Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒. สนิทานสุตฺตํ
2. Sanidānasuttaṃ
๙๖. สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป.… ‘‘สนิทานํ, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชติ กามวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ พฺยาปาทวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ วิหิํสาวิตโกฺก, โน อนิทานํ’’ฯ
96. Sāvatthiyaṃ viharati…pe… ‘‘sanidānaṃ, bhikkhave, uppajjati kāmavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati byāpādavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati vihiṃsāvitakko, no anidānaṃ’’.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, สนิทานํ อุปฺปชฺชติ กามวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ พฺยาปาทวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ วิหิํสาวิตโกฺก, โน อนิทานํ? กามธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามสญฺญา, กามสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามสงฺกโปฺป, กามสงฺกปฺปํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามจฺฉโนฺท, กามจฺฉนฺทํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามปริฬาโห, กามปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามปริเยสนาฯ กามปริเยสนํ, ภิกฺขเว, ปริเยสมาโน อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ตีหิ ฐาเนหิ มิจฺฉา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, sanidānaṃ uppajjati kāmavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati byāpādavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati vihiṃsāvitakko, no anidānaṃ? Kāmadhātuṃ, bhikkhave, paṭicca uppajjati kāmasaññā, kāmasaññaṃ paṭicca uppajjati kāmasaṅkappo, kāmasaṅkappaṃ paṭicca uppajjati kāmacchando, kāmacchandaṃ paṭicca uppajjati kāmapariḷāho, kāmapariḷāhaṃ paṭicca uppajjati kāmapariyesanā. Kāmapariyesanaṃ, bhikkhave, pariyesamāno assutavā puthujjano tīhi ṭhānehi micchā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘พฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ พฺยาปาทสญฺญา, พฺยาปาทสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ พฺยาปาทสงฺกโปฺป…เป.… พฺยาปาทจฺฉโนฺท… พฺยาปาทปริฬาโห… พฺยาปาทปริเยสนา… พฺยาปาทปริเยสนํ, ภิกฺขเว, ปริเยสมาโน อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ตีหิ ฐาเนหิ มิจฺฉา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Byāpādadhātuṃ, bhikkhave, paṭicca uppajjati byāpādasaññā, byāpādasaññaṃ paṭicca uppajjati byāpādasaṅkappo…pe… byāpādacchando… byāpādapariḷāho… byāpādapariyesanā… byāpādapariyesanaṃ, bhikkhave, pariyesamāno assutavā puthujjano tīhi ṭhānehi micchā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘วิหิํสาธาตุํ , ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ วิหิํสาสญฺญา; วิหิํสาสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ วิหิํสาสงฺกโปฺป…เป.… วิหิํสาฉโนฺท… วิหิํสาปริฬาโห… วิหิํสาปริเยสนา… วิหิํสาปริเยสนํ, ภิกฺขเว , ปริเยสมาโน อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ตีหิ ฐาเนหิ มิจฺฉา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Vihiṃsādhātuṃ , bhikkhave, paṭicca uppajjati vihiṃsāsaññā; vihiṃsāsaññaṃ paṭicca uppajjati vihiṃsāsaṅkappo…pe… vihiṃsāchando… vihiṃsāpariḷāho… vihiṃsāpariyesanā… vihiṃsāpariyesanaṃ, bhikkhave , pariyesamāno assutavā puthujjano tīhi ṭhānehi micchā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ สุเกฺข ติณทาเย นิกฺขิเปยฺย; โน เจ หเตฺถหิ จ ปาเทหิ จ ขิปฺปเมว นิพฺพาเปยฺยฯ เอวญฺหิ, ภิกฺขเว, เย ติณกฎฺฐนิสฺสิตา ปาณา เต อนยพฺยสนํ อาปเชฺชยฺยุํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, โย หิ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อุปฺปนฺนํ วิสมคตํ สญฺญํ น ขิปฺปเมว ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, โส ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฎิกงฺขาฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, puriso ādittaṃ tiṇukkaṃ sukkhe tiṇadāye nikkhipeyya; no ce hatthehi ca pādehi ca khippameva nibbāpeyya. Evañhi, bhikkhave, ye tiṇakaṭṭhanissitā pāṇā te anayabyasanaṃ āpajjeyyuṃ. Evameva kho, bhikkhave, yo hi koci samaṇo vā brāhmaṇo vā uppannaṃ visamagataṃ saññaṃ na khippameva pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gameti, so diṭṭhe ceva dhamme dukkhaṃ viharati savighātaṃ saupāyāsaṃ sapariḷāhaṃ; kāyassa ca bhedā paraṃ maraṇā duggati pāṭikaṅkhā.
‘‘สนิทานํ, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ อพฺยาปาทวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาวิตโกฺก, โน อนิทานํฯ
‘‘Sanidānaṃ, bhikkhave, uppajjati nekkhammavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati abyāpādavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati avihiṃsāvitakko, no anidānaṃ.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, สนิทานํ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ อพฺยาปาทวิตโกฺก, โน อนิทานํ; สนิทานํ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาวิตโกฺก, โน อนิทานํ? เนกฺขมฺมธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมสญฺญา, เนกฺขมฺมสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมสงฺกโปฺป, เนกฺขมฺมสงฺกปฺปํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมจฺฉโนฺท, เนกฺขมฺมจฺฉนฺทํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมปริฬาโห, เนกฺขมฺมปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ เนกฺขมฺมปริเยสนา; เนกฺขมฺมปริเยสนํ, ภิกฺขเว, ปริเยสมาโน สุตวา อริยสาวโก ตีหิ ฐาเนหิ สมฺมา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, sanidānaṃ uppajjati nekkhammavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati abyāpādavitakko, no anidānaṃ; sanidānaṃ uppajjati avihiṃsāvitakko, no anidānaṃ? Nekkhammadhātuṃ, bhikkhave, paṭicca uppajjati nekkhammasaññā, nekkhammasaññaṃ paṭicca uppajjati nekkhammasaṅkappo, nekkhammasaṅkappaṃ paṭicca uppajjati nekkhammacchando, nekkhammacchandaṃ paṭicca uppajjati nekkhammapariḷāho, nekkhammapariḷāhaṃ paṭicca uppajjati nekkhammapariyesanā; nekkhammapariyesanaṃ, bhikkhave, pariyesamāno sutavā ariyasāvako tīhi ṭhānehi sammā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘อพฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อพฺยาปาทสญฺญา, อพฺยาปาทสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อพฺยาปาทสงฺกโปฺป…เป.… อพฺยาปาทจฺฉโนฺท… อพฺยาปาทปริฬาโห… อพฺยาปาทปริเยสนา, อพฺยาปาทปริเยสนํ, ภิกฺขเว, ปริเยสมาโน สุตวา อริยสาวโก ตีหิ ฐาเนหิ สมฺมา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Abyāpādadhātuṃ, bhikkhave, paṭicca uppajjati abyāpādasaññā, abyāpādasaññaṃ paṭicca uppajjati abyāpādasaṅkappo…pe… abyāpādacchando… abyāpādapariḷāho… abyāpādapariyesanā, abyāpādapariyesanaṃ, bhikkhave, pariyesamāno sutavā ariyasāvako tīhi ṭhānehi sammā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘อวิหิํสาธาตุํ , ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาสญฺญา , อวิหิํสาสญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาสงฺกโปฺป, อวิหิํสาสงฺกปฺปํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาฉโนฺท, อวิหิํสาฉนฺทํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาปริฬาโห, อวิหิํสาปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อวิหิํสาปริเยสนา; อวิหิํสาปริเยสนํ, ภิกฺขเว, ปริเยสมาโน สุตวา อริยสาวโก ตีหิ ฐาเนหิ สมฺมา ปฎิปชฺชติ – กาเยน, วาจาย, มนสาฯ
‘‘Avihiṃsādhātuṃ , bhikkhave, paṭicca uppajjati avihiṃsāsaññā , avihiṃsāsaññaṃ paṭicca uppajjati avihiṃsāsaṅkappo, avihiṃsāsaṅkappaṃ paṭicca uppajjati avihiṃsāchando, avihiṃsāchandaṃ paṭicca uppajjati avihiṃsāpariḷāho, avihiṃsāpariḷāhaṃ paṭicca uppajjati avihiṃsāpariyesanā; avihiṃsāpariyesanaṃ, bhikkhave, pariyesamāno sutavā ariyasāvako tīhi ṭhānehi sammā paṭipajjati – kāyena, vācāya, manasā.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ สุเกฺข ติณทาเย นิกฺขิเปยฺย; ตเมนํ หเตฺถหิ จ ปาเทหิ จ ขิปฺปเมว นิพฺพาเปยฺยฯ เอวญฺหิ, ภิกฺขเว, เย ติณกฎฺฐนิสฺสิตา ปาณา เต น อนยพฺยสนํ อาปเชฺชยฺยุํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, โย หิ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อุปฺปนฺนํ วิสมคตํ สญฺญํ ขิปฺปเมว ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, โส ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส จ เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฎิกงฺขา’’ติฯ ทุติยํฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, puriso ādittaṃ tiṇukkaṃ sukkhe tiṇadāye nikkhipeyya; tamenaṃ hatthehi ca pādehi ca khippameva nibbāpeyya. Evañhi, bhikkhave, ye tiṇakaṭṭhanissitā pāṇā te na anayabyasanaṃ āpajjeyyuṃ. Evameva kho, bhikkhave, yo hi koci samaṇo vā brāhmaṇo vā uppannaṃ visamagataṃ saññaṃ khippameva pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gameti, so diṭṭhe ceva dhamme sukhaṃ viharati avighātaṃ anupāyāsaṃ apariḷāhaṃ; kāyassa ca bhedā paraṃ maraṇā sugati pāṭikaṅkhā’’ti. Dutiyaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา • 2. Sanidānasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา • 2. Sanidānasuttavaṇṇanā