Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi |
๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค
7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
1. Suttantabhājanīyaṃ
๓๕๕. จตฺตาโร สติปฎฺฐานา – อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ พหิทฺธา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อชฺฌตฺตํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ พหิทฺธา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อชฺฌตฺตํ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ พหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อชฺฌตฺตํ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ พหิทฺธา ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
355. Cattāro satipaṭṭhānā – idha bhikkhu ajjhattaṃ kāye kāyānupassī viharati bahiddhā kāye kāyānupassī viharati ajjhattabahiddhā kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, ajjhattaṃ vedanāsu vedanānupassī viharati bahiddhā vedanāsu vedanānupassī viharati ajjhattabahiddhā vedanāsu vedanānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, ajjhattaṃ citte cittānupassī viharati bahiddhā citte cittānupassī viharati ajjhattabahiddhā citte cittānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, ajjhattaṃ dhammesu dhammānupassī viharati bahiddhā dhammesu dhammānupassī viharati ajjhattabahiddhā dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๑. กายานุปสฺสนานิเทฺทโส
1. Kāyānupassanāniddeso
๓๕๖. กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ 1 อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ 2 วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา พหิทฺธา กาเย จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
356. Kathañca bhikkhu ajjhattaṃ kāye kāyānupassī viharati? Idha bhikkhu ajjhattaṃ kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānappakārassa asucino paccavekkhati – ‘‘atthi imasmiṃ kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru 3 aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ 4 vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’’nti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā bahiddhā kāye cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ พหิทฺธา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ พหิทฺธา กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘‘อตฺถิสฺส กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเย จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
Kathañca bhikkhu bahiddhā kāye kāyānupassī viharati? Idha bhikkhu bahiddhā kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānappakārassa asucino paccavekkhati – ‘‘atthissa kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’’nti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā ajjhattabahiddhā kāye cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติฯ เอวํ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
Kathañca bhikkhu ajjhattabahiddhā kāye kāyānupassī viharati? Idha bhikkhu ajjhattabahiddhā kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānappakārassa asucino paccavekkhati – ‘‘atthi imasmiṃ kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’’nti. Evaṃ bhikkhu ajjhattabahiddhā kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๓๕๗. อนุปสฺสีติฯ ตตฺถ กตมา อนุปสฺสนา? ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อนุปสฺสนา’’ฯ อิมาย อนุปสฺสนาย อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปโนฺน สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อนุปสฺสี’’ติฯ
357. Anupassīti. Tattha katamā anupassanā? Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi – ayaṃ vuccati ‘‘anupassanā’’. Imāya anupassanāya upeto hoti samupeto upāgato samupāgato upapanno sampanno samannāgato. Tena vuccati ‘‘anupassī’’ti.
๓๕๘. วิหรตีติฯ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ
358. Viharatīti. Iriyati vattati pāleti yapeti yāpeti carati viharati. Tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.
๓๕๙. อาตาปีติฯ ตตฺถ กตโม อาตาโป 5? โย เจตสิโก วีริยารโมฺภ…เป.… สมฺมาวายาโม – อยํ วุจฺจติ ‘‘อาตาโป’’ฯ อิมินา อาตาเปน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปโนฺน สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อาตาปี’’ติฯ
359. Ātāpīti. Tattha katamo ātāpo 6? Yo cetasiko vīriyārambho…pe… sammāvāyāmo – ayaṃ vuccati ‘‘ātāpo’’. Iminā ātāpena upeto hoti samupeto upāgato samupāgato upapanno sampanno samannāgato. Tena vuccati ‘‘ātāpī’’ti.
๓๖๐. สมฺปชาโนติ ฯ ตตฺถ กตมํ สมฺปชญฺญํ? ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สมฺปชญฺญํ’’ฯ อิมินา สมฺปชเญฺญน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปโนฺน สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สมฺปชาโน’’ติฯ
360. Sampajānoti . Tattha katamaṃ sampajaññaṃ? Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi – idaṃ vuccati ‘‘sampajaññaṃ’’. Iminā sampajaññena upeto hoti samupeto upāgato samupāgato upapanno sampanno samannāgato. Tena vuccati ‘‘sampajāno’’ti.
๓๖๑. สติมาติฯ ตตฺถ กตมา สติ? ยา สติ อนุสฺสติ…เป.… สมฺมาสติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘สติ’’ฯ อิมาย สติยา อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปโนฺน สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สติมา’’ติฯ
361. Satimāti. Tattha katamā sati? Yā sati anussati…pe… sammāsati – ayaṃ vuccati ‘‘sati’’. Imāya satiyā upeto hoti samupeto upāgato samupāgato upapanno sampanno samannāgato. Tena vuccati ‘‘satimā’’ti.
๓๖๒. วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติฯ ตตฺถ กตโม โลโก? เสฺวว กาโย โลโกฯ ปญฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโกฯ อยํ วุจฺจติ ‘‘โลโก’’ฯ ตตฺถ กตมา อภิชฺฌา? โย ราโค สาราโค…เป.… จิตฺตสฺส สาราโค – อยํ วุจฺจติ ‘‘อภิชฺฌา’’ฯ ตตฺถ กตมํ โทมนสฺสํ? ยํ เจตสิกํ อสาตํ เจตสิกํ ทุกฺขํ เจโตสมฺผสฺสชํ อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตํ เจโตสมฺผสฺสชา อสาตา ทุกฺขา เวทนา – อิทํ วุจฺจติ ‘‘โทมนสฺสํ’’ฯ อิติ อยญฺจ อภิชฺฌา อิทญฺจ โทมนสฺสํ อิมมฺหิ โลเก วินีตา โหนฺติ ปฎิวินีตา สนฺตา สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติฯ
362. Vineyya loke abhijjhādomanassanti. Tattha katamo loko? Sveva kāyo loko. Pañcapi upādānakkhandhā loko. Ayaṃ vuccati ‘‘loko’’. Tattha katamā abhijjhā? Yo rāgo sārāgo…pe… cittassa sārāgo – ayaṃ vuccati ‘‘abhijjhā’’. Tattha katamaṃ domanassaṃ? Yaṃ cetasikaṃ asātaṃ cetasikaṃ dukkhaṃ cetosamphassajaṃ asātaṃ dukkhaṃ vedayitaṃ cetosamphassajā asātā dukkhā vedanā – idaṃ vuccati ‘‘domanassaṃ’’. Iti ayañca abhijjhā idañca domanassaṃ imamhi loke vinītā honti paṭivinītā santā samitā vūpasantā atthaṅgatā abbhatthaṅgatā appitā byappitā sositā visositā byantīkatā. Tena vuccati ‘‘vineyya loke abhijjhādomanassa’’nti.
กายานุปสฺสนานิเทฺทโสฯ
Kāyānupassanāniddeso.
๒. เวทนานุปสฺสนานิเทฺทโส
2. Vedanānupassanāniddeso
๓๖๓. กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘สามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘นิรามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘สามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา พหิทฺธา เวทนาสุ จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
363. Kathañca bhikkhu ajjhattaṃ vedanāsu vedanānupassī viharati? Idha bhikkhu sukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘sukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, dukkhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘dukkhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘sāmisaṃ sukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘nirāmisaṃ sukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘sāmisaṃ dukkhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘nirāmisaṃ dukkhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘sāmisaṃ adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamāno ‘‘nirāmisaṃ adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā bahiddhā vedanāsu cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ พหิทฺธา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘สามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘นิรามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘สามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ‘‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยตี’’ติ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา อชฺฌตฺตพหิทฺธา เวทนาสุ จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
Kathañca bhikkhu bahiddhā vedanāsu vedanānupassī viharati? Idha bhikkhu sukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘sukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, dukkhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘dukkhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘sāmisaṃ sukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘nirāmisaṃ sukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘sāmisaṃ dukkhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘nirāmisaṃ dukkhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘sāmisaṃ adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayamānaṃ ‘‘nirāmisaṃ adukkhamasukhaṃ vedanaṃ vedayatī’’ti pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā ajjhattabahiddhā vedanāsu cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ ‘‘สุขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, ทุกฺขํ เวทนํ ‘‘ทุกฺขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ‘‘อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา สุขํ เวทนํ ‘‘สามิสา สุขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา สุขํ เวทนํ ‘‘นิรามิสา สุขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ ‘‘สามิสา ทุกฺขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ ‘‘นิรามิสา ทุกฺขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, สามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ‘‘สามิสา อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ‘‘นิรามิสา อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ ปชานาติฯ เอวํ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
Kathañca bhikkhu ajjhattabahiddhā vedanāsu vedanānupassī viharati? Idha bhikkhu sukhaṃ vedanaṃ ‘‘sukhā vedanā’’ti pajānāti, dukkhaṃ vedanaṃ ‘‘dukkhā vedanā’’ti pajānāti, adukkhamasukhaṃ vedanaṃ ‘‘adukkhamasukhā vedanā’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ ‘‘sāmisā sukhā vedanā’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā sukhaṃ vedanaṃ ‘‘nirāmisā sukhā vedanā’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ ‘‘sāmisā dukkhā vedanā’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā dukkhaṃ vedanaṃ ‘‘nirāmisā dukkhā vedanā’’ti pajānāti, sāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ ‘‘sāmisā adukkhamasukhā vedanā’’ti pajānāti, nirāmisaṃ vā adukkhamasukhaṃ vedanaṃ ‘‘nirāmisā adukkhamasukhā vedanā’’ti pajānāti. Evaṃ bhikkhu ajjhattabahiddhā vedanāsu vedanānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๓๖๔. อนุปสฺสีติ …เป.… วิหรตีติ…เป.… อาตาปีติ…เป.… สมฺปชาโนติ…เป.… สติมาติ…เป.… วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติฯ ตตฺถ กตโม โลโก? สาเยว เวทนา โลโกฯ ปญฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโกฯ อยํ วุจฺจติ ‘‘โลโก’’ฯ ตตฺถ กตมา อภิชฺฌา? โย ราโค สาราโค…เป.… จิตฺตสฺส สาราโค – อยํ วุจฺจติ ‘‘อภิชฺฌา’’ฯ ตตฺถ กตมํ โทมนสฺสํ? ยํ เจตสิกํ อสาตํ เจตสิกํ ทุกฺขํ เจโตสมฺผสฺสชํ อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตํ เจโตสมฺผสฺสชา อสาตา ทุกฺขา เวทนา – อิทํ วุจฺจติ ‘‘โทมนสฺสํ’’ฯ อิติ อยญฺจ อภิชฺฌา อิทญฺจ โทมนสฺสํ อิมมฺหิ โลเก วินีตา โหนฺติ ปฎิวินีตา สนฺตา สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติฯ
364. Anupassīti …pe… viharatīti…pe… ātāpīti…pe… sampajānoti…pe… satimāti…pe… vineyya loke abhijjhādomanassanti. Tattha katamo loko? Sāyeva vedanā loko. Pañcapi upādānakkhandhā loko. Ayaṃ vuccati ‘‘loko’’. Tattha katamā abhijjhā? Yo rāgo sārāgo…pe… cittassa sārāgo – ayaṃ vuccati ‘‘abhijjhā’’. Tattha katamaṃ domanassaṃ? Yaṃ cetasikaṃ asātaṃ cetasikaṃ dukkhaṃ cetosamphassajaṃ asātaṃ dukkhaṃ vedayitaṃ cetosamphassajā asātā dukkhā vedanā – idaṃ vuccati ‘‘domanassaṃ’’. Iti ayañca abhijjhā idañca domanassaṃ imamhi loke vinītā honti paṭivinītā santā samitā vūpasantā atthaṅgatā abbhatthaṅgatā appitā byappitā sositā visositā byantīkatā. Tena vuccati ‘‘vineyya loke abhijjhādomanassa’’nti.
เวทนานุปสฺสนานิเทฺทโสฯ
Vedanānupassanāniddeso.
๓. จิตฺตานุปสฺสนานิเทฺทโส
3. Cittānupassanāniddeso
๓๖๕. กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สราคํ วา จิตฺตํ ‘‘สราคํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตราคํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘‘สโทสํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตโทสํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘‘สโมหํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตโมหํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘สํขิตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘วิกฺขิตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘‘มหคฺคตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘‘อมหคฺคตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘‘สอุตฺตรํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘‘อนุตฺตรํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘‘สมาหิตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘‘อสมาหิตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘วิมุตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘อวิมุตฺตํ เม จิตฺต’’นฺติ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา พหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
365. Kathañca bhikkhu ajjhattaṃ citte cittānupassī viharati? Idha bhikkhu sarāgaṃ vā cittaṃ ‘‘sarāgaṃ me citta’’nti pajānāti, vītarāgaṃ vā cittaṃ ‘‘vītarāgaṃ me citta’’nti pajānāti, sadosaṃ vā cittaṃ ‘‘sadosaṃ me citta’’nti pajānāti, vītadosaṃ vā cittaṃ ‘‘vītadosaṃ me citta’’nti pajānāti, samohaṃ vā cittaṃ ‘‘samohaṃ me citta’’nti pajānāti, vītamohaṃ vā cittaṃ ‘‘vītamohaṃ me citta’’nti pajānāti, saṃkhittaṃ vā cittaṃ ‘‘saṃkhittaṃ me citta’’nti pajānāti, vikkhittaṃ vā cittaṃ ‘‘vikkhittaṃ me citta’’nti pajānāti, mahaggataṃ vā cittaṃ ‘‘mahaggataṃ me citta’’nti pajānāti, amahaggataṃ vā cittaṃ ‘‘amahaggataṃ me citta’’nti pajānāti, sauttaraṃ vā cittaṃ ‘‘sauttaraṃ me citta’’nti pajānāti, anuttaraṃ vā cittaṃ ‘‘anuttaraṃ me citta’’nti pajānāti, samāhitaṃ vā cittaṃ ‘‘samāhitaṃ me citta’’nti pajānāti, asamāhitaṃ vā cittaṃ ‘‘asamāhitaṃ me citta’’nti pajānāti, vimuttaṃ vā cittaṃ ‘‘vimuttaṃ me citta’’nti pajānāti, avimuttaṃ vā cittaṃ ‘‘avimuttaṃ me citta’’nti pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā bahiddhā citte cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ พหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สราคํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สราคมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘วีตราคมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สโทสมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘วีตโทสมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สโมหมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘วีตโมหมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สํขิตฺตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘วิกฺขิตฺตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘มหคฺคตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘อมหคฺคตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สอุตฺตรมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘อนุตฺตรมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘สมาหิตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘อสมาหิตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘วิมุตฺตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วาสฺส จิตฺตํ ‘‘อวิมุตฺตมสฺส จิตฺต’’นฺติ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา อชฺฌตฺตพหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
Kathañca bhikkhu bahiddhā citte cittānupassī viharati? Idha bhikkhu sarāgaṃ vāssa cittaṃ ‘‘sarāgamassa citta’’nti pajānāti, vītarāgaṃ vāssa cittaṃ ‘‘vītarāgamassa citta’’nti pajānāti, sadosaṃ vāssa cittaṃ ‘‘sadosamassa citta’’nti pajānāti, vītadosaṃ vāssa cittaṃ ‘‘vītadosamassa citta’’nti pajānāti, samohaṃ vāssa cittaṃ ‘‘samohamassa citta’’nti pajānāti, vītamohaṃ vāssa cittaṃ ‘‘vītamohamassa citta’’nti pajānāti, saṃkhittaṃ vāssa cittaṃ ‘‘saṃkhittamassa citta’’nti pajānāti, vikkhittaṃ vāssa cittaṃ ‘‘vikkhittamassa citta’’nti pajānāti, mahaggataṃ vāssa cittaṃ ‘‘mahaggatamassa citta’’nti pajānāti, amahaggataṃ vāssa cittaṃ ‘‘amahaggatamassa citta’’nti pajānāti, sauttaraṃ vāssa cittaṃ ‘‘sauttaramassa citta’’nti pajānāti, anuttaraṃ vāssa cittaṃ ‘‘anuttaramassa citta’’nti pajānāti, samāhitaṃ vāssa cittaṃ ‘‘samāhitamassa citta’’nti pajānāti, asamāhitaṃ vāssa cittaṃ ‘‘asamāhitamassa citta’’nti pajānāti, vimuttaṃ vāssa cittaṃ ‘‘vimuttamassa citta’’nti pajānāti, avimuttaṃ vāssa cittaṃ ‘‘avimuttamassa citta’’nti pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā ajjhattabahiddhā citte cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สราคํ วา จิตฺตํ ‘‘สราคํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตราคํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘‘สโทสํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตโทสํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘‘สโมหํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘‘วีตโมหํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘สํขิตฺตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘‘มหคฺคตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘‘อมหคฺคตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘‘สอุตฺตรํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘‘อนุตฺตรํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ , สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘‘สมาหิตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘‘อสมาหิตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘วิมุตฺตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติฯ เอวํ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
Kathañca bhikkhu ajjhattabahiddhā citte cittānupassī viharati? Idha bhikkhu sarāgaṃ vā cittaṃ ‘‘sarāgaṃ citta’’nti pajānāti, vītarāgaṃ vā cittaṃ ‘‘vītarāgaṃ citta’’nti pajānāti, sadosaṃ vā cittaṃ ‘‘sadosaṃ citta’’nti pajānāti, vītadosaṃ vā cittaṃ ‘‘vītadosaṃ citta’’nti pajānāti, samohaṃ vā cittaṃ ‘‘samohaṃ citta’’nti pajānāti, vītamohaṃ vā cittaṃ ‘‘vītamohaṃ citta’’nti pajānāti, saṃkhittaṃ vā cittaṃ ‘‘saṃkhittaṃ citta’’nti pajānāti, vikkhittaṃ vā cittaṃ ‘‘vikkhittaṃ citta’’nti pajānāti, mahaggataṃ vā cittaṃ ‘‘mahaggataṃ citta’’nti pajānāti, amahaggataṃ vā cittaṃ ‘‘amahaggataṃ citta’’nti pajānāti, sauttaraṃ vā cittaṃ ‘‘sauttaraṃ citta’’nti pajānāti, anuttaraṃ vā cittaṃ ‘‘anuttaraṃ citta’’nti pajānāti , samāhitaṃ vā cittaṃ ‘‘samāhitaṃ citta’’nti pajānāti, asamāhitaṃ vā cittaṃ ‘‘asamāhitaṃ citta’’nti pajānāti, vimuttaṃ vā cittaṃ ‘‘vimuttaṃ citta’’nti pajānāti, avimuttaṃ vā cittaṃ ‘‘avimuttaṃ citta’’nti pajānāti. Evaṃ bhikkhu ajjhattabahiddhā citte cittānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๓๖๖. อนุปสฺสีติ…เป.… วิหรตีติ…เป.… อาตาปีติ…เป.… สมฺปชาโนติ…เป.… สติมาติ…เป.… วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติฯ ตตฺถ กตโม โลโก? ตํเยว จิตฺตํ โลโกฯ ปญฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโก – ตตฺถ กตมา อภิชฺฌา? โย ราโค สาราโค…เป.… จิตฺตสฺส สาราโค – อยํ วุจฺจติ ‘‘อภิชฺฌา’’ฯ ตตฺถ กตมํ โทมนสฺสํ? ยํ เจตสิกํ อสาตํ เจตสิกํ ทุกฺขํ เจโตสมฺผสฺสชํ อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตํ เจโตสมฺผสฺสชา อสาตา ทุกฺขา เวทนา – อิทํ วุจฺจติ ‘‘โทมนสฺสํ’’ฯ อิติ อยญฺจ อภิชฺฌา อิทญฺจ โทมนสฺสํ อิมมฺหิ โลเก วินีตา โหนฺติ ปฎิวินีตา สนฺตา สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติฯ
366. Anupassīti…pe… viharatīti…pe… ātāpīti…pe… sampajānoti…pe… satimāti…pe… vineyya loke abhijjhādomanassanti. Tattha katamo loko? Taṃyeva cittaṃ loko. Pañcapi upādānakkhandhā loko – tattha katamā abhijjhā? Yo rāgo sārāgo…pe… cittassa sārāgo – ayaṃ vuccati ‘‘abhijjhā’’. Tattha katamaṃ domanassaṃ? Yaṃ cetasikaṃ asātaṃ cetasikaṃ dukkhaṃ cetosamphassajaṃ asātaṃ dukkhaṃ vedayitaṃ cetosamphassajā asātā dukkhā vedanā – idaṃ vuccati ‘‘domanassaṃ’’. Iti ayañca abhijjhā idañca domanassaṃ imamhi loke vinītā honti paṭivinītā santā samitā vūpasantā atthaṅgatā abbhatthaṅgatā appitā byappitā sositā visositā byantīkatā. Tena vuccati ‘‘vineyya loke abhijjhādomanassa’’nti.
จิตฺตานุปสฺสนานิเทฺทโสฯ
Cittānupassanāniddeso.
๔. ธมฺมานุปสฺสนานิเทฺทโส
4. Dhammānupassanāniddeso
๓๖๗. กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ พฺยาปาทํ…เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ถินมิทฺธํ 7 …เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ…เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ
367. Kathañca bhikkhu ajjhattaṃ dhammesu dhammānupassī viharati? Idha bhikkhu santaṃ vā ajjhattaṃ kāmacchandaṃ ‘‘atthi me ajjhattaṃ kāmacchando’’ti pajānāti, asantaṃ vā ajjhattaṃ kāmacchandaṃ ‘‘natthi me ajjhattaṃ kāmacchando’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa kāmacchandassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa kāmacchandassa pahānaṃ hoti tañca pajānāti, yathā ca pahīnassa kāmacchandassa āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti. Santaṃ vā ajjhattaṃ byāpādaṃ…pe… santaṃ vā ajjhattaṃ thinamiddhaṃ 8 …pe… santaṃ vā ajjhattaṃ uddhaccakukkuccaṃ…pe… santaṃ vā ajjhattaṃ vicikicchaṃ ‘‘atthi me ajjhattaṃ vicikicchā’’ti pajānāti, asantaṃ vā ajjhattaṃ vicikicchaṃ ‘‘natthi me ajjhattaṃ vicikicchā’’ti pajānāti, yathā ca anuppannāya vicikicchāya uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannāya vicikicchāya pahānaṃ hoti tañca pajānāti, yathā ca pahīnāya vicikicchāya āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti.
สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติ, สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วีริยสโมฺพชฺฌงฺคํ 9 …เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ …เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สมาธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา พหิทฺธา ธเมฺมสุ จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
Santaṃ vā ajjhattaṃ satisambojjhaṅgaṃ ‘‘atthi me ajjhattaṃ satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vā ajjhattaṃ satisambojjhaṅgaṃ ‘‘natthi me ajjhattaṃ satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa satisambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa satisambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti, santaṃ vā ajjhattaṃ dhammavicayasambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā ajjhattaṃ vīriyasambojjhaṅgaṃ 10 …pe… santaṃ vā ajjhattaṃ pītisambojjhaṅgaṃ …pe… santaṃ vā ajjhattaṃ passaddhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā ajjhattaṃ samādhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā ajjhattaṃ upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘atthi me ajjhattaṃ upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vā ajjhattaṃ upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘natthi me ajjhattaṃ upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā bahiddhā dhammesu cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ พหิทฺธา ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สนฺตํ วาสฺส กามจฺฉนฺทํ ‘‘อตฺถิสฺส กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วาสฺส กามจฺฉนฺทํ ‘‘นตฺถิสฺส กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ , ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ สนฺตํ วาสฺส พฺยาปาทํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส ถินมิทฺธํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส วิจิกิจฺฉํ ‘‘อตฺถิสฺส วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วาสฺส วิจิกิจฺฉํ ‘‘นตฺถิสฺส วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ
Kathañca bhikkhu bahiddhā dhammesu dhammānupassī viharati? Idha bhikkhu santaṃ vāssa kāmacchandaṃ ‘‘atthissa kāmacchando’’ti pajānāti, asantaṃ vāssa kāmacchandaṃ ‘‘natthissa kāmacchando’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa kāmacchandassa uppādo hoti tañca pajānāti , yathā ca uppannassa kāmacchandassa pahānaṃ hoti tañca pajānāti, yathā ca pahīnassa kāmacchandassa āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti. Santaṃ vāssa byāpādaṃ…pe… santaṃ vāssa thinamiddhaṃ…pe… santaṃ vāssa uddhaccakukkuccaṃ…pe… santaṃ vāssa vicikicchaṃ ‘‘atthissa vicikicchā’’ti pajānāti, asantaṃ vāssa vicikicchaṃ ‘‘natthissa vicikicchā’’ti pajānāti, yathā ca anuppannāya vicikicchāya uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannāya vicikicchāya pahānaṃ hoti tañca pajānāti, yathā ca pahīnāya vicikicchāya āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti.
สนฺตํ วาสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิสฺส สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วาสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิสฺส สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ สนฺตํ วาสฺส ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส วีริยสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส สมาธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วาสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วาสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปติฯ โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวิตฺวา ภาเวตฺวา พหุลีกริตฺวา สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธเมฺมสุ จิตฺตํ อุปสํหรติฯ
Santaṃ vāssa satisambojjhaṅgaṃ ‘‘atthissa satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vāssa satisambojjhaṅgaṃ ‘‘natthissa satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa satisambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa satisambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti. Santaṃ vāssa dhammavicayasambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vāssa vīriyasambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vāssa pītisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vāssa passaddhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vāssa samādhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vāssa upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘atthissa upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vāssa upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘natthissa upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti. So taṃ nimittaṃ āsevati bhāveti bahulīkaroti svāvatthitaṃ vavatthapeti. So taṃ nimittaṃ āsevitvā bhāvetvā bahulīkaritvā svāvatthitaṃ vavatthapetvā ajjhattabahiddhā dhammesu cittaṃ upasaṃharati.
กถญฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ สนฺตํ วา กามจฺฉนฺทํ ‘‘อตฺถิ กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา กามจฺฉนฺทํ ‘‘นตฺถิ กามจฺฉโนฺท’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ , ยถา จ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ สนฺตํ วา พฺยาปาทํ…เป.… สนฺตํ วา ถินมิทฺธํ…เป.… สนฺตํ วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ…เป.… สนฺตํ วา วิจิกิจฺฉํ ‘‘อตฺถิ วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา วิจิกิจฺฉํ ‘‘นตฺถิ วิจิกิจฺฉา’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย อายติํ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ
Kathañca bhikkhu ajjhattabahiddhā dhammesu dhammānupassī viharati? Idha bhikkhu santaṃ vā kāmacchandaṃ ‘‘atthi kāmacchando’’ti pajānāti, asantaṃ vā kāmacchandaṃ ‘‘natthi kāmacchando’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa kāmacchandassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa kāmacchandassa pahānaṃ hoti tañca pajānāti , yathā ca pahīnassa kāmacchandassa āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti. Santaṃ vā byāpādaṃ…pe… santaṃ vā thinamiddhaṃ…pe… santaṃ vā uddhaccakukkuccaṃ…pe… santaṃ vā vicikicchaṃ ‘‘atthi vicikicchā’’ti pajānāti, asantaṃ vā vicikicchaṃ ‘‘natthi vicikicchā’’ti pajānāti, yathā ca anuppannāya vicikicchāya uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannāya vicikicchāya pahānaṃ hoti tañca pajānāti, yathā ca pahīnāya vicikicchāya āyatiṃ anuppādo hoti tañca pajānāti.
สนฺตํ วา สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิ สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิ สติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ สนฺตํ วา ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา วีริยสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา สมาธิสโมฺพชฺฌงฺคํ…เป.… สนฺตํ วา อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘อตฺถิ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ ‘‘นตฺถิ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตญฺจ ปชานาติฯ เอวํ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
Santaṃ vā satisambojjhaṅgaṃ ‘‘atthi satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vā satisambojjhaṅgaṃ ‘‘natthi satisambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa satisambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa satisambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti. Santaṃ vā dhammavicayasambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā vīriyasambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā pītisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā passaddhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā samādhisambojjhaṅgaṃ…pe… santaṃ vā upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘atthi upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, asantaṃ vā upekkhāsambojjhaṅgaṃ ‘‘natthi upekkhāsambojjhaṅgo’’ti pajānāti, yathā ca anuppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa uppādo hoti tañca pajānāti, yathā ca uppannassa upekkhāsambojjhaṅgassa bhāvanāya pāripūrī hoti tañca pajānāti. Evaṃ bhikkhu ajjhattabahiddhā dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๓๖๘. อนุปสฺสีติฯ ตตฺถ กตมา อนุปสฺสนา? ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิ – อยํ วุจฺจติ อนุปสฺสนาฯ อิมาย อนุปสฺสนาย อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปโนฺน สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อนุปสฺสี’’ติฯ
368. Anupassīti. Tattha katamā anupassanā? Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi – ayaṃ vuccati anupassanā. Imāya anupassanāya upeto hoti samupeto upāgato samupāgato upapanno sampanno samannāgato. Tena vuccati ‘‘anupassī’’ti.
๓๖๙. วิหรตีติฯ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ
369. Viharatīti. Iriyati vattati pāleti yapeti yāpeti carati viharati. Tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.
๓๗๐. อาตาปีติฯ ตตฺถ กตโม อาตาโป? โย เจตสิโก วีริยารโมฺภ…เป.… สมฺมาวายาโม – อยํ วุจฺจติ ‘‘อาตาโป’’ฯ อิมินา อาตาเปน อุเปโต โหติ…เป.… สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อาตาปี’’ติฯ
370. Ātāpīti. Tattha katamo ātāpo? Yo cetasiko vīriyārambho…pe… sammāvāyāmo – ayaṃ vuccati ‘‘ātāpo’’. Iminā ātāpena upeto hoti…pe… samannāgato. Tena vuccati ‘‘ātāpī’’ti.
๓๗๑. สมฺปชาโนติ ฯ ตตฺถ กตมํ สมฺปชญฺญํ? ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สมฺปชญฺญํ’’ฯ อิมินา สมฺปชเญฺญน อุเปโต โหติ…เป.… สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สมฺปชาโน’’ติฯ
371. Sampajānoti . Tattha katamaṃ sampajaññaṃ? Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi – idaṃ vuccati ‘‘sampajaññaṃ’’. Iminā sampajaññena upeto hoti…pe… samannāgato. Tena vuccati ‘‘sampajāno’’ti.
๓๗๒. สติมาติ ฯ ตตฺถ กตมา สติ? ยา สติ อนุสฺสติ…เป.… สมฺมาสติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘สติ’’ฯ อิมาย สติยา อุเปโต โหติ…เป.… สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สติมา’’ติฯ
372. Satimāti . Tattha katamā sati? Yā sati anussati…pe… sammāsati – ayaṃ vuccati ‘‘sati’’. Imāya satiyā upeto hoti…pe… samannāgato. Tena vuccati ‘‘satimā’’ti.
๓๗๓. วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติฯ ตตฺถ กตโม โลโก? เตว ธมฺมา โลโกฯ ปญฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโกฯ อยํ วุจฺจติ ‘‘โลโก’’ฯ ตตฺถ กตมา อภิชฺฌา? โย ราโค สาราโค…เป.… จิตฺตสฺส สาราโค – อยํ วุจฺจติ ‘‘อภิชฺฌา’’ฯ ตตฺถ กตมํ โทมนสฺสํ? ยํ เจตสิกํ อสาตํ เจตสิกํ ทุกฺขํ เจโตสมฺผสฺสชํ อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตํ เจโตสมฺผสฺสชา อสาตา ทุกฺขา เวทนา – อิทํ วุจฺจติ ‘‘โทมนสฺสํ’’ฯ อิติ อยญฺจ อภิชฺฌา อิทญฺจ โทมนสฺสํ อิมมฺหิ โลเก วินีตา โหนฺติ ปฎิวินีตา สนฺตา สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติฯ
373. Vineyya loke abhijjhādomanassanti. Tattha katamo loko? Teva dhammā loko. Pañcapi upādānakkhandhā loko. Ayaṃ vuccati ‘‘loko’’. Tattha katamā abhijjhā? Yo rāgo sārāgo…pe… cittassa sārāgo – ayaṃ vuccati ‘‘abhijjhā’’. Tattha katamaṃ domanassaṃ? Yaṃ cetasikaṃ asātaṃ cetasikaṃ dukkhaṃ cetosamphassajaṃ asātaṃ dukkhaṃ vedayitaṃ cetosamphassajā asātā dukkhā vedanā – idaṃ vuccati ‘‘domanassaṃ’’. Iti ayañca abhijjhā idañca domanassaṃ imamhi loke vinītā honti paṭivinītā santā samitā vūpasantā atthaṅgatā abbhatthaṅgatā appitā byappitā sositā visositā byantīkatā. Tena vuccati ‘‘vineyya loke abhijjhādomanassa’’nti.
ธมฺมานุปสฺสนานิเทฺทโสฯ
Dhammānupassanāniddeso.
สุตฺตนฺตภาชนียํฯ
Suttantabhājanīyaṃ.
๒. อภิธมฺมภาชนียํ
2. Abhidhammabhājanīyaṃ
๓๗๔. จตฺตาโร สติปฎฺฐานา – อิธ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติฯ
374. Cattāro satipaṭṭhānā – idha bhikkhu kāye kāyānupassī viharati, vedanāsu vedanānupassī viharati, citte cittānupassī viharati, dhammesu dhammānupassī viharati.
๓๗๕. กถญฺจ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ กาเย กายานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
375. Kathañca bhikkhu kāye kāyānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ kāye kāyānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๗๖. กถญฺจ ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ สติปฎฺฐานํฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
376. Kathañca bhikkhu vedanāsu vedanānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ vedanāsu vedanānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati satipaṭṭhānaṃ. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๗๗. กถญฺจ ภิกฺขุ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
377. Kathañca bhikkhu citte cittānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ citte cittānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๗๘. กถญฺจ ภิกฺขุ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
378. Kathañca bhikkhu dhammesu dhammānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ dhammesu dhammānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๗๙. ตตฺถ กตมํ สติปฎฺฐานํ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
379. Tattha katamaṃ satipaṭṭhānaṃ? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ dhammesu dhammānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๘๐. จตฺตาโร สติปฎฺฐานา – อิธ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติฯ
380. Cattāro satipaṭṭhānā – idha bhikkhu kāye kāyānupassī viharati, vedanāsu vedanānupassī viharati, citte cittānupassī viharati, dhammesu dhammānupassī viharati.
๓๘๑. กถญฺจ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว โลกุตฺตรสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส กตตฺตา ภาวิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ สุญฺญตํ กาเย กายานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
381. Kathañca bhikkhu kāye kāyānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva lokuttarassa kusalassa jhānassa katattā bhāvitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ suññataṃ kāye kāyānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๘๒. กถญฺจ ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว โลกุตฺตรสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส กตตฺตา ภาวิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ สุญฺญตํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
382. Kathañca bhikkhu vedanāsu vedanānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva lokuttarassa kusalassa jhānassa katattā bhāvitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ suññataṃ vedanāsu vedanānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๘๓. กถญฺจ ภิกฺขุ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว โลกุตฺตรสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส กตตฺตา ภาวิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ สุญฺญตํ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
383. Kathañca bhikkhu citte cittānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva lokuttarassa kusalassa jhānassa katattā bhāvitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ suññataṃ citte cittānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๘๔. กถญฺจ ภิกฺขุ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว โลกุตฺตรสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส กตตฺตา ภาวิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ สุญฺญตํ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
384. Kathañca bhikkhu dhammesu dhammānupassī viharati? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva lokuttarassa kusalassa jhānassa katattā bhāvitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ suññataṃ dhammesu dhammānupassī, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
๓๘๕. ตตฺถ กตมํ สติปฎฺฐานํ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามิํ ทิฎฺฐิคตานํ ปหานาย ปฐมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว โลกุตฺตรสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส กตตฺตา ภาวิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ทุกฺขปฎิปทํ ทนฺธาภิญฺญํ สุญฺญตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย สติ อนุสฺสติ สมฺมาสติ สติสโมฺพชฺฌโงฺค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘สติปฎฺฐานํ’’ฯ อวเสสา ธมฺมา สติปฎฺฐานสมฺปยุตฺตาฯ
385. Tattha katamaṃ satipaṭṭhānaṃ? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye lokuttaraṃ jhānaṃ bhāveti niyyānikaṃ apacayagāmiṃ diṭṭhigatānaṃ pahānāya paṭhamāya bhūmiyā pattiyā vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva lokuttarassa kusalassa jhānassa katattā bhāvitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati dukkhapaṭipadaṃ dandhābhiññaṃ suññataṃ, yā tasmiṃ samaye sati anussati sammāsati satisambojjhaṅgo maggaṅgaṃ maggapariyāpannaṃ – idaṃ vuccati ‘‘satipaṭṭhānaṃ’’. Avasesā dhammā satipaṭṭhānasampayuttā.
อภิธมฺมภาชนียํฯ
Abhidhammabhājanīyaṃ.
๓. ปญฺหาปุจฺฉกํ
3. Pañhāpucchakaṃ
๓๘๖. จตฺตาโร สติปฎฺฐานา – อิธ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ
386. Cattāro satipaṭṭhānā – idha bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, vedanāsu vedanānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, citte cittānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ, dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ.
๓๘๗. จตุนฺนํ สติปฎฺฐานานํ กติ กุสลา, กติ อกุสลา, กติ อพฺยากตา…เป.… กติ สรณา, กติ อรณา?
387. Catunnaṃ satipaṭṭhānānaṃ kati kusalā, kati akusalā, kati abyākatā…pe… kati saraṇā, kati araṇā?
๑. ติกํ
1. Tikaṃ
๓๘๘. สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตาฯ สิยา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตาฯ สิยา วิปากา สิยา วิปากธมฺมธมฺมาฯ อนุปาทินฺนอนุปาทานิยาฯ อสํกิลิฎฺฐอสํกิเลสิกาฯ สิยา สวิตกฺกสวิจารา, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตา, สิยา อวิตกฺกอวิจาราฯ สิยา ปีติสหคตา, สิยา สุขสหคตา, สิยา อุเปกฺขาสหคตาฯ เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพาฯ เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาฯ สิยา อปจยคามิโน, สิยา เนวาจยคามินาปจยคามิโนฯ สิยา เสกฺขา, สิยา อเสกฺขาฯ อปฺปมาณาฯ อปฺปมาณารมฺมณาฯ ปณีตาฯ สิยา สมฺมตฺตนิยตา, สิยา อนิยตาฯ น มคฺคารมฺมณา , สิยา มคฺคเหตุกา, สิยา มคฺคาธิปติโน, สิยา น วตฺตพฺพา มคฺคเหตุกาติปิ, มคฺคาธิปติโนติปิฯ สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา, สิยา อุปฺปาทิโนฯ สิยา อตีตา, สิยา อนาคตา, สิยา ปจฺจุปฺปนฺนาฯ น วตฺตพฺพา อตีตารมฺมณาติปิ, อนาคตารมฺมณาติปิ, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติปิฯ สิยา อชฺฌตฺตา, สิยา พหิทฺธา, สิยา อชฺฌตฺตพหิทฺธาฯ พหิทฺธารมฺมณาฯ อนิทสฺสนอปฺปฎิฆาฯ
388. Siyā kusalā, siyā abyākatā. Siyā sukhāya vedanāya sampayuttā, siyā adukkhamasukhāya vedanāya sampayuttā. Siyā vipākā siyā vipākadhammadhammā. Anupādinnaanupādāniyā. Asaṃkiliṭṭhaasaṃkilesikā. Siyā savitakkasavicārā, siyā avitakkavicāramattā, siyā avitakkaavicārā. Siyā pītisahagatā, siyā sukhasahagatā, siyā upekkhāsahagatā. Neva dassanena na bhāvanāya pahātabbā. Neva dassanena na bhāvanāya pahātabbahetukā. Siyā apacayagāmino, siyā nevācayagāmināpacayagāmino. Siyā sekkhā, siyā asekkhā. Appamāṇā. Appamāṇārammaṇā. Paṇītā. Siyā sammattaniyatā, siyā aniyatā. Na maggārammaṇā , siyā maggahetukā, siyā maggādhipatino, siyā na vattabbā maggahetukātipi, maggādhipatinotipi. Siyā uppannā, siyā anuppannā, siyā uppādino. Siyā atītā, siyā anāgatā, siyā paccuppannā. Na vattabbā atītārammaṇātipi, anāgatārammaṇātipi, paccuppannārammaṇātipi. Siyā ajjhattā, siyā bahiddhā, siyā ajjhattabahiddhā. Bahiddhārammaṇā. Anidassanaappaṭighā.
๒. ทุกํ
2. Dukaṃ
๓๘๙. น เหตูฯ สเหตุกาฯ เหตุสมฺปยุตฺตาฯ น วตฺตพฺพา เหตู เจว สเหตุกา จาติ, สเหตุกา เจว น จ เหตูฯ น วตฺตพฺพา เหตู เจว เหตุสมฺปยุตฺตา จาติ, เหตุสมฺปยุตฺตา เจว น จ เหตูฯ น เหตู สเหตุกาฯ
389. Na hetū. Sahetukā. Hetusampayuttā. Na vattabbā hetū ceva sahetukā cāti, sahetukā ceva na ca hetū. Na vattabbā hetū ceva hetusampayuttā cāti, hetusampayuttā ceva na ca hetū. Na hetū sahetukā.
สปฺปจฺจยาฯ สงฺขตาฯ อนิทสฺสนาฯ อปฺปฎิฆาฯ อรูปาฯ โลกุตฺตราฯ เกนจิ วิเญฺญยฺยา, เกนจิ น วิเญฺญยฺยาฯ โน อาสวาฯ อนาสวาฯ อาสววิปฺปยุตฺตาฯ น วตฺตพฺพา อาสวา เจว สาสวาจาติปิ, สาสวา เจว โน จ อาสวาติปิฯ น วตฺตพฺพา อาสวา เจว อาสวสมฺปยุตฺตาจาติปิ, อาสวสมฺปยุตฺตา เจว โน จ อาสวาติปิฯ อาสววิปฺปยุตฺตาฯ อนาสวาฯ โน สํโยชนา…เป.… โน คนฺถา…เป.… โน โอฆา…เป.… โน โยคา…เป.… โน นีวรณา…เป.… โน ปรามาสา…เป.… สารมฺมณาฯ โน จิตฺตาฯ เจตสิกาฯ จิตฺตสมฺปยุตฺตาฯ จิตฺตสํสฎฺฐาฯ จิตฺตสมุฎฺฐานาฯ จิตฺตสหภุโนฯ จิตฺตานุปริวตฺติโนฯ จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานาฯ จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานสหภุโนฯ จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานานุปริวตฺติโนฯ พาหิราฯ โน อุปาทาฯ อนุปาทินฺนา ฯ โน อุปาทานา…เป.… โน กิเลสา…เป.… น ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, น ภาวนาย ปหาตพฺพาฯ น ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกาฯ น ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาฯ
Sappaccayā. Saṅkhatā. Anidassanā. Appaṭighā. Arūpā. Lokuttarā. Kenaci viññeyyā, kenaci na viññeyyā. No āsavā. Anāsavā. Āsavavippayuttā. Na vattabbā āsavā ceva sāsavācātipi, sāsavā ceva no ca āsavātipi. Na vattabbā āsavā ceva āsavasampayuttācātipi, āsavasampayuttā ceva no ca āsavātipi. Āsavavippayuttā. Anāsavā. No saṃyojanā…pe… no ganthā…pe… no oghā…pe… no yogā…pe… no nīvaraṇā…pe… no parāmāsā…pe… sārammaṇā. No cittā. Cetasikā. Cittasampayuttā. Cittasaṃsaṭṭhā. Cittasamuṭṭhānā. Cittasahabhuno. Cittānuparivattino. Cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānā. Cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānasahabhuno. Cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānānuparivattino. Bāhirā. No upādā. Anupādinnā . No upādānā…pe… no kilesā…pe… na dassanena pahātabbā, na bhāvanāya pahātabbā. Na dassanena pahātabbahetukā. Na bhāvanāya pahātabbahetukā.
สิยา สวิตกฺกา, สิยา อวิตกฺกาฯ สิยา สวิจารา, สิยา อวิจาราฯ สิยา สปฺปีติกา, สิยา อปฺปีติกา ฯ สิยา ปีติสหคตา, สิยา น ปีติสหคตาฯ สิยา สุขสหคตา, สิยา น สุขสหคตาฯ สิยา อุเปกฺขาสหคตา, สิยา น อุเปกฺขาสหคตาฯ น กามาวจราฯ น รูปาวจราฯ น อรูปาวจราฯ อปริยาปนฺนาฯ สิยา นิยฺยานิกา, สิยา อนิยฺยานิกาฯ สิยา นิยตา, สิยา อนิยตาฯ อนุตฺตราฯ อรณาติฯ
Siyā savitakkā, siyā avitakkā. Siyā savicārā, siyā avicārā. Siyā sappītikā, siyā appītikā . Siyā pītisahagatā, siyā na pītisahagatā. Siyā sukhasahagatā, siyā na sukhasahagatā. Siyā upekkhāsahagatā, siyā na upekkhāsahagatā. Na kāmāvacarā. Na rūpāvacarā. Na arūpāvacarā. Apariyāpannā. Siyā niyyānikā, siyā aniyyānikā. Siyā niyatā, siyā aniyatā. Anuttarā. Araṇāti.
ปญฺหาปุจฺฉกํฯ
Pañhāpucchakaṃ.
สติปฎฺฐานวิภโงฺค นิฎฺฐิโตฯ
Satipaṭṭhānavibhaṅgo niṭṭhito.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุเทฺทสวารวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyaṃ uddesavāravaṇṇanā
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา • 2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā
๓. ปญฺหาปุจฺฉกวณฺณนา • 3. Pañhāpucchakavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค • 7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค • 7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo