Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๓. สารนฺททสุตฺตํ

    3. Sārandadasuttaṃ

    ๑๔๓. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ เตน โข ปน สมเยน ปญฺจมตฺตานํ ลิจฺฉวิสตานํ สารนฺทเท เจติเย สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘ปญฺจนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ กตเมสํ ปญฺจนฺนํ? หตฺถิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, อสฺสรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, มณิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, อิตฺถิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, คหปติรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิ’’นฺติฯ

    143. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya vesāliṃ piṇḍāya pāvisi. Tena kho pana samayena pañcamattānaṃ licchavisatānaṃ sārandade cetiye sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘‘pañcannaṃ ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmiṃ. Katamesaṃ pañcannaṃ? Hatthiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, assaratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, maṇiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, itthiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, gahapatiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ. Imesaṃ pañcannaṃ ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmi’’nti.

    อถ โข เต ลิจฺฉวี มเคฺค ปุริสํ ฐเปสุํ 1 – ‘‘ยทา ตฺวํ 2, อโมฺภ ปุริส, ปเสฺสยฺยาสิ ภควนฺตํ, อถ อมฺหากํ อาโรเจยฺยาสี’’ติฯ อทฺทสา โข โส ปุริโส ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน เยน เต ลิจฺฉวี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘‘อยํ โส, ภเนฺต, ภควา คจฺฉติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ; ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญถา’’ติฯ

    Atha kho te licchavī magge purisaṃ ṭhapesuṃ 3 – ‘‘yadā tvaṃ 4, ambho purisa, passeyyāsi bhagavantaṃ, atha amhākaṃ āroceyyāsī’’ti. Addasā kho so puriso bhagavantaṃ dūratova āgacchantaṃ; disvāna yena te licchavī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā te licchavī etadavoca – ‘‘ayaṃ so, bhante, bhagavā gacchati arahaṃ sammāsambuddho; yassadāni kālaṃ maññathā’’ti.

    อถ โข เต ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เต ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

    Atha kho te licchavī yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhaṃsu. Ekamantaṃ ṭhitā kho te licchavī bhagavantaṃ etadavocuṃ –

    ‘‘สาธุ, ภเนฺต, เยน สารนฺททํ เจติยํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข ภควา เยน สารนฺททํ เจติยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา เต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ, ลิจฺฉวี, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ, ภเนฺต, อมฺหากํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘ปญฺจนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ กตเมสํ ปญฺจนฺนํ ? หตฺถิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, อสฺสรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, มณิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, อิตฺถิรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, คหปติรตนสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิ’’’นฺติฯ

    ‘‘Sādhu, bhante, yena sārandadaṃ cetiyaṃ tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena. Atha kho bhagavā yena sārandadaṃ cetiyaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā te licchavī etadavoca – ‘‘kāya nuttha, licchavī, etarahi kathāya sannisinnā, kā ca pana vo antarākathā vippakatā’’ti? ‘‘Idha, bhante, amhākaṃ sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘pañcannaṃ ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmiṃ. Katamesaṃ pañcannaṃ ? Hatthiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, assaratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, maṇiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, itthiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, gahapatiratanassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ. Imesaṃ pañcannaṃ ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmi’’’nti.

    ‘‘กามาธิมุตฺตานํ วต, โภ, ลิจฺฉวีนํ 5 กามํเยว อารพฺภ อนฺตรากถา อุทปาทิฯ ปญฺจนฺนํ, ลิจฺฉวี, รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ กตเมสํ ปญฺจนฺนํ? ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส เทเสตา ปุคฺคโล ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส เทสิตสฺส วิญฺญาตา ปุคฺคโล ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, ตถาคตปฺปเวทิตสฺส ธมฺมวินยสฺส เทสิตสฺส วิญฺญาตา 6 ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน ปุคฺคโล ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ, กตญฺญู กตเวที ปุคฺคโล ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ อิเมสํ โข, ลิจฺฉวี, ปญฺจนฺนํ รตนานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ โลกสฺมิ’’นฺติฯ ตติยํฯ

    ‘‘Kāmādhimuttānaṃ vata, bho, licchavīnaṃ 7 kāmaṃyeva ārabbha antarākathā udapādi. Pañcannaṃ, licchavī, ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmiṃ. Katamesaṃ pañcannaṃ? Tathāgatassa arahato sammāsambuddhassa pātubhāvo dullabho lokasmiṃ, tathāgatappaveditassa dhammavinayassa desetā puggalo dullabho lokasmiṃ, tathāgatappaveditassa dhammavinayassa desitassa viññātā puggalo dullabho lokasmiṃ, tathāgatappaveditassa dhammavinayassa desitassa viññātā 8 dhammānudhammappaṭipanno puggalo dullabho lokasmiṃ, kataññū katavedī puggalo dullabho lokasmiṃ. Imesaṃ kho, licchavī, pañcannaṃ ratanānaṃ pātubhāvo dullabho lokasmi’’nti. Tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. เปเสสุํ (สฺยา. ก.)
    2. ยถา ตฺวํ (สี. ปี.)
    3. pesesuṃ (syā. ka.)
    4. yathā tvaṃ (sī. pī.)
    5. กามาธิมุตฺตานํ วต โว ลิจฺฉวีนํ (สี.), กามาธิมุตฺตานํ วต โว ลิจฺฉวี (สฺยา.), กามาธิมุตฺตานํว โว ลิจฺฉวี (?)
    6. วิญฺญาตสฺส (สี. ปี.) อ. นิ. ๕.๑๙๕
    7. kāmādhimuttānaṃ vata vo licchavīnaṃ (sī.), kāmādhimuttānaṃ vata vo licchavī (syā.), kāmādhimuttānaṃva vo licchavī (?)
    8. viññātassa (sī. pī.) a. ni. 5.195



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. สารนฺททสุตฺตวณฺณนา • 3. Sārandadasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๒-๓. อารภติสุตฺตาทิวณฺณนา • 2-3. Ārabhatisuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact