Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๔. สรภสุตฺตํ

    4. Sarabhasuttaṃ

    ๖๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกโนฺต โหติ อิมสฺมา ธมฺมวินยาฯ โส ราชคเห ปริสติ 1 เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกโนฺต’’ติฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสิํสุฯ อโสฺสสุํ โข เต ภิกฺขู สรภสฺส ปริพฺพาชกสฺส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสมานสฺส – ‘‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกโนฺต’’ติฯ

    65. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Tena kho pana samayena sarabho nāma paribbājako acirapakkanto hoti imasmā dhammavinayā. So rājagahe parisati 2 evaṃ vācaṃ bhāsati – ‘‘aññāto mayā samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo. Aññāya ca panāhaṃ samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammaṃ evāhaṃ tasmā dhammavinayā apakkanto’’ti. Atha kho sambahulā bhikkhū pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya rājagahaṃ piṇḍāya pavisiṃsu. Assosuṃ kho te bhikkhū sarabhassa paribbājakassa rājagahe parisati evaṃ vācaṃ bhāsamānassa – ‘‘aññāto mayā samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo. Aññāya ca panāhaṃ samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammaṃ evāhaṃ tasmā dhammavinayā apakkanto’’ti.

    อถ โข เต ภิกฺขู ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สรโภ นาม, ภเนฺต, ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกโนฺต อิมสฺมา ธมฺมวินยาฯ โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกโนฺต’ติฯ สาธุ ภเนฺต, ภควา เยน สิปฺปินิกาตีรํ 3 ปริพฺพาชการาโม เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    Atha kho te bhikkhū rājagahe piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘sarabho nāma, bhante, paribbājako acirapakkanto imasmā dhammavinayā. So rājagahe parisati evaṃ vācaṃ bhāsati – ‘aññāto mayā samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo. Aññāya ca panāhaṃ samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammaṃ evāhaṃ tasmā dhammavinayā apakkanto’ti. Sādhu bhante, bhagavā yena sippinikātīraṃ 4 paribbājakārāmo yena sarabho paribbājako tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena.

    อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน สิปฺปินิกาตีรํ ปริพฺพาชการาโม เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิ ฯ นิสชฺช โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, สรภ, เอวํ วเทสิ – ‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกโนฺต’’’ติ? เอวํ วุเตฺต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

    Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena sippinikātīraṃ paribbājakārāmo yena sarabho paribbājako tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi . Nisajja kho bhagavā sarabhaṃ paribbājakaṃ etadavoca – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, sarabha, evaṃ vadesi – ‘aññāto mayā samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo. Aññāya ca panāhaṃ samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammaṃ evāhaṃ tasmā dhammavinayā apakkanto’’’ti? Evaṃ vutte sarabho paribbājako tuṇhī ahosi.

    ทุติยมฺปิ โข, ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

    Dutiyampi kho, bhagavā sarabhaṃ paribbājakaṃ etadavoca – ‘‘vadehi, sarabha, kinti te aññāto samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo? Sace te aparipūraṃ bhavissati, ahaṃ paripūressāmi. Sace pana te paripūraṃ bhavissati, ahaṃ anumodissāmī’’ti. Dutiyampi kho sarabho paribbājako tuṇhī ahosi.

    ตติยมฺปิ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – (‘‘โย 5 โข สรภ ปญฺญายติ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺม) 6 ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

    Tatiyampi kho bhagavā sarabhaṃ paribbājakaṃ etadavoca – (‘‘yo 7 kho sarabha paññāyati samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo) 8 ‘‘vadehi, sarabha, kinti te aññāto samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo? Sace te aparipūraṃ bhavissati, ahaṃ paripūressāmi. Sace pana te paripūraṃ bhavissati, ahaṃ anumodissāmī’’ti. Tatiyampi kho sarabho paribbājako tuṇhī ahosi.

    อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยเทว โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, สมณํ โคตมํ ยาเจยฺยาสิ ตเทว เต สมโณ โคตโม ปวาเรติฯ วเทหาวุโส สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธโมฺม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม ปริปูเรสฺสติฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม อนุโมทิสฺสตี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขโนฺธ อโธมุโข ปชฺฌายโนฺต อปฺปฎิภาโน นิสีทิฯ

    Atha kho te paribbājakā sarabhaṃ paribbājakaṃ etadavocuṃ – ‘‘yadeva kho tvaṃ, āvuso sarabha, samaṇaṃ gotamaṃ yāceyyāsi tadeva te samaṇo gotamo pavāreti. Vadehāvuso sarabha, kinti te aññāto samaṇānaṃ sakyaputtikānaṃ dhammo? Sace te aparipūraṃ bhavissati, samaṇo gotamo paripūressati. Sace pana te paripūraṃ bhavissati, samaṇo gotamo anumodissatī’’ti. Evaṃ vutte sarabho paribbājako tuṇhībhūto maṅkubhūto pattakkhandho adhomukho pajjhāyanto appaṭibhāno nisīdi.

