Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā

    ๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา

    8. Sannidhikārakasikkhāpadavaṇṇanā

    ‘‘กาโร กรณํ กิริยาติ อตฺถโต เอก’’นฺติ เอเตน การสทฺทสฺส ภาวตฺถตํ ทเสฺสติฯ สมฺมา นิธานํ ฐปนํ สนฺนิธิ‘‘ปฎิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตเสฺสตํ นาม’’นฺติ อิมินา ปฎิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิเต อิมสฺส ทุโทฺธตภาวํ ทเสฺสติฯ กิญฺจาปิ ยามกาลิกํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา น โหติ, ‘‘อนาปตฺติ ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภุญฺชตี’’ติอาทิ วจนโต ปน ตตฺถาปิ ยามาติกฺกเม สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ ‘‘ยํ กิญฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา’’ติ วุตฺตํฯ อิทานิ ทุโทฺธตภาวเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยํ องฺคุลิยา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปญฺญายตีติ ยํ ปตฺตํ โธตํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส ปเตฺต องฺคุลิเลขา ปญฺญายติ, โส ปโตฺต ทุโทฺธโต โหตีติ อโตฺถฯ เตลวณฺณปเตฺต ปน องฺคุลิเลขา ปญฺญายติ, สา อโพฺพหาริกาฯ เสฺนโหติ เตลํฯ สนฺทิสฺสตีติ ยาคุยา อุปริ สนฺทิสฺสติฯ ตาทิเส ปเตฺตปีติ ปฎิคฺคหณํ อวิสฺสชฺชิตฺวา สยํ วา อเญฺญน วา โภชนํ นีหริตฺวา น สมฺมา โธเต ปเตฺตปิฯ ปุนทิวเส ภุญฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ ปเตฺต ลคฺคํ อวิชหิตปฺปฎิคฺคหณํ โหตีติ ทุติยทิวเส ภุญฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํฯ ปริจฺจเตฺต ปน ปเตฺต ปุนทิวเส ภุญฺชนฺตสฺส อนาปตฺติฯ

    ‘‘Kāro karaṇaṃ kiriyāti atthato eka’’nti etena kārasaddassa bhāvatthataṃ dasseti. Sammā nidhānaṃ ṭhapanaṃ sannidhi. ‘‘Paṭiggahetvā ekarattaṃ vītināmitassetaṃnāma’’nti iminā paṭiggahetvā ekarattaṃ vītināmite imassa duddhotabhāvaṃ dasseti. Kiñcāpi yāmakālikaṃ khādanīyaṃ, bhojanīyaṃ vā na hoti, ‘‘anāpatti yāmakālikaṃ yāme nidahitvā bhuñjatī’’tiādi vacanato pana tatthāpi yāmātikkame sannidhipaccayā pācittiyena bhavitabbanti ‘‘yaṃ kiñci yāvakālikaṃ vā yāmakālikaṃ vā’’ti vuttaṃ. Idāni duddhotabhāvameva vibhāvetuṃ ‘‘yaṃ aṅguliyā’’tiādi vuttaṃ. Tattha yaṃ aṅguliyā ghaṃsantassa lekhā paññāyatīti yaṃ pattaṃ dhotaṃ aṅguliyā ghaṃsantassa patte aṅgulilekhā paññāyati, so patto duddhoto hotīti attho. Telavaṇṇapatte pana aṅgulilekhā paññāyati, sā abbohārikā. Snehoti telaṃ. Sandissatīti yāguyā upari sandissati. Tādise pattepīti paṭiggahaṇaṃ avissajjitvā sayaṃ vā aññena vā bhojanaṃ nīharitvā na sammā dhote pattepi. Punadivase bhuñjantassa pācittiyanti patte laggaṃ avijahitappaṭiggahaṇaṃ hotīti dutiyadivase bhuñjantassa pācittiyaṃ. Pariccatte pana patte punadivase bhuñjantassa anāpatti.

    ยํ ปนาติ ยํ โภชนํ ปนฯ อปริจฺจตฺตเมว หีติ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน วา อนุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทาเนน วา อปริจฺจตฺตเมวฯ กปฺปิย โภชนนฺติ อนฺตมโส เอกสิตฺถมตฺตมฺปิ กปฺปิยโภชนํฯ อกปฺปิเยสูติ อกปฺปิยมํเสสุฯ เสเสสูติ มนุสฺสมํสโต อวเสเสสุ หตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉมํเสสุ เจว อปฺปฎิเวกฺขิเต อุทฺทิสฺสกตมํเส จฯ ปาฬิยํ ‘‘สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๕๕) สนฺนิหิเตสุ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกสุ ปุเรภตฺตมฺปิ อาหารตฺถาย อโชฺฌหรเณปิ ทุกฺกฎสฺส วุตฺตตฺตา ยามกาลิเกปิ อาหารตฺถาย อโชฺฌหรเณปิ วิสุํ ทุกฺกเฎนาปิ ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘อาหารตฺถาย อโชฺฌหรโต ทุกฺกเฎน สทฺธิํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ สพฺพวิกเปฺปสูติ ‘‘กปฺปิยโภชนํ ภุญฺชนฺตสฺสา’’ติอาทินา วุเตฺตสุ สเพฺพสุ วิกเปฺปสุ อปรมฺปิ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๕๓) – กปฺปิยโภชเน เทฺว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธิํ เทฺว ปาจิตฺติยานิ, อวเสเสสุ ปน อกปฺปิยมํเสสุ ทุกฺกเฎน สทฺธิํ เทฺว ปาจิตฺติยานิฯ ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อโชฺฌหรโต เทฺว ปาจิตฺติยานิ, นิรามิเสน เอกเมวฯ อาหารตฺถาย อโชฺฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกเฎน สทฺธินฺติฯ

    Yaṃ panāti yaṃ bhojanaṃ pana. Apariccattameva hīti anapekkhavissajjanena vā anupasampannassa nirapekkhadānena vā apariccattameva. Kappiya bhojananti antamaso ekasitthamattampi kappiyabhojanaṃ. Akappiyesūti akappiyamaṃsesu. Sesesūti manussamaṃsato avasesesu hatthiassasunakhaahisīhabyagghadīpiacchataracchamaṃsesu ceva appaṭivekkhite uddissakatamaṃse ca. Pāḷiyaṃ ‘‘sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassā’’tiādinā (pāci. 255) sannihitesu sattāhakālikayāvajīvikesu purebhattampi āhāratthāya ajjhoharaṇepi dukkaṭassa vuttattā yāmakālikepi āhāratthāya ajjhoharaṇepi visuṃ dukkaṭenāpi bhavitabbanti āha ‘‘āhāratthāya ajjhoharato dukkaṭena saddhiṃ pācittiya’’nti. Sabbavikappesūti ‘‘kappiyabhojanaṃ bhuñjantassā’’tiādinā vuttesu sabbesu vikappesu aparampi pācittiyaṃ vaḍḍhati. Idaṃ vuttaṃ hoti (pāci. aṭṭha. 253) – kappiyabhojane dve pācittiyāni, manussamaṃse thullaccayena saddhiṃ dve pācittiyāni, avasesesu pana akappiyamaṃsesu dukkaṭena saddhiṃ dve pācittiyāni. Yāmakālikaṃ sati paccaye sāmisena mukhena ajjhoharato dve pācittiyāni, nirāmisena ekameva. Āhāratthāya ajjhoharato vikappadvayepi dukkaṭena saddhinti.

    อวเสเสสูติ ยามกาลิกาทิโต อวเสเสสุฯ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติเยวาติ อปรมฺปิ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติเยวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ วิกาเล อโชฺฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ เทฺว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธิํ เทฺว ปาจิตฺติยานิ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฎน สทฺธิํ เทฺวติฯ

    Avasesesūti yāmakālikādito avasesesu. Pācittiyaṃ vaḍḍhatiyevāti aparampi pācittiyaṃ vaḍḍhatiyeva. Idaṃ vuttaṃ hoti – sace vikāle ajjhoharati, pakatibhojane sannidhipaccayā ca vikālabhojanapaccayā ca dve pācittiyāni, akappiyamaṃsesu manussamaṃse thullaccayena saddhiṃ dve pācittiyāni, avasesesu dukkaṭena saddhiṃ dveti.

    เพลฎฺฐสีโส นาม ชฎิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร เอโก มหาเถโรฯ ติกปาจิตฺติยนฺติ สนฺนิธิการเก สนฺนิธิการกสญฺญิเวมติกอสนฺนิธิการกสญฺญีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิฯ สํสฎฺฐานีติ สํสฎฺฐรสานิฯ สมฺภินฺนรสํ สนฺธาเยว หิ ‘‘ตทหุปฎิคฺคหิตํ กาเล กปฺปตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ อสมฺภินฺนรสนฺติ อมิสฺสิตรสํฯ อิทญฺจ สีตลปายาสาทินา สห ลทฺธํ สปฺปิปิณฺฑาทิกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ‘‘สุโธตํ วา’’ติ อิทํ ปน ปิณฺฑปาเตน สทฺธิํ ลทฺธํ ตโกฺกลชาติผลาทิํ, ยาคุอาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคีเวราทิกญฺจ สนฺธาย วุตฺตํฯ

    Belaṭṭhasīso nāma jaṭilasahassassa abbhantare eko mahāthero. Tikapācittiyanti sannidhikārake sannidhikārakasaññivematikaasannidhikārakasaññīnaṃ vasena tīṇi pācittiyāni. Saṃsaṭṭhānīti saṃsaṭṭharasāni. Sambhinnarasaṃ sandhāyeva hi ‘‘tadahupaṭiggahitaṃ kāle kappatī’’tiādi vuttaṃ. Tenāha ‘‘tasmā’’tiādi. Ettha ca asambhinnarasanti amissitarasaṃ. Idañca sītalapāyāsādinā saha laddhaṃ sappipiṇḍādikaṃ sandhāya vuttaṃ. ‘‘Sudhotaṃ vā’’ti idaṃ pana piṇḍapātena saddhiṃ laddhaṃ takkolajātiphalādiṃ, yāguādīsu pakkhipitvā dinnasiṅgīverādikañca sandhāya vuttaṃ.

    เตนาติ สตฺตาหกาลิเกนฯ ตทหุ ปฎิคฺคหิตํ อสฺสาติ ตทหุปฎิคฺคหิตํ, เตน ตทหุปฎิคฺคหิเตนฯ เอส นโย ‘‘ทฺวีหปฎิคฺคหิเตนา’’ติอาทีสุปิฯ ตสฺมาติ ยสฺมา ปุเรภตฺตํ ปฎิคฺคหิตมฺปิ วฎฺฎติ, ตสฺมาฯ ปฎิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปตีติ วุตฺตนฺติ ‘‘สตฺตาหกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ปฎิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปติ, สตฺตาหาติกฺกเนฺต น กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) เภสชฺชกฺขนฺธเก วุตฺตํฯ กิญฺจาปิ มุเข เอกรตฺตํ น วุตฺตํ, ตถาปิ มุเข ปกฺขิตฺตเมว ยสฺมา สนฺนิธิ นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ วุตฺตํฯ

    Tenāti sattāhakālikena. Tadahu paṭiggahitaṃ assāti tadahupaṭiggahitaṃ, tena tadahupaṭiggahitena. Esa nayo ‘‘dvīhapaṭiggahitenā’’tiādīsupi. Tasmāti yasmā purebhattaṃ paṭiggahitampi vaṭṭati, tasmā. Paṭiggahitaṃ sattāhaṃ kappatīti vuttanti ‘‘sattāhakālikena, bhikkhave, yāvajīvikaṃ paṭiggahitaṃ sattāhaṃ kappati, sattāhātikkante na kappatī’’ti (mahāva. 305) bhesajjakkhandhake vuttaṃ. Kiñcāpi mukhe ekarattaṃ na vuttaṃ, tathāpi mukhe pakkhittameva yasmā sannidhi nāma hoti, tasmā ‘‘mukhasannidhī’’ti vuttaṃ.

    จตโสฺส กปฺปิยภูมิโยติ อุสฺสาวนนฺติกา, โคนิสาทิกา, คหปติ, สมฺมุตีติ จตโสฺส กปฺปิยกุฎิโยฯ ตตฺถ อุสฺสาวนนฺติกา (มหาว. อฎฺฐ. ๒๙๕) นาม เคเห กริยมาเน สมฺปริวาเรตฺวา ฐิเตหิ ‘‘กปฺปิยกุฎิํ กโรม, กปฺปิยกุฎิํ กโรมา’’ติ วา ‘‘กปฺปิยกุฎิ กปฺปิยกุฎี’’ติ วา วทเนฺตหิ ฐปิตปฐมิฎฺฐกถมฺภาทิกา สงฺฆสฺส วา เอกสฺส ภิกฺขุโน วา กุฎิฯ โย ปน อาราโม เยภุเยฺยน วา อปริกฺขิโตฺต โหติ, สกโลปิ วา , โส ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจติฯ คหปตีติ ยา ฐเปตฺวา ภิกฺขุํ เสเสหิ ‘‘กปฺปิยกุฎิํ เทมา’’ติ ทินฺนา, เตสํ วา สนฺตกาฯ สมฺมุติ นาม กมฺมวาจาย สาเวตฺวา กตาฯ กถํ ปเนตาสํ วินิจฺฉโย ชานิตโพฺพติ อาห ‘‘ตาสํ วินิจฺฉโย สมนฺตปาสาทิกายํ วุโตฺต’’ติฯ

    Catasso kappiyabhūmiyoti ussāvanantikā, gonisādikā, gahapati, sammutīti catasso kappiyakuṭiyo. Tattha ussāvanantikā (mahāva. aṭṭha. 295) nāma gehe kariyamāne samparivāretvā ṭhitehi ‘‘kappiyakuṭiṃ karoma, kappiyakuṭiṃ karomā’’ti vā ‘‘kappiyakuṭi kappiyakuṭī’’ti vā vadantehi ṭhapitapaṭhamiṭṭhakathambhādikā saṅghassa vā ekassa bhikkhuno vā kuṭi. Yo pana ārāmo yebhuyyena vā aparikkhitto hoti, sakalopi vā , so ‘‘gonisādī’’ti vuccati. Gahapatīti yā ṭhapetvā bhikkhuṃ sesehi ‘‘kappiyakuṭiṃ demā’’ti dinnā, tesaṃ vā santakā. Sammuti nāma kammavācāya sāvetvā katā. Kathaṃ panetāsaṃ vinicchayo jānitabboti āha ‘‘tāsaṃ vinicchayo samantapāsādikāyaṃ vutto’’ti.

    สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sannidhikārakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact