Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi

    ๒. สาริปุตฺตเตฺถรคาถา

    2. Sāriputtattheragāthā

    ๙๘๑.

    981.

    ‘‘ยถาจารี ยถาสโต สตีมา, ยตสงฺกปฺปชฺฌายิ อปฺปมโตฺต;

    ‘‘Yathācārī yathāsato satīmā, yatasaṅkappajjhāyi appamatto;

    อชฺฌตฺตรโต สมาหิตโตฺต, เอโก สนฺตุสิโต ตมาหุ ภิกฺขุํฯ

    Ajjhattarato samāhitatto, eko santusito tamāhu bhikkhuṃ.

    ๙๘๒.

    982.

    ‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา ภุญฺชโนฺต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;

    ‘‘Allaṃ sukkhaṃ vā bhuñjanto, na bāḷhaṃ suhito siyā;

    อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชฯ

    Ūnūdaro mitāhāro, sato bhikkhu paribbaje.

    ๙๘๓.

    983.

    ‘‘จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

    ‘‘Cattāro pañca ālope, abhutvā udakaṃ pive;

    อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโนฯ

    Alaṃ phāsuvihārāya, pahitattassa bhikkhuno.

    ๙๘๔.

    984.

    ‘‘กปฺปิยํ ตํ เจ ฉาเทติ, จีวรํ อิทมตฺถิกํ 1;

    ‘‘Kappiyaṃ taṃ ce chādeti, cīvaraṃ idamatthikaṃ 2;

    อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโนฯ

    Alaṃ phāsuvihārāya, pahitattassa bhikkhuno.

    ๙๘๕.

    985.

    ‘‘ปลฺลเงฺกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเก นาภิวสฺสติ;

    ‘‘Pallaṅkena nisinnassa, jaṇṇuke nābhivassati;

    อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโนฯ

    Alaṃ phāsuvihārāya, pahitattassa bhikkhuno.

    ๙๘๖.

    986.

    3 ‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

    4 ‘‘Yo sukhaṃ dukkhato adda, dukkhamaddakkhi sallato;

    อุภยนฺตเรน 5 นาโหสิ, เกน โลกสฺมิ กิํ สิยาฯ

    Ubhayantarena 6 nāhosi, kena lokasmi kiṃ siyā.

    ๙๘๗.

    987.

    ‘‘มา เม กทาจิ ปาปิโจฺฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

    ‘‘Mā me kadāci pāpiccho, kusīto hīnavīriyo;

    อปฺปสฺสุโต อนาทโร, เกน โลกสฺมิ กิํ สิยาฯ

    Appassuto anādaro, kena lokasmi kiṃ siyā.

    ๙๘๘.

    988.

    ‘‘พหุสฺสุโต จ เมธาวี, สีเลสุ สุสมาหิโต;

    ‘‘Bahussuto ca medhāvī, sīlesu susamāhito;

    เจโตสมถมนุยุโตฺต, อปิ มุทฺธนิ ติฎฺฐตุฯ

    Cetosamathamanuyutto, api muddhani tiṭṭhatu.

    ๙๘๙.

    989.

    ‘‘โย ปปญฺจมนุยุโตฺต, ปปญฺจาภิรโต มโค;

    ‘‘Yo papañcamanuyutto, papañcābhirato mago;

    วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคเกฺขมํ อนุตฺตรํฯ

    Virādhayī so nibbānaṃ, yogakkhemaṃ anuttaraṃ.

    ๙๙๐.

    990.

    ‘‘โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปญฺจปเถ รโต;

    ‘‘Yo ca papañcaṃ hitvāna, nippapañcapathe rato;

    อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคเกฺขมํ อนุตฺตรํฯ

    Ārādhayī so nibbānaṃ, yogakkhemaṃ anuttaraṃ.

    ๙๙๑.

    991.

    7 ‘‘คาเม วา ยทิ วารเญฺญ, นิเนฺน วา ยทิ วา ถเล;

    8 ‘‘Gāme vā yadi vāraññe, ninne vā yadi vā thale;

    ยตฺถ อรหโนฺต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยกํฯ

    Yattha arahanto viharanti, taṃ bhūmirāmaṇeyyakaṃ.

    ๙๙๒.

    992.

    ‘‘รมณียานิ อรญฺญานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;

    ‘‘Ramaṇīyāni araññāni, yattha na ramatī jano;

    วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโนฯ

    Vītarāgā ramissanti, na te kāmagavesino.

    ๙๙๓.

    993.

    9 ‘‘นิธีนํว ปวตฺตารํ, ยํ ปเสฺส วชฺชทสฺสินํ;

    10 ‘‘Nidhīnaṃva pavattāraṃ, yaṃ passe vajjadassinaṃ;

    นิคฺคยฺหวาทิํ เมธาวิํ, ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช;

    Niggayhavādiṃ medhāviṃ, tādisaṃ paṇḍitaṃ bhaje;

    ตาทิสํ ภชมานสฺส, เสโยฺย โหติ น ปาปิโยฯ

    Tādisaṃ bhajamānassa, seyyo hoti na pāpiyo.

    ๙๙๔.

    994.

    11 ‘‘โอวเทยฺยานุสาเสยฺย, อสพฺภา จ นิวารเย;

    12 ‘‘Ovadeyyānusāseyya, asabbhā ca nivāraye;

    สตญฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโยฯ

    Satañhi so piyo hoti, asataṃ hoti appiyo.

    ๙๙๕.

    995.

    ‘‘อญฺญสฺส ภควา พุโทฺธ, ธมฺมํ เทเสสิ จกฺขุมา;

    ‘‘Aññassa bhagavā buddho, dhammaṃ desesi cakkhumā;

    ธเมฺม เทสิยมานมฺหิ, โสตโมเธสิมตฺถิโก;

    Dhamme desiyamānamhi, sotamodhesimatthiko;

    ตํ เม อโมฆํ สวนํ, วิมุโตฺตมฺหิ อนาสโวฯ

    Taṃ me amoghaṃ savanaṃ, vimuttomhi anāsavo.

    ๙๙๖.

    996.

    ‘‘เนว ปุเพฺพนิวาสาย, นปิ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;

    ‘‘Neva pubbenivāsāya, napi dibbassa cakkhuno;

    เจโตปริยาย อิทฺธิยา, จุติยา อุปปตฺติยา;

    Cetopariyāya iddhiyā, cutiyā upapattiyā;

    โสตธาตุวิสุทฺธิยา, ปณิธี เม น วิชฺชติ 13

    Sotadhātuvisuddhiyā, paṇidhī me na vijjati 14.

    ๙๙๗.

    997.

    ‘‘รุกฺขมูลํว นิสฺสาย, มุโณฺฑ สงฺฆาฎิปารุโต;

    ‘‘Rukkhamūlaṃva nissāya, muṇḍo saṅghāṭipāruto;

    ปญฺญาย อุตฺตโม เถโร, อุปติโสฺสว 15 ฌายติฯ

    Paññāya uttamo thero, upatissova 16 jhāyati.

    ๙๙๘.

    998.

    ‘‘อวิตกฺกํ สมาปโนฺน, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

    ‘‘Avitakkaṃ samāpanno, sammāsambuddhasāvako;

    อริเยน ตุณฺหีภาเวน, อุเปโต โหติ ตาวเทฯ

    Ariyena tuṇhībhāvena, upeto hoti tāvade.

    ๙๙๙.

    999.

    17 ‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฎฺฐิโต;

    18 ‘‘Yathāpi pabbato selo, acalo suppatiṭṭhito;

    เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธติฯ

    Evaṃ mohakkhayā bhikkhu, pabbatova na vedhati.

    ๑๐๐๐.

    1000.

    ‘‘อนงฺคณสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สุจิคเวสิโน;

    ‘‘Anaṅgaṇassa posassa, niccaṃ sucigavesino;

    วาลคฺคมตฺตํ ปาปสฺส, อพฺภมตฺตํว ขายติฯ

    Vālaggamattaṃ pāpassa, abbhamattaṃva khāyati.

    ๑๐๐๑.

    1001.

    ‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

    ‘‘Nābhinandāmi maraṇaṃ, nābhinandāmi jīvitaṃ;

    นิกฺขิปิสฺสํ อิมํ กายํ, สมฺปชาโน ปติสฺสโตฯ

    Nikkhipissaṃ imaṃ kāyaṃ, sampajāno patissato.

    ๑๐๐๒.

    1002.

    ‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

    ‘‘Nābhinandāmi maraṇaṃ, nābhinandāmi jīvitaṃ;

    กาลญฺจ ปฎิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถาฯ

    Kālañca paṭikaṅkhāmi, nibbisaṃ bhatako yathā.

    ๑๐๐๓.

    1003.

    ‘‘อุภเยน มิทํ มรณเมว, นามรณํ ปจฺฉา วา ปุเร วา;

    ‘‘Ubhayena midaṃ maraṇameva, nāmaraṇaṃ pacchā vā pure vā;

    ปฎิปชฺชถ มา วินสฺสถ, ขโณ โว มา อุปจฺจคาฯ

    Paṭipajjatha mā vinassatha, khaṇo vo mā upaccagā.

    ๑๐๐๔.

    1004.

    ‘‘นครํ ยถา ปจฺจนฺตํ, คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ;

    ‘‘Nagaraṃ yathā paccantaṃ, guttaṃ santarabāhiraṃ;

    เอวํ โคเปถ อตฺตานํ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา;

    Evaṃ gopetha attānaṃ, khaṇo vo mā upaccagā;

    ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตาฯ

    Khaṇātītā hi socanti, nirayamhi samappitā.

    ๑๐๐๕.

    1005.

    ‘‘อุปสโนฺต อุปรโต, มนฺตภาณี 19 อนุทฺธโต;

    ‘‘Upasanto uparato, mantabhāṇī 20 anuddhato;

    ธุนาติ ปาปเก ธเมฺม, ทุมปตฺตํว มาลุโตฯ

    Dhunāti pāpake dhamme, dumapattaṃva māluto.

    ๑๐๐๖.

    1006.

    ‘‘อุปสโนฺต อุปรโต, มนฺตภาณี อนุทฺธโต;

    ‘‘Upasanto uparato, mantabhāṇī anuddhato;

    อปฺปาสิ 21 ปาปเก ธเมฺม, ทุมปตฺตํว มาลุโตฯ

    Appāsi 22 pāpake dhamme, dumapattaṃva māluto.

    ๑๐๐๗.

    1007.

    ‘‘อุปสโนฺต อนายาโส, วิปฺปสโนฺน อนาวิโล;

    ‘‘Upasanto anāyāso, vippasanno anāvilo;

    กลฺยาณสีโล เมธาวี, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยาฯ

    Kalyāṇasīlo medhāvī, dukkhassantakaro siyā.

    ๑๐๐๘.

    1008.

    ‘‘น วิสฺสเส เอกติเยสุ เอวํ, อคาริสุ ปพฺพชิเตสุ จาปิ;

    ‘‘Na vissase ekatiyesu evaṃ, agārisu pabbajitesu cāpi;

    สาธูปิ หุตฺวา น อสาธุ โหนฺติ, อสาธุ หุตฺวา ปุน สาธุ โหนฺติฯ

    Sādhūpi hutvā na asādhu honti, asādhu hutvā puna sādhu honti.

    ๑๐๐๙.

    1009.

    ‘‘กามจฺฉโนฺท จ พฺยาปาโท, ถินมิทฺธญฺจ ภิกฺขุโน;

    ‘‘Kāmacchando ca byāpādo, thinamiddhañca bhikkhuno;

    อุทฺธจฺจํ วิจิกิจฺฉา จ, ปเญฺจเต จิตฺตเกลิสาฯ

    Uddhaccaṃ vicikicchā ca, pañcete cittakelisā.

    ๑๐๑๐.

    1010.

    ‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺส, อสกฺกาเรน จูภยํ;

    ‘‘Yassa sakkariyamānassa, asakkārena cūbhayaṃ;

    สมาธิ น วิกมฺปติ, อปฺปมาทวิหาริโนฯ

    Samādhi na vikampati, appamādavihārino.

    ๑๐๑๑.

    1011.

    ‘‘ตํ ฌายินํ สาตติกํ, สุขุมทิฎฺฐิวิปสฺสกํ;

    ‘‘Taṃ jhāyinaṃ sātatikaṃ, sukhumadiṭṭhivipassakaṃ;

    อุปาทานกฺขยารามํ, อาหุ สปฺปุริโส อิติฯ

    Upādānakkhayārāmaṃ, āhu sappuriso iti.

    ๑๐๑๒.

    1012.

    ‘‘มหาสมุโทฺท ปถวี, ปพฺพโต อนิโลปิ จ;

    ‘‘Mahāsamuddo pathavī, pabbato anilopi ca;

    อุปมาย น ยุชฺชนฺติ, สตฺถุ วรวิมุตฺติยาฯ

    Upamāya na yujjanti, satthu varavimuttiyā.

    ๑๐๑๓.

    1013.

    ‘‘จกฺกานุวตฺตโก เถโร, มหาญาณี สมาหิโต;

    ‘‘Cakkānuvattako thero, mahāñāṇī samāhito;

    ปถวาปคฺคิสมาโน, น รชฺชติ น ทุสฺสติฯ

    Pathavāpaggisamāno, na rajjati na dussati.

    ๑๐๑๔.

    1014.

    ‘‘ปญฺญาปารมิตํ ปโตฺต, มหาพุทฺธิ มหามติ;

    ‘‘Paññāpāramitaṃ patto, mahābuddhi mahāmati;

    อชโฬ ชฬสมาโน, สทา จรติ นิพฺพุโตฯ

    Ajaḷo jaḷasamāno, sadā carati nibbuto.

    ๑๐๑๕.

    1015.

    ‘‘ปริจิโณฺณ มยา สตฺถา…เป.… ภวเนตฺติ สมูหตาฯ

    ‘‘Pariciṇṇo mayā satthā…pe… bhavanetti samūhatā.

    ๑๐๑๖.

    1016.

    ‘‘สมฺปาเทถปฺปมาเทน , เอสา เม อนุสาสนี;

    ‘‘Sampādethappamādena , esā me anusāsanī;

    หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ, วิปฺปมุโตฺตมฺหิ สพฺพธี’’ติฯ

    Handāhaṃ parinibbissaṃ, vippamuttomhi sabbadhī’’ti.

    … สาริปุโตฺต เถโร…ฯ

    … Sāriputto thero….







    Footnotes:
    1. อิทมตฺถิตํ (สี.)
    2. idamatthitaṃ (sī.)
    3. สํ. นิ. ๔.๒๕๓; อิติวุ. ๕๓
    4. saṃ. ni. 4.253; itivu. 53
    5. อุภยมนฺตเร (สี.)
    6. ubhayamantare (sī.)
    7. ธ. ป. ๙๘
    8. dha. pa. 98
    9. ธ. ป. ๗๖
    10. dha. pa. 76
    11. ธ. ป. ๗๗
    12. dha. pa. 77
    13. กถา. ๓๗๘
    14. kathā. 378
    15. อุปติโสฺส จ (สี. ก.)
    16. upatisso ca (sī. ka.)
    17. อุทา. ๒๔
    18. udā. 24
    19. มตฺตภาณี (สี.)
    20. mattabhāṇī (sī.)
    21. อพฺพหิ (สฺยา.), อภาสิ (?)
    22. abbahi (syā.), abhāsi (?)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā / ๒. สาริปุตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา • 2. Sāriputtattheragāthāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact