Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๒. อุโปสถกฺขนฺธกํ
2. Uposathakkhandhakaṃ
๖๘. สนฺนิปาตานุชานนาทิกถา
68. Sannipātānujānanādikathā
๑๓๒. อุโปสถกฺขนฺธเก ตรนฺติ โอตรนฺติ เอตฺถาติ ติตฺถํ, อุทกติตฺถํ, ติตฺถํ วิยาติ ติตฺถํ, ลทฺธีติ อาห ‘‘ติตฺถํ วุจฺจติ ลทฺธี’’ติฯ ลทฺธิ หิ พหูนํ ลทฺธิกานํ โอตรณฎฺฐานตฺตา ติตฺถํ นามฯ อญฺญนฺติ สาสนิกลทฺธิโต อญฺญํฯ เอเตสนฺติ ปริพฺพาชกานํฯ อิโตติ อิมสฺมา สาสนิกลทฺธิโตฯ ยนฺติ ยํ ธมฺมชาตํฯ เตสนฺติ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํฯ เต ลภนฺตีติ เอตฺถ ตสโทฺท มนุสฺสวิสโยติ อาห ‘‘เต มนุสฺสา’’ติฯ มูคสูกราติ เอตฺถ ถูลสรีรสฺส สูกรสฺส สทฺทมตฺตสฺสาปิ อภาวโต มูคสูกโร นามาติ อาห ‘‘ถูลสรีรสูกรา’’ติฯ
132. Uposathakkhandhake taranti otaranti etthāti titthaṃ, udakatitthaṃ, titthaṃ viyāti titthaṃ, laddhīti āha ‘‘titthaṃ vuccati laddhī’’ti. Laddhi hi bahūnaṃ laddhikānaṃ otaraṇaṭṭhānattā titthaṃ nāma. Aññanti sāsanikaladdhito aññaṃ. Etesanti paribbājakānaṃ. Itoti imasmā sāsanikaladdhito. Yanti yaṃ dhammajātaṃ. Tesanti aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ. Te labhantīti ettha tasaddo manussavisayoti āha ‘‘te manussā’’ti. Mūgasūkarāti ettha thūlasarīrassa sūkarassa saddamattassāpi abhāvato mūgasūkaro nāmāti āha ‘‘thūlasarīrasūkarā’’ti.
๑๓๕. อสฺสาติ ภิกฺขุโนฯ โสติ สมฺปชานมุสาวาโทฯ กินฺติ กิํ อาปตฺติฯ ทุกฺกฎนฺติ ปทสฺส ทุกฺกฎํ กมฺมนฺติ อาสงฺกา ภเวยฺยาติ อาห ‘‘ทุกฺกฎาปตฺตี’’ติฯ สา จ โข ทุกฺกฎาปตฺติ มุสาวาทลกฺขเณน น โหตีติ โยชนาฯ เกน โหตีติ อาห ‘‘ภควโต ปน วจเนนา’’ติฯ วจเนนาติ จ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท กิํ โหติ? ทุกฺกฎํ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๕) วจเนนฯ อกิริยสมุฎฺฐานาติ อาวิ กตฺตพฺพาย อาปตฺติยา อกรเณน อกิริยสมุฎฺฐานาฯ
135.Assāti bhikkhuno. Soti sampajānamusāvādo. Kinti kiṃ āpatti. Dukkaṭanti padassa dukkaṭaṃ kammanti āsaṅkā bhaveyyāti āha ‘‘dukkaṭāpattī’’ti. Sā ca kho dukkaṭāpatti musāvādalakkhaṇena na hotīti yojanā. Kena hotīti āha ‘‘bhagavato pana vacanenā’’ti. Vacanenāti ca ‘‘sampajānamusāvāde kiṃ hoti? Dukkaṭaṃ hotī’’ti (mahāva. 135) vacanena. Akiriyasamuṭṭhānāti āvi kattabbāya āpattiyā akaraṇena akiriyasamuṭṭhānā.
มนุเชนาติ มนุเสฺสนฯ วาจาติ วาจายฯ ยการสฺส หิ โลโปฯ คิรนฺติ สทฺทํฯ ปเรติ อเญฺญ ปุคฺคเลฯ วาจสิกนฺติ วาจาโต สมุฎฺฐิตํฯ อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ภิกฺขุ เกนจิ อาสเนฺน ฐิเตน มนุเชน วาจาย อนาลปโนฺต โหติ, ปเร ทูเร ฐิเต ปุคฺคเล สนฺธาย คิรํ มหาสทฺทํ โน จ ภเณยฺย, เอวมฺปิ วาจสิกเมว อาปเชฺชยฺยาติฯ
Manujenāti manussena. Vācāti vācāya. Yakārassa hi lopo. Giranti saddaṃ. Pareti aññe puggale. Vācasikanti vācāto samuṭṭhitaṃ. Ayaṃ panettha yojanā – bhikkhu kenaci āsanne ṭhitena manujena vācāya anālapanto hoti, pare dūre ṭhite puggale sandhāya giraṃ mahāsaddaṃ no ca bhaṇeyya, evampi vācasikameva āpajjeyyāti.
อนฺตรายิโกติ เอตฺถ กโรตฺยเตฺถ ณิกปจฺจโยติ อาห ‘‘อนฺตรายกโร’’ติฯ ‘‘กิมตฺถายา’’ติ อิมินา กิสฺสาติ เอตฺถ ตทเตฺถ จตุตฺถีติ ทเสฺสติ, เหตฺวโตฺถปิ ยุชฺชเตวฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ ‘‘ทุติยสฺส ฌานสฺส อธิคมายา’’ติอาทีสุฯ อิตีติอาทิ นิคมนํฯ อุเทฺทสโต จาติ ‘‘สุณาตุ เม ภเนฺต สโงฺฆ’’ติอาทิอุเทฺทสโต จฯ นิเทฺทสโต จาติ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ อาทิเมต’’นฺติอาทินิเทฺทสโต จฯ
Antarāyikoti ettha karotyatthe ṇikapaccayoti āha ‘‘antarāyakaro’’ti. ‘‘Kimatthāyā’’ti iminā kissāti ettha tadatthe catutthīti dasseti, hetvatthopi yujjateva. Sabbatthāti sabbesu ‘‘dutiyassa jhānassa adhigamāyā’’tiādīsu. Itītiādi nigamanaṃ. Uddesato cāti ‘‘suṇātu me bhante saṅgho’’tiādiuddesato ca. Niddesato cāti ‘‘pātimokkhanti ādimeta’’ntiādiniddesato ca.
๑๓๖. เทวสิกนฺติ เอตฺถ ณิกปจฺจโย วิจฺฉเตฺถ โหตีติ อาห ‘‘ทิวเส ทิวเส’’ติฯ ตติเย จ สตฺตเม จ ปเกฺขติ เอกสฺส อุตุโน อฎฺฐสุ ปเกฺขสุ ตติเย จ สตฺตเม จ ปเกฺขฯ ‘‘วจนโต’’ติ ปทํ ‘‘วฎฺฎตี’’ติ ปเท ญาปกเหตุฯ ตถารูเป ปจฺจเยติ ตถารูเป วิกติจาริตฺตสงฺขาเต ปจฺจเยฯ อนุวตฺติตพฺพนฺติ อนุมติํ วตฺติตพฺพํฯ วจนโตปีติ ปิสโทฺท ปุเพฺพ ญาปกเหตุํ สมฺปิเณฺฑติฯ เอตนฺติ ‘‘ยสฺมิํ ตสฺมิํ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา อุทฺทิสิตุํ วฎฺฎตี’’ติ วจนํฯ
136.Devasikanti ettha ṇikapaccayo vicchatthe hotīti āha ‘‘divase divase’’ti. Tatiye ca sattame ca pakkheti ekassa utuno aṭṭhasu pakkhesu tatiye ca sattame ca pakkhe. ‘‘Vacanato’’ti padaṃ ‘‘vaṭṭatī’’ti pade ñāpakahetu. Tathārūpe paccayeti tathārūpe vikaticārittasaṅkhāte paccaye. Anuvattitabbanti anumatiṃ vattitabbaṃ. Vacanatopīti pisaddo pubbe ñāpakahetuṃ sampiṇḍeti. Etanti ‘‘yasmiṃ tasmiṃ cātuddase vā pannarase vā uddisituṃ vaṭṭatī’’ti vacanaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๖๘. สนฺนิปาตานุชานนา • 68. Sannipātānujānanā
๖๙. ปาติโมกฺขุเทฺทสานุชานนา • 69. Pātimokkhuddesānujānanā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / สนฺนิปาตานุชานนาทิกถา • Sannipātānujānanādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สนฺนิปาตานุชานนาทิกถาวณฺณนา • Sannipātānujānanādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สนฺนิปาตานุชานนาทิกถาวณฺณนา • Sannipātānujānanādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สนฺนิปาตานุชานนาทิกถาวณฺณนา • Sannipātānujānanādikathāvaṇṇanā