Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๘. สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา
8. Saṅkhadhamasuttavaṇṇanā
๓๖๐. อฎฺฐเม ยํพหุลํ ยํพหุลนฺติ อิมินา นิคโณฺฐ อตฺตนาว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติฯ ตสฺมา ภควา เอวํ สเนฺต น โกจิ อาปายิโกติอาทิมาหฯ ปุริมานิ ปน จตฺตาริ ปทานิ ทิฎฺฐิยา ปจฺจยา โหนฺติฯ ตสฺมา เตสุปิ อาทีนวํ ทเสฺสโนฺต อิธ, คามณิ, เอกโจฺจ สตฺถา เอวํวาที โหตีติอาทิมาหฯ ตตฺถ อหมฺปมฺหีติ อหมฺปิ อมฺหิฯ
360. Aṭṭhame yaṃbahulaṃ yaṃbahulanti iminā nigaṇṭho attanāva attano vādaṃ bhindati. Tasmā bhagavā evaṃ sante na koci āpāyikotiādimāha. Purimāni pana cattāri padāni diṭṭhiyā paccayā honti. Tasmā tesupi ādīnavaṃ dassento idha, gāmaṇi, ekacco satthā evaṃvādī hotītiādimāha. Tattha ahampamhīti ahampi amhi.
เมตฺตาสหคเตนาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ สทฺธิํ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมเคฺค วุตฺตเมวฯ เสยฺยถาปิ, คามณิ, พลวา สงฺขธโมติอาทิ ปน อิธ อปุพฺพํฯ ตตฺถ พลวาติ พลสมฺปโนฺนฯ สงฺขธโมติ สงฺขธมโกฯ อปฺปกสิเรนาติ อกิเจฺฉน อทุเกฺขนฯ ทุพฺพโล หิ สงฺขธโม สงฺขํ ธมโนฺตปิ น สโกฺกติ จตโสฺส ทิสา สเรน วิญฺญาเปตุํ, นาสฺส สงฺขสโทฺท สพฺพโต ผรติ, พลวโต ปน วิปฺผาริโก โหติ, ตสฺมา ‘‘พลวา’’ติ อาหฯ
Mettāsahagatenātiādīsu yaṃ vattabbaṃ, taṃ sabbaṃ saddhiṃ bhāvanānayena visuddhimagge vuttameva. Seyyathāpi, gāmaṇi, balavā saṅkhadhamotiādi pana idha apubbaṃ. Tattha balavāti balasampanno. Saṅkhadhamoti saṅkhadhamako. Appakasirenāti akicchena adukkhena. Dubbalo hi saṅkhadhamo saṅkhaṃ dhamantopi na sakkoti catasso disā sarena viññāpetuṃ, nāssa saṅkhasaddo sabbato pharati, balavato pana vipphāriko hoti, tasmā ‘‘balavā’’ti āha.
เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ เอตฺถ ‘‘เมตฺตา’’ติ วุเตฺต อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฎฺฎติ, ‘‘เจโตวิมุตฺตี’’ติ วุเตฺต ปน อปฺปนาว วฎฺฎติฯ ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ, อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปาวจรํฯ ตญฺหิ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอธิสกอโนธิสกทิสาผรณวเสน วเฑฺฒตฺวา กตตฺตา อปฺปมาณกตนฺติ วุจฺจติฯ
Mettāya cetovimuttiyāti ettha ‘‘mettā’’ti vutte upacāropi appanāpi vaṭṭati, ‘‘cetovimuttī’’ti vutte pana appanāva vaṭṭati. Yaṃ pamāṇakataṃ kammanti pamāṇakataṃ kammaṃ nāma kāmāvacaraṃ vuccati, appamāṇakataṃ kammaṃ nāma rūpāvacaraṃ. Tañhi pamāṇaṃ atikkamitvā odhisakaanodhisakadisāpharaṇavasena vaḍḍhetvā katattā appamāṇakatanti vuccati.
น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฎฺฐตีติ ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺมิํ รูปารูปาวจรกเมฺม น โอหียติ น ติฎฺฐติฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺส รูปารูปาวจรกมฺมสฺส อนฺตรา ลคฺคิตุํ วา ฐาตุํ วา รูปารูปาวจรกมฺมํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ปติฎฺฐาตุํ วา น สโกฺกติฯ อถ โข รูปารูปาวจรกมฺมเมว กามาวจรํ มโหโฆ วิย ปริตฺตํ อุทกํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา ติฎฺฐติ, ตสฺส วิปากํ ปฎิพาหิตฺวา สยเมว พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนตีติฯ อิติ อิทํ สุตฺตํ อาทิมฺหิ กิเลสวเสน วุฎฺฐาย อวสาเน พฺรหฺมวิหารวเสน คหิตตฺตา ยถานุสนฺธินาว คตํฯ
Na taṃ tatrāvasissati, na taṃ tatrāvatiṭṭhatīti taṃ kāmāvacarakammaṃ tasmiṃ rūpārūpāvacarakamme na ohīyati na tiṭṭhati. Kiṃ vuttaṃ hoti? Taṃ kāmāvacarakammaṃ tassa rūpārūpāvacarakammassa antarā laggituṃ vā ṭhātuṃ vā rūpārūpāvacarakammaṃ pharitvā pariyādiyitvā attano okāsaṃ gahetvā patiṭṭhātuṃ vā na sakkoti. Atha kho rūpārūpāvacarakammameva kāmāvacaraṃ mahogho viya parittaṃ udakaṃ pharitvā pariyādiyitvā attano okāsaṃ katvā tiṭṭhati, tassa vipākaṃ paṭibāhitvā sayameva brahmasahabyataṃ upanetīti. Iti idaṃ suttaṃ ādimhi kilesavasena vuṭṭhāya avasāne brahmavihāravasena gahitattā yathānusandhināva gataṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. สงฺขธมสุตฺตํ • 8. Saṅkhadhamasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. สงฺขธมสุตฺตวณฺณนา • 8. Saṅkhadhamasuttavaṇṇanā