Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๒๒. สรภงฺคชาตกํ (๒)
522. Sarabhaṅgajātakaṃ (2)
๕๐.
50.
‘‘อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถา, เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธา 1;
‘‘Alaṅkatā kuṇḍalino suvatthā, veḷuriyamuttātharukhaggabandhā 2;
รเถสภา ติฎฺฐถ เก นุ ตุเมฺห, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ฯ
Rathesabhā tiṭṭhatha ke nu tumhe, kathaṃ vo jānanti manussaloke’’.
๕๑.
51.
‘‘อหมฎฺฐโก ภีมรโถ ปนายํ, กาลิงฺคราชา ปน อุคฺคโตยํ 3;
‘‘Ahamaṭṭhako bhīmaratho panāyaṃ, kāliṅgarājā pana uggatoyaṃ 4;
สุสญฺญตานํ อิสีนํ 5 ทสฺสนาย, อิธาคตา ปุจฺฉิตาเยมฺห ปเญฺห’’ฯ
Susaññatānaṃ isīnaṃ 6 dassanāya, idhāgatā pucchitāyemha pañhe’’.
๕๒.
52.
‘‘เวหายสํ ติฎฺฐสิ 7 อนฺตลิเกฺข, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จโนฺท;
‘‘Vehāyasaṃ tiṭṭhasi 8 antalikkhe, pathaddhuno pannaraseva cando;
ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กถํ ตํ ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ฯ
Pucchāmi taṃ yakkha mahānubhāva, kathaṃ taṃ jānanti manussaloke’’.
๕๓.
53.
‘‘ยมาหุ เทเวสุ สุชมฺปตีติ, มฆวาติ ตํ อาหุ มนุสฺสโลเก;
‘‘Yamāhu devesu sujampatīti, maghavāti taṃ āhu manussaloke;
ส เทวราชา อิทมชฺช ปโตฺต, สุสญฺญตานํ อิสีนํ ทสฺสนาย’’ฯ
Sa devarājā idamajja patto, susaññatānaṃ isīnaṃ dassanāya’’.
๕๔.
54.
‘‘ทูเร สุตา โน อิสโย สมาคตา, มหิทฺธิกา อิทฺธิคุณูปปนฺนา;
‘‘Dūre sutā no isayo samāgatā, mahiddhikā iddhiguṇūpapannā;
วนฺทามิ เต อยิเร ปสนฺนจิโตฺต, เย ชีวโลเกตฺถ มนุสฺสเสฎฺฐา’’ฯ
Vandāmi te ayire pasannacitto, ye jīvalokettha manussaseṭṭhā’’.
๕๕.
55.
คโนฺธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ 9, กายา จุโต คจฺฉติ มาลุเตน;
Gandho isīnaṃ ciradikkhitānaṃ 10, kāyā cuto gacchati mālutena;
อิโต ปฎิกฺกมฺม สหสฺสเนตฺต, คโนฺธ อิสีนํ อสุจิ เทวราช’’ฯ
Ito paṭikkamma sahassanetta, gandho isīnaṃ asuci devarāja’’.
๕๖.
56.
‘‘คโนฺธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉตุ มาลุเตน;
‘‘Gandho isīnaṃ ciradikkhitānaṃ, kāyā cuto gacchatu mālutena;
วิจิตฺรปุปฺผํ สุรภิํว มาลํ, คนฺธญฺจ เอตํ ปาฎิกงฺขาม ภเนฺต;
Vicitrapupphaṃ surabhiṃva mālaṃ, gandhañca etaṃ pāṭikaṅkhāma bhante;
น เหตฺถ เทวา ปฎิกฺกูลสญฺญิโน’’ฯ
Na hettha devā paṭikkūlasaññino’’.
๕๗.
57.
‘‘ปุรินฺทโท ภูตปตี ยสสฺสี, เทวานมิโนฺท สโกฺก 11 มฆวา สุชมฺปติ;
‘‘Purindado bhūtapatī yasassī, devānamindo sakko 12 maghavā sujampati;
ส เทวราชา อสุรคณปฺปมทฺทโน, โอกาสมากงฺขติ ปญฺห ปุจฺฉิตุํฯ
Sa devarājā asuragaṇappamaddano, okāsamākaṅkhati pañha pucchituṃ.
๕๘.
58.
‘‘โก เนวิเมสํ อิธ ปณฺฑิตานํ, ปเญฺห ปุโฎฺฐ นิปุเณ พฺยากริสฺสติ;
‘‘Ko nevimesaṃ idha paṇḍitānaṃ, pañhe puṭṭho nipuṇe byākarissati;
ติณฺณญฺจ รญฺญํ มนุชาธิปานํ, เทวานมินฺทสฺส จ วาสวสฺส’’ฯ
Tiṇṇañca raññaṃ manujādhipānaṃ, devānamindassa ca vāsavassa’’.
๕๙.
59.
อาเจรปุโตฺต 17 สุวินีตรูโป, โส เนสํ ปญฺหานิ วิยากริสฺสติ’’ฯ
Āceraputto 18 suvinītarūpo, so nesaṃ pañhāni viyākarissati’’.
๖๐.
60.
‘‘โกณฺฑญฺญ ปญฺหานิ วิยากโรหิ, ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;
‘‘Koṇḍañña pañhāni viyākarohi, yācanti taṃ isayo sādhurūpā;
โกณฺฑญฺญ เอโส มนุเชสุ ธโมฺม, ยํ วุทฺธ 19 มาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ฯ
Koṇḍañña eso manujesu dhammo, yaṃ vuddha 20 māgacchati esa bhāro’’.
๖๑.
61.
‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภโนฺต, ยํ กิญฺจิ ปญฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;
‘‘Katāvakāsā pucchantu bhonto, yaṃ kiñci pañhaṃ manasābhipatthitaṃ;
อหญฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ, ญตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรญฺจ’’ฯ
Ahañhi taṃ taṃ vo viyākarissaṃ, ñatvā sayaṃ lokamimaṃ parañca’’.
๖๒.
62.
‘‘ตโต จ มฆวา สโกฺก, อตฺถทสฺสี ปุรินฺทโท;
‘‘Tato ca maghavā sakko, atthadassī purindado;
อปุจฺฉิ ปฐมํ ปญฺหํ, ยญฺจาสิ อภิปตฺถิตํ’’ฯ
Apucchi paṭhamaṃ pañhaṃ, yañcāsi abhipatthitaṃ’’.
๖๓.
63.
‘‘กิํ สู วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, กิสฺสปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;
‘‘Kiṃ sū vadhitvā na kadāci socati, kissappahānaṃ isayo vaṇṇayanti;
กสฺสีธ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑญฺญ เอตมตฺถํ’’ฯ
Kassīdha vuttaṃ pharusaṃ khametha, akkhāhi me koṇḍañña etamatthaṃ’’.
๖๔.
64.
‘‘โกธํ วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, มกฺขปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;
‘‘Kodhaṃ vadhitvā na kadāci socati, makkhappahānaṃ isayo vaṇṇayanti;
สเพฺพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺติํ อุตฺตมมาหุ สโนฺต’’ฯ
Sabbesaṃ vuttaṃ pharusaṃ khametha, etaṃ khantiṃ uttamamāhu santo’’.
๖๕.
65.
กถํ นุ หีนสฺส วโจ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑญฺญ เอตมตฺถํ’’ฯ
Kathaṃ nu hīnassa vaco khametha, akkhāhi me koṇḍañña etamatthaṃ’’.
๖๖.
66.
‘‘ภยา หิ เสฎฺฐสฺส วโจ ขเมถ, สารมฺภเหตู ปน สาทิสสฺส;
‘‘Bhayā hi seṭṭhassa vaco khametha, sārambhahetū pana sādisassa;
โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺติํ อุตฺตมมาหุ สโนฺต’’ฯ
Yo cīdha hīnassa vaco khametha, etaṃ khantiṃ uttamamāhu santo’’.
๖๗.
67.
‘‘กถํ วิชญฺญา จตุปตฺถรูปํ 25, เสฎฺฐํ สริกฺขํ อถวาปิ หีนํ;
‘‘Kathaṃ vijaññā catupattharūpaṃ 26, seṭṭhaṃ sarikkhaṃ athavāpi hīnaṃ;
วิรูปรูเปน จรนฺติ สโนฺต, ตสฺมา หิ สเพฺพสํ วโจ ขเมถ’’ฯ
Virūparūpena caranti santo, tasmā hi sabbesaṃ vaco khametha’’.
๖๘.
68.
‘‘น เหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา, สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ;
‘‘Na hetamatthaṃ mahatīpi senā, sarājikā yujjhamānā labhetha;
ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ, ขนฺตี พลสฺสูปสมนฺติ เวรา’’ฯ
Yaṃ khantimā sappuriso labhetha, khantī balassūpasamanti verā’’.
๖๙.
69.
‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อญฺญํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
‘‘Subhāsitaṃ te anumodiyāna, aññaṃ taṃ pucchāmi tadiṅgha brūhi;
เตสํ คติํ พฺรูหิ สุปาปกมฺมินํ, กตฺถูปปนฺนา อิสินํ วิเหฐกา’’ฯ
Tesaṃ gatiṃ brūhi supāpakamminaṃ, katthūpapannā isinaṃ viheṭhakā’’.
๗๐.
70.
‘‘กิสญฺหิ 31 วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี, อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรโฎฺฐ;
‘‘Kisañhi 32 vacchaṃ avakiriya daṇḍakī, ucchinnamūlo sajano saraṭṭho;
กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ, ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเยฯ
Kukkuḷanāme nirayamhi paccati, tassa phuliṅgāni patanti kāye.
๗๑.
71.
‘‘โย สญฺญเต ปพฺพชิเต อเหฐยิ 33, ธมฺมํ ภณเนฺต สมเณ อทูสเก;
‘‘Yo saññate pabbajite aheṭhayi 34, dhammaṃ bhaṇante samaṇe adūsake;
ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมานํฯ
Taṃ nāḷikeraṃ sunakhā parattha, saṅgamma khādanti viphandamānaṃ.
๗๒.
72.
‘‘อถชฺชุโน นิรเย สตฺติสูเล, อวํสิโร ปติโต อุทฺธํปาโท 35;
‘‘Athajjuno niraye sattisūle, avaṃsiro patito uddhaṃpādo 36;
องฺคีรสํ โคตมํ เหฐยิตฺวา, ขนฺติํ ตปสฺสิํ จิรพฺรหฺมจาริํฯ
Aṅgīrasaṃ gotamaṃ heṭhayitvā, khantiṃ tapassiṃ cirabrahmacāriṃ.
๗๓.
73.
‘‘โย ขณฺฑโส ปพฺพชิตํ อเฉทยิ, ขนฺติํ วทนฺตํ สมณํ อทูสกํ;
‘‘Yo khaṇḍaso pabbajitaṃ achedayi, khantiṃ vadantaṃ samaṇaṃ adūsakaṃ;
กลาพุวีจิํ อุปปชฺช ปจฺจติ, มหาปตาปํ 37 กฎุกํ ภยานกํฯ
Kalābuvīciṃ upapajja paccati, mahāpatāpaṃ 38 kaṭukaṃ bhayānakaṃ.
๗๔.
74.
‘‘เอตานิ สุตฺวา นิรยานิ ปณฺฑิโต, อญฺญานิ ปาปิฎฺฐตรานิ เจตฺถ;
‘‘Etāni sutvā nirayāni paṇḍito, aññāni pāpiṭṭhatarāni cettha;
ธมฺมํ จเร สมณพฺราหฺมเณสุ, เอวงฺกโร สคฺคมุเปติ ฐานํ’’ฯ
Dhammaṃ care samaṇabrāhmaṇesu, evaṅkaro saggamupeti ṭhānaṃ’’.
๗๕.
75.
‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อญฺญํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
‘‘Subhāsitaṃ te anumodiyāna, aññaṃ taṃ pucchāmi tadiṅgha brūhi;
กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปญฺญวนฺตํ วทนฺติ;
Kathaṃvidhaṃ sīlavantaṃ vadanti, kathaṃvidhaṃ paññavantaṃ vadanti;
กถํวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ, กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาติ’’ฯ
Kathaṃvidhaṃ sappurisaṃ vadanti, kathaṃvidhaṃ no siri no jahāti’’.
๗๖.
76.
‘‘กาเยน วาจาย จ โย’ธ 39 สญฺญโต, มนสา จ กิญฺจิ น กโรติ ปาปํ;
‘‘Kāyena vācāya ca yo’dha 40 saññato, manasā ca kiñci na karoti pāpaṃ;
น อตฺตเหตู อลิกํ ภเณติ 41, ตถาวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติฯ
Na attahetū alikaṃ bhaṇeti 42, tathāvidhaṃ sīlavantaṃ vadanti.
๗๗.
77.
‘‘คมฺภีรปญฺหํ มนสาภิจินฺตยํ 43, นาจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ;
‘‘Gambhīrapañhaṃ manasābhicintayaṃ 44, nāccāhitaṃ kamma karoti luddaṃ;
กาลาคตํ 45 อตฺถปทํ น ริญฺจติ, ตถาวิธํ ปญฺญวนฺตํ วทนฺติฯ
Kālāgataṃ 46 atthapadaṃ na riñcati, tathāvidhaṃ paññavantaṃ vadanti.
๗๘.
78.
‘‘โย เว กตญฺญู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิโตฺต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;
‘‘Yo ve kataññū katavedi dhīro, kalyāṇamitto daḷhabhatti ca hoti;
ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติฯ
Dukhitassa sakkacca karoti kiccaṃ, tathāvidhaṃ sappurisaṃ vadanti.
๗๙.
79.
‘‘เอเตหิ สเพฺพหิ คุเณหุเปโต, สโทฺธ มุทู สํวิภาคี วทญฺญู;
‘‘Etehi sabbehi guṇehupeto, saddho mudū saṃvibhāgī vadaññū;
สงฺคาหกํ สขิลํ สณฺหวาจํ, ตถาวิธํ โน สิริ โน ชหาติ’’ฯ
Saṅgāhakaṃ sakhilaṃ saṇhavācaṃ, tathāvidhaṃ no siri no jahāti’’.
๘๐.
80.
‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อญฺญํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
‘‘Subhāsitaṃ te anumodiyāna, aññaṃ taṃ pucchāmi tadiṅgha brūhi;
สีลํ สิริญฺจาปิ สตญฺจ ธมฺมํ, ปญฺญญฺจ กํ เสฎฺฐตรํ วทนฺติ’’ฯ
Sīlaṃ siriñcāpi satañca dhammaṃ, paññañca kaṃ seṭṭhataraṃ vadanti’’.
๘๑.
81.
‘‘ปญฺญา หิ เสฎฺฐา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;
‘‘Paññā hi seṭṭhā kusalā vadanti, nakkhattarājāriva tārakānaṃ;
สีลํ สีรี จาปิ สตญฺจ ธโมฺม 47, อนฺวายิกา ปญฺญวโต ภวนฺติ’’ฯ
Sīlaṃ sīrī cāpi satañca dhammo 48, anvāyikā paññavato bhavanti’’.
๘๒.
82.
‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อญฺญํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
‘‘Subhāsitaṃ te anumodiyāna, aññaṃ taṃ pucchāmi tadiṅgha brūhi;
กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กิํ เสวมาโน ลภตีธ ปญฺญํ;
Kathaṃkaro kintikaro kimācaraṃ, kiṃ sevamāno labhatīdha paññaṃ;
ปญฺญาย ทานิปฺปฎิปํ 49 วเทหิ, กถํกโร ปญฺญวา โหติ มโจฺจ’’ฯ
Paññāya dānippaṭipaṃ 50 vadehi, kathaṃkaro paññavā hoti macco’’.
๘๓.
83.
‘‘เสเวถ วุเทฺธ นิปุเณ พหุสฺสุเต, อุคฺคาหโก จ ปริปุจฺฉโก สิยา;
‘‘Sevetha vuddhe nipuṇe bahussute, uggāhako ca paripucchako siyā;
สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ, เอวํกโร ปญฺญวา โหติ มโจฺจฯ
Suṇeyya sakkacca subhāsitāni, evaṃkaro paññavā hoti macco.
๘๔.
84.
‘‘ ปญฺญวา กามคุเณ อเวกฺขติ, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ;
‘‘ Paññavā kāmaguṇe avekkhati, aniccato dukkhato rogato ca;
เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ, ทุเกฺขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุฯ
Evaṃ vipassī pajahāti chandaṃ, dukkhesu kāmesu mahabbhayesu.
๘๕.
85.
สเพฺพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ ฐานํ’’ฯ
Sabbesu bhūtesu nidhāya daṇḍaṃ, anindito brahmamupeti ṭhānaṃ’’.
๘๖.
86.
กาลิงฺคราชสฺส จ อุคฺคตสฺส, สเพฺพส โว กามราโค ปหีโน’’ฯ
Kāliṅgarājassa ca uggatassa, sabbesa vo kāmarāgo pahīno’’.
๘๗.
87.
‘‘เอวเมตํ ปรจิตฺตเวทิ, สเพฺพส โน กามราโค ปหีโน;
‘‘Evametaṃ paracittavedi, sabbesa no kāmarāgo pahīno;
กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, ยถา คติํ เต อภิสมฺภเวม’’ฯ
Karohi okāsamanuggahāya, yathā gatiṃ te abhisambhavema’’.
๘๘.
88.
‘‘กโรมิ โอกาสมนุคฺคหาย, ตถา หิ โว กามราโค ปหีโน;
‘‘Karomi okāsamanuggahāya, tathā hi vo kāmarāgo pahīno;
ผราถ กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คติํ เม อภิสมฺภเวถ’’ฯ
Pharātha kāyaṃ vipulāya pītiyā, yathā gatiṃ me abhisambhavetha’’.
๘๙.
89.
‘‘สพฺพํ กริสฺสาม ตวานุสาสนิํ, ยํ ยํ ตุวํ วกฺขสิ ภูริปญฺญ;
‘‘Sabbaṃ karissāma tavānusāsaniṃ, yaṃ yaṃ tuvaṃ vakkhasi bhūripañña;
ผราม กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คติํ เต อภิสมฺภเวม’’ฯ
Pharāma kāyaṃ vipulāya pītiyā, yathā gatiṃ te abhisambhavema’’.
๙๐.
90.
‘‘กตาย 59 วจฺฉสฺส กิสสฺส ปูชา, คจฺฉนฺตุ โภโนฺต อิสโย สาธุรูปา;
‘‘Katāya 60 vacchassa kisassa pūjā, gacchantu bhonto isayo sādhurūpā;
ฌาเน รตา โหถ สทา สมาหิตา, เอสา รตี ปพฺพชิตสฺส เสฎฺฐา’’ฯ
Jhāne ratā hotha sadā samāhitā, esā ratī pabbajitassa seṭṭhā’’.
๙๑.
91.
‘‘สุตฺวาน คาถา ปรมตฺถสํหิตา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;
‘‘Sutvāna gāthā paramatthasaṃhitā, subhāsitā isinā paṇḍitena;
เต เวทชาตา อนุโมทมานา, ปกฺกามุ 61 เทวา เทวปุรํ ยสสฺสิโนฯ
Te vedajātā anumodamānā, pakkāmu 62 devā devapuraṃ yasassino.
๙๒.
92.
‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยญฺชนา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;
‘‘Gāthā imā atthavatī subyañjanā, subhāsitā isinā paṇḍitena;
โย โกจิมา อฎฺฐิกตฺวา 63 สุเณยฺย, ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
Yo kocimā aṭṭhikatvā 64 suṇeyya, labhetha pubbāpariyaṃ visesaṃ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ, อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คเจฺฉ’’ฯ
Laddhāna pubbāpariyaṃ visesaṃ, adassanaṃ maccurājassa gacche’’.
๙๓.
93.
‘‘สาลิสฺสโร สาริปุโตฺต, เมณฺฑิสฺสโร จ กสฺสโป;
‘‘Sālissaro sāriputto, meṇḍissaro ca kassapo;
๙๔.
94.
‘‘อนุสิโสฺส จ อานโนฺท, กิสวโจฺฉ จ โกลิโต;
‘‘Anusisso ca ānando, kisavaccho ca kolito;
สรภโงฺค โลกนาโถ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติฯ
Sarabhaṅgo lokanātho, evaṃ dhāretha jātaka’’nti.
สรภงฺคชาตกํ ทุติยํฯ
Sarabhaṅgajātakaṃ dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๒๒] ๒. สรภงฺคชาตกวณฺณนา • [522] 2. Sarabhaṅgajātakavaṇṇanā