Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๗. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
7. Sāriputtasuttavaṇṇanā
๓๗. สตฺตเม อปุพฺพํ นตฺถิฯ คาถาย อธิเจตโสติ อธิจิตฺตวโต, สพฺพจิตฺตานํ อธิเกน อรหตฺตผลจิเตฺตน สมนฺนาคตสฺสาติ อโตฺถฯ อปฺปมชฺชโตติ น ปมชฺชโต, อปฺปมาเทน อนวชฺชธเมฺมสุ สาตจฺจกิริยาย สมนฺนาคตสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ มุนิโนติ ‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๒๖๙; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๒๑) เอวํ อุภยโลกมุนเนน โมนํ วุจฺจติ ญาณํ, เตน อรหตฺตผลญาณสงฺขาเตน ญาเณน สมนฺนาคตตฺตา วา ขีณาสโว มุนิ นาม, ตสฺส มุนิโนฯ โมนปเถสุ สิกฺขโตติ อรหตฺตญาณสงฺขาตสฺส โมนสฺส ปเถสุ สตฺตติํสโพธิปกฺขิยธเมฺมสุ ตีสุ วา สิกฺขาสุ สิกฺขโตฯ อิทญฺจ ปุพฺพภาคปฺปฎิปทํ คเหตฺวา วุตฺตํฯ ปรินิฎฺฐิตสิโกฺข หิ อรหา, ตสฺมา เอวํ สิกฺขโต, อิมาย สิกฺขาย มุนิภาวํ ปตฺตสฺส มุนิโนติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ยสฺมา จ เอตเทว, ตสฺมา เหฎฺฐิมมคฺคผลจิตฺตานํ วเสน อธิเจตโส, จตุสจฺจสโมฺพธปฎิปตฺติยํ อปฺปมาทวเสน อปฺปมชฺชโต, มคฺคญาณสมนฺนาคเมน มุนิโนติ เอวเมเตสํ ติณฺณํ ปทานํ อโตฺถ ยุชฺชติเยวฯ อถ วา ‘‘อปฺปมชฺชโต สิกฺขโต’’ติ ปทานํ เหตุอตฺถตา ทฎฺฐพฺพา อปฺปมชฺชนเหตุ สิกฺขนเหตุ จ อธิเจตโสติฯ
37. Sattame apubbaṃ natthi. Gāthāya adhicetasoti adhicittavato, sabbacittānaṃ adhikena arahattaphalacittena samannāgatassāti attho. Appamajjatoti na pamajjato, appamādena anavajjadhammesu sātaccakiriyāya samannāgatassāti vuttaṃ hoti. Muninoti ‘‘yo munāti ubho loke, muni tena pavuccatī’’ti (dha. pa. 269; cūḷani. mettagūmāṇavapucchāniddesa 21) evaṃ ubhayalokamunanena monaṃ vuccati ñāṇaṃ, tena arahattaphalañāṇasaṅkhātena ñāṇena samannāgatattā vā khīṇāsavo muni nāma, tassa munino. Monapathesu sikkhatoti arahattañāṇasaṅkhātassa monassa pathesu sattatiṃsabodhipakkhiyadhammesu tīsu vā sikkhāsu sikkhato. Idañca pubbabhāgappaṭipadaṃ gahetvā vuttaṃ. Pariniṭṭhitasikkho hi arahā, tasmā evaṃ sikkhato, imāya sikkhāya munibhāvaṃ pattassa muninoti evamettha attho daṭṭhabbo. Yasmā ca etadeva, tasmā heṭṭhimamaggaphalacittānaṃ vasena adhicetaso, catusaccasambodhapaṭipattiyaṃ appamādavasena appamajjato, maggañāṇasamannāgamena muninoti evametesaṃ tiṇṇaṃ padānaṃ attho yujjatiyeva. Atha vā ‘‘appamajjato sikkhato’’ti padānaṃ hetuatthatā daṭṭhabbā appamajjanahetu sikkhanahetu ca adhicetasoti.
โสกา น ภวนฺติ ตาทิโนติ ตาทิสสฺส ขีณาสวมุนิโน อพฺภนฺตเร อิฎฺฐวิโยคาทิวตฺถุกา โสกา จิตฺตสนฺตาปา น โหนฺติฯ อถ วา ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณสมนฺนาคตสฺส เอวรูปสฺส มุนิโน โสกา น ภวนฺตีติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ อุปสนฺตสฺสาติ ราคาทีนํ อจฺจนฺตูปสเมน อุปสนฺตสฺสฯ สทา สตีมโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา นิจฺจกาลํ สติยา อวิรหิตสฺสฯ
Sokā na bhavanti tādinoti tādisassa khīṇāsavamunino abbhantare iṭṭhaviyogādivatthukā sokā cittasantāpā na honti. Atha vā tādinoti tādilakkhaṇasamannāgatassa evarūpassa munino sokā na bhavantīti ayamettha attho. Upasantassāti rāgādīnaṃ accantūpasamena upasantassa. Sadā satīmatoti sativepullappattiyā niccakālaṃ satiyā avirahitassa.
เอตฺถ จ ‘‘อธิเจตโส’’ติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขา, ‘‘อปฺปมชฺชโต’’ติ เอเตน อธิสีลสิกฺขา, ‘‘มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต’’ติ เอเตหิ อธิปญฺญาสิกฺขาฯ ‘‘มุนิโน’’ติ วา เอเตน อธิปญฺญาสิกฺขา, ‘‘โมนปเถสุ สิกฺขโต’’ติ เอเตน ตาสํ โลกุตฺตรสิกฺขานํ ปุพฺพภาคปฎิปทา, ‘‘โสกา น ภวนฺตี’’ติอาทีหิ สิกฺขาปาริปูริยา อานิสํโส ปกาสิโตติ เวทิตพฺพํฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Ettha ca ‘‘adhicetaso’’ti iminā adhicittasikkhā, ‘‘appamajjato’’ti etena adhisīlasikkhā, ‘‘munino monapathesu sikkhato’’ti etehi adhipaññāsikkhā. ‘‘Munino’’ti vā etena adhipaññāsikkhā, ‘‘monapathesu sikkhato’’ti etena tāsaṃ lokuttarasikkhānaṃ pubbabhāgapaṭipadā, ‘‘sokā na bhavantī’’tiādīhi sikkhāpāripūriyā ānisaṃso pakāsitoti veditabbaṃ. Sesaṃ vuttanayameva.
สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๗. สาริปุตฺตสุตฺตํ • 7. Sāriputtasuttaṃ