmānaṃ nissaraṇaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน พฺยาปาทํ มนสิกโรโต พฺยาปาเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ น วิมุจฺจติฯ อพฺยาปาทํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อพฺยาปาเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ วิมุจฺจติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฎฺฐิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ พฺยาปาเทนฯ เย จ พฺยาปาทปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุโตฺต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติฯ อิทมกฺขาตํ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno byāpādaṃ manasikaroto byāpāde cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati na vimuccati. Abyāpādaṃ kho panassa manasikaroto abyāpāde cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati vimuccati. Tassa taṃ cittaṃ sugataṃ subhāvitaṃ suvuṭṭhitaṃ suvimuttaṃ visaṃyuttaṃ byāpādena. Ye ca byāpādapaccayā uppajjanti āsavā vighātā pariḷāhā, mutto so tehi, na so taṃ vedanaṃ vedeti. Idamakkhātaṃ byāpādassa nissaraṇaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน วิเหสํ มนสิกโรโต วิเหสาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ น วิมุจฺจติฯ อวิเหสํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อวิเหสาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ วิมุจฺจติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฎฺฐิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ วิเหสายฯ เย จ วิเหสาปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุโตฺต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติฯ อิทมกฺขาตํ วิเหสาย นิสฺสรณํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno vihesaṃ manasikaroto vihesāya cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati na vimuccati. Avihesaṃ kho panassa manasikaroto avihesāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati vimuccati. Tassa taṃ cittaṃ sugataṃ subhāvitaṃ suvuṭṭhitaṃ suvimuttaṃ visaṃyuttaṃ vihesāya. Ye ca vihesāpaccayā uppajjanti āsavā vighātā pariḷāhā, mutto so tehi, na so taṃ vedanaṃ vedeti. Idamakkhātaṃ vihesāya nissaraṇaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน รูเป มนสิกโรโต รูเปสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ น วิมุจฺจติฯ อรูปํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อรูเป จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ วิมุจฺจติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฎฺฐิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ รูเปหิฯ เย จ รูปปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุโตฺต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติฯ อิทมกฺขาตํ รูปานํ นิสฺสรณํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno rūpe manasikaroto rūpesu cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati na vimuccati. Arūpaṃ kho panassa manasikaroto arūpe cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati vimuccati. Tassa taṃ cittaṃ sugataṃ subhāvitaṃ suvuṭṭhitaṃ suvimuttaṃ visaṃyuttaṃ rūpehi. Ye ca rūpapaccayā uppajjanti āsavā vighātā pariḷāhā, mutto so tehi, na so taṃ vedanaṃ vedeti. Idamakkhātaṃ rūpānaṃ nissaraṇaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน สกฺกายํ มนสิกโรโต สกฺกาเย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฎฺฐติ น วิมุจฺจติฯ สกฺกายนิโรธํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ วิมุจฺจติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฎฺฐิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ สกฺกาเยนฯ เย จ สกฺกายปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุโตฺต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติฯ อิทมกฺขาตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno sakkāyaṃ manasikaroto sakkāye cittaṃ na pakkhandati na pasīdati na santiṭṭhati na vimuccati. Sakkāyanirodhaṃ kho panassa manasikaroto sakkāyanirodhe cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati vimuccati. Tassa taṃ cittaṃ sugataṃ subhāvitaṃ suvuṭṭhitaṃ suvimuttaṃ visaṃyuttaṃ sakkāyena. Ye ca sakkāyapaccayā uppajjanti āsavā vighātā pariḷāhā, mutto so tehi, na so taṃ vedanaṃ vedeti. Idamakkhātaṃ sakkāyassa nissaraṇaṃ.

    ๓๒๒. ‘‘ปญฺจ วิมุตฺตายตนานิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารีฯ ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี ฯ ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธเมฺม อตฺถปฎิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฎิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฎิสํเวทิโน ธมฺมปฎิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ ปฐมํ วิมุตฺตายตนํฯ

    322. ‘‘Pañca vimuttāyatanāni. Idhāvuso, bhikkhuno satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī. Yathā yathā, āvuso, bhikkhuno satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī . Tathā tathā so tasmiṃ dhamme atthapaṭisaṃvedī ca hoti dhammapaṭisaṃvedī ca. Tassa atthapaṭisaṃvedino dhammapaṭisaṃvedino pāmojjaṃ jāyati, pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti, sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ paṭhamaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ…เป.… อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ…เป.… อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตเกฺกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ…เป.… อปิ จ ขฺวสฺส อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฎิวิทฺธํ ปญฺญายฯ ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฎิวิทฺธํ ปญฺญาย ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธเมฺม อตฺถปฎิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฎิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฎิสํเวทิโน ธมฺมปฎิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ , สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ ปญฺจมํ วิมุตฺตายตนํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno na heva kho satthā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī, api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ deseti…pe… api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena sajjhāyaṃ karoti…pe… api ca kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ cetasā anuvitakketi anuvicāreti manasānupekkhati…pe… api ca khvassa aññataraṃ samādhinimittaṃ suggahitaṃ hoti sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ suppaṭividdhaṃ paññāya. Yathā yathā, āvuso, bhikkhuno aññataraṃ samādhinimittaṃ suggahitaṃ hoti sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ suppaṭividdhaṃ paññāya tathā tathā so tasmiṃ dhamme atthapaṭisaṃvedī ca hoti dhammapaṭisaṃvedī ca. Tassa atthapaṭisaṃvedino dhammapaṭisaṃvedino pāmojjaṃ jāyati, pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti , sukhino cittaṃ samādhiyati. Idaṃ pañcamaṃ vimuttāyatanaṃ.

    ‘‘ปญฺจ วิมุตฺติปริปาจนียา สญฺญา – อนิจฺจสญฺญา, อนิเจฺจ ทุกฺขสญฺญา, ทุเกฺข อนตฺตสญฺญา, ปหานสญฺญา, วิราคสญฺญาฯ

    ‘‘Pañca vimuttiparipācanīyā saññā – aniccasaññā, anicce dukkhasaññā, dukkhe anattasaññā, pahānasaññā, virāgasaññā.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ปญฺจ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ 99

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena pañca dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ 100.

    ฉกฺกํ

    Chakkaṃ

    ๓๒๓. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ฉ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม ฉ?

    323. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cha dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame cha?

    ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ – จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํฯ

    ‘‘Cha ajjhattikāniāyatanāni – cakkhāyatanaṃ, sotāyatanaṃ, ghānāyatanaṃ, jivhāyatanaṃ, kāyāyatanaṃ, manāyatanaṃ.

    ‘‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ – รูปายตนํ, สทฺทายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฎฺฐพฺพายตนํ, ธมฺมายตนํฯ

    ‘‘Cha bāhirāni āyatanāni – rūpāyatanaṃ, saddāyatanaṃ, gandhāyatanaṃ, rasāyatanaṃ, phoṭṭhabbāyatanaṃ, dhammāyatanaṃ.

    ‘‘ฉ วิญฺญาณกายา – จกฺขุวิญฺญาณํ, โสตวิญฺญาณํ, ฆานวิญฺญาณํ, ชิวฺหาวิญฺญาณํ, กายวิญฺญาณํ, มโนวิญฺญาณํฯ

    ‘‘Cha viññāṇakāyā – cakkhuviññāṇaṃ, sotaviññāṇaṃ, ghānaviññāṇaṃ, jivhāviññāṇaṃ, kāyaviññāṇaṃ, manoviññāṇaṃ.

    ‘‘ฉ ผสฺสกายา – จกฺขุสมฺผโสฺส, โสตสมฺผโสฺส, ฆานสมฺผโสฺส, ชิวฺหาสมฺผโสฺส, กายสมฺผโสฺส, มโนสมฺผโสฺสฯ

    ‘‘Cha phassakāyā – cakkhusamphasso, sotasamphasso, ghānasamphasso, jivhāsamphasso, kāyasamphasso, manosamphasso.

    ‘‘ฉ เวทนากายา – จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา, โสตสมฺผสฺสชา เวทนา, ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา, ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา, กายสมฺผสฺสชา เวทนา, มโนสมฺผสฺสชา เวทนาฯ

    ‘‘Cha vedanākāyā – cakkhusamphassajā vedanā, sotasamphassajā vedanā, ghānasamphassajā vedanā, jivhāsamphassajā vedanā, kāyasamphassajā vedanā, manosamphassajā vedanā.

    ‘‘ฉ สญฺญากายา – รูปสญฺญา, สทฺทสญฺญา, คนฺธสญฺญา, รสสญฺญา, โผฎฺฐพฺพสญฺญา, ธมฺมสญฺญาฯ

    ‘‘Cha saññākāyā – rūpasaññā, saddasaññā, gandhasaññā, rasasaññā, phoṭṭhabbasaññā, dhammasaññā.

    ‘‘ฉ สเญฺจตนากายา – รูปสเญฺจตนา, สทฺทสเญฺจตนา, คนฺธสเญฺจตนา, รสสเญฺจตนา, โผฎฺฐพฺพสเญฺจตนา, ธมฺมสเญฺจตนาฯ

    ‘‘Cha sañcetanākāyā – rūpasañcetanā, saddasañcetanā, gandhasañcetanā, rasasañcetanā, phoṭṭhabbasañcetanā, dhammasañcetanā.

    ‘‘ฉ ตณฺหากายา – รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฎฺฐพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหาฯ

    ‘‘Cha taṇhākāyā – rūpataṇhā, saddataṇhā, gandhataṇhā, rasataṇhā, phoṭṭhabbataṇhā, dhammataṇhā.

    ๓๒๔. ‘‘ฉ อคารวาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส; ธเมฺม อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส; สเงฺฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส; สิกฺขาย อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส; อปฺปมาเท อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส; ปฎิสนฺถาเร 101 อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺสฯ

    324. ‘‘Cha agāravā. Idhāvuso, bhikkhu satthari agāravo viharati appatisso; dhamme agāravo viharati appatisso; saṅghe agāravo viharati appatisso; sikkhāya agāravo viharati appatisso; appamāde agāravo viharati appatisso; paṭisanthāre 102 agāravo viharati appatisso.

    ‘‘ฉ คารวาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส; ธเมฺม สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส; สเงฺฆ สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส; สิกฺขาย สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส; อปฺปมาเท สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส; ปฎิสนฺถาเร สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺสฯ

    ‘‘Cha gāravā. Idhāvuso, bhikkhu satthari sagāravo viharati sappatisso; dhamme sagāravo viharati sappatisso; saṅghe sagāravo viharati sappatisso; sikkhāya sagāravo viharati sappatisso; appamāde sagāravo viharati sappatisso; paṭisanthāre sagāravo viharati sappatisso.

    ‘‘ฉ โสมนสฺสูปวิจารา ฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฎฺฐานิยํ รูปํ อุปวิจรติ; โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวาฯ มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย โสมนสฺสฎฺฐานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติฯ

    ‘‘Cha somanassūpavicārā. Cakkhunā rūpaṃ disvā somanassaṭṭhāniyaṃ rūpaṃ upavicarati; sotena saddaṃ sutvā… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā. Manasā dhammaṃ viññāya somanassaṭṭhāniyaṃ dhammaṃ upavicarati.

    ‘‘ฉ โทมนสฺสูปวิจาราฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โทมนสฺสฎฺฐานิยํ รูปํ อุปวิจรติ…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย โทมนสฺสฎฺฐานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติฯ

    ‘‘Cha domanassūpavicārā. Cakkhunā rūpaṃ disvā domanassaṭṭhāniyaṃ rūpaṃ upavicarati…pe… manasā dhammaṃ viññāya domanassaṭṭhāniyaṃ dhammaṃ upavicarati.

    ‘‘ฉ อุเปกฺขูปวิจาราฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุเปกฺขาฎฺฐานิยํ 103 รูปํ อุปวิจรติ…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุเปกฺขาฎฺฐานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติฯ

    ‘‘Cha upekkhūpavicārā. Cakkhunā rūpaṃ disvā upekkhāṭṭhāniyaṃ 104 rūpaṃ upavicarati…pe… manasā dhammaṃ viññāya upekkhāṭṭhāniyaṃ dhammaṃ upavicarati.

    ‘‘ฉ สารณียา ธมฺมาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ 105 เจว รโห จฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Cha sāraṇīyā dhammā. Idhāvuso, bhikkhuno mettaṃ kāyakammaṃ paccupaṭṭhitaṃ hoti sabrahmacārīsu āvi 106 ceva raho ca. Ayampi dhammo sāraṇīyo piyakaraṇo garukaraṇo saṅgahāya avivādāya sāmaggiyā ekībhāvāya saṃvattati.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย…เป.… เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno mettaṃ vacīkammaṃ paccupaṭṭhitaṃ hoti sabrahmacārīsu āvi ceva raho ca. Ayampi dhammo sāraṇīyo…pe… ekībhāvāya saṃvattati.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย…เป.… เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno mettaṃ manokammaṃ paccupaṭṭhitaṃ hoti sabrahmacārīsu āvi ceva raho ca. Ayampi dhammo sāraṇīyo…pe… ekībhāvāya saṃvattati.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฎิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวเนฺตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคีฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย…เป.… เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu ye te lābhā dhammikā dhammaladdhā antamaso pattapariyāpannamattampi, tathārūpehi lābhehi appaṭivibhattabhogī hoti sīlavantehi sabrahmacārīhi sādhāraṇabhogī. Ayampi dhammo sāraṇīyo…pe… ekībhāvāya saṃvattati.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิญฺญุปฺปสตฺถานิ อปรามฎฺฐานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามญฺญคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย…เป.… เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu yāni tāni sīlāni akhaṇḍāni acchiddāni asabalāni akammāsāni bhujissāni viññuppasatthāni aparāmaṭṭhāni samādhisaṃvattanikāni, tathārūpesu sīlesu sīlasāmaññagato viharati sabrahmacārīhi āvi ceva raho ca. Ayampi dhammo sāraṇīyo…pe… ekībhāvāya saṃvattati.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยายํ ทิฎฺฐิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฎฺฐิยา ทิฎฺฐิสามญฺญคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จฯ อยมฺปิ ธโมฺม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu yāyaṃ diṭṭhi ariyā niyyānikā niyyāti takkarassa sammā dukkhakkhayāya, tathārūpāya diṭṭhiyā diṭṭhisāmaññagato viharati sabrahmacārīhi āvi ceva raho ca. Ayampi dhammo sāraṇīyo piyakaraṇo garukaraṇo saṅgahāya avivādāya sāmaggiyā ekībhāvāya saṃvattati.

    ๓๒๕.วิวาทมูลานิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหีฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี, โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, ธเมฺมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สเงฺฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี 107 โหติฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, ธเมฺม อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สเงฺฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สิกฺขาย น ปริปูรการี, โส สเงฺฆ วิวาทํ ชเนติฯ โย โหติ วิวาโท พหุชนอหิตาย พหุชนอสุขาย อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํฯ เอวรูปํ เจ ตุเมฺห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปเสฺสยฺยาถฯ ตตฺร ตุเมฺห, อาวุโส, ตเสฺสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถฯ เอวรูปํ เจ ตุเมฺห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปเสฺสยฺยาถฯ ตตฺร ตุเมฺห, อาวุโส, ตเสฺสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายติํ อนวสฺสวาย ปฎิปเชฺชยฺยาถฯ เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติฯ เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายติํ อนวสฺสโว โหติฯ

    325. Cha vivādamūlāni. Idhāvuso, bhikkhu kodhano hoti upanāhī. Yo so, āvuso, bhikkhu kodhano hoti upanāhī, so sattharipi agāravo viharati appatisso, dhammepi agāravo viharati appatisso, saṅghepi agāravo viharati appatisso, sikkhāyapi na paripūrakārī 108 hoti. Yo so, āvuso, bhikkhu satthari agāravo viharati appatisso, dhamme agāravo viharati appatisso, saṅghe agāravo viharati appatisso, sikkhāya na paripūrakārī, so saṅghe vivādaṃ janeti. Yo hoti vivādo bahujanaahitāya bahujanaasukhāya anatthāya ahitāya dukkhāya devamanussānaṃ. Evarūpaṃ ce tumhe, āvuso, vivādamūlaṃ ajjhattaṃ vā bahiddhā vā samanupasseyyātha. Tatra tumhe, āvuso, tasseva pāpakassa vivādamūlassa pahānāya vāyameyyātha. Evarūpaṃ ce tumhe, āvuso, vivādamūlaṃ ajjhattaṃ vā bahiddhā vā na samanupasseyyātha. Tatra tumhe, āvuso, tasseva pāpakassa vivādamūlassa āyatiṃ anavassavāya paṭipajjeyyātha. Evametassa pāpakassa vivādamūlassa pahānaṃ hoti. Evametassa pāpakassa vivādamūlassa āyatiṃ anavassavo hoti.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี…เป.… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี…เป.… สโฐ โหติ มายาวี… ปาปิโจฺฉ โหติ มิจฺฉาทิฎฺฐี… สนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฎินิสฺสคฺคี…เป.… โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฎินิสฺสคฺคี, โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, ธเมฺมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สเงฺฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติฯ โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, ธเมฺม อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, สเงฺฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส , สิกฺขาย น ปริปูรการี, โส สเงฺฆ วิวาทํ ชเนติฯ โย โหติ วิวาโท พหุชนอหิตาย พหุชนอสุขาย อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํฯ เอวรูปํ เจ ตุเมฺห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปเสฺสยฺยาถฯ ตตฺร ตุเมฺห, อาวุโส, ตเสฺสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถฯ เอวรูปํ เจ ตุเมฺห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปเสฺสยฺยาถฯ ตตฺร ตุเมฺห, อาวุโส, ตเสฺสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายติํ อนวสฺสวาย ปฎิปเชฺชยฺยาถฯ เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติฯ เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายติํ อนวสฺสโว โหติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu makkhī hoti paḷāsī…pe… issukī hoti maccharī…pe… saṭho hoti māyāvī… pāpiccho hoti micchādiṭṭhī… sandiṭṭhiparāmāsī hoti ādhānaggāhī duppaṭinissaggī…pe… yo so, āvuso, bhikkhu sandiṭṭhiparāmāsī hoti ādhānaggāhī duppaṭinissaggī, so sattharipi agāravo viharati appatisso, dhammepi agāravo viharati appatisso, saṅghepi agāravo viharati appatisso, sikkhāyapi na paripūrakārī hoti. Yo so, āvuso, bhikkhu satthari agāravo viharati appatisso, dhamme agāravo viharati appatisso, saṅghe agāravo viharati appatisso , sikkhāya na paripūrakārī, so saṅghe vivādaṃ janeti. Yo hoti vivādo bahujanaahitāya bahujanaasukhāya anatthāya ahitāya dukkhāya devamanussānaṃ. Evarūpaṃ ce tumhe, āvuso, vivādamūlaṃ ajjhattaṃ vā bahiddhā vā samanupasseyyātha. Tatra tumhe, āvuso, tasseva pāpakassa vivādamūlassa pahānāya vāyameyyātha. Evarūpaṃ ce tumhe, āvuso, vivādamūlaṃ ajjhattaṃ vā bahiddhā vā na samanupasseyyātha. Tatra tumhe, āvuso, tasseva pāpakassa vivādamūlassa āyatiṃ anavassavāya paṭipajjeyyātha. Evametassa pāpakassa vivādamūlassa pahānaṃ hoti. Evametassa pāpakassa vivādamūlassa āyatiṃ anavassavo hoti.

    ‘‘ฉ ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิญฺญาณธาตุฯ

    ‘‘Cha dhātuyo – pathavīdhātu, āpodhātu, tejodhātu, vāyodhātu, ākāsadhātu, viññāṇadhātu.

    ๓๒๖. ‘‘ฉ นิสฺสรณิยา ธาตุโยฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘เมตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฎฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, อถ จ ปน เม พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐตี’ติฯ โส ‘มา เหวํ’, ติสฺส วจนีโย, ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฎฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธายฯ อถ จ ปนสฺส พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส, ยทิทํ เมตฺตา เจโตวิมุตฺตี’ติฯ

    326. ‘‘Cha nissaraṇiyā dhātuyo. Idhāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘mettā hi kho me cetovimutti bhāvitā bahulīkatā yānīkatā vatthukatā anuṭṭhitā paricitā susamāraddhā, atha ca pana me byāpādo cittaṃ pariyādāya tiṭṭhatī’ti. So ‘mā hevaṃ’, tissa vacanīyo, ‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ, āvuso, anavakāso, yaṃ mettāya cetovimuttiyā bhāvitāya bahulīkatāya yānīkatāya vatthukatāya anuṭṭhitāya paricitāya susamāraddhāya. Atha ca panassa byāpādo cittaṃ pariyādāya ṭhassati, netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, byāpādassa, yadidaṃ mettā cetovimuttī’ti.

    ‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘กรุณา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฎฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธาฯ อถ จ ปน เม วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐตี’ติ, โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ อาวุโส, อนวกาโส, ยํ กรุณาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฎฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิเหสาย, ยทิทํ กรุณา เจโตวิมุตฺตี’ติฯ

    ‘‘Idha panāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘karuṇā hi kho me cetovimutti bhāvitā bahulīkatā yānīkatā vatthukatā anuṭṭhitā paricitā susamāraddhā. Atha ca pana me vihesā cittaṃ pariyādāya tiṭṭhatī’ti, so ‘mā hevaṃ’ tissa vacanīyo ‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ āvuso, anavakāso, yaṃ karuṇāya cetovimuttiyā bhāvitāya bahulīkatāya yānīkatāya vatthukatāya anuṭṭhitāya paricitāya susamāraddhāya, atha ca panassa vihesā cittaṃ pariyādāya ṭhassati, netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, vihesāya, yadidaṃ karuṇā cetovimuttī’ti.

    ‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘มุทิตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฎฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธาฯ อถ จ ปน เม อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐตี’ติ, โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ มุทิตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฎฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, อรติยา, ยทิทํ มุทิตา เจโตวิมุตฺตี’ติฯ

    ‘‘Idha panāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘muditā hi kho me cetovimutti bhāvitā bahulīkatā yānīkatā vatthukatā anuṭṭhitā paricitā susamāraddhā. Atha ca pana me arati cittaṃ pariyādāya tiṭṭhatī’ti, so ‘mā hevaṃ’ tissa vacanīyo ‘‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ, āvuso, anavakāso, yaṃ muditāya cetovimuttiyā bhāvitāya bahulīkatāya yānīkatāya vatthukatāya anuṭṭhitāya paricitāya susamāraddhāya, atha ca panassa arati cittaṃ pariyādāya ṭhassati, netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, aratiyā, yadidaṃ muditā cetovimuttī’ti.

    ‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อุเปกฺขา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฎฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธาฯ อถ จ ปน เม ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐตี’ติฯ โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อุเปกฺขาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฎฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, ราคสฺส, ยทิทํ อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺตี’ติฯ

    ‘‘Idha panāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘upekkhā hi kho me cetovimutti bhāvitā bahulīkatā yānīkatā vatthukatā anuṭṭhitā paricitā susamāraddhā. Atha ca pana me rāgo cittaṃ pariyādāya tiṭṭhatī’ti. So ‘mā hevaṃ’ tissa vacanīyo ‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ, āvuso, anavakāso, yaṃ upekkhāya cetovimuttiyā bhāvitāya bahulīkatāya yānīkatāya vatthukatāya anuṭṭhitāya paricitāya susamāraddhāya, atha ca panassa rāgo cittaṃ pariyādāya ṭhassati netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, rāgassa, yadidaṃ upekkhā cetovimuttī’ti.

    ‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อนิมิตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฎฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธาฯ อถ จ ปน เม นิมิตฺตานุสาริ วิญฺญาณํ โหตี’ติฯ โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฎฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส นิมิตฺตานุสาริ วิญฺญาณํ ภวิสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, สพฺพนิมิตฺตานํ, ยทิทํ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺตี’ติฯ

    ‘‘Idha panāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘animittā hi kho me cetovimutti bhāvitā bahulīkatā yānīkatā vatthukatā anuṭṭhitā paricitā susamāraddhā. Atha ca pana me nimittānusāri viññāṇaṃ hotī’ti. So ‘mā hevaṃ’ tissa vacanīyo ‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ, āvuso, anavakāso, yaṃ animittāya cetovimuttiyā bhāvitāya bahulīkatāya yānīkatāya vatthukatāya anuṭṭhitāya paricitāya susamāraddhāya, atha ca panassa nimittānusāri viññāṇaṃ bhavissati, netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, sabbanimittānaṃ, yadidaṃ animittā cetovimuttī’ti.

    ‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสฺมีติ โข เม วิคตํ 109, อยมหมสฺมีติ น สมนุปสฺสามิ, อถ จ ปน เม วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐตี’ติฯ โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฎฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อสฺมีติ วิคเต 110 อยมหมสฺมีติ อสมนุปสฺสโต, อถ จ ปนสฺส วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลสฺส, ยทิทํ อสฺมิมานสมุคฺฆาโต’ติฯ

    ‘‘Idha panāvuso, bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘asmīti kho me vigataṃ 111, ayamahamasmīti na samanupassāmi, atha ca pana me vicikicchākathaṅkathāsallaṃ cittaṃ pariyādāya tiṭṭhatī’ti. So ‘mā hevaṃ’ tissa vacanīyo ‘māyasmā evaṃ avaca, mā bhagavantaṃ abbhācikkhi, na hi sādhu bhagavato abbhakkhānaṃ, na hi bhagavā evaṃ vadeyya. Aṭṭhānametaṃ, āvuso, anavakāso, yaṃ asmīti vigate 112 ayamahamasmīti asamanupassato, atha ca panassa vicikicchākathaṅkathāsallaṃ cittaṃ pariyādāya ṭhassati, netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Nissaraṇaṃ hetaṃ, āvuso, vicikicchākathaṅkathāsallassa, yadidaṃ asmimānasamugghāto’ti.

    ๓๒๗. ‘‘ฉ อนุตฺตริยานิ – ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํฯ

    327. ‘‘Cha anuttariyāni – dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ, pāricariyānuttariyaṃ, anussatānuttariyaṃ.

    ‘‘ฉ อนุสฺสติฎฺฐานานิ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติฯ

    ‘‘Cha anussatiṭṭhānāni – buddhānussati, dhammānussati, saṅghānussati, sīlānussati, cāgānussati, devatānussati.

    ๓๒๘. ‘‘ฉ สตตวิหาราฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก 113 วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ

    328. ‘‘Cha satatavihārā. Idhāvuso, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā neva sumano hoti na dummano, upekkhako 114 viharati sato sampajāno. Sotena saddaṃ sutvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno.

    ๓๒๙. ‘‘ฉฬาภิชาติโยฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ กณฺหาภิชาติโก สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติฯ อิธ ปนาวุโส, เอกโจฺจ กณฺหาภิชาติโก สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติฯ อิธ ปนาวุโส, เอกโจฺจ กณฺหาภิชาติโก สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติฯ อิธ ปนาวุโส, เอกโจฺจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติฯ อิธ ปนาวุโส, เอกโจฺจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติฯ อิธ ปนาวุโส, เอกโจฺจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติฯ

    329.‘‘Chaḷābhijātiyo. Idhāvuso, ekacco kaṇhābhijātiko samāno kaṇhaṃ dhammaṃ abhijāyati. Idha panāvuso, ekacco kaṇhābhijātiko samāno sukkaṃ dhammaṃ abhijāyati. Idha panāvuso, ekacco kaṇhābhijātiko samāno akaṇhaṃ asukkaṃ nibbānaṃ abhijāyati. Idha panāvuso, ekacco sukkābhijātiko samāno sukkaṃ dhammaṃ abhijāyati. Idha panāvuso, ekacco sukkābhijātiko samāno kaṇhaṃ dhammaṃ abhijāyati. Idha panāvuso, ekacco sukkābhijātiko samāno akaṇhaṃ asukkaṃ nibbānaṃ abhijāyati.

    ‘‘ฉ นิเพฺพธภาคิยา สญฺญา 115 – อนิจฺจสญฺญา อนิเจฺจ, ทุกฺขสญฺญา ทุเกฺข, อนตฺตสญฺญา, ปหานสญฺญา, วิราคสญฺญา, นิโรธสญฺญาฯ

    ‘‘Cha nibbedhabhāgiyā saññā 116 – aniccasaññā anicce, dukkhasaññā dukkhe, anattasaññā, pahānasaññā, virāgasaññā, nirodhasaññā.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ฉ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cha dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    สตฺตกํ

    Sattakaṃ

    ๓๓๐. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน สตฺต ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม สตฺต?

    330. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena satta dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame satta?

    ‘‘สตฺต อริยธนานิ – สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิริธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปญฺญาธนํฯ

    ‘‘Satta ariyadhanāni – saddhādhanaṃ, sīladhanaṃ, hiridhanaṃ, ottappadhanaṃ, sutadhanaṃ, cāgadhanaṃ, paññādhanaṃ.

    ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา – สติสโมฺพชฺฌโงฺค, ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌโงฺค , วีริยสโมฺพชฺฌโงฺค, ปีติสโมฺพชฺฌโงฺค, ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌโงฺค, สมาธิสโมฺพชฺฌโงฺค, อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺคฯ

    ‘‘Satta bojjhaṅgā – satisambojjhaṅgo, dhammavicayasambojjhaṅgo , vīriyasambojjhaṅgo, pītisambojjhaṅgo, passaddhisambojjhaṅgo, samādhisambojjhaṅgo, upekkhāsambojjhaṅgo.

    ‘‘สตฺต สมาธิปริกฺขารา – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาสงฺกโปฺป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมโนฺต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ

    ‘‘Satta samādhiparikkhārā – sammādiṭṭhi, sammāsaṅkappo, sammāvācā, sammākammanto, sammāājīvo, sammāvāyāmo, sammāsati.

    ‘‘สตฺต อสทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ อสฺสโทฺธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, กุสีโต โหติ, มุฎฺฐสฺสติ โหติ, ทุปฺปโญฺญ โหติฯ

    ‘‘Satta asaddhammā – idhāvuso, bhikkhu assaddho hoti, ahiriko hoti, anottappī hoti, appassuto hoti, kusīto hoti, muṭṭhassati hoti, duppañño hoti.

    ‘‘สตฺต สทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สโทฺธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฎฺฐิตสฺสติ โหติ, ปญฺญวา โหติฯ

    ‘‘Satta saddhammā – idhāvuso, bhikkhu saddho hoti, hirimā hoti, ottappī hoti, bahussuto hoti, āraddhavīriyo hoti, upaṭṭhitassati hoti, paññavā hoti.

    ‘‘สตฺต สปฺปุริสธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมญฺญู จ โหติ อตฺถญฺญู จ อตฺตญฺญู จ มตฺตญฺญู จ กาลญฺญู จ ปริสญฺญู จ ปุคฺคลญฺญู จฯ

    ‘‘Satta sappurisadhammā – idhāvuso, bhikkhu dhammaññū ca hoti atthaññū ca attaññū ca mattaññū ca kālaññū ca parisaññū ca puggalaññū ca.

    ๓๓๑. ‘‘สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโมฯ ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโมฯ อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโมฯ ปฎิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ปฎิสลฺลาเน อวิคตเปโมฯ วีริยารเมฺภ ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ วีริยารเมฺภ อวิคตเปโมฯ สติเนปเกฺก ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ สติเนปเกฺก อวิคตเปโม ฯ ทิฎฺฐิปฎิเวเธ ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ, อายติญฺจ ทิฎฺฐิปฎิเวเธ อวิคตเปโมฯ

    331. ‘‘Satta niddasavatthūni. Idhāvuso, bhikkhu sikkhāsamādāne tibbacchando hoti, āyatiñca sikkhāsamādāne avigatapemo. Dhammanisantiyā tibbacchando hoti, āyatiñca dhammanisantiyā avigatapemo. Icchāvinaye tibbacchando hoti, āyatiñca icchāvinaye avigatapemo. Paṭisallāne tibbacchando hoti, āyatiñca paṭisallāne avigatapemo. Vīriyārambhe tibbacchando hoti, āyatiñca vīriyārambhe avigatapemo. Satinepakke tibbacchando hoti, āyatiñca satinepakke avigatapemo . Diṭṭhipaṭivedhe tibbacchando hoti, āyatiñca diṭṭhipaṭivedhe avigatapemo.

    ‘‘สตฺต สญฺญา – อนิจฺจสญฺญา, อนตฺตสญฺญา, อสุภสญฺญา, อาทีนวสญฺญา, ปหานสญฺญา, วิราคสญฺญา, นิโรธสญฺญาฯ

    ‘‘Satta saññā – aniccasaññā, anattasaññā, asubhasaññā, ādīnavasaññā, pahānasaññā, virāgasaññā, nirodhasaññā.

    ‘‘สตฺต พลานิ – สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปญฺญาพลํฯ

    ‘‘Sattabalāni – saddhābalaṃ, vīriyabalaṃ, hiribalaṃ, ottappabalaṃ, satibalaṃ, samādhibalaṃ, paññābalaṃ.

    ๓๓๒. ‘‘สตฺต วิญฺญาณฎฺฐิติโยฯ สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสญฺญิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกเจฺจ จ เทวา เอกเจฺจ จ วินิปาติกาฯ อยํ ปฐมา วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    332. ‘‘Satta viññāṇaṭṭhitiyo. Santāvuso, sattā nānattakāyā nānattasaññino, seyyathāpi manussā ekacce ca devā ekacce ca vinipātikā. Ayaṃ paṭhamā viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสญฺญิโน เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปฐมาภินิพฺพตฺตาฯ อยํ ทุติยา วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā nānattakāyā ekattasaññino seyyathāpi devā brahmakāyikā paṭhamābhinibbattā. Ayaṃ dutiyā viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสญฺญิโน เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสราฯ อยํ ตติยา วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā ekattakāyā nānattasaññino seyyathāpi devā ābhassarā. Ayaṃ tatiyā viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสญฺญิโน เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาฯ อยํ จตุตฺถี วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā ekattakāyā ekattasaññino seyyathāpi devā subhakiṇhā. Ayaṃ catutthī viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนูปคาฯ อยํ ปญฺจมี วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanūpagā. Ayaṃ pañcamī viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนูปคาฯ อยํ ฉฎฺฐี วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanūpagā. Ayaṃ chaṭṭhī viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สนฺตาวุโส , สตฺตา สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนูปคาฯ อยํ สตฺตมี วิญฺญาณฎฺฐิติฯ

    ‘‘Santāvuso , sattā sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanūpagā. Ayaṃ sattamī viññāṇaṭṭhiti.

    ‘‘สตฺต ปุคฺคลา ทกฺขิเณยฺยา – อุภโตภาควิมุโตฺต , ปญฺญาวิมุโตฺต, กายสกฺขิ, ทิฎฺฐิปฺปโตฺต, สทฺธาวิมุโตฺต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารีฯ

    ‘‘Satta puggalā dakkhiṇeyyā – ubhatobhāgavimutto , paññāvimutto, kāyasakkhi, diṭṭhippatto, saddhāvimutto, dhammānusārī, saddhānusārī.

    ‘‘สตฺต อนุสยา – กามราคานุสโย, ปฎิฆานุสโย, ทิฎฺฐานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, มานานุสโย, ภวราคานุสโย, อวิชฺชานุสโยฯ

    ‘‘Satta anusayā – kāmarāgānusayo, paṭighānusayo, diṭṭhānusayo, vicikicchānusayo, mānānusayo, bhavarāgānusayo, avijjānusayo.

    ‘‘สตฺต สโญฺญชนานิ – อนุนยสโญฺญชนํ 117, ปฎิฆสโญฺญชนํ, ทิฎฺฐิสโญฺญชนํ, วิจิกิจฺฉาสโญฺญชนํ, มานสโญฺญชนํ, ภวราคสโญฺญชนํ, อวิชฺชาสโญฺญชนํฯ

    ‘‘Satta saññojanāni – anunayasaññojanaṃ 118, paṭighasaññojanaṃ, diṭṭhisaññojanaṃ, vicikicchāsaññojanaṃ, mānasaññojanaṃ, bhavarāgasaññojanaṃ, avijjāsaññojanaṃ.

    ‘‘สตฺต อธิกรณสมถา – อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตโพฺพ, สติวินโย ทาตโพฺพ, อมูฬฺหวินโย ทาตโพฺพ, ปฎิญฺญาย กาเรตพฺพํ, เยภุยฺยสิกา, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโกฯ

    ‘‘Satta adhikaraṇasamathā – uppannuppannānaṃ adhikaraṇānaṃ samathāya vūpasamāya sammukhāvinayo dātabbo, sativinayo dātabbo, amūḷhavinayo dātabbo, paṭiññāya kāretabbaṃ, yebhuyyasikā, tassapāpiyasikā, tiṇavatthārako.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน สตฺต ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena satta dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ทุติยภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Dutiyabhāṇavāro niṭṭhito.

    อฎฺฐกํ

    Aṭṭhakaṃ

    ๓๓๓. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน อฎฺฐ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม อฎฺฐ?

    333. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena aṭṭha dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame aṭṭha?

    ‘‘อฎฺฐ มิจฺฉตฺตา – มิจฺฉาทิฎฺฐิ, มิจฺฉาสงฺกโปฺป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมโนฺต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิฯ

    ‘‘Aṭṭha micchattā – micchādiṭṭhi, micchāsaṅkappo, micchāvācā, micchākammanto, micchāājīvo, micchāvāyāmo micchāsati, micchāsamādhi.

    ‘‘อฎฺฐ สมฺมตฺตา – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาสงฺกโปฺป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมโนฺต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิฯ

    ‘‘Aṭṭha sammattā – sammādiṭṭhi, sammāsaṅkappo, sammāvācā, sammākammanto, sammāājīvo, sammāvāyāmo, sammāsati, sammāsamādhi.

    ‘‘อฎฺฐ ปุคฺคลา ทกฺขิเณยฺยา – โสตาปโนฺน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน; สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน; อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน; อรหา, อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺนฯ

    ‘‘Aṭṭha puggalā dakkhiṇeyyā – sotāpanno, sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno; sakadāgāmī, sakadāgāmiphalasacchikiriyāya paṭipanno; anāgāmī, anāgāmiphalasacchikiriyāya paṭipanno; arahā, arahattaphalasacchikiriyāya paṭipanno.

    ๓๓๔. ‘‘อฎฺฐ กุสีตวตฺถูนิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อิทํ ปฐมํ กุสีตวตฺถุฯ

    334. ‘‘Aṭṭha kusītavatthūni. Idhāvuso, bhikkhunā kammaṃ kātabbaṃ hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘kammaṃ kho me kātabbaṃ bhavissati, kammaṃ kho pana me karontassa kāyo kilamissati, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Idaṃ paṭhamaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสิํ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลโนฺต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ…เป.… อิทํ ทุติยํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā kammaṃ kataṃ hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho kammaṃ akāsiṃ, kammaṃ kho pana me karontassa kāyo kilanto, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati…pe… idaṃ dutiyaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มโคฺค คนฺตโพฺพ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มโคฺค โข เม คนฺตโพฺพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ตติยํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā maggo gantabbo hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘maggo kho me gantabbo bhavissati, maggaṃ kho pana me gacchantassa kāyo kilamissati, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati… idaṃ tatiyaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มโคฺค คโต โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสิํ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลโนฺต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ จตุตฺถํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā maggo gato hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho maggaṃ agamāsiṃ, maggaṃ kho pana me gacchantassa kāyo kilanto, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati… idaṃ catutthaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ, ตสฺส เม กาโย กิลโนฺต อกมฺมโญฺญ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ปญฺจมํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto na labhati lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto nālatthaṃ lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ, tassa me kāyo kilanto akammañño, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati… idaṃ pañcamaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ, ตสฺส เม กาโย ครุโก อกมฺมโญฺญ, มาสาจิตํ มเญฺญ , หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ฉฎฺฐํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto labhati lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto alatthaṃ lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ, tassa me kāyo garuko akammañño, māsācitaṃ maññe , handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati… idaṃ chaṭṭhaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปโนฺน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อุปฺปโนฺน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ; อตฺถิ กโปฺป นิปชฺชิตุํ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ สตฺตมํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno uppanno hoti appamattako ābādho. Tassa evaṃ hoti – ‘uppanno kho me ayaṃ appamattako ābādho; atthi kappo nipajjituṃ, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati… idaṃ sattamaṃ kusītavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานา วุฎฺฐิโต 119 โหติ อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญาฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฎฺฐิโต อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญา, ตสฺส เม กาโย ทุพฺพโล อกมฺมโญฺญ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อิทํ อฎฺฐมํ กุสีตวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gilānā vuṭṭhito 120 hoti aciravuṭṭhito gelaññā. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gilānā vuṭṭhito aciravuṭṭhito gelaññā, tassa me kāyo dubbalo akammañño, handāhaṃ nipajjāmī’ti! So nipajjati na vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Idaṃ aṭṭhamaṃ kusītavatthu.

    ๓๓๕. ‘‘อฎฺฐ อารมฺภวตฺถูนิฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรเนฺตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย, อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ! โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา, อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อิทํ ปฐมํ อารมฺภวตฺถุฯ

    335. ‘‘Aṭṭha ārambhavatthūni. Idhāvuso, bhikkhunā kammaṃ kātabbaṃ hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘kammaṃ kho me kātabbaṃ bhavissati, kammaṃ kho pana me karontena na sukaraṃ buddhānaṃ sāsanaṃ manasi kātuṃ, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya, asacchikatassa sacchikiriyāyā’ti! So vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā, anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Idaṃ paṭhamaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสิํ, กมฺมํ โข ปนาหํ กโรโนฺต นาสกฺขิํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ทุติยํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā kammaṃ kataṃ hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho kammaṃ akāsiṃ, kammaṃ kho panāhaṃ karonto nāsakkhiṃ buddhānaṃ sāsanaṃ manasi kātuṃ, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ dutiyaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มโคฺค คนฺตโพฺพ โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มโคฺค โข เม คนฺตโพฺพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉเนฺตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํฯ หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ตติยํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā maggo gantabbo hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘maggo kho me gantabbo bhavissati, maggaṃ kho pana me gacchantena na sukaraṃ buddhānaṃ sāsanaṃ manasi kātuṃ. Handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ tatiyaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มโคฺค คโต โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสิํ, มคฺคํ โข ปนาหํ คจฺฉโนฺต นาสกฺขิํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ จตุตฺถํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhunā maggo gato hoti. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho maggaṃ agamāsiṃ, maggaṃ kho panāhaṃ gacchanto nāsakkhiṃ buddhānaṃ sāsanaṃ manasi kātuṃ, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ catutthaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ ฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ, ตสฺส เม กาโย ลหุโก กมฺมโญฺญ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ปญฺจมํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto na labhati lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ . Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto nālatthaṃ lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ, tassa me kāyo lahuko kammañño, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ pañcamaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรโนฺต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ, ตสฺส เม กาโย พลวา กมฺมโญฺญ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ฉฎฺฐํ อารมฺภวตฺถุ ฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto labhati lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gāmaṃ vā nigamaṃ vā piṇḍāya caranto alatthaṃ lūkhassa vā paṇītassa vā bhojanassa yāvadatthaṃ pāripūriṃ, tassa me kāyo balavā kammañño, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ chaṭṭhaṃ ārambhavatthu .

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปโนฺน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อุปฺปโนฺน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ, ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปวเฑฺฒยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป.… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ สตฺตมํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhuno uppanno hoti appamattako ābādho. Tassa evaṃ hoti – ‘uppanno kho me ayaṃ appamattako ābādho, ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati yaṃ me ābādho pavaḍḍheyya, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi…pe… so vīriyaṃ ārabhati… idaṃ sattamaṃ ārambhavatthu.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานา วุฎฺฐิโต โหติ อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญาฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฎฺฐิโต อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญา, ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปจฺจุทาวเตฺตยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ! โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายฯ อิทํ อฎฺฐมํ อารมฺภวตฺถุฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu gilānā vuṭṭhito hoti aciravuṭṭhito gelaññā. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho gilānā vuṭṭhito aciravuṭṭhito gelaññā, ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati yaṃ me ābādho paccudāvatteyya, handāhaṃ vīriyaṃ ārabhāmi appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāyā’’ti! So vīriyaṃ ārabhati appattassa pattiyā anadhigatassa adhigamāya asacchikatassa sacchikiriyāya. Idaṃ aṭṭhamaṃ ārambhavatthu.

    ๓๓๖. ‘‘อฎฺฐ ทานวตฺถูนิฯ อาสชฺช ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘อทาสิ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘ทสฺสติ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจโนฺต อปจนฺตานํ ทานํ น ทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิทํ เม ทานํ ททโต กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉตี’ติ ทานํ เทติฯ จิตฺตาลงฺการ-จิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติฯ

    336. ‘‘Aṭṭha dānavatthūni. Āsajja dānaṃ deti, bhayā dānaṃ deti, ‘adāsi me’ti dānaṃ deti, ‘dassati me’ti dānaṃ deti, ‘sāhu dāna’nti dānaṃ deti, ‘ahaṃ pacāmi, ime na pacanti, nārahāmi pacanto apacantānaṃ dānaṃ na dātu’nti dānaṃ deti, ‘idaṃ me dānaṃ dadato kalyāṇo kittisaddo abbhuggacchatī’ti dānaṃ deti. Cittālaṅkāra-cittaparikkhāratthaṃ dānaṃ deti.

    ๓๓๗. ‘‘อฎฺฐ ทานูปปตฺติโยฯ อิธาวุโส, เอกโจฺจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ 121ฯ โส ปสฺสติ ขตฺติยมหาสาลํ วา พฺราหฺมณมหาสาลํ วา คหปติมหาสาลํ วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปเชฺชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฎฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ ฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺสฯ อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตาฯ

    337. ‘‘Aṭṭha dānūpapattiyo. Idhāvuso, ekacco dānaṃ deti samaṇassa vā brāhmaṇassa vā annaṃ pānaṃ vatthaṃ yānaṃ mālāgandhavilepanaṃ seyyāvasathapadīpeyyaṃ. So yaṃ deti taṃ paccāsīsati 122. So passati khattiyamahāsālaṃ vā brāhmaṇamahāsālaṃ vā gahapatimahāsālaṃ vā pañcahi kāmaguṇehi samappitaṃ samaṅgībhūtaṃ paricārayamānaṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ kāyassa bhedā paraṃ maraṇā khattiyamahāsālānaṃ vā brāhmaṇamahāsālānaṃ vā gahapatimahāsālānaṃ vā sahabyataṃ upapajjeyya’nti! So taṃ cittaṃ dahati, taṃ cittaṃ adhiṭṭhāti, taṃ cittaṃ bhāveti, tassa taṃ cittaṃ hīne vimuttaṃ uttari abhāvitaṃ tatrūpapattiyā saṃvattati . Tañca kho sīlavato vadāmi no dussīlassa. Ijjhatāvuso, sīlavato cetopaṇidhi visuddhattā.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ…เป.… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา 123 เทวา ทีฆายุกา วณฺณวโนฺต สุขพหุลา’’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปเชฺชยฺย’’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฎฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺสฯ อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตาฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco dānaṃ deti samaṇassa vā brāhmaṇassa vā annaṃ pānaṃ…pe… seyyāvasathapadīpeyyaṃ. So yaṃ deti taṃ paccāsīsati. Tassa sutaṃ hoti – ‘cātumahārājikā 124 devā dīghāyukā vaṇṇavanto sukhabahulā’’ti. Tassa evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ kāyassa bhedā paraṃ maraṇā cātumahārājikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjeyya’’nti! So taṃ cittaṃ dahati, taṃ cittaṃ adhiṭṭhāti, taṃ cittaṃ bhāveti, tassa taṃ cittaṃ hīne vimuttaṃ uttari abhāvitaṃ tatrūpapattiyā saṃvattati. Tañca kho sīlavato vadāmi no dussīlassa. Ijjhatāvuso, sīlavato cetopaṇidhi visuddhattā.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ…เป.… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘ตาวติํสา เทวา…เป.… ยามา เทวา…เป.… ตุสิตา เทวา …เป.… นิมฺมานรตี เทวา…เป.… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวโนฺต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปเชฺชยฺย’’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฎฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺสฯ อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตาฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco dānaṃ deti samaṇassa vā brāhmaṇassa vā annaṃ pānaṃ…pe… seyyāvasathapadīpeyyaṃ. So yaṃ deti taṃ paccāsīsati. Tassa sutaṃ hoti – ‘tāvatiṃsā devā…pe… yāmā devā…pe… tusitā devā …pe… nimmānaratī devā…pe… paranimmitavasavattī devā dīghāyukā vaṇṇavanto sukhabahulā’ti. Tassa evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ kāyassa bhedā paraṃ maraṇā paranimmitavasavattīnaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjeyya’’nti! So taṃ cittaṃ dahati, taṃ cittaṃ adhiṭṭhāti, taṃ cittaṃ bhāveti, tassa taṃ cittaṃ hīne vimuttaṃ uttari abhāvitaṃ tatrūpapattiyā saṃvattati. Tañca kho sīlavato vadāmi no dussīlassa. Ijjhatāvuso, sīlavato cetopaṇidhi visuddhattā.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกโจฺจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘พฺรหฺมกายิกา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวโนฺต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปเชฺชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฎฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺส; วีตราคสฺส โน สราคสฺสฯ อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วีตราคตฺตาฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, idhekacco dānaṃ deti samaṇassa vā brāhmaṇassa vā annaṃ pānaṃ vatthaṃ yānaṃ mālāgandhavilepanaṃ seyyāvasathapadīpeyyaṃ. So yaṃ deti taṃ paccāsīsati. Tassa sutaṃ hoti – ‘brahmakāyikā devā dīghāyukā vaṇṇavanto sukhabahulā’ti. Tassa evaṃ hoti – ‘aho vatāhaṃ kāyassa bhedā paraṃ maraṇā brahmakāyikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjeyya’nti! So taṃ cittaṃ dahati, taṃ cittaṃ adhiṭṭhāti, taṃ cittaṃ bhāveti, tassa taṃ cittaṃ hīne vimuttaṃ uttari abhāvitaṃ tatrūpapattiyā saṃvattati. Tañca kho sīlavato vadāmi no dussīlassa; vītarāgassa no sarāgassa. Ijjhatāvuso, sīlavato cetopaṇidhi vītarāgattā.

    ‘‘อฎฺฐ ปริสา – ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณปริสา, คหปติปริสา, สมณปริสา, จาตุมหาราชิกปริสา, ตาวติํสปริสา, มารปริสา, พฺรหฺมปริสา ฯ

    ‘‘Aṭṭha parisā – khattiyaparisā, brāhmaṇaparisā, gahapatiparisā, samaṇaparisā, cātumahārājikaparisā, tāvatiṃsaparisā, māraparisā, brahmaparisā .

    ‘‘อฎฺฐ โลกธมฺมา – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขญฺจ, ทุกฺขญฺจฯ

    ‘‘Aṭṭha lokadhammā – lābho ca, alābho ca, yaso ca, ayaso ca, nindā ca, pasaṃsā ca, sukhañca, dukkhañca.

    ๓๓๘. ‘‘อฎฺฐ อภิภายตนานิฯ อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปฐมํ อภิภายตนํฯ

    338. ‘‘Aṭṭha abhibhāyatanāni. Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ paṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ – เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ rūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti – evaṃsaññī hoti. Idaṃ dutiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ตติยํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati parittāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ tatiyaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati appamāṇāni suvaṇṇadubbaṇṇāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ catutthaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํฯ เอวเมว 125 อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ปญฺจมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni. Seyyathāpi nāma umāpupphaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ nīlaṃ nīlavaṇṇaṃ nīlanidassanaṃ nīlanibhāsaṃ. Evameva 126 ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati nīlāni nīlavaṇṇāni nīlanidassanāni nīlanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ pañcamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ 127 ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํฯ เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ ฉฎฺฐํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni. Seyyathāpi nāma kaṇikārapupphaṃ 128 pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ pītaṃ pītavaṇṇaṃ pītanidassanaṃ pītanibhāsaṃ. Evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati pītāni pītavaṇṇāni pītanidassanāni pītanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ chaṭṭhaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํฯ เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni. Seyyathāpi nāma bandhujīvakapupphaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ lohitakaṃ lohitakavaṇṇaṃ lohitakanidassanaṃ lohitakanibhāsaṃ. Evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati lohitakāni lohitakavaṇṇāni lohitakanidassanāni lohitakanibhāsāni, ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ sattamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิฯ เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฎฺฐํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํฯ เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ , ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสญฺญี โหติฯ อิทํ อฎฺฐมํ อภิภายตนํฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni. Seyyathāpi nāma osadhitārakā odātā odātavaṇṇā odātanidassanā odātanibhāsā, seyyathā vā pana taṃ vatthaṃ bārāṇaseyyakaṃ ubhatobhāgavimaṭṭhaṃ odātaṃ odātavaṇṇaṃ odātanidassanaṃ odātanibhāsaṃ. Evameva ajjhattaṃ arūpasaññī eko bahiddhā rūpāni passati odātāni odātavaṇṇāni odātanidassanāni odātanibhāsāni , ‘tāni abhibhuyya jānāmi passāmī’ti evaṃsaññī hoti. Idaṃ aṭṭhamaṃ abhibhāyatanaṃ.

    ๓๓๙. ‘‘อฎฺฐ วิโมกฺขาฯ รูปี รูปานิ ปสฺสติฯ อยํ ปฐโม วิโมโกฺขฯ

    339. ‘‘Aṭṭha vimokkhā. Rūpī rūpāni passati. Ayaṃ paṭhamo vimokkho.

    ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติฯ อยํ ทุติโย วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Ajjhattaṃ arūpasaññī bahiddhā rūpāni passati. Ayaṃ dutiyo vimokkho.

    ‘‘สุภเนฺตว อธิมุโตฺต โหติฯ อยํ ตติโย วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Subhanteva adhimutto hoti. Ayaṃ tatiyo vimokkho.

    ‘‘สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ จตุโตฺถ วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ catuttho vimokkho.

    ‘‘สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ ปญฺจโม วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ pañcamo vimokkho.

    ‘‘สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ ฉโฎฺฐ วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ chaṭṭho vimokkho.

    ‘‘สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ สตฺตโม วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ sattamo vimokkho.

    ‘‘สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิต นิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ อฎฺฐโม วิโมโกฺขฯ

    ‘‘Sabbaso nevasaññānāsaññāyatanaṃ samatikkamma saññāvedayita nirodhaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ aṭṭhamo vimokkho.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน อฎฺฐ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena aṭṭha dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    นวกํ

    Navakaṃ

    ๓๔๐. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน นว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม นว?

    340. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena nava dhammā sammadakkhātā; tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame nava?

    ‘‘นว อาฆาตวตฺถูนิฯ ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป.… อนตฺถํ จรตีติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป.… อนตฺถํ จริสฺสตีติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป.… อตฺถํ จรตีติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป.… อตฺถํ จริสฺสตีติ อาฆาตํ พนฺธติฯ

    ‘‘Nava āghātavatthūni. ‘Anatthaṃ me acarī’ti āghātaṃ bandhati; ‘anatthaṃ me caratī’ti āghātaṃ bandhati; ‘anatthaṃ me carissatī’ti āghātaṃ bandhati; ‘piyassa me manāpassa anatthaṃ acarī’ti āghātaṃ bandhati…pe… anatthaṃ caratīti āghātaṃ bandhati…pe… anatthaṃ carissatīti āghātaṃ bandhati; ‘appiyassa me amanāpassa atthaṃ acarī’ti āghātaṃ bandhati…pe… atthaṃ caratīti āghātaṃ bandhati…pe… atthaṃ carissatīti āghātaṃ bandhati.

    ‘‘นว อาฆาตปฎิวินยาฯ ‘อนตฺถํ เม อจริ 129, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติ ; ‘อนตฺถํ เม จรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ…เป.… อนตฺถํ จรติ…เป.… อนตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ…เป.… อตฺถํ จรติ…เป.… อตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฎิวิเนติฯ

    ‘‘Nava āghātapaṭivinayā. ‘Anatthaṃ me acari 130, taṃ kutettha labbhā’ti āghātaṃ paṭivineti ; ‘anatthaṃ me carati, taṃ kutettha labbhā’ti āghātaṃ paṭivineti; ‘anatthaṃ me carissati, taṃ kutettha labbhā’ti āghātaṃ paṭivineti; ‘piyassa me manāpassa anatthaṃ acari…pe… anatthaṃ carati…pe… anatthaṃ carissati, taṃ kutettha labbhā’ti āghātaṃ paṭivineti; ‘appiyassa me amanāpassa atthaṃ acari…pe… atthaṃ carati…pe… atthaṃ carissati, taṃ kutettha labbhā’ti āghātaṃ paṭivineti.

    ๓๔๑. ‘‘นว สตฺตาวาสาฯ สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสญฺญิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกเจฺจ จ เทวา เอกเจฺจ จ วินิปาติกาฯ อยํ ปฐโม สตฺตาวาโสฯ

    341. ‘‘Nava sattāvāsā. Santāvuso, sattā nānattakāyā nānattasaññino, seyyathāpi manussā ekacce ca devā ekacce ca vinipātikā. Ayaṃ paṭhamo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสญฺญิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปฐมาภินิพฺพตฺตาฯ อยํ ทุติโย สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā nānattakāyā ekattasaññino, seyyathāpi devā brahmakāyikā paṭhamābhinibbattā. Ayaṃ dutiyo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสญฺญิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสราฯ อยํ ตติโย สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā ekattakāyā nānattasaññino, seyyathāpi devā ābhassarā. Ayaṃ tatiyo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส , สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสญฺญิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาฯ อยํ จตุโตฺถ สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso , sattā ekattakāyā ekattasaññino, seyyathāpi devā subhakiṇhā. Ayaṃ catuttho sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา อสญฺญิโน อปฺปฎิสํเวทิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อสญฺญสตฺตา 131ฯ อยํ ปญฺจโม สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā asaññino appaṭisaṃvedino, seyyathāpi devā asaññasattā 132. Ayaṃ pañcamo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนูปคาฯ อยํ ฉโฎฺฐ สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanūpagā. Ayaṃ chaṭṭho sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนูปคาฯ อยํ สตฺตโม สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanūpagā. Ayaṃ sattamo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจาญฺญายตนูปคาฯ อยํ อฎฺฐโม สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso, sattā sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcāññāyatanūpagā. Ayaṃ aṭṭhamo sattāvāso.

    ‘‘สนฺตาวุโส , สตฺตา สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม 133 เนวสญฺญานาสญฺญายตนูปคาฯ อยํ นวโม สตฺตาวาโสฯ

    ‘‘Santāvuso , sattā sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma 134 nevasaññānāsaññāyatanūpagā. Ayaṃ navamo sattāvāso.

    ๓๔๒. ‘‘นว อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสายฯ อิธาวุโส , ตถาคโต จ โลเก อุปฺปโนฺน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ธโมฺม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สโมฺพธคามี สุคตปฺปเวทิโตฯ อยญฺจ ปุคฺคโล นิรยํ อุปปโนฺน โหติฯ อยํ ปฐโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    342. ‘‘Nava akkhaṇā asamayā brahmacariyavāsāya. Idhāvuso , tathāgato ca loke uppanno hoti arahaṃ sammāsambuddho, dhammo ca desiyati opasamiko parinibbāniko sambodhagāmī sugatappavedito. Ayañca puggalo nirayaṃ upapanno hoti. Ayaṃ paṭhamo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปโนฺน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ธโมฺม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สโมฺพธคามี สุคตปฺปเวทิโตฯ อยญฺจ ปุคฺคโล ติรจฺฉานโยนิํ อุปปโนฺน โหติฯ อยํ ทุติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, tathāgato ca loke uppanno hoti arahaṃ sammāsambuddho, dhammo ca desiyati opasamiko parinibbāniko sambodhagāmī sugatappavedito. Ayañca puggalo tiracchānayoniṃ upapanno hoti. Ayaṃ dutiyo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… เปตฺติวิสยํ อุปปโนฺน โหติฯ อยํ ตติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… pettivisayaṃ upapanno hoti. Ayaṃ tatiyo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… อสุรกายํ อุปปโนฺน โหติฯ อยํ จตุโตฺถ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… asurakāyaṃ upapanno hoti. Ayaṃ catuttho akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… อญฺญตรํ ทีฆายุกํ เทวนิกายํ อุปปโนฺน โหติฯ อยํ ปญฺจโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… aññataraṃ dīghāyukaṃ devanikāyaṃ upapanno hoti. Ayaṃ pañcamo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ มิลเกฺขสุ 135 อวิญฺญาตาเรสุ, ยตฺถ นตฺถิ คติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํฯ อยํ ฉโฎฺฐ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… paccantimesu janapadesu paccājāto hoti milakkhesu 136 aviññātāresu, yattha natthi gati bhikkhūnaṃ bhikkhunīnaṃ upāsakānaṃ upāsikānaṃ. Ayaṃ chaṭṭho akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติฯ โส จ โหติ มิจฺฉาทิฎฺฐิโก วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฎฺฐํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฎานํ 137 กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฎิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติฯ อยํ สตฺตโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… majjhimesu janapadesu paccājāto hoti. So ca hoti micchādiṭṭhiko viparītadassano – ‘natthi dinnaṃ, natthi yiṭṭhaṃ, natthi hutaṃ, natthi sukatadukkaṭānaṃ 138 kammānaṃ phalaṃ vipāko, natthi ayaṃ loko, natthi paro loko, natthi mātā, natthi pitā, natthi sattā opapātikā, natthi loke samaṇabrāhmaṇā sammaggatā sammāpaṭipannā ye imañca lokaṃ parañca lokaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedentī’ti. Ayaṃ sattamo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ…เป.… มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติฯ โส จ โหติ ทุปฺปโญฺญ ชโฬ เอฬมูโค, นปฺปฎิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตานมตฺถมญฺญาตุํฯ อยํ อฎฺฐโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ…pe… majjhimesu janapadesu paccājāto hoti. So ca hoti duppañño jaḷo eḷamūgo, nappaṭibalo subhāsitadubbhāsitānamatthamaññātuṃ. Ayaṃ aṭṭhamo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ตถาคโต จ โลเก น 139 อุปฺปโนฺน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ธโมฺม จ น เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สโมฺพธคามี สุคตปฺปเวทิโตฯ อยญฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปญฺญวา อชโฬ อเนฬมูโค, ปฎิพโล สุภาสิต-ทุพฺภาสิตานมตฺถมญฺญาตุํฯ อยํ นวโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสายฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, tathāgato ca loke na 140 uppanno hoti arahaṃ sammāsambuddho, dhammo ca na desiyati opasamiko parinibbāniko sambodhagāmī sugatappavedito. Ayañca puggalo majjhimesu janapadesu paccājāto hoti, so ca hoti paññavā ajaḷo aneḷamūgo, paṭibalo subhāsita-dubbhāsitānamatthamaññātuṃ. Ayaṃ navamo akkhaṇo asamayo brahmacariyavāsāya.

    ๓๔๓. ‘‘นว อนุปุพฺพวิหาราฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุขสฺส จ ปหานา …เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา…เป.… อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

    343. ‘‘Nava anupubbavihārā. Idhāvuso, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Pītiyā ca virāgā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Sukhassa ca pahānā …pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā…pe… ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Sabbaso nevasaññānāsaññāyatanaṃ samatikkamma saññāvedayitanirodhaṃ upasampajja viharati.

    ๓๔๔. ‘‘นว อนุปุพฺพนิโรธาฯ ปฐมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส กามสญฺญา นิรุทฺธา โหติฯ ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา นิรุทฺธา โหนฺติฯ ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ นิรุทฺธา โหติฯ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสฺสา นิรุทฺธา โหนฺติฯ อากาสานญฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสญฺญา นิรุทฺธา โหติฯ วิญฺญาณญฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานญฺจายตนสญฺญา นิรุทฺธา โหติฯ อากิญฺจญฺญายตนํ สมาปนฺนสฺส วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญา นิรุทฺธา โหติฯ เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมาปนฺนสฺส อากิญฺจญฺญายตนสญฺญา นิรุทฺธา โหติฯ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สญฺญา จ เวทนา จ นิรุทฺธา โหนฺติฯ

    344. ‘‘Nava anupubbanirodhā. Paṭhamaṃ jhānaṃ samāpannassa kāmasaññā niruddhā hoti. Dutiyaṃ jhānaṃ samāpannassa vitakkavicārā niruddhā honti. Tatiyaṃ jhānaṃ samāpannassa pīti niruddhā hoti. Catutthaṃ jhānaṃ samāpannassa assāsapassāssā niruddhā honti. Ākāsānañcāyatanaṃ samāpannassa rūpasaññā niruddhā hoti. Viññāṇañcāyatanaṃ samāpannassa ākāsānañcāyatanasaññā niruddhā hoti. Ākiñcaññāyatanaṃ samāpannassa viññāṇañcāyatanasaññā niruddhā hoti. Nevasaññānāsaññāyatanaṃ samāpannassa ākiñcaññāyatanasaññā niruddhā hoti. Saññāvedayitanirodhaṃ samāpannassa saññā ca vedanā ca niruddhā honti.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน นว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena nava dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ.

    ทสกํ

    Dasakaṃ

    ๓๔๕. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ทส ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป.… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเม ทส?

    345. ‘‘Atthi kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena dasa dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ…pe… atthāya hitāya sukhāya devamanussānaṃ. Katame dasa?

    ‘‘ทส นาถกรณา ธมฺมาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติฯ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปโนฺน, อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปโนฺน, อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Dasa nāthakaraṇā dhammā. Idhāvuso, bhikkhu sīlavā hoti. Pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati ācāragocarasampanno, aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī samādāya sikkhati sikkhāpadesu. Yaṃpāvuso, bhikkhu sīlavā hoti, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati, ācāragocarasampanno, aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī samādāya sikkhati sikkhāpadesu. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มเชฺฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถา สพฺยญฺชนา 141 เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ 142 ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธา, ยํปาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธาฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu bahussuto hoti sutadharo sutasannicayo. Ye te dhammā ādikalyāṇā majjhekalyāṇā pariyosānakalyāṇā sātthā sabyañjanā 143 kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ abhivadanti, tathārūpāssa dhammā bahussutā honti 144 dhātā vacasā paricitā manasānupekkhitā diṭṭhiyā suppaṭividdhā, yaṃpāvuso, bhikkhu bahussuto hoti…pe… diṭṭhiyā suppaṭividdhā. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิโตฺต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวโงฺกฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิโตฺต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวโงฺกฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu kalyāṇamitto hoti kalyāṇasahāyo kalyāṇasampavaṅko. Yaṃpāvuso, bhikkhu kalyāṇamitto hoti kalyāṇasahāyo kalyāṇasampavaṅko. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิํฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ…เป.… ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิํฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu suvaco hoti sovacassakaraṇehi dhammehi samannāgato khamo padakkhiṇaggāhī anusāsaniṃ. Yaṃpāvuso, bhikkhu suvaco hoti…pe… padakkhiṇaggāhī anusāsaniṃ. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กิํกรณียานิ, ตตฺถ ทโกฺข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ…เป.… อลํ สํวิธาตุํฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu yāni tāni sabrahmacārīnaṃ uccāvacāni kiṃkaraṇīyāni, tattha dakkho hoti analaso tatrupāyāya vīmaṃsāya samannāgato, alaṃ kātuṃ alaṃ saṃvidhātuṃ. Yaṃpāvuso, bhikkhu yāni tāni sabrahmacārīnaṃ…pe… alaṃ saṃvidhātuṃ. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธเมฺม อภิวินเย อุฬารปาโมโชฺช 145ฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ…เป.… อุฬารปาโมโชฺช 146ฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu dhammakāmo hoti piyasamudāhāro, abhidhamme abhivinaye uḷārapāmojjo 147. Yaṃpāvuso, bhikkhu dhammakāmo hoti…pe… uḷārapāmojjo 148. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส , ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ อิตรีตเรหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ ฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ…เป.… ปริกฺขาเรหิฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso , bhikkhu santuṭṭho hoti itarītarehi cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārehi . Yaṃpāvuso, bhikkhu santuṭṭho hoti…pe… parikkhārehi. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ…เป.… อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu āraddhavīriyo viharati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Yaṃpāvuso, bhikkhu āraddhavīriyo viharati…pe… anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปเกฺกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตาฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ…เป.… สริตา อนุสฺสริตาฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu satimā hoti paramena satinepakkena samannāgato cirakatampi cirabhāsitampi saritā anussaritā. Yaṃpāvuso, bhikkhu satimā hoti…pe… saritā anussaritā. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺญวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺญวา โหติ…เป.… สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ อยมฺปิ ธโมฺม นาถกรโณฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, āvuso, bhikkhu paññavā hoti, udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammādukkhakkhayagāminiyā. Yaṃpāvuso, bhikkhu paññavā hoti…pe… sammādukkhakkhayagāminiyā. Ayampi dhammo nāthakaraṇo.

    ๓๔๖. ทส กสิณายตนานิฯ ปถวีกสิณเมโก สญฺชานาติ, อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํฯ อาโปกสิณเมโก สญฺชานาติ…เป.… เตโชกสิณเมโก สญฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สญฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สญฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สญฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สญฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สญฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สญฺชานาติ… วิญฺญาณกสิณเมโก สญฺชานาติ, อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํฯ

    346. Dasa kasiṇāyatanāni. Pathavīkasiṇameko sañjānāti, uddhaṃ adho tiriyaṃ advayaṃ appamāṇaṃ. Āpokasiṇameko sañjānāti…pe… tejokasiṇameko sañjānāti… vāyokasiṇameko sañjānāti… nīlakasiṇameko sañjānāti… pītakasiṇameko sañjānāti… lohitakasiṇameko sañjānāti… odātakasiṇameko sañjānāti… ākāsakasiṇameko sañjānāti… viññāṇakasiṇameko sañjānāti, uddhaṃ adho tiriyaṃ advayaṃ appamāṇaṃ.

    ๓๔๗. ‘‘ทส อกุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฎฺฐิฯ

    347. ‘‘Dasa akusalakammapathā – pāṇātipāto, adinnādānaṃ, kāmesumicchācāro, musāvādo, pisuṇā vācā, pharusā vācā, samphappalāpo, abhijjhā, byāpādo, micchādiṭṭhi.

    ‘‘ทส กุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฎฺฐิฯ

    ‘‘Dasa kusalakammapathā – pāṇātipātā veramaṇī, adinnādānā veramaṇī, kāmesumicchācārā veramaṇī, musāvādā veramaṇī, pisuṇāya vācāya veramaṇī, pharusāya vācāya veramaṇī, samphappalāpā veramaṇī, anabhijjhā, abyāpādo, sammādiṭṭhi.

    ๓๔๘. ‘‘ทส อริยวาสาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ, ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการโกฺข, จตุราปเสฺสโน, ปณุนฺนปเจฺจกสโจฺจ, สมวยสเฎฺฐสโน, อนาวิลสงฺกโปฺป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิโตฺต, สุวิมุตฺตปโญฺญฯ

    348. ‘‘Dasa ariyavāsā. Idhāvuso, bhikkhu pañcaṅgavippahīno hoti, chaḷaṅgasamannāgato, ekārakkho, caturāpasseno, paṇunnapaccekasacco, samavayasaṭṭhesano, anāvilasaṅkappo, passaddhakāyasaṅkhāro, suvimuttacitto, suvimuttapañño.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉโนฺท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจงฺควิปฺปหีโน โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu pañcaṅgavippahīno hoti? Idhāvuso, bhikkhuno kāmacchando pahīno hoti, byāpādo pahīno hoti, thinamiddhaṃ pahīnaṃ hoti, uddhaccakukuccaṃ pahīnaṃ hoti, vicikicchā pahīnā hoti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu pañcaṅgavippahīno hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu chaḷaṅgasamannāgato hoti? Idhāvuso, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Sotena saddaṃ sutvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu chaḷaṅgasamannāgato hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส , ภิกฺขุ เอการโกฺข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารเกฺขน เจตสา สมนฺนาคโต โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการโกฺข โหติ ฯ

    ‘‘Kathañcāvuso , bhikkhu ekārakkho hoti? Idhāvuso, bhikkhu satārakkhena cetasā samannāgato hoti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu ekārakkho hoti .

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปเสฺสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฎิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวเชฺชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปเสฺสโน โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu caturāpasseno hoti? Idhāvuso, bhikkhu saṅkhāyekaṃ paṭisevati, saṅkhāyekaṃ adhivāseti, saṅkhāyekaṃ parivajjeti, saṅkhāyekaṃ vinodeti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu caturāpasseno hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปเจฺจกสโจฺจ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ยานิ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปุถุปเจฺจกสจฺจานิ, สพฺพานิ ตานิ นุนฺนานิ โหนฺติ ปณุนฺนานิ จตฺตานิ วนฺตานิ มุตฺตานิ ปหีนานิ ปฎินิสฺสฎฺฐานิฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปเจฺจกสโจฺจ โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu paṇunnapaccekasacco hoti? Idhāvuso, bhikkhuno yāni tāni puthusamaṇabrāhmaṇānaṃ puthupaccekasaccāni, sabbāni tāni nunnāni honti paṇunnāni cattāni vantāni muttāni pahīnāni paṭinissaṭṭhāni. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu paṇunnapaccekasacco hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส , ภิกฺขุ สมวยสเฎฺฐสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเมสนา ปหีนา โหติ, ภเวสนา ปหีนา โหติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปฎิปฺปสฺสทฺธาฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สมวยสเฎฺฐสโน โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso , bhikkhu samavayasaṭṭhesano hoti? Idhāvuso, bhikkhuno kāmesanā pahīnā hoti, bhavesanā pahīnā hoti, brahmacariyesanā paṭippassaddhā. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu samavayasaṭṭhesano hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกโปฺป โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามสงฺกโปฺป ปหีโน โหติ, พฺยาปาทสงฺกโปฺป ปหีโน โหติ, วิหิํสาสงฺกโปฺป ปหีโน โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกโปฺป โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu anāvilasaṅkappo hoti? Idhāvuso, bhikkhuno kāmasaṅkappo pahīno hoti, byāpādasaṅkappo pahīno hoti, vihiṃsāsaṅkappo pahīno hoti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu anāvilasaṅkappo hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu passaddhakāyasaṅkhāro hoti ? Idhāvuso, bhikkhu sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu passaddhakāyasaṅkhāro hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิโตฺต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โทสา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โมหา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิโตฺต โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu suvimuttacitto hoti? Idhāvuso, bhikkhuno rāgā cittaṃ vimuttaṃ hoti, dosā cittaṃ vimuttaṃ hoti, mohā cittaṃ vimuttaṃ hoti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu suvimuttacitto hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปโญฺญ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม’ติ ปชานาติฯ ‘โทโส เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม’ติ ปชานาติฯ ‘โมโห เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม’ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปโญฺญ โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, bhikkhu suvimuttapañño hoti? Idhāvuso, bhikkhu ‘rāgo me pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo’ti pajānāti. ‘Doso me pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo’ti pajānāti. ‘Moho me pahīno ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo’ti pajānāti. Evaṃ kho, āvuso, bhikkhu suvimuttapañño hoti.

    ‘‘ทส อเสกฺขา ธมฺมา – อเสกฺขา สมฺมาทิฎฺฐิ, อเสโกฺข สมฺมาสงฺกโปฺป, อเสกฺขา สมฺมาวาจา, อเสโกฺข สมฺมากมฺมโนฺต, อเสโกฺข สมฺมาอาชีโว, อเสโกฺข สมฺมาวายาโม, อเสกฺขา สมฺมาสติ, อเสโกฺข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาญาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺติฯ

    ‘‘Dasa asekkhā dhammā – asekkhā sammādiṭṭhi, asekkho sammāsaṅkappo, asekkhā sammāvācā, asekkho sammākammanto, asekkho sammāājīvo, asekkho sammāvāyāmo, asekkhā sammāsati, asekkho sammāsamādhi, asekkhaṃ sammāñāṇaṃ, asekkhā sammāvimutti.

    ‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ทส ธมฺมา สมฺมทกฺขาตาฯ ตตฺถ สเพฺพเหว สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฎฺฐิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติฯ

    ‘‘Ime kho, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena dasa dhammā sammadakkhātā. Tattha sabbeheva saṅgāyitabbaṃ na vivaditabbaṃ, yathayidaṃ brahmacariyaṃ addhaniyaṃ assa ciraṭṭhitikaṃ, tadassa bahujanahitāya bahujanasukhāya lokānukampāya atthāya hitāya sukhāya devamanussāna’’nti.

    ๓๔๙. อถ โข ภควา อุฎฺฐหิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต, สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ สงฺคีติปริยายํ อภาสี’ติฯ อิทมโวจายสฺมา สาริปุโตฺต, สมนุโญฺญ สตฺถา อโหสิฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

    349. Atha kho bhagavā uṭṭhahitvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ āmantesi – ‘sādhu sādhu, sāriputta, sādhu kho tvaṃ, sāriputta, bhikkhūnaṃ saṅgītipariyāyaṃ abhāsī’ti. Idamavocāyasmā sāriputto, samanuñño satthā ahosi. Attamanā te bhikkhū āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ abhinandunti.

    สงฺคีติสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ

    Saṅgītisuttaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.







    Footnotes:
    1. สนฺถาคารํ (สี. ปี.), สณฺฐาคารํ (สฺยา. กํ.)
    2. อนชฺฌาวุตฺถํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)
    3. santhāgāraṃ (sī. pī.), saṇṭhāgāraṃ (syā. kaṃ.)
    4. anajjhāvutthaṃ (sī. syā. pī. ka.)
    5. สพฺพสนฺถริํ สนฺถตํ (ก.)
    6. สพฺพสนฺถริํ สนฺถตํ (สี. ปี. ก.)
    7. sabbasanthariṃ santhataṃ (ka.)
    8. sabbasanthariṃ santhataṃ (sī. pī. ka.)
    9. วิคตถีนมิโทฺธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    10. อายเมยฺยามีติ (สฺยา. กํ.)
    11. vigatathīnamiddho (sī. syā. kaṃ. pī.)
    12. āyameyyāmīti (syā. kaṃ.)
    13. เทฺธฬฺหกชาตา (สฺยา. กํ.)
    14. วิจรนฺติ (สฺยา. กํ.)
    15. เยปิ เต (สี. ปี.)
    16. ddheḷhakajātā (syā. kaṃ.)
    17. vicaranti (syā. kaṃ.)
    18. yepi te (sī. pī.)
    19. อสฺมากํ (ปี.)
    20. ภควโต (ก. สี.)
    21. asmākaṃ (pī.)
    22. bhagavato (ka. sī.)
    23. ภควโต (ก. สี.)
    24. bhagavato (ka. sī.)
    25. เทฺว ธโมฺม (สฺยา. กํ.) เอวมุปริปิ
    26. dve dhammo (syā. kaṃ.) evamuparipi
    27. อหิรีกญฺจ (กตฺถจิ)
    28. ahirīkañca (katthaci)
    29. ปฎิสนฺธานพลญฺจ (สฺยา.)
    30. paṭisandhānabalañca (syā.)
    31. ติโสฺส กงฺขา (พหูสุ) อฎฺฐกถา โอโลเกตพฺพา
    32. tisso kaṅkhā (bahūsu) aṭṭhakathā oloketabbā
    33. สนิทสฺสนสปฺปฎิฆรูปํ (สฺยา. กํ.) เอวมิตรทฺวเยปิ
    34. sanidassanasappaṭigharūpaṃ (syā. kaṃ.) evamitaradvayepi
    35. สมฺมติเถโร (สฺยา. กํ.)
    36. sammatithero (syā. kaṃ.)
    37. กามุปฺปตฺติโย (สี.), กามุปปตฺติโย (สฺยา. ปี. ก.)
    38. kāmuppattiyo (sī.), kāmupapattiyo (syā. pī. ka.)
    39. สุขุปปตฺติโย (สฺยา. ปี. ก.)
    40. สตฺตา สุขํ (สฺยา. กํ.)
    41. สนฺตุสิตา (สฺยา. กํ.)
    42. จิตฺตสุขํ (สฺยา. ก.)
    43. sukhupapattiyo (syā. pī. ka.)
    44. sattā sukhaṃ (syā. kaṃ.)
    45. santusitā (syā. kaṃ.)
    46. cittasukhaṃ (syā. ka.)
    47. ปฐมชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)
    48. ทุติยชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)
    49. ตติยชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)
    50. จตุตฺถชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)
    51. paṭhamajjhānaṃ (syā. kaṃ.)
    52. dutiyajjhānaṃ (syā. kaṃ.)
    53. tatiyajjhānaṃ (syā. kaṃ.)
    54. catutthajjhānaṃ (syā. kaṃ.)
    55. อพฺยาปเชฺฌน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    56. abyāpajjhena (sī. syā. kaṃ. pī.)
    57. อรูปา (สฺยา. กํ. ปี.)
    58. arūpā (syā. kaṃ. pī.)
    59. อคถิโต (สี. ปี.)
    60. agathito (sī. pī.)
    61. ภาวนาปฺปธานํ (สฺยา.)
    62. อนุรกฺขนาปฺปธานํ (สฺยา.)
    63. bhāvanāppadhānaṃ (syā.)
    64. anurakkhanāppadhānaṃ (syā.)
    65. พฺยนฺตี กโรติ (สฺยา. กํ.)
    66. byantī karoti (syā. kaṃ.)
    67. ภทฺทกํ (สฺยา. กํ. ปี.)
    68. ปุฬวกสญฺญํ (สี. ปี.)
    69. bhaddakaṃ (syā. kaṃ. pī.)
    70. puḷavakasaññaṃ (sī. pī.)
    71. ปริเจฺจ (สี. ก.), ปริเจฺฉเท (สฺยา. ปี. ก.) ฎีกา โอโลเกตพฺพา
    72. สมฺมติญาณํ (สฺยา. กํ.)
    73. paricce (sī. ka.), paricchede (syā. pī. ka.) ṭīkā oloketabbā
    74. sammatiñāṇaṃ (syā. kaṃ.)
    75. โอปนยิโก (สฺยา. กํ.)
    76. opanayiko (syā. kaṃ.)
    77. รูปารมณํ (?)
    78. rūpāramaṇaṃ (?)
    79. จตฺตาโร ปญฺหาพฺยากรณา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    80. cattāro pañhābyākaraṇā (sī. syā. kaṃ. pī.)
    81. กามูปาทานํ (สี. ปี.) เอวมิตเรสุปิ
    82. kāmūpādānaṃ (sī. pī.) evamitaresupi
    83. ปิยวชฺชํ (สฺยา. กํ. ก.)
    84. piyavajjaṃ (syā. kaṃ. ka.)
    85. เวรมณิ (ก.)
    86. veramaṇi (ka.)
    87. สีติภูโต (ก.)
    88. sītibhūto (ka.)
    89. รูปูปาทานกฺขโนฺธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวมิตเรสุปิ
    90. rūpūpādānakkhandho (sī. syā. kaṃ. pī.) evamitaresupi
    91. อาทาตุํ (สฺยา. กํ. ปี.)
    92. ādātuṃ (syā. kaṃ. pī.)
    93. เมตฺตาจิเตฺตน (กตฺถจิ)
    94. mettācittena (katthaci)
    95. นิสฺสารณียา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ฎีกา โอโลเกตพฺพา
    96. วิฆาตปริฬาหา (สฺยา. กํ.)
    97. nissāraṇīyā (sī. syā. kaṃ. pī.) ṭīkā oloketabbā
    98. vighātapariḷāhā (syā. kaṃ.)
    99. สงฺคิติยปญฺจกํ นิฎฺฐิตํ (สฺยา. กํ.)
    100. saṅgitiyapañcakaṃ niṭṭhitaṃ (syā. kaṃ.)
    101. ปฎิสนฺธาเร (ก.)
    102. paṭisandhāre (ka.)
    103. อุเปกฺขาฐานิยํ (ก.)
    104. upekkhāṭhāniyaṃ (ka.)
    105. อาวี (ก. สี. ปี. ก.)
    106. āvī (ka. sī. pī. ka.)
    107. ปริปูรีการี (สฺยา. กํ.)
    108. paripūrīkārī (syā. kaṃ.)
    109. วิฆาตํ (สี. ปี.), วิคเต (สฺยา. ก.)
    110. วิฆาเต (สี. ปี.)
    111. vighātaṃ (sī. pī.), vigate (syā. ka.)
    112. vighāte (sī. pī.)
    113. อุเปกฺขโก จ (สฺยา. ก.)
    114. upekkhako ca (syā. ka.)
    115. นิเพฺพธภาคิยสญฺญา (สฺยา. กํ.)
    116. nibbedhabhāgiyasaññā (syā. kaṃ.)
    117. กามสโญฺญชนํ (สฺยา. กํ.)
    118. kāmasaññojanaṃ (syā. kaṃ.)
    119. คิลานวุฎฺฐิโต (สทฺทนีติ) อ. นิ. ๖.๑๖ นกุลปิตุสุตฺตฎีกา ปสฺสิตพฺพา
    120. gilānavuṭṭhito (saddanīti) a. ni. 6.16 nakulapitusuttaṭīkā passitabbā
    121. ปจฺจาสิํสติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    122. paccāsiṃsati (sī. syā. kaṃ. pī.)
    123. จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. ปี.)
    124. cātummahārājikā (sī. syā. pī.)
    125. เอวเมวํ (ก.)
    126. evamevaṃ (ka.)
    127. กณฺณิการปุปฺผํ (สฺยา. กํ.)
    128. kaṇṇikārapupphaṃ (syā. kaṃ.)
    129. อจรีติ (สฺยา. ก.) เอวํ ‘‘จรติ จริสฺสติ’’ ปเทสุปิ
    130. acarīti (syā. ka.) evaṃ ‘‘carati carissati’’ padesupi
    131. อสญฺญิสตฺตา (สฺยา. กํ.)
    132. asaññisattā (syā. kaṃ.)
    133. สมติกฺกมฺม สนฺตเมตํ ปณีตเมตนฺติ (สฺยา. กํ.)
    134. samatikkamma santametaṃ paṇītametanti (syā. kaṃ.)
    135. มิลกฺขเกสุ (สฺยา. กํ.) มิลกฺขูสุ (ก.)
    136. milakkhakesu (syā. kaṃ.) milakkhūsu (ka.)
    137. สุกฎ ทุกฺกฎานํ (สี. ปี.)
    138. sukaṭa dukkaṭānaṃ (sī. pī.)
    139. กตฺถจิ นกาโร น ทิสฺสติ
    140. katthaci nakāro na dissati
    141. สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ (สี. สฺยา. ปี.)
    142. ธตา (ก. สี. สฺยา. กํ.)
    143. sātthaṃ sabyañjanaṃ (sī. syā. pī.)
    144. dhatā (ka. sī. syā. kaṃ.)
    145. อุฬารปามุโชฺช (สี. ปี.), โอฬารปาโมโชฺช (สฺยา. กํ.)
    146. อุฬารปามุโชฺช (สี. ปี.), โอฬารปาโมโชฺช (สฺยา. กํ.)
    147. uḷārapāmujjo (sī. pī.), oḷārapāmojjo (syā. kaṃ.)
    148. uḷārapāmujjo (sī. pī.), oḷārapāmojjo (syā. kaṃ.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. สงฺคีติสุตฺตวณฺณนา • 10. Saṅgītisuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) / ๑๐. สงฺคีติสุตฺตวณฺณนา • 10. Saṅgītisuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact