Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā |
๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค
7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
1. Suttantabhājanīyaṃ
อุเทฺทสวารวณฺณนา
Uddesavāravaṇṇanā
๓๕๕. สมานสทฺทวจนียานํ อตฺถานํ อุทฺธรณํ อตฺถุทฺธาโรฯ โส ยสฺมา สทฺทตฺถวิจาโร น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น อิธ…เป.… อตฺถทสฺสน’’นฺติฯ ป-สโทฺท ปธานตฺถทีปโก ‘‘ปณีตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๔) วิยฯ
355. Samānasaddavacanīyānaṃ atthānaṃ uddharaṇaṃ atthuddhāro. So yasmā saddatthavicāro na hoti, tasmā vuttaṃ ‘‘na idha…pe… atthadassana’’nti. Pa-saddo padhānatthadīpako ‘‘paṇītā dhammā’’tiādīsu (dha. sa. tikamātikā 14) viya.
อนวสฺสุตตา อนุปกิลิฎฺฐตาฯ เตนาห ‘‘ตทุภยวีติวตฺตตา’’ติฯ
Anavassutatā anupakiliṭṭhatā. Tenāha ‘‘tadubhayavītivattatā’’ti.
ภุสตฺถํ ปกฺขนฺทนนฺติ ภุสตฺถวิสิฎฺฐํ ปกฺขนฺทนํ อนุปวิสนํฯ
Bhusatthaṃ pakkhandananti bhusatthavisiṭṭhaṃ pakkhandanaṃ anupavisanaṃ.
อสฺสาทสฺสาติ ตณฺหายฯ ‘‘นิจฺจํ อตฺตา’’ติ อภินิเวสวตฺถุตาย ทิฎฺฐิยา วิเสสการณานํ จิตฺตธมฺมานํ ตณฺหายปิ วตฺถุภาวโต วิเสสคฺคหณํ, ตถา กายเวทนานํ ทิฎฺฐิยาปิ วตฺถุภาวสมฺภวโต ‘‘วิเสเสนา’’ติ วุตฺตํฯ สราควีตราคาทิวิภาคทฺวยวเสเนว จิตฺตานุปสฺสนาย วุตฺตตฺตา ตํ ‘‘นาติปเภทคต’’นฺติ วุตฺตํฯ ธมฺมาติ อิธ สญฺญาสงฺขารกฺขนฺธา อธิเปฺปตา, สงฺขารกฺขโนฺธ จ ผสฺสาทิวเสน อเนกเภโทติ ธมฺมานุปสฺสนา ‘‘อติปเภทคตา’’ติ วุตฺตาฯ สราคาทิวิภาควเสน โสฬสเภทตฺตา วา จิตฺตานุปสฺสนา นาติปเภทคตา วุตฺตา, สุเตฺต อาคตนเยน นีวรณาทิวเสน อเนกเภทตฺตา ธมฺมานุปสฺสนา อติปเภทคตา วุตฺตาฯ ‘‘วิสุทฺธิมโคฺคติ วุตฺตานี’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ ตา อนุปสฺสนา เอเตสนฺติ ตทนุปสฺสนา, จิตฺตธมฺมานุปสฺสิโน ปุคฺคลา, เตสํฯ
Assādassāti taṇhāya. ‘‘Niccaṃ attā’’ti abhinivesavatthutāya diṭṭhiyā visesakāraṇānaṃ cittadhammānaṃ taṇhāyapi vatthubhāvato visesaggahaṇaṃ, tathā kāyavedanānaṃ diṭṭhiyāpi vatthubhāvasambhavato ‘‘visesenā’’ti vuttaṃ. Sarāgavītarāgādivibhāgadvayavaseneva cittānupassanāya vuttattā taṃ ‘‘nātipabhedagata’’nti vuttaṃ. Dhammāti idha saññāsaṅkhārakkhandhā adhippetā, saṅkhārakkhandho ca phassādivasena anekabhedoti dhammānupassanā ‘‘atipabhedagatā’’ti vuttā. Sarāgādivibhāgavasena soḷasabhedattā vā cittānupassanā nātipabhedagatā vuttā, sutte āgatanayena nīvaraṇādivasena anekabhedattā dhammānupassanā atipabhedagatā vuttā. ‘‘Visuddhimaggoti vuttānī’’ti ānetvā yojetabbaṃ. Tā anupassanā etesanti tadanupassanā, cittadhammānupassino puggalā, tesaṃ.
ตตฺถ ‘‘อสุภภาวทสฺสเนนา’’ติ ยถาฐิตวเสนาปิ โยชนา ลพฺภเตวฯ ภโวฆสฺส เวทนา วตฺถุ ภวสฺสาทภาวโตฯ นิจฺจคฺคหณวเสนาติ อตฺตาภินิเวสวิสิฎฺฐสฺส นิจฺจคฺคหณสฺส วเสนฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สสฺสตสฺส อตฺตโน’’ติฯ โอเฆสุ วุตฺตนยา เอว โยคาสเวสุปิ โยชนา อตฺถโต อภินฺนตฺตาติ เต น คหิตาฯ นิจฺจคฺคหณวเสนาติ อตฺตาภินิเวสวิสิฎฺฐสฺส นิจฺจคฺคหณสฺส วเสนฯ ปฐโมฆตติยจตุตฺถคนฺถโยชนายํ วุตฺตนเยเนว กายจิตฺตธมฺมานํ อิตรุปาทานวตฺถุตา คเหตพฺพาติ เวทนาย ทิฎฺฐุปาทานวตฺถุตา ทสฺสิตาฯ ตถา กายเวทนานํ ฉนฺทโทสาคติวตฺถุตา กาโมฆพฺยาปาทกายคนฺถวตฺถุตาวจเนน วุตฺตาติฯ เตนาห ‘‘อวุตฺตานํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตโพฺพ’’ติฯ
Tattha ‘‘asubhabhāvadassanenā’’ti yathāṭhitavasenāpi yojanā labbhateva. Bhavoghassa vedanā vatthu bhavassādabhāvato. Niccaggahaṇavasenāti attābhinivesavisiṭṭhassa niccaggahaṇassa vasena. Tathā hi vuttaṃ ‘‘sassatassa attano’’ti. Oghesu vuttanayā eva yogāsavesupi yojanā atthato abhinnattāti te na gahitā. Niccaggahaṇavasenāti attābhinivesavisiṭṭhassa niccaggahaṇassa vasena. Paṭhamoghatatiyacatutthaganthayojanāyaṃ vuttanayeneva kāyacittadhammānaṃ itarupādānavatthutā gahetabbāti vedanāya diṭṭhupādānavatthutā dassitā. Tathā kāyavedanānaṃ chandadosāgativatthutā kāmoghabyāpādakāyaganthavatthutāvacanena vuttāti. Tenāha ‘‘avuttānaṃ vuttanayena vatthubhāvo yojetabbo’’ti.
ธารณตา อสมฺมุสฺสนตา, อนุสฺสรณเมว วาฯ เอกเตฺตติ เอกสภาเว นิสฺสรณาทิวเสนฯ สมาคโม สจฺฉิกิริยาฯ สติปฎฺฐานสภาโว สมฺมาสติตา นิยฺยานสติตา สมานภาคตา เอกชาติตา สภาคตาฯ ปุริมสฺมินฺติ ‘‘เอกเตฺต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอตสฺมิํ อเตฺถฯ วิสุนฺติ นานาอตฺถทฺวยภาเวนฯ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ สติสทฺทตฺถนฺตราภาวา…เป.… เอกภาวสฺสาติ โยเชตพฺพํฯ สติสทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเนติ ‘‘เอโก สติปฎฺฐานสภาโว เอกตฺต’’นฺติอาทินา อวุจฺจมาเน, ‘‘เอกเตฺต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอวํ วุจฺจมาเนติ อโตฺถฯ ธารณตาว สตีติ ‘‘สรณตา’’ติ (ธ. ส. ๑๔) วุตฺตธารณตา เอว สตีติ กตฺวาฯ สติสทฺทตฺถนฺตราภาวาติ สติสงฺขาตสฺส สรเณกตฺตสโมสรณสทฺทตฺถโต อญฺญสฺส อตฺถสฺส อภาวาฯ ปุริมนฺติ สรณปทํฯ นิพฺพานสโมสรเณปีติ ยถาวุเตฺต ทุติเย อเตฺถ สรเณกตฺตสโมสรณปทานิ สหิตาเนว สติปฎฺฐาเนกภาวสฺส ญาปกานิ, เอวํ นิพฺพานสโมสรเณปิ ‘‘เอกเตฺต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอตสฺมิมฺปิ อเตฺถ สติ…เป.… การณานิฯ
Dhāraṇatā asammussanatā, anussaraṇameva vā. Ekatteti ekasabhāve nissaraṇādivasena. Samāgamo sacchikiriyā. Satipaṭṭhānasabhāvo sammāsatitā niyyānasatitā samānabhāgatā ekajātitā sabhāgatā. Purimasminti ‘‘ekatte nibbāne samāgamo ekattasamosaraṇa’’nti etasmiṃ atthe. Visunti nānāatthadvayabhāvena. Tadeva gamanaṃ samosaraṇanti satisaddatthantarābhāvā…pe… ekabhāvassāti yojetabbaṃ. Satisaddatthavasena avuccamāneti ‘‘eko satipaṭṭhānasabhāvo ekatta’’ntiādinā avuccamāne, ‘‘ekatte nibbāne samāgamo ekattasamosaraṇa’’nti evaṃ vuccamāneti attho. Dhāraṇatāva satīti ‘‘saraṇatā’’ti (dha. sa. 14) vuttadhāraṇatā eva satīti katvā. Satisaddatthantarābhāvāti satisaṅkhātassa saraṇekattasamosaraṇasaddatthato aññassa atthassa abhāvā. Purimanti saraṇapadaṃ. Nibbānasamosaraṇepīti yathāvutte dutiye atthe saraṇekattasamosaraṇapadāni sahitāneva satipaṭṭhānekabhāvassa ñāpakāni, evaṃ nibbānasamosaraṇepi ‘‘ekatte nibbāne samāgamo ekattasamosaraṇa’’nti etasmimpi atthe sati…pe… kāraṇāni.
อานาปานปพฺพาทีนนฺติ อานาปานปพฺพอิริยาปถจตุสมฺปชญฺญ โกฎฺฐาส ธาตุมนสิการนวสิวถิกปพฺพานีติ เอเตสํฯ อิเมสุ ปน ยสฺมา เกสุจิ เทวานํ กมฺมฎฺฐานํ น อิชฺฌติ, ตสฺมา ตานิ อนามสิตฺวา ยทิปิ โกฎฺฐาสธาตุมนสิการวเสเนเวตฺถ เทสนา ปวตฺตา, เทสนนฺตเร ปน อาคตํ อนวเสสํ กายานุปสฺสนาวิภาคํ ทเสฺสตุํ ‘‘จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา’’ติ (วิภ. อฎฺฐ. ๓๕๕) วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘มหาสติปฎฺฐานสุเตฺต วุตฺตาน’’นฺติฯ ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘มหาสติปฎฺฐานสุเตฺต (ที. นิ. ๒.๓๘๒) วุตฺตาน’’นฺติ อิมเมว อุปสํหรติฯ ปญฺจวิเธนาติ นีวรณอุปาทานกฺขนฺธายตนโพชฺฌงฺคอริยสจฺจานํ วเสน ปญฺจธาฯ ภาวนานุภาโว อริยมคฺคคฺคหณสมตฺถตาฯ
Ānāpānapabbādīnanti ānāpānapabbairiyāpathacatusampajañña koṭṭhāsa dhātumanasikāranavasivathikapabbānīti etesaṃ. Imesu pana yasmā kesuci devānaṃ kammaṭṭhānaṃ na ijjhati, tasmā tāni anāmasitvā yadipi koṭṭhāsadhātumanasikāravasenevettha desanā pavattā, desanantare pana āgataṃ anavasesaṃ kāyānupassanāvibhāgaṃ dassetuṃ ‘‘cuddasavidhena kāyānupassanaṃ bhāvetvā’’ti (vibha. aṭṭha. 355) vuttaṃ. Tenāha ‘‘mahāsatipaṭṭhānasutte vuttāna’’nti. ‘‘Tathā’’ti iminā ‘‘mahāsatipaṭṭhānasutte (dī. ni. 2.382) vuttāna’’nti imameva upasaṃharati. Pañcavidhenāti nīvaraṇaupādānakkhandhāyatanabojjhaṅgaariyasaccānaṃ vasena pañcadhā. Bhāvanānubhāvo ariyamaggaggahaṇasamatthatā.
ตํนิยมโตติ ตสฺสา กายานุปสฺสนาทิปฎิปตฺติยา นิยมโตฯ ตสฺสา ภิกฺขุภาเว นิยเต สาปิ ภิกฺขุภาเว นิยตาเยว นาม โหติฯ
Taṃniyamatoti tassā kāyānupassanādipaṭipattiyā niyamato. Tassā bhikkhubhāve niyate sāpi bhikkhubhāve niyatāyeva nāma hoti.
กายานุปสฺสนาอุเทฺทสวณฺณนา
Kāyānupassanāuddesavaṇṇanā
เอตฺถาติ กาเยฯ อวยวา อสฺส อตฺถีติ อวยวี, สมุทาโย, สมูโหติ อโตฺถ, โส ปน อวยววินิมุตฺตํ ทฺรพฺยนฺตรนฺติ คาโห ลทฺธิ อวยวีคาโหฯ หตฺถปาทาทิองฺคุลินขาทิองฺคปจฺจเงฺค สนฺนิเวสวิสิเฎฺฐ อุปาทาย ยายํ องฺคปจฺจงฺคสมญฺญา เจว กายสมญฺญา จ, ตํ อติกฺกมิตฺวา อิตฺถิปุริสรถฆฎาทิทฺรพฺยนฺติปริกปฺปนํ สมญฺญาติธาวนํฯ อถ วา ยถาวุตฺตสมญฺญํ อติกฺกมิตฺวา ปกติอาทิทฺรพฺยาทิชีวาทิกายาทิปทตฺถนฺตรปริกปฺปนํ สมญฺญาติธาวนํฯ นิจฺจสาราทิคาหภูโต อภินิเวโส สาราทานาภินิเวโสฯ
Etthāti kāye. Avayavā assa atthīti avayavī, samudāyo, samūhoti attho, so pana avayavavinimuttaṃ drabyantaranti gāho laddhi avayavīgāho. Hatthapādādiaṅgulinakhādiaṅgapaccaṅge sannivesavisiṭṭhe upādāya yāyaṃ aṅgapaccaṅgasamaññā ceva kāyasamaññā ca, taṃ atikkamitvā itthipurisarathaghaṭādidrabyantiparikappanaṃ samaññātidhāvanaṃ. Atha vā yathāvuttasamaññaṃ atikkamitvā pakatiādidrabyādijīvādikāyādipadatthantaraparikappanaṃ samaññātidhāvanaṃ. Niccasārādigāhabhūto abhiniveso sārādānābhiniveso.
น ตํ ทิฎฺฐนฺติ ตํ อิตฺถิปุริสาทิ ทิฎฺฐํ น โหติฯ ทิฎฺฐํ วา อิตฺถิปุริสาทิ น โหตีติ โยชนาฯ ยถาวุตฺตนฺติ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํฯ
Na taṃ diṭṭhanti taṃ itthipurisādi diṭṭhaṃ na hoti. Diṭṭhaṃ vā itthipurisādi na hotīti yojanā. Yathāvuttanti kesādibhūtupādāyasamūhasaṅkhātaṃ.
เกสาทิปถวินฺติ เกสาทิสญฺญิตํ สสมฺภารปถวิํฯ ปุพฺพาปริยภาเวนาติ สนฺตานวเสนฯ อญฺญตฺถาติ ‘‘อาโปกาย’’นฺติ เอวมาทีสุฯ
Kesādipathavinti kesādisaññitaṃ sasambhārapathaviṃ. Pubbāpariyabhāvenāti santānavasena. Aññatthāti ‘‘āpokāya’’nti evamādīsu.
อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ สปรสนฺตาเน กาโย วุโตฺตติฯ ‘‘กาโย’’ติ เจตฺถ สมฺมสนุปคา รูปธมฺมา อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺมาน’’นฺติฯ ฆฎิตํ เอกาพทฺธํ อารมฺมณํ ฆฎิตารมฺมณํ, เอการมฺมณภูตนฺติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘เอกโต อารมฺมณภาโว นตฺถี’’ติฯ
Ajjhattabahiddhāti saparasantāne kāyo vuttoti. ‘‘Kāyo’’ti cettha sammasanupagā rūpadhammā adhippetāti āha ‘‘ajjhattabahiddhādhammāna’’nti. Ghaṭitaṃ ekābaddhaṃ ārammaṇaṃ ghaṭitārammaṇaṃ, ekārammaṇabhūtanti attho. Tenāha ‘‘ekato ārammaṇabhāvo natthī’’ti.
อโนฺตโอลียนา อโนฺตสโงฺกโจ อนฺตราโวสานํฯ
Antoolīyanā antosaṅkoco antarāvosānaṃ.
ทฺวีหีติ อภิชฺฌาวินยโทมนสฺสวินเยหิฯ
Dvīhīti abhijjhāvinayadomanassavinayehi.
สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ สติสมฺปชญฺญํ, เตนฯ เอเตน กรณภูเตนฯ วิปกฺขธเมฺมหิ อนนฺตริตตฺตา อวิจฺฉินฺนสฺสฯ ตสฺส สพฺพตฺถิกกมฺมฎฺฐานสฺสฯ
Sati ca sampajaññañca satisampajaññaṃ, tena. Etena karaṇabhūtena. Vipakkhadhammehi anantaritattā avicchinnassa. Tassa sabbatthikakammaṭṭhānassa.
กายานุปสฺสนาอุเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kāyānupassanāuddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
เวทนานุปสฺสนาทิอุเทฺทสวณฺณนา
Vedanānupassanādiuddesavaṇṇanā
สุขาทีนนฺติ สุขทุกฺขาทุกฺขมสุขานํฯ
Sukhādīnanti sukhadukkhādukkhamasukhānaṃ.
รูปาทิอารมฺมณนานตฺตเภทานํ วเสน โยเชตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตถา จ เสเสสุปิฯ สวตฺถุกาวตฺถุกาทีติ อาทิ-สเทฺทน หีนาทิโยนิอาทิเภทํ สงฺคณฺหาติฯ วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทเสฺสตีติ โยชนาฯ เอกตฺถาติ กายาทีสุ เอกสฺมิํฯ ปุริมโจทนายาติ ‘‘ปุเพฺพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพ’’นฺติ โจทนายฯ ปหีนนฺติ วิกฺขมฺภิตํฯ ปฎิปกฺขภาวนายาติ มคฺคภาวนายฯ อุภยตฺถาติ อุภยโจทนายฯ อุภยนฺติ ปริหารทฺวยํฯ ยสฺมา ปุริมโจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร จ สมฺภวติ, ทุติยโจทนาย ปน นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโรเยว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺภวโต โยเชตพฺพ’’นฺติฯ มคฺคสติปฎฺฐานภาวนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ กายาทีสุฯ
Rūpādiārammaṇanānattabhedānaṃ vasena yojetabbanti sambandho. Tathā ca sesesupi. Savatthukāvatthukādīti ādi-saddena hīnādiyoniādibhedaṃ saṅgaṇhāti. Visuṃ visuṃ na vattabbanti codanaṃ dassetīti yojanā. Ekatthāti kāyādīsu ekasmiṃ. Purimacodanāyāti ‘‘pubbe pahīnattā puna pahānaṃ na vattabba’’nti codanāya. Pahīnanti vikkhambhitaṃ. Paṭipakkhabhāvanāyāti maggabhāvanāya. Ubhayatthāti ubhayacodanāya. Ubhayanti parihāradvayaṃ. Yasmā purimacodanāya nānāpuggalaparihāro, nānācittakkhaṇikaparihāro ca sambhavati, dutiyacodanāya pana nānācittakkhaṇikaparihāroyeva, tasmā vuttaṃ ‘‘sambhavato yojetabba’’nti. Maggasatipaṭṭhānabhāvanaṃ sandhāya vuttaṃ. Sabbatthāti sabbesu kāyādīsu.
เวทนานุปสฺสนาทิอุเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vedanānupassanādiuddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
อุเทฺทสวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Uddesavāravaṇṇanā niṭṭhitā.
กายานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา
Kāyānupassanāniddesavaṇṇanā
๓๕๖. อชฺฌตฺตาทีติ อาทิ-สเทฺทน อิธ วุตฺตา พหิทฺธาอชฺฌตฺตพหิทฺธาอนุปสฺสนปฺปการา วิย มหาสติปฎฺฐานสุเตฺต วุตฺตา สมุทยธมฺมานุปสฺสิอาทิอนุปสฺสนปฺปการาปิ กายานุปสฺสนาภาวโต คหิตา อิเจฺจว เวทิตพฺพํฯ ตตฺถาติ อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนายํฯ จุทฺทส ปการา มหาสติปฎฺฐานสุเตฺต อาคตจุทฺทสปฺปการาทิเก อเปกฺขิตฺวา อิธ วุตฺตาฯ อชฺฌตฺตาทิปฺปกาโร เอโก ปกาโรติ อาห ‘‘เอกปฺปการนิเทฺทเสนา’’ติฯ พาหิเรสูติ เอกเจฺจสุ อญฺญติตฺถิเยสุฯ เตสมฺปิ หิ อานาปานาทิวเสน สมถปกฺขิกา กายานุปสฺสนา สมฺภวติฯ เตนาห ‘‘เอกเทสสมฺภวโต’’ติฯ
356. Ajjhattādīti ādi-saddena idha vuttā bahiddhāajjhattabahiddhāanupassanappakārā viya mahāsatipaṭṭhānasutte vuttā samudayadhammānupassiādianupassanappakārāpi kāyānupassanābhāvato gahitā icceva veditabbaṃ. Tatthāti ajjhattādianupassanāyaṃ. Cuddasa pakārā mahāsatipaṭṭhānasutte āgatacuddasappakārādike apekkhitvā idha vuttā. Ajjhattādippakāro eko pakāroti āha ‘‘ekappakāraniddesenā’’ti. Bāhiresūti ekaccesu aññatitthiyesu. Tesampi hi ānāpānādivasena samathapakkhikā kāyānupassanā sambhavati. Tenāha ‘‘ekadesasambhavato’’ti.
ตจสฺส จ อตจปริจฺฉินฺนตา ตเจน อปริจฺฉินฺนตา อตฺถีติ โยชนาฯ ‘‘ทีฆพาหุ นจฺจตู’’ติอาทีสุ วิย อญฺญปทเตฺถปิ สมาเส อวยวปทตฺถสงฺคโห ลพฺภเตวาติ วุตฺตํ ‘‘กาเยกเทสภูโต ตโจ คหิโต เอวา’’ติฯ ตจปฎิพทฺธานํ นขทนฺตนฺหารุมํสานํ, ตจปฎิพทฺธานํ ตทนุปฺปวิฎฺฐมูลานํ เกสโลมานํ, ตปฺปฎิพทฺธปฎิพทฺธานํ อิตเรสํ สมูหภูโต สโพฺพ กาโย ‘‘ตจปริยโนฺต’’เตฺวว วุโตฺตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตปฺปฎิพทฺธา’’ติอาทิมาหฯ อตฺถิ เกสา, อตฺถิ โลมาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ อตฺถีติ ปุถุตฺตวาจี เอกํ นิปาตปทํ, น กิริยาปทํฯ กิริยาปทเตฺต หิ สนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยา, วจนวิปลฺลาเสน วา วุตฺตนฺติฯ
Tacassa ca atacaparicchinnatā tacena aparicchinnatā atthīti yojanā. ‘‘Dīghabāhu naccatū’’tiādīsu viya aññapadatthepi samāse avayavapadatthasaṅgaho labbhatevāti vuttaṃ ‘‘kāyekadesabhūto taco gahito evā’’ti. Tacapaṭibaddhānaṃ nakhadantanhārumaṃsānaṃ, tacapaṭibaddhānaṃ tadanuppaviṭṭhamūlānaṃ kesalomānaṃ, tappaṭibaddhapaṭibaddhānaṃ itaresaṃ samūhabhūto sabbo kāyo ‘‘tacapariyanto’’tveva vuttoti dassento ‘‘tappaṭibaddhā’’tiādimāha. Atthi kesā, atthi lomāti sambandho. Tattha atthīti puthuttavācī ekaṃ nipātapadaṃ, na kiriyāpadaṃ. Kiriyāpadatte hi santīti vattabbaṃ siyā, vacanavipallāsena vā vuttanti.
กมฺมฎฺฐานสฺส วาจุคฺคตกรณาทินา อุคฺคณฺหนํ อุคฺคโหฯ โกฎฺฐาสปาฬิยา หิ วาจุคฺคตกรณํ, มนสิกิริยาย เกสาทีนํ วณฺณาทิโต อุปธารณสฺส จ ปคุณภาวาปาทนํ อิธ อุคฺคโหฯ เยน ปน นเยน โยคาวจโร ตตฺถ กุสโล โหติ, โส วิธีติ วุโตฺตฯ
Kammaṭṭhānassa vācuggatakaraṇādinā uggaṇhanaṃ uggaho. Koṭṭhāsapāḷiyā hi vācuggatakaraṇaṃ, manasikiriyāya kesādīnaṃ vaṇṇādito upadhāraṇassa ca paguṇabhāvāpādanaṃ idha uggaho. Yena pana nayena yogāvacaro tattha kusalo hoti, so vidhīti vutto.
ปุริเมหีติ ปุริมปุริเมหิ ปญฺจกฉเกฺกหิ สมฺพโนฺธ วุโตฺตฯ ‘‘มํสํ…เป.… วกฺก’’นฺติ หิ อนุโลมโต วกฺกปญฺจกสฺส ปุน ‘‘วกฺกํ…เป.… เกสา’’ติ วกฺกปญฺจกสฺส, ตจปญฺจกสฺส จ ปฎิโลมโต สชฺฌายกฺกโม สมฺพโนฺธ ทสฺสิโตฯ สฺวายํ สชฺฌาโยติ สมฺพโนฺธฯ วิสุํ ติปญฺจาหนฺติ อนุโลมโต ปญฺจาหํ, ปฎิโลมโต ปญฺจาหํ, อนุโลมปฎิโลมโต ปญฺจาหนฺติ เอวํ ปญฺจกฉเกฺกสุ ปเจฺจกํ ติปญฺจาหํฯ ปุริเมหิ เอกโต ติปญฺจาหนฺติ ตจปญฺจกาทีหิ สทฺธิํ อนุโลมโต วกฺกปญฺจกาทีนิ เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว ติปญฺจาหํ ฯ อาทิอนฺตทสฺสนวเสนาติอาทิภูตสฺส อนุโลมโต สชฺฌายสฺส, อนุโลมปฎิโลมโต สชฺฌาเย อนฺตภูตสฺส ปฎิโลมโต สชฺฌายสฺส ทสฺสนวเสนฯ เตนาห ‘‘อนุโลม…เป.… อนฺติโม’’ติฯ เอตมฺปีติ ยทิทํ ปุริเมหิ สทฺธิํ ปจฺฉิมสฺส ปญฺจกาทิโน เอกโต สชฺฌายกรณํ, ปญฺจกาทีนํ ปเจฺจกํ อนุโลมาทินา สชฺฌายปฺปการโต อโญฺญ สชฺฌายปฺปกาโร เอโสติ อโตฺถฯ ทฺวินฺนํ หตฺถานํ เอกมุขา อญฺญมญฺญสมฺพนฺธา ฐปิตา องฺคุลิโย อิธ หตฺถสงฺขลิกาติ อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘องฺคุลิปนฺตี’’ติฯ อสุภลกฺขณํ เกสาทีนํ ปฎิกฺกูลภาโวฯ ถทฺธาทิภาโว ธาตุลกฺขณํฯ
Purimehīti purimapurimehi pañcakachakkehi sambandho vutto. ‘‘Maṃsaṃ…pe… vakka’’nti hi anulomato vakkapañcakassa puna ‘‘vakkaṃ…pe… kesā’’ti vakkapañcakassa, tacapañcakassa ca paṭilomato sajjhāyakkamo sambandho dassito. Svāyaṃ sajjhāyoti sambandho. Visuṃ tipañcāhanti anulomato pañcāhaṃ, paṭilomato pañcāhaṃ, anulomapaṭilomato pañcāhanti evaṃ pañcakachakkesu paccekaṃ tipañcāhaṃ. Purimehi ekato tipañcāhanti tacapañcakādīhi saddhiṃ anulomato vakkapañcakādīni ekajjhaṃ katvā vuttanayeneva tipañcāhaṃ . Ādiantadassanavasenātiādibhūtassa anulomato sajjhāyassa, anulomapaṭilomato sajjhāye antabhūtassa paṭilomato sajjhāyassa dassanavasena. Tenāha ‘‘anuloma…pe… antimo’’ti. Etampīti yadidaṃ purimehi saddhiṃ pacchimassa pañcakādino ekato sajjhāyakaraṇaṃ, pañcakādīnaṃ paccekaṃ anulomādinā sajjhāyappakārato añño sajjhāyappakāro esoti attho. Dvinnaṃ hatthānaṃ ekamukhā aññamaññasambandhā ṭhapitā aṅguliyo idha hatthasaṅkhalikāti adhippetāti āha ‘‘aṅgulipantī’’ti. Asubhalakkhaṇaṃ kesādīnaṃ paṭikkūlabhāvo. Thaddhādibhāvo dhātulakkhaṇaṃ.
อตฺตโน โกฎฺฐาโส, สมาโน วา โกฎฺฐาโส สโกฎฺฐาโส, ตตฺถ ภโว สโกฎฺฐาสิโก, กมฺมฎฺฐานํฯ
Attano koṭṭhāso, samāno vā koṭṭhāso sakoṭṭhāso, tattha bhavo sakoṭṭhāsiko, kammaṭṭhānaṃ.
กายานุปสฺสนํ หิตฺวาติ อสุภโต วา ธาตุโต อนุปสฺสนํ มนสิการํ อกตฺวาฯ ปุเพฺพ วิย ปริยนฺตตาลญฺจ อาทิตาลญฺจ อคนฺตฺวาฯ
Kāyānupassanaṃ hitvāti asubhato vā dhātuto anupassanaṃ manasikāraṃ akatvā. Pubbe viya pariyantatālañca āditālañca agantvā.
สมาธานาทิวิเสสโยเคน อธิกํ จิตฺตนฺติ อธิจิตฺตํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สมถวิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติฯ มนสิกรณํ จิตฺตนฺติ เอกนฺตํ สมาธินิมิตฺตเสฺสว สมนฺนาหารกํ จิตฺตํฯ วิเกฺขปวเสน จิตฺตสฺส นานารมฺมเณ วิสฎปฺปวตฺติ อิธ ปภญฺชนํ, สมาธาเนน ตทภาวโต น จ ปภญฺชนสภาวํฯ
Samādhānādivisesayogena adhikaṃ cittanti adhicittaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘samathavipassanācitta’’nti. Manasikaraṇaṃ cittanti ekantaṃ samādhinimittasseva samannāhārakaṃ cittaṃ. Vikkhepavasena cittassa nānārammaṇe visaṭappavatti idha pabhañjanaṃ, samādhānena tadabhāvato na ca pabhañjanasabhāvaṃ.
สกฺขิภวนตา ปจฺจกฺขการิตาฯ ปุพฺพเหตาทิเกติ อาทิ-สเทฺทน ตทนุรูปมนสิการานุโยคาทิํ สงฺคณฺหาติฯ
Sakkhibhavanatā paccakkhakāritā. Pubbahetādiketi ādi-saddena tadanurūpamanasikārānuyogādiṃ saṅgaṇhāti.
สมปฺปวตฺตนฺติ ลีนุทฺธจฺจรหิตํฯ ตถาปวตฺติยาติ มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ ปฎิปตฺติยา, ตตฺถ จ ปกฺขนฺทเนน สิทฺธาย ยถาวุตฺตสมปฺปวตฺติยาฯ ปญฺญาย โตเสตีติ ยายํ ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสตา, ตทุปควีริยวาหนา, อาเสวนาติ อิมาสํ สาธิกา ภาวนาปญฺญา, ตาย อธิจิตฺตํ โตเสติ ปหฎฺฐํ กโรติฯ ยถาวุตฺตวิเสสสิทฺธิยาว หิ ตํสาธิกาย ปญฺญาย ตํ จิตฺตํ สมฺปหํสิตํ นาม โหติฯ เอวํ สมฺปหํสโนฺต จ ยสฺมา สพฺพโส ปริพนฺธวิโสธเนน ปญฺญาย จิตฺตํ โวทาเปตีติ จ วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘สมุเตฺตเชติ จา’’ติ วุตฺตํฯ นิรสฺสาทนฺติ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสาลาเภน ภาวนารสวิรหิตํฯ สมฺปหํเสตีติ ภาวนาย จิตฺตํ สมฺมา ปหาเสติ ปโมเทติฯ สมุเตฺตเชตีติ สมฺมา ตตฺถ อุเตฺตเชติฯ
Samappavattanti līnuddhaccarahitaṃ. Tathāpavattiyāti majjhimasamathanimittaṃ paṭipattiyā, tattha ca pakkhandanena siddhāya yathāvuttasamappavattiyā. Paññāya tosetīti yāyaṃ tattha jātānaṃ dhammānaṃ anativattanā, indriyānaṃ ekarasatā, tadupagavīriyavāhanā, āsevanāti imāsaṃ sādhikā bhāvanāpaññā, tāya adhicittaṃ toseti pahaṭṭhaṃ karoti. Yathāvuttavisesasiddhiyāva hi taṃsādhikāya paññāya taṃ cittaṃ sampahaṃsitaṃ nāma hoti. Evaṃ sampahaṃsanto ca yasmā sabbaso paribandhavisodhanena paññāya cittaṃ vodāpetīti ca vuccati, tasmā ‘‘samuttejeti cā’’ti vuttaṃ. Nirassādanti pubbenāparaṃ visesālābhena bhāvanārasavirahitaṃ. Sampahaṃsetīti bhāvanāya cittaṃ sammā pahāseti pamodeti. Samuttejetīti sammā tattha uttejeti.
อาสโย ปวตฺติฎฺฐานํฯ
Āsayo pavattiṭṭhānaṃ.
ววตฺถิตตนฺติ อสํกิณฺณตํฯ
Vavatthitatanti asaṃkiṇṇataṃ.
อโนฺตติ อพฺภนฺตเร โกฎฺฐาเสฯ สุขุมนฺติ สุขุมนฺหารุอาทิํ สนฺธาย วทติฯ
Antoti abbhantare koṭṭhāse. Sukhumanti sukhumanhāruādiṃ sandhāya vadati.
ตาลปฎฺฎิกา ตาลปตฺตวิลิเวหิ กตกฎสารโกฯ
Tālapaṭṭikā tālapattavilivehi katakaṭasārako.
คณนาย มตฺตา-สโทฺท กติปเยหิ อูนภาวทีปนตฺถํ วุจฺจติฯ ทนฺตฎฺฐิวชฺชิตานิ ตีหิ อูนานิ ตีณิ อฎฺฐิสตานิฯ ตสฺมา ‘‘ติมตฺตานี’’ติ วุตฺตํฯ ยํ ปน วิสุทฺธิมเคฺค ‘‘อติเรกติสตอฎฺฐิกสมุสฺสย’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๒) วุตฺตํ, ตํ ทนฺตฎฺฐีนิปิ คเหตฺวา สพฺพสงฺคาหิกนเยน วุตฺตํฯ ‘‘โคปฺผกฎฺฐิกาทีนิ อวุตฺตานี’’ติ น วตฺตพฺพํ ‘‘เอเกกสฺมิํ ปาเท เทฺว โคปฺผกฎฺฐีนี’’ติ วุตฺตตฺตา, ‘‘อานิสทฎฺฐิอาทีนี’’ติ ปน วตฺตพฺพํฯ
Gaṇanāya mattā-saddo katipayehi ūnabhāvadīpanatthaṃ vuccati. Dantaṭṭhivajjitāni tīhi ūnāni tīṇi aṭṭhisatāni. Tasmā ‘‘timattānī’’ti vuttaṃ. Yaṃ pana visuddhimagge ‘‘atirekatisataaṭṭhikasamussaya’’nti (visuddhi. 1.122) vuttaṃ, taṃ dantaṭṭhīnipi gahetvā sabbasaṅgāhikanayena vuttaṃ. ‘‘Gopphakaṭṭhikādīni avuttānī’’ti na vattabbaṃ ‘‘ekekasmiṃ pāde dve gopphakaṭṭhīnī’’ti vuttattā, ‘‘ānisadaṭṭhiādīnī’’ti pana vattabbaṃ.
เตน อฎฺฐินาติ อูรุฎฺฐินาฯ
Tena aṭṭhināti ūruṭṭhinā.
มรุเมฺปหีติ มรุมฺปจุเณฺณหิฯ
Marumpehīti marumpacuṇṇehi.
สุสมาหิตจิเตฺตน เหตุภูเตนฯ นานารมฺมณวิปฺผนฺทนวิรเหนาติ นานารมฺมณภาเวน วิปฺผนฺทนํ นานารมฺมณวิปฺผนฺทนํ, เตน วิรเหนฯ อนติกฺกนฺตปีติสุขสฺส ฌานจิตฺตสฺสฯ ตํสมงฺคีปุคฺคลสฺส วาฯ
Susamāhitacittena hetubhūtena. Nānārammaṇavipphandanavirahenāti nānārammaṇabhāvena vipphandanaṃ nānārammaṇavipphandanaṃ, tena virahena. Anatikkantapītisukhassa jhānacittassa. Taṃsamaṅgīpuggalassa vā.
ปฎิกฺกูลธาตุวณฺณวิเสสนฺติ ปฎิกฺกูลวิเสสํ, ธาตุวิเสสํ, วณฺณกสิณวิเสสํฯ วกฺกปญฺจกาทีสุ ปญฺจสุ วิสุํ, เหฎฺฐิเมหิ เอกโต จ สชฺฌาเย ฉนฺนํ ฉนฺนํ ปญฺจาหานํ วเสน ปญฺจ มาสา ปริปุณฺณา ลพฺภนฺติ, ตจปญฺจเก ปน วิสุํ ติปญฺจาหเมวาติ อาห ‘‘อทฺธมาเส อูเนปี’’ติฯ มาสนฺตรคมนํ สชฺฌายสฺส สตฺตมาทิมาสคมนํฯ
Paṭikkūladhātuvaṇṇavisesanti paṭikkūlavisesaṃ, dhātuvisesaṃ, vaṇṇakasiṇavisesaṃ. Vakkapañcakādīsu pañcasu visuṃ, heṭṭhimehi ekato ca sajjhāye channaṃ channaṃ pañcāhānaṃ vasena pañca māsā paripuṇṇā labbhanti, tacapañcake pana visuṃ tipañcāhamevāti āha ‘‘addhamāse ūnepī’’ti. Māsantaragamanaṃ sajjhāyassa sattamādimāsagamanaṃ.
ยเมนฺตนฺติ พเนฺธนฺตํฯ
Yamentanti bandhentaṃ.
‘‘นีลํ ปีต’’นฺติอาทินา สงฺฆาเฎ นีลาทิววตฺถานํ ตํนิสฺสยตฺตา มหาภูเต อุปาทายาติ อาห ‘‘มหาภูตํ…เป.… ทุคฺคนฺธนฺติอาทินา’’ติฯ อุปาทายรูปํ มหาภูเตน ปริจฺฉินฺนนฺติ โยชนาฯ ตสฺสาติ อุปาทารูปสฺสฯ ตโตติ มหาภูตโตฯ ฉายาย อาตปปจฺจยภาโว อาตโป ปจฺจโย เอติสฺสาติ, อาตปสฺส ฉายาย อุปฺปาทกภาโว ฉายาตปานํ อาตปปจฺจยฉายุปฺปาทกภาโวฯ เตน อุปฺปาเทตพฺพอุปฺปาทกภาโว อญฺญมญฺญปริเจฺฉทกตาติ ทเสฺสติฯ อายตนานิ จ ทฺวารานิ จาติ ทฺวาทสายตนานิ, ตเทกเทสภูตานิ ทฺวารานิ จฯ
‘‘Nīlaṃ pīta’’ntiādinā saṅghāṭe nīlādivavatthānaṃ taṃnissayattā mahābhūte upādāyāti āha ‘‘mahābhūtaṃ…pe… duggandhantiādinā’’ti. Upādāyarūpaṃ mahābhūtena paricchinnanti yojanā. Tassāti upādārūpassa. Tatoti mahābhūtato. Chāyāya ātapapaccayabhāvo ātapo paccayo etissāti, ātapassa chāyāya uppādakabhāvo chāyātapānaṃ ātapapaccayachāyuppādakabhāvo. Tena uppādetabbauppādakabhāvo aññamaññaparicchedakatāti dasseti. Āyatanāni ca dvārāni cāti dvādasāyatanāni, tadekadesabhūtāni dvārāni ca.
สปฺปจฺจยภาวาติ สปฺปจฺจยตฺตาฯ
Sappaccayabhāvāti sappaccayattā.
ยถาวุเตฺตน อากาเรนาติ ‘‘อิติ อิทํ สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ สุคฺคหิตํ กตฺวา’’ติอาทินา (วิภ. อฎฺฐ. ๓๕๖), ‘‘อิมํ ปน กมฺมฎฺฐานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมนา’’ติอาทินา (วิภ. อฎฺฐ. ๓๕๖) วา วุตฺตปฺปกาเรน วิธินาฯ ‘‘อวิเสสโต ปน สาธารณวเสน เอวํ เวทิตพฺพา’’ติ, ‘‘อิโต ปฎฺฐายา’’ติ จ วทนฺติฯ วณฺณาทิมุเขนาติ วณฺณปฎิกฺกูลสุญฺญตามุเขนฯ อุปฎฺฐานนฺติ กมฺมฎฺฐานสฺส อุปฎฺฐานํ, โย อุคฺคโหติ วุโตฺตฯ เอตฺถาติ จตุกฺกปญฺจกชฺฌานปฐมชฺฌานวิปสฺสนาสุ เอกสฺมิํ สนฺธียติฯ เกน? กมฺมฎฺฐานมนสิกาเรเนว, ตสฺมา อุคฺคโหว สนฺธิ อุคฺคหสนฺธีติ เวทิตพฺพํฯ
Yathāvuttena ākārenāti ‘‘iti idaṃ sattavidhaṃ uggahakosallaṃ suggahitaṃ katvā’’tiādinā (vibha. aṭṭha. 356), ‘‘imaṃ pana kammaṭṭhānaṃ bhāvetvā arahattaṃ pāpuṇitukāmenā’’tiādinā (vibha. aṭṭha. 356) vā vuttappakārena vidhinā. ‘‘Avisesato pana sādhāraṇavasena evaṃ veditabbā’’ti, ‘‘ito paṭṭhāyā’’ti ca vadanti. Vaṇṇādimukhenāti vaṇṇapaṭikkūlasuññatāmukhena. Upaṭṭhānanti kammaṭṭhānassa upaṭṭhānaṃ, yo uggahoti vutto. Etthāti catukkapañcakajjhānapaṭhamajjhānavipassanāsu ekasmiṃ sandhīyati. Kena? Kammaṭṭhānamanasikāreneva, tasmā uggahova sandhi uggahasandhīti veditabbaṃ.
อุฎฺฐานกํ อุปฺปชฺชนกํฯ สาติเรกานิ ฉ อมฺพณานิ กุมฺภํฯ ตโตติ มุขโธวนขาทนโภชนกิจฺจโตฯ นิวตฺตตีติ อรหตฺตาธิคเมน อจฺจนฺตนิวตฺติวเสน นิวตฺตติฯ
Uṭṭhānakaṃ uppajjanakaṃ. Sātirekāni cha ambaṇāni kumbhaṃ. Tatoti mukhadhovanakhādanabhojanakiccato. Nivattatīti arahattādhigamena accantanivattivasena nivattati.
กมฺมเมวาติ มนสิการกมฺมเมวฯ อารมฺมณนฺติ ปุพฺพภาคภาวนารมฺมณํฯ
Kammamevāti manasikārakammameva. Ārammaṇanti pubbabhāgabhāvanārammaṇaṃ.
ตถาติ วนมกฺกโฎ วิยฯ
Tathāti vanamakkaṭo viya.
เอกนฺติ เอกํ โกฎฺฐาสํฯ
Ekanti ekaṃ koṭṭhāsaṃ.
สตฺตคหณรหิเตติ สตฺตปญฺญตฺติมฺปิ อนามสิตฺวา เทสิตตฺตา วุตฺตํฯ สสนฺตานตาย อหํการวตฺถุมฺหิ อปฺปหีนมานสฺส ปหีนาการํ สนฺธายาห ‘‘วิทฺธสฺตาหํกาเร’’ติฯ ตตฺถาติ ปรสฺส กาเยฯ
Sattagahaṇarahiteti sattapaññattimpi anāmasitvā desitattā vuttaṃ. Sasantānatāya ahaṃkāravatthumhi appahīnamānassa pahīnākāraṃ sandhāyāha ‘‘viddhastāhaṃkāre’’ti. Tatthāti parassa kāye.
๓๕๗. อาทิมฺหิ เสวนา มนสิการสฺส อุปฺปาทนา อารโมฺภฯ
357. Ādimhi sevanā manasikārassa uppādanā ārambho.
๓๖๒. คมิตาติ วิคมิตาฯ
362. Gamitāti vigamitā.
กายานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kāyānupassanāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
เวทนานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา
Vedanānupassanāniddesavaṇṇanā
๓๖๓. สมฺปชานสฺสาติ สมฺมา ปกาเรหิ ชานนฺตสฺส, วตฺถารมฺมเณหิ สทฺธิํ สุขสามิสาทิปฺปกาเรหิ อวิปรีตํ เวทนํ ชานนฺตสฺสาติ อโตฺถฯ ปุพฺพภาคภาวนา โวหารานุสาเรเนว ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โวหารมเตฺตนา’’ติฯ เวทยามีติ ‘‘อหํ เวทยามี’’ติ อตฺตุปนายิกา วุตฺตาติ, ปริญฺญาตเวทโนปิ วา อุปฺปนฺนาย สุขเวทนาย โลกโวหาเรน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ชานาติ, โวหรติ จ, ปเคว อิตโรฯ เตนาห ‘‘โวหารมเตฺตน วุตฺต’’นฺติฯ
363. Sampajānassāti sammā pakārehi jānantassa, vatthārammaṇehi saddhiṃ sukhasāmisādippakārehi aviparītaṃ vedanaṃ jānantassāti attho. Pubbabhāgabhāvanā vohārānusāreneva pavattatīti āha ‘‘vohāramattenā’’ti. Vedayāmīti ‘‘ahaṃ vedayāmī’’ti attupanāyikā vuttāti, pariññātavedanopi vā uppannāya sukhavedanāya lokavohārena ‘‘sukhaṃ vedanaṃ vedayāmī’’ti jānāti, voharati ca, pageva itaro. Tenāha ‘‘vohāramattena vutta’’nti.
อุภยนฺติ วีริยสมาธิํฯ สห โยเชตฺวาติ สมธุรกิจฺจโต อนูนาธิกํ กตฺวาฯ อตฺถธมฺมาทีสุ สโมฺมหวิทฺธํสนวเสน ปวตฺตา มคฺคปญฺญา เอว โลกุตฺตรปฎิสมฺภิทาฯ
Ubhayanti vīriyasamādhiṃ. Saha yojetvāti samadhurakiccato anūnādhikaṃ katvā. Atthadhammādīsu sammohaviddhaṃsanavasena pavattā maggapaññā eva lokuttarapaṭisambhidā.
วณฺณมุขาทีสุ ตีสุปิ มุเขสุฯ ปริคฺคหสฺสาติ อรูปปริคฺคหสฺสฯ ‘‘วตฺถุ นาม กรชกาโย’’ติ วจเนน นิวตฺติตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘น จกฺขาทีนิ ฉ วตฺถูนี’’ติ อาหฯ อญฺญมญฺญุปตฺถเมฺภน ฐิเตสุ ทฺวีสุ นฬกลาเปสุ เอกสฺส อิตรปฎิพทฺธฎฺฐิติตา วิย นามกายสฺส รูปกายปฎิพทฺธวุตฺติตาทสฺสนเญฺหตํ นิสฺสยปจฺจยวิเสสทสฺสนนฺติฯ
Vaṇṇamukhādīsu tīsupi mukhesu. Pariggahassāti arūpapariggahassa. ‘‘Vatthu nāma karajakāyo’’ti vacanena nivattitaṃ dassento ‘‘na cakkhādīni cha vatthūnī’’ti āha. Aññamaññupatthambhena ṭhitesu dvīsu naḷakalāpesu ekassa itarapaṭibaddhaṭṭhititā viya nāmakāyassa rūpakāyapaṭibaddhavuttitādassanañhetaṃ nissayapaccayavisesadassananti.
เตสนฺติ เยสํ ผสฺสวิญฺญาณานิ ปากฎานิ, เตสํฯ อเญฺญสนฺติ ตโต อเญฺญสํ, เยสํ ผสฺสวิญฺญาณานิ น ปากฎานิฯ สุขทุกฺขเวทนานํ สุวิภูตวุตฺติตาย วุตฺตํ ‘‘สเพฺพสํ วิเนยฺยานํ เวทนา ปากฎา’’ติฯ วิลาเปตฺวา วิลาเปตฺวาติ สุวิสุทฺธํ นวนีตํ วิลาเปตฺวา สีติภูตํ อติสีตเล อุทเก ปกฺขิปิตฺวา ปตฺถินฺนํ ฐิตํ มเตฺถตฺวา ปริปิเณฺฑตฺวา ปุน วิลาเปตฺวาติ สตวารํ เอวํ กตฺวาฯ
Tesanti yesaṃ phassaviññāṇāni pākaṭāni, tesaṃ. Aññesanti tato aññesaṃ, yesaṃ phassaviññāṇāni na pākaṭāni. Sukhadukkhavedanānaṃ suvibhūtavuttitāya vuttaṃ ‘‘sabbesaṃ vineyyānaṃ vedanā pākaṭā’’ti. Vilāpetvā vilāpetvāti suvisuddhaṃ navanītaṃ vilāpetvā sītibhūtaṃ atisītale udake pakkhipitvā patthinnaṃ ṭhitaṃ matthetvā paripiṇḍetvā puna vilāpetvāti satavāraṃ evaṃ katvā.
ตตฺถาปีติ ยตฺถ อรูปกมฺมฎฺฐานํ เอว…เป.… ทสฺสิตํ, ตตฺถาปิฯ เยสุ สุเตฺตสุ ตทโนฺตคธํ รูปกมฺมฎฺฐานนฺติ โยชนาฯ
Tatthāpīti yattha arūpakammaṭṭhānaṃ eva…pe… dassitaṃ, tatthāpi. Yesu suttesu tadantogadhaṃ rūpakammaṭṭhānanti yojanā.
เวทนานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vedanānupassanāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
จิตฺตานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา
Cittānupassanāniddesavaṇṇanā
๓๖๕. กิเลสสมฺปยุตฺตานํ น วิสุทฺธตา โหตีติ สมฺพโนฺธฯ อิตเรหิปีติ อตฺตนา สมฺปยุตฺตกิเลสโต อิตเรหิปิ อสมฺปยุเตฺตหิฯ วิสุํ วจนนฺติ อญฺญากุสลโต วิสุํ กตฺวา วจนํฯ วิสิฎฺฐคฺคหณนฺติ วิสิฎฺฐตาคหณํ, อาเวณิกสโมหตาทสฺสนนฺติ อโตฺถ, ยโต ตทุภยํ โมมูหจิตฺตนฺติ วุจฺจติฯ
365. Kilesasampayuttānaṃ na visuddhatā hotīti sambandho. Itarehipīti attanā sampayuttakilesato itarehipi asampayuttehi. Visuṃ vacananti aññākusalato visuṃ katvā vacanaṃ. Visiṭṭhaggahaṇanti visiṭṭhatāgahaṇaṃ, āveṇikasamohatādassananti attho, yato tadubhayaṃ momūhacittanti vuccati.
จิตฺตานุปสฺสนานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cittānupassanāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
ธมฺมานุปสฺสนานิเทฺทโส
Dhammānupassanāniddeso
ก. นีวรณปพฺพวณฺณนา
Ka. nīvaraṇapabbavaṇṇanā
๓๖๗. เอกสฺมิํ ยุเค พทฺธโคณานํ วิย เอกโต ปวตฺติ ยุคนทฺธตาฯ
367. Ekasmiṃ yuge baddhagoṇānaṃ viya ekato pavatti yuganaddhatā.
คหณากาเรนาติ อสุเภปิ อารมฺมเณ ‘‘สุภ’’นฺติ คหณากาเรนฯ นิมิตฺตนฺติ จาติ สุภนิมิตฺตนฺติ จ วุจฺจตีติ โยชนาฯ เอกํเสน สตฺตา อตฺตโน อตฺตโน หิตสุขเมว อาสีสนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺสา’’ติฯ อนุปาโย เอว จ หิตวิสิฎฺฐสฺส สุขสฺส อโยนิโสมนสิกาโร, อากงฺขิตสฺส วา ยถาธิเปฺปตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโตฯ อวิชฺชนฺธา หิ ตาทิเสปิ ปวตฺตนฺตีติฯ นิปฺผาเทตเพฺพติ อโยนิโสมนสิกาเรน นิพฺพเตฺตตเพฺพ กามจฺฉเนฺทติ อโตฺถฯ
Gahaṇākārenāti asubhepi ārammaṇe ‘‘subha’’nti gahaṇākārena. Nimittanti cāti subhanimittanti ca vuccatīti yojanā. Ekaṃsena sattā attano attano hitasukhameva āsīsantīti katvā vuttaṃ ‘‘ākaṅkhitassa hitasukhassā’’ti. Anupāyo eva ca hitavisiṭṭhassa sukhassa ayonisomanasikāro, ākaṅkhitassa vā yathādhippetassa hitasukhassa anupāyabhūto. Avijjandhā hi tādisepi pavattantīti. Nipphādetabbeti ayonisomanasikārena nibbattetabbe kāmacchandeti attho.
ตทนุกูลตฺตาติ เตสํ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ, ‘‘อสุภ’’นฺติ จ ปวตฺตานํ อโยนิโสมนสิการโยนิโสมนสิการานํ อนุกูลตฺตาฯ รูปาทีสุ อนิจฺจาทิอภินิเวสสฺส, อนิจฺจสญฺญาทีนญฺจ ยถาวุตฺตมนสิการูปนิสฺสยตา ตทนุกูลตาฯ
Tadanukūlattāti tesaṃ asubhe ‘‘subha’’nti, ‘‘asubha’’nti ca pavattānaṃ ayonisomanasikārayonisomanasikārānaṃ anukūlattā. Rūpādīsu aniccādiabhinivesassa, aniccasaññādīnañca yathāvuttamanasikārūpanissayatā tadanukūlatā.
อาหาเร ปฎิกฺกูลสญฺญํ โส อุปฺปาเทตีติ สมฺพโนฺธฯ ตพฺพิปริณามสฺสาติ โภชนปริณามสฺส นิสฺสนฺทาทิกสฺสฯ ตทาธารสฺสาติ อุทรสฺส, กายเสฺสว วาฯ โสติ โภชเนมตฺตญฺญูฯ สุตฺตนฺตปริยาเยน กามราโค ‘‘กามจฺฉนฺทนีวรณ’’นฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อภิธมฺมปริยาเยนา’’ติฯ อภิธเมฺม หิ ‘‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฎิจฺจ นีวรโณ ธโมฺม อุปฺปชฺชติ นปุเรชาตปจฺจยา’’ติ (ปฎฺฐา. ๓.๘.๘) เอตสฺส วิภเงฺค ‘‘อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฎิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิวจนโต ภวราโคปิ กามจฺฉนฺทนีวรณํ วุตฺตนฺติ วิญฺญายติฯ เตนาห ‘‘สโพฺพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณ’’นฺติฯ
Āhāre paṭikkūlasaññaṃ so uppādetīti sambandho. Tabbipariṇāmassāti bhojanapariṇāmassa nissandādikassa. Tadādhārassāti udarassa, kāyasseva vā. Soti bhojanemattaññū. Suttantapariyāyena kāmarāgo ‘‘kāmacchandanīvaraṇa’’nti vuccatīti āha ‘‘abhidhammapariyāyenā’’ti. Abhidhamme hi ‘‘nīvaraṇaṃ dhammaṃ paṭicca nīvaraṇo dhammo uppajjati napurejātapaccayā’’ti (paṭṭhā. 3.8.8) etassa vibhaṅge ‘‘arūpe kāmacchandanīvaraṇaṃ paṭicca thinamiddhanīvaraṇaṃ uddhaccanīvaraṇaṃ avijjānīvaraṇaṃ uppajjatī’’tiādivacanato bhavarāgopi kāmacchandanīvaraṇaṃ vuttanti viññāyati. Tenāha ‘‘sabbopi lobho kāmacchandanīvaraṇa’’nti.
สีมาเภเท กเตติ อตฺตาทิมริยาทาย ภินฺนาย, อตฺตาทีสุ สพฺพตฺถ เอกรูปาย เมตฺตาภาวนายาติ อโตฺถฯ วิหาราทิอุเทฺทสรหิตนฺติ วิหาราทิปเทสปริเจฺฉทรหิตํฯ อุคฺคหิตาย เมตฺตายฯ อฎฺฐวีสติวิธาติ อิตฺถิอาทิวเสน สตฺตวิธา ปเจฺจกํ อเวราทีหิ โยชนาวเสน อฎฺฐวีสติวิธาฯ สตฺตาทิอิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคนาติ เอตฺถ สตฺตาทิอเวราทิโยเคน วีสติ, อิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคน อฎฺฐวีสตีติ อฎฺฐจตฺตารีสํ เอกิสฺสา ทิสายฯ ตถา เสสทิสาสุปีติ สพฺพา สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา’’ติฯ
Sīmābhede kateti attādimariyādāya bhinnāya, attādīsu sabbattha ekarūpāya mettābhāvanāyāti attho. Vihārādiuddesarahitanti vihārādipadesaparicchedarahitaṃ. Uggahitāya mettāya. Aṭṭhavīsatividhāti itthiādivasena sattavidhā paccekaṃ averādīhi yojanāvasena aṭṭhavīsatividhā. Sattādiitthiādiaverādiyogenāti ettha sattādiaverādiyogena vīsati, itthiādiaverādiyogena aṭṭhavīsatīti aṭṭhacattārīsaṃ ekissā disāya. Tathā sesadisāsupīti sabbā saṅgahetvā āha ‘‘asītādhikacatusatappabhedā’’ti.
กตากตานุโสจนญฺจ น โหตีติ โยชนาฯ ‘‘พหุกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๔.๖) พหุสฺสุตตา นวงฺคสฺส สาสนสฺส วเสน เวทิตพฺพา, น วินยมตฺตเสฺสวาติ วุฑฺฒตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา อิเจฺจว วุตฺตํ, น พหุสฺสุตตญฺจาติฯ
Katākatānusocanañca na hotīti yojanā. ‘‘Bahukaṃ sutaṃ hoti suttaṃ geyya’’ntiādivacanato (a. ni. 4.6) bahussutatā navaṅgassa sāsanassa vasena veditabbā, na vinayamattassevāti vuḍḍhataṃ pana anapekkhitvā icceva vuttaṃ, na bahussutatañcāti.
ติฎฺฐติ อนุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา เอตฺถ เอเตสุ ‘‘อโหสิํ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิกาย (ม. นิ. ๑.๑๘; ส. นิ. ๒.๒๐) ปวตฺติยา อเนกเภเทสุ ปุริมุปฺปเนฺนสุ วิจิกิจฺฉาธเมฺมสูติ เต ฐานียา วุตฺตาฯ
Tiṭṭhati anuppannā vicikicchā ettha etesu ‘‘ahosiṃ nu kho ahamatītamaddhāna’’ntiādikāya (ma. ni. 1.18; sa. ni. 2.20) pavattiyā anekabhedesu purimuppannesu vicikicchādhammesūti te ṭhānīyā vuttā.
อฎฺฐวตฺถุกาปีติ น เกวลํ โสฬสวตฺถุกา, นาปิ รตนตฺตยวตฺถุกา จ, อถ โข อฎฺฐวตฺถุกาปิฯ รตนตฺตเย สํสยาปนฺนสฺส สิกฺขาทีสุ กงฺขาสมฺภวโต, ตตฺถ นิเพฺพมติกสฺส ตทภาวโต จ เสสวิจิกิจฺฉานํ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกตา ทฎฺฐพฺพาฯ อนุปวิสนํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ สทฺทหนวเสน อารมฺมณสฺส ปกฺขนฺทนํฯ
Aṭṭhavatthukāpīti na kevalaṃ soḷasavatthukā, nāpi ratanattayavatthukā ca, atha kho aṭṭhavatthukāpi. Ratanattaye saṃsayāpannassa sikkhādīsu kaṅkhāsambhavato, tattha nibbematikassa tadabhāvato ca sesavicikicchānaṃ ratanattayavicikicchāmūlikatā daṭṭhabbā. Anupavisanaṃ ‘‘evameta’’nti saddahanavasena ārammaṇassa pakkhandanaṃ.
นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nīvaraṇapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
ข. โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา
Kha. bojjhaṅgapabbavaṇṇanā
เตนาติ อตฺถสนฺนิสฺสิตคฺคหเณนฯ
Tenāti atthasannissitaggahaṇena.
ปจฺจยวเสน ทุพฺพลภาโว มนฺทตาฯ
Paccayavasena dubbalabhāvo mandatā.
ปพฺพตปเทสวนคหนนฺตริโตปิ คาโม น ทูเร, ปพฺพตํ ปริกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพตาย อาวาโส อรญฺญลกฺขณูเปโต, ตสฺมา มํสโสเตเนว อโสฺสสีติ วทนฺติฯ
Pabbatapadesavanagahanantaritopi gāmo na dūre, pabbataṃ parikkhipitvā gantabbatāya āvāso araññalakkhaṇūpeto, tasmā maṃsasoteneva assosīti vadanti.
สมฺปตฺติเหตุตาย ปสาโท สิเนหปริยาเยน วุโตฺตฯ
Sampattihetutāya pasādo sinehapariyāyena vutto.
อินฺทฺริยานํ ติกฺขภาวาปาทนํ เตชนํฯ โตสนํ ปโมทนํฯ
Indriyānaṃ tikkhabhāvāpādanaṃ tejanaṃ. Tosanaṃ pamodanaṃ.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bojjhaṅgapabbavaṇṇanā niṭṭhitā.
สมถวิปสฺสนาวเสน ปฐมสฺส สติปฎฺฐานสฺส, สุทฺธวิปสฺสนาวเสน อิตเรสํฯ อาคมนวเสน วุตฺตํ อญฺญถา มคฺคสมฺมาสติยา กถํ กายารมฺมณตา สิยาติ อธิปฺปาโยฯ กายานุปสฺสิอาทีนํ จตุพฺพิธานํ ปุคฺคลานํ วุตฺตานํฯ เตนาห ‘‘น หิ สกฺกา เอกสฺส…เป.… วตฺตุ’’นฺติฯ อเนกสติสมฺภวาวโพธปสงฺคาติ เอกจิตฺตุปฺปาเทน อเนกิสฺสา สติยา สมฺภวสฺส, สติ จ ตสฺมิํ อเนกาวโพธสฺส จ อาปชฺชนโตฯ สกิจฺจปริจฺฉิเนฺนติ อตฺตโน กิจฺจวิเสสวิสิเฎฺฐฯ ธมฺมเภเทนาติ อารมฺมณเภทวิสิเฎฺฐน ธมฺมวิเสเสนฯ น ธมฺมสฺส ธโมฺม กิจฺจนฺติ เอกสฺส ธมฺมสฺส อญฺญธโมฺม กิจฺจํ นาม น โหติ ตทภาวโตฯ ธมฺมเภเทน ธมฺมสฺส วิภาเคนฯ ตสฺส เภโทติ ตสฺส กิจฺจสฺส เภโท นตฺถิฯ ตสฺมาติ ยสฺมา นยิธ ธมฺมสฺส วิภาเคน กิจฺจเภโท อิจฺฉิโต, กิจฺจเภเทน ปน ธมฺมวิภาโค อิจฺฉิโต, ตสฺมาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘เอกาวา’’ติอาทิฯ
Samathavipassanāvasena paṭhamassa satipaṭṭhānassa, suddhavipassanāvasena itaresaṃ. Āgamanavasena vuttaṃ aññathā maggasammāsatiyā kathaṃ kāyārammaṇatā siyāti adhippāyo. Kāyānupassiādīnaṃ catubbidhānaṃ puggalānaṃ vuttānaṃ. Tenāha ‘‘na hi sakkā ekassa…pe… vattu’’nti. Anekasatisambhavāvabodhapasaṅgāti ekacittuppādena anekissā satiyā sambhavassa, sati ca tasmiṃ anekāvabodhassa ca āpajjanato. Sakiccaparicchinneti attano kiccavisesavisiṭṭhe. Dhammabhedenāti ārammaṇabhedavisiṭṭhena dhammavisesena. Na dhammassa dhammo kiccanti ekassa dhammassa aññadhammo kiccaṃ nāma na hoti tadabhāvato. Dhammabhedena dhammassa vibhāgena. Tassa bhedoti tassa kiccassa bhedo natthi. Tasmāti yasmā nayidha dhammassa vibhāgena kiccabhedo icchito, kiccabhedena pana dhammavibhāgo icchito, tasmā. Tena vuttaṃ ‘‘ekāvā’’tiādi.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttantabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā
๓๗๔. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ อิทํ ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนน สติปฎฺฐานวิเสสนํ, ตญฺจ อาคมนสิทฺธํ, อญฺญถา ตสฺส อสมฺภวโตติ อาห ‘‘อาคมนวเสน…เป.… เทเสตฺวา’’ติฯ ปุคฺคลํ อนามสิตฺวาติ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอวํ ปุคฺคลํ อคฺคเหตฺวาฯ ตถา อนามสนโต เอว อาคมนวิเสสนํ อกตฺวาฯ นยทฺวเยติ อนุปสฺสนานโย, สุทฺธิกนโยติ เอตสฺมิํ นยทฺวเยฯ
374. ‘‘Kāye kāyānupassī’’ti idaṃ puggalādhiṭṭhānena satipaṭṭhānavisesanaṃ, tañca āgamanasiddhaṃ, aññathā tassa asambhavatoti āha ‘‘āgamanavasena…pe… desetvā’’ti. Puggalaṃ anāmasitvāti ‘‘kāye kāyānupassī’’ti evaṃ puggalaṃ aggahetvā. Tathā anāmasanato eva āgamanavisesanaṃ akatvā. Nayadvayeti anupassanānayo, suddhikanayoti etasmiṃ nayadvaye.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.
สติปฎฺฐานวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Satipaṭṭhānavibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค • 7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุเทฺทสวารวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyaṃ uddesavāravaṇṇanā
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา • 2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๗. สติปฎฺฐานวิภโงฺค • 7. Satipaṭṭhānavibhaṅgo