Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๑๐. สาริปุตฺตอุปสมสุตฺตวณฺณนา
10. Sāriputtaupasamasuttavaṇṇanā
๔๐. ทสเม อตฺตโน อุปสมนฺติ สาวกปารมีมตฺถกปฺปตฺติยา เหตุภูตํ อคฺคมเคฺคน อตฺตโน อนวเสสกิเลสวูปสมํฯ
40. Dasame attano upasamanti sāvakapāramīmatthakappattiyā hetubhūtaṃ aggamaggena attano anavasesakilesavūpasamaṃ.
อายสฺมา หิ สาริปุโตฺต อนุปสนฺตกิเลสานํ สตฺตานํ ราคาทิกิเลสชนิตสนฺตาปทรถปริฬาหทุกฺขเญฺจว กิเลสาภิสงฺขารนิมิตฺตํ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวาทิทุกฺขญฺจ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา อตีตานาคเตปิ เนสํ วฎฺฎมูลกทุกฺขํ ปริตุเลตฺวา กรุณายมาโน อตฺตนาปิ ปุถุชฺชนกาเล อนุภูตํ กิเลสนิมิตฺตํ วา อนปฺปกํ ทุกฺขํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อีทิสสฺส นาม มหาทุกฺขสฺส เหตุภูตา กิเลสา อิทานิ เม สุปฺปหีนา’’ติ อตฺตโน กิเลสวูปสมํ อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขติฯ ปจฺจเวกฺขโนฺต จ ‘‘อิเม เอตฺตกา กิเลสา โสตาปตฺติมเคฺคน อุปสมิตา, เอตฺตกา สกทาคามิมเคฺคน, เอตฺตกา อนาคามิมเคฺคน, เอตฺตกา อรหตฺตมเคฺคน อุปสมิตา’’ติ ตํตํมคฺคญาเณหิ โอธิโส กิเลสานํ อุปสมิตภาวํ ปจฺจเวกฺขติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตโน อุปสมํ ปจฺจเวกฺขมาโน’’ติฯ
Āyasmā hi sāriputto anupasantakilesānaṃ sattānaṃ rāgādikilesajanitasantāpadarathapariḷāhadukkhañceva kilesābhisaṅkhāranimittaṃ jātijarābyādhimaraṇasokaparidevādidukkhañca paccakkhato disvā atītānāgatepi nesaṃ vaṭṭamūlakadukkhaṃ parituletvā karuṇāyamāno attanāpi puthujjanakāle anubhūtaṃ kilesanimittaṃ vā anappakaṃ dukkhaṃ anussaritvā ‘‘īdisassa nāma mahādukkhassa hetubhūtā kilesā idāni me suppahīnā’’ti attano kilesavūpasamaṃ abhiṇhaṃ paccavekkhati. Paccavekkhanto ca ‘‘ime ettakā kilesā sotāpattimaggena upasamitā, ettakā sakadāgāmimaggena, ettakā anāgāmimaggena, ettakā arahattamaggena upasamitā’’ti taṃtaṃmaggañāṇehi odhiso kilesānaṃ upasamitabhāvaṃ paccavekkhati, tena vuttaṃ – ‘‘attano upasamaṃ paccavekkhamāno’’ti.
อปเร ‘‘เถโร อรหตฺตผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘อิมสฺส วตายํ สนฺตปณีตภาโว อจฺจนฺตสนฺตาย อสงฺขตาย ธาตุยา อารมฺมณโต, สยญฺจ สมฺมเทว กิเลสวูปสมโต’ติ เอวํ อภิณฺหํ อุปสมํ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ วทนฺติฯ อเญฺญ ปน ‘‘อนวเสสกิเลสานํ อุปสมปริโยสาเน ชาตํ อคฺคผลเมเวตฺถ อุปสโม นาม, ตํ ปจฺจเวกฺขมาโน นิสิโนฺน’’ติฯ
Apare ‘‘thero arahattaphalasamāpattiṃ samāpajjitvā taṃ paccavekkhitvā ‘imassa vatāyaṃ santapaṇītabhāvo accantasantāya asaṅkhatāya dhātuyā ārammaṇato, sayañca sammadeva kilesavūpasamato’ti evaṃ abhiṇhaṃ upasamaṃ paccavekkhatī’’ti vadanti. Aññe pana ‘‘anavasesakilesānaṃ upasamapariyosāne jātaṃ aggaphalamevettha upasamo nāma, taṃ paccavekkhamāno nisinno’’ti.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ยทิทํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส มหาปญฺญตาทิเหตุภูตํ สาวเกสุ อนญฺญสาธารณํ กิเลสปฺปหานํ อคฺคผลํ วา อุปสมปริยาเยน วุตฺตํ, ตสฺส ปจฺจเวกฺขณสงฺขาตํ อตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทนุภาวทีปกํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthaṃ viditvāti yadidaṃ āyasmato sāriputtassa mahāpaññatādihetubhūtaṃ sāvakesu anaññasādhāraṇaṃ kilesappahānaṃ aggaphalaṃ vā upasamapariyāyena vuttaṃ, tassa paccavekkhaṇasaṅkhātaṃ atthaṃ sabbākārato viditvā tadanubhāvadīpakaṃ imaṃ udānaṃ udānesi.
ตตฺถ อุปสนฺตสนฺตจิตฺตสฺสาติ อุปสนฺตเมว หุตฺวา สนฺตํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ อุปสนฺตสนฺตจิโตฺตฯ สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภเนน หิ อุปสนฺตกิเลสตฺตา อุปสนฺตจิตฺตํ น สพฺพถา ‘‘อุปสนฺตสนฺต’’นฺติ วุจฺจติ ตสฺส อุปสมสฺส อนจฺจนฺติกภาวโต, น ตถา อคฺคมเคฺคนฯ เตน ปน อจฺจนฺตเมว กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา อรหโต จิตฺตํ ปุน กิเลสานํ อนุปสเมตพฺพตาย สมถวิปสฺสนาเหฎฺฐิมมเคฺคหิ อุปสนฺตกิเลสํ หุตฺวา อจฺจนฺตสนฺตภาวโตว ‘‘อุปสนฺตสนฺต’’นฺติ วุจฺจติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปสนฺตเมว หุตฺวา สนฺตํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ อุปสนฺตสนฺตจิโตฺต’’ติฯ อุปสนฺตนฺติ วา อุปสโม วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘อุปสนฺตสนฺตจิตฺตสฺสา’’ติ อจฺจนฺตูปสเมน สนฺตจิตฺตสฺสาติ อโตฺถฯ
Tattha upasantasantacittassāti upasantameva hutvā santaṃ cittaṃ etassāti upasantasantacitto. Samāpattiyā vikkhambhanena hi upasantakilesattā upasantacittaṃ na sabbathā ‘‘upasantasanta’’nti vuccati tassa upasamassa anaccantikabhāvato, na tathā aggamaggena. Tena pana accantameva kilesānaṃ samucchinnattā arahato cittaṃ puna kilesānaṃ anupasametabbatāya samathavipassanāheṭṭhimamaggehi upasantakilesaṃ hutvā accantasantabhāvatova ‘‘upasantasanta’’nti vuccati. Tena vuttaṃ – ‘‘upasantameva hutvā santaṃ cittaṃ etassāti upasantasantacitto’’ti. Upasantanti vā upasamo vuccati, tasmā ‘‘upasantasantacittassā’’ti accantūpasamena santacittassāti attho.
อถ วา สติปิ สเพฺพสํ ขีณาสวานํ อนวเสสกิเลสวูปสเม สาวกปารมีญาณสฺส ปน มตฺถกปฺปตฺติเหตุภูโต สาวเกสุ อนญฺญสาธารโณ สวิเสโส ธมฺมเสนาปติโน กิเลสวูปสโมติ ทเสฺสตุํ สตฺถา อุปสนฺตสเทฺทน วิเสเสตฺวา อาห ‘‘อุปสนฺตสนฺตจิตฺตสฺสา’’ติฯ
Atha vā satipi sabbesaṃ khīṇāsavānaṃ anavasesakilesavūpasame sāvakapāramīñāṇassa pana matthakappattihetubhūto sāvakesu anaññasādhāraṇo saviseso dhammasenāpatino kilesavūpasamoti dassetuṃ satthā upasantasaddena visesetvā āha ‘‘upasantasantacittassā’’ti.
ตตฺรายมโตฺถ – ภุสํ ทฬฺหํ วา สนฺตํ อุปสนฺตํ, เตน อุปสเนฺตน อุปสนฺตเมว หุตฺวา สนฺตํ อุปสนฺตสนฺตํ , ตาทิสํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมวฯ ตถา เหส ภควตา – ‘‘สาริปุโตฺต, ภิกฺขเว, มหาปโญฺญ ปุถุปโญฺญ หาสปโญฺญ ชวนปโญฺญ ติกฺขปโญฺญ นิเพฺพธิกปโญฺญ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๙๓) อเนกปริยาเยน วณฺณิโต โถมิโตฯ เนตฺติจฺฉินฺนสฺสาติ เนตฺติ วุจฺจติ ภวตณฺหา สํสารสฺส นยนโต, สา เนตฺติ ฉินฺนา เอตสฺสาติ เนตฺติจฺฉิโนฺนฯ ตสฺส เนตฺติจฺฉินฺนสฺส, ปหีนตณฺหสฺสาติ อโตฺถฯ มุโตฺต โส มารพนฺธนาติ โส เอวํวิโธ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สพฺพสฺมา มารพนฺธนโต มุโตฺต, น ตสฺส มารพนฺธนโมจนาย กรณียํ อตฺถิ, ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ อตฺตโน อุปสมํ ปจฺจเวกฺขตีติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Tatrāyamattho – bhusaṃ daḷhaṃ vā santaṃ upasantaṃ, tena upasantena upasantameva hutvā santaṃ upasantasantaṃ , tādisaṃ cittaṃ etassāti sabbaṃ purimasadisameva. Tathā hesa bhagavatā – ‘‘sāriputto, bhikkhave, mahāpañño puthupañño hāsapañño javanapañño tikkhapañño nibbedhikapañño’’tiādinā (ma. ni. 3.93) anekapariyāyena vaṇṇito thomito. Netticchinnassāti netti vuccati bhavataṇhā saṃsārassa nayanato, sā netti chinnā etassāti netticchinno. Tassa netticchinnassa, pahīnataṇhassāti attho. Mutto so mārabandhanāti so evaṃvidho parikkhīṇabhavasaṃyojano sabbasmā mārabandhanato mutto, na tassa mārabandhanamocanāya karaṇīyaṃ atthi, tasmā dhammasenāpati attano upasamaṃ paccavekkhatīti. Sesaṃ vuttanayameva.
ทสมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dasamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
นิฎฺฐิตา จ เมฆิยวคฺควณฺณนาฯ
Niṭṭhitā ca meghiyavaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๑๐. สาริปุตฺตอุปสมสุตฺตํ • 10. Sāriputtaupasamasuttaṃ