    อถ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฎิภานํ วิทิตฺวา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –

    Atha kho bhagavā sarabhaṃ paribbājakaṃ tuṇhībhūtaṃ maṅkubhūtaṃ pattakkhandhaṃ adhomukhaṃ pajjhāyantaṃ appaṭibhānaṃ viditvā te paribbājake etadavoca –

    ‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา 9, เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฎิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุเญฺชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ 10 ฐานํ นิคเจฺฉยฺย, อเญฺญน วา อญฺญํ ปฎิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต 11 ปตฺตกฺขโนฺธ อโธมุโข ปชฺฌายโนฺต อปฺปฎิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกฯ

    ‘‘Yo kho maṃ, paribbājakā 12, evaṃ vadeyya – ‘sammāsambuddhassa te paṭijānato ime dhammā anabhisambuddhā’ti, tamahaṃ tattha sādhukaṃ samanuyuñjeyyaṃ samanugāheyyaṃ samanubhāseyyaṃ. So vata mayā sādhukaṃ samanuyuñjiyamāno samanugāhiyamāno samanubhāsiyamāno aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ so tiṇṇaṃ ṭhānānaṃ nāññataraṃ 13 ṭhānaṃ nigaccheyya, aññena vā aññaṃ paṭicarissati, bahiddhā kathaṃ apanāmessati, kopañca dosañca appaccayañca pātukarissati, tuṇhībhūto maṅkubhūto 14 pattakkhandho adhomukho pajjhāyanto appaṭibhāno nisīdissati, seyyathāpi sarabho paribbājako.

    ‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ขีณาสวสฺส เต ปฎิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุเญฺชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ ฐานํ นิคเจฺฉยฺย, อเญฺญน วา อญฺญํ ปฎิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขโนฺธ อโธมุโข ปชฺฌายโนฺต อปฺปฎิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกฯ

    ‘‘Yo kho maṃ, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘khīṇāsavassa te paṭijānato ime āsavā aparikkhīṇā’ti, tamahaṃ tattha sādhukaṃ samanuyuñjeyyaṃ samanugāheyyaṃ samanubhāseyyaṃ. So vata mayā sādhukaṃ samanuyuñjiyamāno samanugāhiyamāno samanubhāsiyamāno aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ so tiṇṇaṃ ṭhānānaṃ nāññataraṃ ṭhānaṃ nigaccheyya, aññena vā aññaṃ paṭicarissati, bahiddhā kathaṃ apanāmessati, kopañca dosañca appaccayañca pātukarissati, tuṇhībhūto maṅkubhūto pattakkhandho adhomukho pajjhāyanto appaṭibhāno nisīdissati, seyyathāpi sarabho paribbājako.

    ‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธโมฺม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุเญฺชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ ฐานํ นิคเจฺฉยฺย, อเญฺญน วา อญฺญํ ปฎิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขโนฺธ อโธมุโข ปชฺฌายโนฺต อปฺปฎิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโก’’ติฯ อถ โข ภควา สิปฺปินิกาตีเร ปริพฺพาชการาเม ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา เวหาสํ ปกฺกามิฯ

    ‘‘Yo kho maṃ, paribbājakā, evaṃ vadeyya – ‘yassa kho pana te atthāya dhammo desito, so na niyyāti takkarassa sammā dukkhakkhayāyā’ti, tamahaṃ tattha sādhukaṃ samanuyuñjeyyaṃ samanugāheyyaṃ samanubhāseyyaṃ. So vata mayā sādhukaṃ samanuyuñjiyamāno samanugāhiyamāno samanubhāsiyamāno aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ so tiṇṇaṃ ṭhānānaṃ nāññataraṃ ṭhānaṃ nigaccheyya, aññena vā aññaṃ paṭicarissati, bahiddhā kathaṃ apanāmessati, kopañca dosañca appaccayañca pātukarissati, tuṇhībhūto maṅkubhūto pattakkhandho adhomukho pajjhāyanto appaṭibhāno nisīdissati, seyyathāpi sarabho paribbājako’’ti. Atha kho bhagavā sippinikātīre paribbājakārāme tikkhattuṃ sīhanādaṃ naditvā vehāsaṃ pakkāmi.

    อถ โข เต ปริพฺพาชกา อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน 15 สญฺชมฺภริมกํสุ 16 – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, พฺรหารเญฺญ ชรสิงฺคาโล ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ สิงฺคาลกํเยว 17 นทติ, เภรณฺฑกํเยว นทติ 18; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญเตฺรว สมเณน โคตเมน ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ สิงฺคาลกํเยว นทสิ เภรณฺฑกํเยว นทสิฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อมฺพุกสญฺจรี 19 ‘ปุริสกรวิตํ 20 รวิสฺสามี’ติ อมฺพุกสญฺจริรวิตํเยว รวติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญเตฺรว สมเณน โคตเมน ‘ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามี’ติ, อมฺพุกสญฺจริรวิตํเยว รวสิฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อุสโภ สุญฺญาย โคสาลาย คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มญฺญติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญเตฺรว สมเณน โคตเมน คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มญฺญสี’’ติฯ อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน สญฺชมฺภริมกํสูติฯ จตุตฺถํฯ

    Atha kho te paribbājakā acirapakkantassa bhagavato sarabhaṃ paribbājakaṃ samantato vācāyasannitodakena 21 sañjambharimakaṃsu 22 – ‘‘seyyathāpi, āvuso sarabha, brahāraññe jarasiṅgālo ‘sīhanādaṃ nadissāmī’ti siṅgālakaṃyeva 23 nadati, bheraṇḍakaṃyeva nadati 24; evamevaṃ kho tvaṃ, āvuso sarabha, aññatreva samaṇena gotamena ‘sīhanādaṃ nadissāmī’ti siṅgālakaṃyeva nadasi bheraṇḍakaṃyeva nadasi. Seyyathāpi, āvuso sarabha, ambukasañcarī 25 ‘purisakaravitaṃ 26 ravissāmī’ti ambukasañcariravitaṃyeva ravati; evamevaṃ kho tvaṃ, āvuso sarabha, aññatreva samaṇena gotamena ‘purisakaravitaṃ ravissāmī’ti, ambukasañcariravitaṃyeva ravasi. Seyyathāpi, āvuso sarabha, usabho suññāya gosālāya gambhīraṃ naditabbaṃ maññati; evamevaṃ kho tvaṃ, āvuso sarabha, aññatreva samaṇena gotamena gambhīraṃ naditabbaṃ maññasī’’ti. Atha kho te paribbājakā sarabhaṃ paribbājakaṃ samantato vācāyasannitodakena sañjambharimakaṃsūti. Catutthaṃ.







    Footnotes:
    1. ปริสติํ (สี. ปี.)
    2. parisatiṃ (sī. pī.)
    3. สปฺปินิกาตีรํ (สี. ปี.), สปฺปินิยา ตีรํ (สฺยา. กํ.)
    4. sappinikātīraṃ (sī. pī.), sappiniyā tīraṃ (syā. kaṃ.)
    5. มยา (สฺยา. กํ. ปี.)
    6. ( ) สี. โปตฺถเก นตฺถิ
    7. mayā (syā. kaṃ. pī.)
    8. ( ) sī. potthake natthi
    9. ปริพฺพาชโก (ปี. ก.)
    10. อญฺญตรํ (ก.)
    11. ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต (สี. สฺยา. กํ.), ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต วา (ปี.)
    12. paribbājako (pī. ka.)
    13. aññataraṃ (ka.)
    14. tuṇhībhūto vā maṅkubhūto (sī. syā. kaṃ.), tuṇhībhūto vā maṅkubhūto vā (pī.)
    15. วาจาสตฺติโตทเกน (สี.)
    16. สญฺจุมฺภริมกํสุ (ปี., ที. นิ. ๑.๔๒๑) สํ. นิ. ๒.๒๔๓ อุปริปาโฐ วิย
    17. เสคาลกํเยว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    18. เภทณฺฑกํ (ก.)
    19. อมฺพกมทฺทรี (สี.)
    20. ผุสฺสกรวิตํ (สี.), ปุสฺสกรวิตํ (สฺยา. กํ. ปี.)
    21. vācāsattitodakena (sī.)
    22. sañcumbharimakaṃsu (pī., dī. ni. 1.421) saṃ. ni. 2.243 uparipāṭho viya
    23. segālakaṃyeva (sī. syā. kaṃ. pī.)
    24. bhedaṇḍakaṃ (ka.)
    25. ambakamaddarī (sī.)
    26. phussakaravitaṃ (sī.), pussakaravitaṃ (syā. kaṃ. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๔. สรภสุตฺตวณฺณนา • 4. Sarabhasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๔. สรภสุตฺตวณฺณนา • 4. Sarabhasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact