Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Sāsaṅkasikkhāpadavaṇṇanā
อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยาติ ‘‘ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๐๘) อิมสฺส วิภเงฺค ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ อุทฺธริตเพฺพ ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ อุทฺธฎํฯ ตทิห นิทสฺสนํ กตํฯ อาทิสเทฺทน ปน ‘‘อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺยา’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๑๑๑, ๑๑๕) สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ อุปคนฺตฺวาติ อุปสทฺทสฺสตฺถมาหฯ วสิตฺวาติ อกฺขณฺฑํ วสิตฺวาฯ ‘‘เยน ยสฺส หิ สมฺพโนฺธ, ทูรฎฺฐมฺปิ จ ตสฺส ต’’นฺติ วจนโต ‘‘อิมสฺส…เป.… อิมินา สมฺพโนฺธ’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อิมสฺสาติ ‘‘อุปวสฺส’’นฺติ ปทสฺสฯ วินยปริยาเยน อรญฺญลกฺขณํ อทินฺนาทานปาราชิเก อาคตํฯ ตตฺถ หิ ‘‘คามา วา อรญฺญา วา’’ติ อนวเสสโต อวหารฎฺฐานปริคฺคเหน ตทุภยํ อสงฺกรโต ทเสฺสตุํ ‘‘ฐเปตฺวา คามญฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ คามูปจาโร หิ โลเก คามสงฺขเมว คจฺฉตีติฯ อิธ ปน สุตฺตนฺตปริยาเยน ‘‘ปญฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อาคตํ อารญฺญกํ ภิกฺขุํ สนฺธายฯ น หิ โส วินยปริยายิเก อรเญฺญ วสโนฺต ‘‘อารญฺญโก ปนฺถเสนาสโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๑) สุเตฺต วุโตฺต, ตสฺมา ตตฺถ อาคตเมว ลกฺขณํ คเหตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘สพฺพปจฺฉิมานิ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ‘‘อาจริยธนุ นาม ปกติหเตฺถน นววิทตฺถิปมาณํฯ ชิยาย ปน อาโรปิตาย จตุหตฺถปมาณ’’นฺติ วทนฺติฯ คามสฺสาติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺสฯ อินฺทขีลโตติ อุมฺมารโตฯ ปริเกฺขปารหฎฺฐานโตติ ปริยเนฺต ฐิตฆรสฺส อุปจาเร ฐิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ปฐมเลฑฺฑุปาตโตฯ กิตฺตเกน มเคฺคน มินิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิฯ มชฺฌิมฎฺฐกถายํ ปน ‘‘วิหารสฺสาปิ คามเสฺสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ โจรานํ นิวิโฎฺฐกาสาทิทสฺสเนนาติ อาราเม, อารามูปจาเร จ โจรานํ นิวิโฎฺฐกาสาทิทสฺสเนน การเณนฯ อาทิสเทฺทน ภุโตฺตกาสฎฺฐิโตกาสนิสิโนฺนกาสนิปโนฺนกาสานํ คหณํฯ โจเรหิ มนุสฺสานํ หตวิลุตฺตาโกฎิตภาวทสฺสนโตติ อาราเม, อารามูปจาเร จ หตวิลุตฺตาโกฎิตภาวทสฺสนโตฯ
Upasampajjantiādīsu viyāti ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharatī’’ti (vibha. 508) imassa vibhaṅge ‘‘upasampajjā’’ti uddharitabbe ‘‘upasampajja’’nti uddhaṭaṃ. Tadiha nidassanaṃ kataṃ. Ādisaddena pana ‘‘anāpucchaṃ vā gaccheyyā’’tiādīnaṃ (pāci. 111, 115) saṅgaho daṭṭhabbo. Upagantvāti upasaddassatthamāha. Vasitvāti akkhaṇḍaṃ vasitvā. ‘‘Yena yassa hi sambandho, dūraṭṭhampi ca tassa ta’’nti vacanato ‘‘imassa…pe… iminā sambandho’’ti vuttaṃ. Tattha imassāti ‘‘upavassa’’nti padassa. Vinayapariyāyena araññalakkhaṇaṃ adinnādānapārājike āgataṃ. Tattha hi ‘‘gāmā vā araññā vā’’ti anavasesato avahāraṭṭhānapariggahena tadubhayaṃ asaṅkarato dassetuṃ ‘‘ṭhapetvā gāmañcā’’tiādi vuttaṃ. Gāmūpacāro hi loke gāmasaṅkhameva gacchatīti. Idha pana suttantapariyāyena ‘‘pañcadhanusatikaṃ pacchima’’nti (pārā. 654) āgataṃ āraññakaṃ bhikkhuṃ sandhāya. Na hi so vinayapariyāyike araññe vasanto ‘‘āraññako panthasenāsano’’ti (ma. ni. 1.61) sutte vutto, tasmā tattha āgatameva lakkhaṇaṃ gahetabbanti dassento ‘‘sabbapacchimāni āropitena ācariyadhanunā’’tiādimāha. Tattha ‘‘ācariyadhanu nāma pakatihatthena navavidatthipamāṇaṃ. Jiyāya pana āropitāya catuhatthapamāṇa’’nti vadanti. Gāmassāti parikkhittassa gāmassa. Indakhīlatoti ummārato. Parikkhepārahaṭṭhānatoti pariyante ṭhitagharassa upacāre ṭhitassa majjhimassa purisassa paṭhamaleḍḍupātato. Kittakena maggena minitabbanti āha ‘‘sace’’tiādi. Majjhimaṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘vihārassāpi gāmasseva upacāraṃ nīharitvā ubhinnaṃ leḍḍupātānaṃ antarā minitabba’’nti vuttaṃ. Corānaṃ niviṭṭhokāsādidassanenāti ārāme, ārāmūpacāre ca corānaṃ niviṭṭhokāsādidassanena kāraṇena. Ādisaddena bhuttokāsaṭṭhitokāsanisinnokāsanipannokāsānaṃ gahaṇaṃ. Corehi manussānaṃ hataviluttākoṭitabhāvadassanatoti ārāme, ārāmūpacāre ca hataviluttākoṭitabhāvadassanato.
อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ อนฺตเร อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อนฺตรฆรํ, คาโม, ตสฺมิํ ฐเปยฺยาติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘อารญฺญกสฺสา’’ติอาทิฯ ตญฺจาติ นิกฺขิปนญฺจฯ ‘‘มหาปวารณาย ปวาริโต โหตี’’ติ อิทํ วสฺสเจฺฉทํ อกตฺวา วุฎฺฐภาวํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ, น ปน ปวารณาย องฺคภาวํฯ เตเนว หิ พฺยติเรกํ ทเสฺสเนฺตน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๖๕๓-๖๕๔) วุตฺตํ ‘‘สเจ ปจฺฉิมิกาย วา อุปคโต โหติ ฉินฺนวโสฺส วา, นิกฺขิปิตุํ น ลภตี’’ติฯ กตฺติกมาโส นาม ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขปาฎิปทโต ปฎฺฐาย ยาว อปรกตฺติกปุณฺณมา, ตาว เอกูนตฺติํส รตฺตินฺทิวาฯ เอว-สเทฺทน กตฺติกมาสโต ปรํ น ลภตีติ ทเสฺสติฯ อูนปฺปมาเณ ตาว อรญฺญลกฺขณาโยคโต น ลภตุ, กสฺมา คาวุตโต อติเรกปฺปมาเณ น ลภตีติ อาห ‘‘ยตฺร หี’’ติอาทิฯ นิมนฺติโต ปน อทฺธโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คนฺตฺวา วสิตุํ ปเจฺจติ, อิทมปฺปมาณํฯ สาสงฺกสปฺปฎิภยเมว โหตีติ สาสงฺกเญฺจว สปฺปฎิภยญฺจ โหติฯ เอว-สเทฺทน อนาสงฺกอปฺปฎิภเยหิ องฺคยุเตฺตปิ เสนาสเน วสโนฺต นิกฺขิปิตุํ น ลภตีติ ทเสฺสติฯ เอตฺตาวตา ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อกฺขณฺฑํ กตฺวา วุฎฺฐวโสฺส ยํ คามํ โคจรคามํ กตฺวา ปญฺจธนุสติกปจฺฉิเม อารญฺญกเสนาสเน วิหรติ, ตสฺมิํ คาเม จีวรํ ฐเปตฺวา สกลกตฺติกมาสํ ตสฺมิํเยว เสนาสเน เตน จีวเรน วินา วตฺถุํ อนุชานิตฺวา อิทานิ วิหารโต อญฺญตฺถ วสนฺตสฺส ฉารตฺตํ วิปฺปวาสํ อนุชานโนฺต ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติอาทิมาหฯ อสมาทานจารญฺหิ อตฺถตกถินา เอว ลภนฺติ, เนตเรติ เอตฺถ อิทมฺปิ การณํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตตฺถ ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพนฺติ โย ภิกฺขุ วิหาเร วสโนฺต ตโต อญฺญตฺถ คมนกิเจฺจ สติ อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปติ, เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน ฉารตฺตปรมํ วิปฺปวสิตพฺพํ, ฉ รตฺติโย ตมฺหา วิหารา อญฺญตฺถ วสิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติฯ วุตฺตญฺหิ ภทเนฺตน พุทฺธทตฺตาจริเยน –
Antaraghare nikkhipeyyāti antare antare gharāni ettha, etassāti vā antaragharaṃ, gāmo, tasmiṃ ṭhapeyyāti attho. Tenāha ‘‘āraññakassā’’tiādi. Tañcāti nikkhipanañca. ‘‘Mahāpavāraṇāya pavārito hotī’’ti idaṃ vassacchedaṃ akatvā vuṭṭhabhāvaṃ dassetuṃ vuttaṃ, na pana pavāraṇāya aṅgabhāvaṃ. Teneva hi byatirekaṃ dassentena samantapāsādikāyaṃ (pārā. aṭṭha. 2.653-654) vuttaṃ ‘‘sace pacchimikāya vā upagato hoti chinnavasso vā, nikkhipituṃ na labhatī’’ti. Kattikamāso nāma pubbakattikamāsassa kāḷapakkhapāṭipadato paṭṭhāya yāva aparakattikapuṇṇamā, tāva ekūnattiṃsa rattindivā. Eva-saddena kattikamāsato paraṃ na labhatīti dasseti. Ūnappamāṇe tāva araññalakkhaṇāyogato na labhatu, kasmā gāvutato atirekappamāṇe na labhatīti āha ‘‘yatrahī’’tiādi. Nimantito pana addhayojanampi yojanampi gantvā vasituṃ pacceti, idamappamāṇaṃ. Sāsaṅkasappaṭibhayameva hotīti sāsaṅkañceva sappaṭibhayañca hoti. Eva-saddena anāsaṅkaappaṭibhayehi aṅgayuttepi senāsane vasanto nikkhipituṃ na labhatīti dasseti. Ettāvatā purimikāya upagantvā akkhaṇḍaṃ katvā vuṭṭhavasso yaṃ gāmaṃ gocaragāmaṃ katvā pañcadhanusatikapacchime āraññakasenāsane viharati, tasmiṃ gāme cīvaraṃ ṭhapetvā sakalakattikamāsaṃ tasmiṃyeva senāsane tena cīvarena vinā vatthuṃ anujānitvā idāni vihārato aññattha vasantassa chārattaṃ vippavāsaṃ anujānanto ‘‘siyā ca tassa bhikkhuno’’tiādimāha. Asamādānacārañhi atthatakathinā eva labhanti, netareti ettha idampi kāraṇaṃ daṭṭhabbaṃ. Tattha chārattaparamaṃ tena bhikkhunā tena cīvarena vippavasitabbanti yo bhikkhu vihāre vasanto tato aññattha gamanakicce sati antaraghare cīvaraṃ nikkhipati, tena bhikkhunā tena cīvarena chārattaparamaṃ vippavasitabbaṃ, cha rattiyo tamhā vihārā aññattha vasitabbāti vuttaṃ hoti. Vuttañhi bhadantena buddhadattācariyena –
‘‘ยํ คามํ โคจรํ กตฺวา, ภิกฺขุ อารญฺญเก วเส;
‘‘Yaṃ gāmaṃ gocaraṃ katvā, bhikkhu āraññake vase;
ตสฺมิํ คาเม ฐเปตุํ ตํ, มาสเมกํ ตุ วฎฺฎติฯ
Tasmiṃ gāme ṭhapetuṃ taṃ, māsamekaṃ tu vaṭṭati.
‘‘อญฺญเตฺถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มตํ;
‘‘Aññattheva vasantassa, chārattaparamaṃ mataṃ;
อยมสฺส อธิปฺปาโย, ปฎิจฺฉโนฺน ปกาสิโต’’ติฯ
Ayamassa adhippāyo, paṭicchanno pakāsito’’ti.
เตเนวาห ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ ฉารตฺตโต อุตฺตริ ตสฺมิํ เสนาสเน สตฺตมํ อรุณํ อุฎฺฐาเปยฺยา’’ติอาทิฯ ตถา อสโกฺกเนฺตนาติ คตฎฺฐานสฺส ทูรตาย เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฎฺฐาเปตุํ อสโกฺกเนฺตนฯ เอวมฺปิ อสโกฺกเนฺตน ตเตฺรว ฐิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ ‘‘อติเรกจีวรฎฺฐาเน ฐสฺสตี’’ติฯ วสิตฺวาติ อรุณํ อุฎฺฐาเปตฺวาฯ ภิกฺขุสมฺมุติ อุโทสิตสิกฺขาปเท วุตฺตาวฯ
Tenevāha ‘‘tato ce uttari vippavaseyyāti chārattato uttari tasmiṃ senāsane sattamaṃ aruṇaṃ uṭṭhāpeyyā’’tiādi. Tathā asakkontenāti gataṭṭhānassa dūratāya senāsanaṃ āgantvā sattamaṃ aruṇaṃ uṭṭhāpetuṃ asakkontena. Evampi asakkontena tatreva ṭhitena paccuddharitabbaṃ ‘‘atirekacīvaraṭṭhāne ṭhassatī’’ti. Vasitvāti aruṇaṃ uṭṭhāpetvā. Bhikkhusammuti udositasikkhāpade vuttāva.
เสสนฺติ ‘‘อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ อยเมตฺถ อนุปญฺญตฺตี’’ติอาทิกํฯ ตตฺถ หิ อเงฺคสุ ยํ รตฺติวิปฺปวาโส จตุตฺถมงฺคํ, ตํ อิธ ฉารตฺตโต อุตฺตริ วิปฺปวาโส โหตีติ อยเมว วิเสโสฯ
Sesanti ‘‘aññatra bhikkhusammutiyāti ayamettha anupaññattī’’tiādikaṃ. Tattha hi aṅgesu yaṃ rattivippavāso catutthamaṅgaṃ, taṃ idha chārattato uttari vippavāso hotīti ayameva viseso.
สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sāsaṅkasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.