Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๙. สปฺปงฺคปโญฺห
9. Sappaṅgapañho
๙. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘สปฺปสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สโปฺป อุเรน คจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปญฺญาย จริตพฺพํ, ปญฺญาย จรมานสฺส โข, มหาราช, โยคิโน จิตฺตํ ญาเย จรติ, วิลกฺขณํ วิวเชฺชติ, สลกฺขณํ ภาเวติฯ อิทํ, มหาราช , สปฺปสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
9. ‘‘Bhante nāgasena, ‘sappassa tīṇi aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni tīṇi aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, sappo urena gacchati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena paññāya caritabbaṃ, paññāya caramānassa kho, mahārāja, yogino cittaṃ ñāye carati, vilakkhaṇaṃ vivajjeti, salakkhaṇaṃ bhāveti. Idaṃ, mahārāja , sappassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สโปฺป จรมาโน โอสธํ ปริวเชฺชโนฺต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทุจฺจริตํ ปริวเชฺชเนฺตน จริตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, sappo caramāno osadhaṃ parivajjento carati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena duccaritaṃ parivajjentena caritabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, sappassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สโปฺป มนุเสฺส ทิสฺวา ตปฺปติ 1 โสจติ จินฺตยติ, เอวเมว โข มหาราช โยคินา โยคาวจเรน กุวิตเกฺก, วิตเกฺกตฺวา อรติํ อุปฺปาทยิตฺวา ตปฺปิตพฺพํ โสจิตพฺพํ จินฺตยิตพฺพํ ‘ปมาเทน เม ทิวโส วีตินามิโต, น โส ปุน สกฺกา ลทฺธุ’นฺติฯ อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ภลฺลาฎิยชาตเก ทฺวินฺนํ กินฺนรานํ –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, sappo manusse disvā tappati 2 socati cintayati, evameva kho mahārāja yoginā yogāvacarena kuvitakke, vitakketvā aratiṃ uppādayitvā tappitabbaṃ socitabbaṃ cintayitabbaṃ ‘pamādena me divaso vītināmito, na so puna sakkā laddhu’nti. Idaṃ, mahārāja, sappassa tatiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā bhallāṭiyajātake dvinnaṃ kinnarānaṃ –
‘‘‘มเยกรตฺตํ 3 วิปฺปวสิมฺห ลุทฺท, อกามกา อญฺญมญฺญํ สรนฺตา;
‘‘‘Mayekarattaṃ 4 vippavasimha ludda, akāmakā aññamaññaṃ sarantā;
ตเมกรตฺตํ 5 อนุตปฺปมานา, โสจาม ‘สา รตฺติ ปุน นเหสฺสตี’’’ติฯ
Tamekarattaṃ 6 anutappamānā, socāma ‘sā ratti puna nahessatī’’’ti.
สปฺปงฺคปโญฺห นวโมฯ
Sappaṅgapañho navamo.
Footnotes: