Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา
2. Sanidānasuttavaṇṇanā
๙๖. ทุติเย สนิทานนฺติ ภาวนปุํสกเมตํ, สนิทาโน สปจฺจโย หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อโตฺถฯ กามธาตุํ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจาติ เอตฺถ กามวิตโกฺกปิ กามธาตุ กามาวจรธมฺมาปิ, วิเสสโต สพฺพากุสลมฺปิฯ ยถาห –
96. Dutiye sanidānanti bhāvanapuṃsakametaṃ, sanidāno sapaccayo hutvā uppajjatīti attho. Kāmadhātuṃ, bhikkhave, paṭiccāti ettha kāmavitakkopi kāmadhātu kāmāvacaradhammāpi, visesato sabbākusalampi. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? กามปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก สงฺกโปฺป อปฺปนา พฺยปฺปนา เจตโส อภินิโรปนา มิจฺฉาสงฺกโปฺป, อยํ วุจฺจติ กามธาตุฯ เหฎฺฐโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว อโนฺตกริตฺวา ยํ เอตสฺมิํ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปา เวทนา สญฺญา สงฺขารา วิญฺญาณํ, อยํ วุจฺจติ กามธาตุฯ สเพฺพปิ อกุสลา ธมฺมา กามธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā kāmadhātu? Kāmapaṭisaṃyutto takko vitakko saṅkappo appanā byappanā cetaso abhiniropanā micchāsaṅkappo, ayaṃ vuccati kāmadhātu. Heṭṭhato avīcinirayaṃ pariyantaṃ karitvā uparito paranimmitavasavattī deve antokaritvā yaṃ etasmiṃ antare etthāvacarā ettha pariyāpannā khandhadhātuāyatanā rūpā vedanā saññā saṅkhārā viññāṇaṃ, ayaṃ vuccati kāmadhātu. Sabbepi akusalā dhammā kāmadhātū’’ti (vibha. 182).
เอตฺถ สพฺพสงฺคาหิกา อสมฺภินฺนาติ เทฺว กถา โหนฺติฯ กถํ? กามธาตุคฺคหเณน หิ พฺยาปาทธาตุวิหิํสาธาตุโย คหิตา โหนฺตีติ อยํ สพฺพสงฺคาหิกาฯ ตาสํ ปน ทฺวินฺนํ ธาตูนํ วิสุํ อาคตตฺตา เสสธมฺมา กามธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนกถาฯ อยมิธ คเหตพฺพา อิมํ กามธาตุํ อารมฺมณวเสน วา สมฺปโยควเสน วา ปฎิจฺจ กามสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ กามสญฺญํ ปฎิจฺจาติ กามสญฺญํ ปน สมฺปโยควเสน วา อุปนิสฺสยวเสน วา ปฎิจฺจ กามสงฺกโปฺป นาม อุปฺปชฺชติฯ อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ตีหิ ฐาเนหีติ ตีหิ การเณหิฯ มิจฺฉา ปฎิปชฺชตีติ อยาถาวปฎิปทํ อนิยฺยานิกปฎิปทํ ปฎิปชฺชติฯ
Ettha sabbasaṅgāhikā asambhinnāti dve kathā honti. Kathaṃ? Kāmadhātuggahaṇena hi byāpādadhātuvihiṃsādhātuyo gahitā hontīti ayaṃ sabbasaṅgāhikā. Tāsaṃ pana dvinnaṃ dhātūnaṃ visuṃ āgatattā sesadhammā kāmadhātūti ayaṃ asambhinnakathā. Ayamidha gahetabbā imaṃ kāmadhātuṃ ārammaṇavasena vā sampayogavasena vā paṭicca kāmasaññā nāma uppajjati. Kāmasaññaṃpaṭiccāti kāmasaññaṃ pana sampayogavasena vā upanissayavasena vā paṭicca kāmasaṅkappo nāma uppajjati. Iminā nayena sabbapadesu attho veditabbo. Tīhi ṭhānehīti tīhi kāraṇehi. Micchā paṭipajjatīti ayāthāvapaṭipadaṃ aniyyānikapaṭipadaṃ paṭipajjati.
พฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ พฺยาปาทวิตโกฺกปิ พฺยาปาทธาตุ พฺยาปาโทปิฯ ยถาห –
Byāpādadhātuṃ, bhikkhaveti ettha byāpādavitakkopi byāpādadhātu byāpādopi. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา พฺยาปาทธาตุ? พฺยาปาทปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตุฯ ทสสุ อาฆาตวตฺถูสุ จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฎิวิโรโธ โกโป ปโกโป…เป.… อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส, อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā byāpādadhātu? Byāpādapaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… ayaṃ vuccati byāpādadhātu. Dasasu āghātavatthūsu cittassa āghāto paṭivirodho kopo pakopo…pe… anattamanatā cittassa, ayaṃ vuccati byāpādadhātū’’ti (vibha. 182).
อิมํ พฺยาปาทธาตุํ สหชาตปจฺจยาทิวเสน ปฎิจฺจ พฺยาปาทสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ
Imaṃ byāpādadhātuṃ sahajātapaccayādivasena paṭicca byāpādasaññā nāma uppajjati. Sesaṃ purimanayeneva veditabbaṃ.
วิหิํสาธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ วิหิํสาวิตโกฺกปิ วิหิํสาธาตุ วิหิํสาปิฯ ยถาห –
Vihiṃsādhātuṃ, bhikkhaveti ettha vihiṃsāvitakkopi vihiṃsādhātu vihiṃsāpi. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา วิหิํสาธาตุ? วิหิํสาปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… อยํ วุจฺจติ วิหิํสาธาตุฯ อิเธกโจฺจ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทเณฺฑน วา สเตฺถน วา รชฺชุยา วา อญฺญตรญฺญตเรน วา สเตฺต วิเหเฐติฯ ยา เอวรูปา เหฐนา วิเหฐนา หิํสนา วิหิํสนา โรสนา ปรูปฆาโต, อยํ วุจฺจติ วิหิํสาธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā vihiṃsādhātu? Vihiṃsāpaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… ayaṃ vuccati vihiṃsādhātu. Idhekacco pāṇinā vā leḍḍunā vā daṇḍena vā satthena vā rajjuyā vā aññataraññatarena vā satte viheṭheti. Yā evarūpā heṭhanā viheṭhanā hiṃsanā vihiṃsanā rosanā parūpaghāto, ayaṃ vuccati vihiṃsādhātū’’ti (vibha. 182).
อิมํ วิหิํสาธาตุํ สหชาตปจฺจยาทิวเสน ปฎิจฺจ วิหิํสาสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ
Imaṃ vihiṃsādhātuṃ sahajātapaccayādivasena paṭicca vihiṃsāsaññā nāma uppajjati. Sesamidhāpi purimanayeneva veditabbaṃ.
ติณทาเยติ ติณคหเน อรเญฺญฯ อนยพฺยสนนฺติ อวุฑฺฒิํ วินาสํฯ เอวเมว โขติ เอตฺถ สุกฺขติณทาโย วิย อารมฺมณํ ทฎฺฐพฺพํ, ติณุกฺกา วิย อกุสลสญฺญา, ติณกฎฺฐนิสฺสิตา ปาณา วิย อิเม สตฺตาฯ ยถา สุกฺขติณทาเย ฐปิตํ ติณุกฺกํ ขิปฺปํ วายมิตฺวา อนิพฺพาเปนฺตสฺส เต ปาณา อนยพฺยสนํ ปาปุณนฺติฯ เอวเมว เย สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุปฺปนฺนํ อกุสลสญฺญํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุเจฺฉทปฺปหาเนหิ นปฺปชหนฺติ, เต ทุกฺขํ วิหรนฺติฯ
Tiṇadāyeti tiṇagahane araññe. Anayabyasananti avuḍḍhiṃ vināsaṃ. Evameva khoti ettha sukkhatiṇadāyo viya ārammaṇaṃ daṭṭhabbaṃ, tiṇukkā viya akusalasaññā, tiṇakaṭṭhanissitā pāṇā viya ime sattā. Yathā sukkhatiṇadāye ṭhapitaṃ tiṇukkaṃ khippaṃ vāyamitvā anibbāpentassa te pāṇā anayabyasanaṃ pāpuṇanti. Evameva ye samaṇā vā brāhmaṇā vā uppannaṃ akusalasaññaṃ vikkhambhanatadaṅgasamucchedappahānehi nappajahanti, te dukkhaṃ viharanti.
วิสมคตนฺติ ราควิสมาทีนิ อนุคตํ อกุสลสญฺญํฯ น ขิปฺปเมว ปชหตีติ วิกฺขมฺภนาทิวเสน สีฆํ นปฺปชหติฯ น วิโนเทตีติ น นีหรติฯ น พฺยนฺตีกโรตีติ ภงฺคมตฺตมฺปิ อนวเสเสโนฺต น วิคตนฺตํ กโรติฯ น อนภาวํ คเมตีติ น อนุอภาวํ คเมติฯ เอวํ สพฺพปเทสุ น – กาโร อาหริตโพฺพฯ ปาฎิกงฺขาติ ปาฎิกงฺขิตพฺพา อิจฺฉิตพฺพาฯ
Visamagatanti rāgavisamādīni anugataṃ akusalasaññaṃ. Na khippameva pajahatīti vikkhambhanādivasena sīghaṃ nappajahati. Na vinodetīti na nīharati. Na byantīkarotīti bhaṅgamattampi anavasesento na vigatantaṃ karoti. Na anabhāvaṃ gametīti na anuabhāvaṃ gameti. Evaṃ sabbapadesu na – kāro āharitabbo. Pāṭikaṅkhāti pāṭikaṅkhitabbā icchitabbā.
เนกฺขมฺมธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ เนกฺขมฺมวิตโกฺกปิ เนกฺขมฺมธาตุ สเพฺพปิ กุสลา ธมฺมาฯ ยถาห –
Nekkhammadhātuṃ, bhikkhaveti ettha nekkhammavitakkopi nekkhammadhātu sabbepi kusalā dhammā. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา เนกฺขมฺมธาตุ? เนกฺขมฺมปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก วิตโกฺก…เป.… สมฺมาสงฺกโปฺป, อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā nekkhammadhātu? Nekkhammapaṭisaṃyutto takko vitakko…pe… sammāsaṅkappo, ayaṃ vuccati nekkhammadhātū’’ti (vibha. 182).
อิธาปิ ทุวิธา กถาฯ เนกฺขมฺมธาตุคฺคหเณน หิ อิตราปิ เทฺว ธาตุโย คหณํ คจฺฉนฺติ กุสลธมฺมปริยาปนฺนตฺตา, อยํ สพฺพสงฺคาหิกาฯ ตา ปน ธาตุโย วิสุํ ทีเปตพฺพาติ ตา ฐเปตฺวา เสสา สพฺพกุสลา เนกฺขมฺมธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนาฯ อิมํ เนกฺขมฺมธาตุํ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ปฎิจฺจ เนกฺขมฺมสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ สญฺญาทีนิ ปฎิจฺจ วิตกฺกาทโย ยถานุรูปํฯ
Idhāpi duvidhā kathā. Nekkhammadhātuggahaṇena hi itarāpi dve dhātuyo gahaṇaṃ gacchanti kusaladhammapariyāpannattā, ayaṃ sabbasaṅgāhikā. Tā pana dhātuyo visuṃ dīpetabbāti tā ṭhapetvā sesā sabbakusalā nekkhammadhātūti ayaṃ asambhinnā. Imaṃ nekkhammadhātuṃ sahajātādipaccayavasena paṭicca nekkhammasaññā nāma uppajjati. Saññādīni paṭicca vitakkādayo yathānurūpaṃ.
อพฺยาปาทธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ อพฺยาปาทวิตโกฺกปิ อพฺยาปาทธาตุ อพฺยาปาโทปิฯ ยถาห –
Abyāpādadhātuṃ, bhikkhaveti ettha abyāpādavitakkopi abyāpādadhātu abyāpādopi. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา อพฺยาปาทธาตุ ? อพฺยาปาทปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก…เป.… อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุฯ ยา สเตฺตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā abyāpādadhātu ? Abyāpādapaṭisaṃyutto takko…pe… ayaṃ vuccati abyāpādadhātu. Yā sattesu metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti, ayaṃ vuccati abyāpādadhātū’’ti (vibha. 182).
อิมํ อพฺยาปาทธาตุํ ปฎิจฺจ วุตฺตนเยเนว อพฺยาปาทสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ
Imaṃ abyāpādadhātuṃ paṭicca vuttanayeneva abyāpādasaññā nāma uppajjati.
อวิหิํสาธาตุํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถาปิ อวิหิํสาวิตโกฺกปิ อวิหิํสาธาตุ กรุณาปิฯ ยถาห –
Avihiṃsādhātuṃ, bhikkhaveti etthāpi avihiṃsāvitakkopi avihiṃsādhātu karuṇāpi. Yathāha –
‘‘ตตฺถ กตมา อวิหิํสาธาตุ? อวิหิํสาปฎิสํยุโตฺต ตโกฺก…เป.… อยํ วุจฺจติ อวิหิํสาธาตุฯ ยา สเตฺตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อวิหิํสาธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๒)ฯ
‘‘Tattha katamā avihiṃsādhātu? Avihiṃsāpaṭisaṃyutto takko…pe… ayaṃ vuccati avihiṃsādhātu. Yā sattesu karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti, ayaṃ vuccati avihiṃsādhātū’’ti (vibha. 182).
อิมํ อวิหิํสาธาตุํ ปฎิจฺจ วุตฺตนเยเนว อวิหิํสาสญฺญา นาม อุปฺปชฺชติฯ เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํฯ ทุติยํฯ
Imaṃ avihiṃsādhātuṃ paṭicca vuttanayeneva avihiṃsāsaññā nāma uppajjati. Sesaṃ sabbattha vuttānusāreneva veditabbaṃ. Dutiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. สนิทานสุตฺตํ • 2. Sanidānasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. สนิทานสุตฺตวณฺณนา • 2. Sanidānasuttavaṇṇanā