Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi

    ๕. สโตการิญาณนิเทฺทโส

    5. Satokāriñāṇaniddeso

    ๑๖๓. กตมานิ พาตฺติํส สโตการิสฺส ญาณานิ? อิธ ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาฯ โส สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสติฯ ทีฆํ วา อสฺสสโนฺต ‘‘ทีฆํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติฯ ทีฆํ วา ปสฺสสโนฺต ‘‘ทีฆํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติฯ รสฺสํ วา อสฺสสโนฺต ‘‘รสฺสํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติฯ รสฺสํ วา ปสฺสสโนฺต ‘‘รสฺสํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติฯ ‘‘สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ปีติปฎิสํเวที…เป.… สุขปฎิสํเวที… จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที … ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ… จิตฺตปฎิสํเวที… อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ… สมาทหํ จิตฺตํ… วิโมจยํ จิตฺตํ… อนิจฺจานุปสฺสี… วิราคานุปสฺสี… นิโรธานุปสฺสี… ‘‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ

    163. Katamāni bāttiṃsa satokārissa ñāṇāni? Idha bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā nisīdati pallaṅkaṃ ābhujitvā ujuṃ kāyaṃ paṇidhāya parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā. So satova assasati sato passasati. Dīghaṃ vā assasanto ‘‘dīghaṃ assasāmī’’ti pajānāti. Dīghaṃ vā passasanto ‘‘dīghaṃ passasāmī’’ti pajānāti. Rassaṃ vā assasanto ‘‘rassaṃ assasāmī’’ti pajānāti. Rassaṃ vā passasanto ‘‘rassaṃ passasāmī’’ti pajānāti. ‘‘Sabbakāyapaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Sabbakāyapaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmī’’ti sikkhati. Pītipaṭisaṃvedī…pe… sukhapaṭisaṃvedī… cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī … passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ… cittapaṭisaṃvedī… abhippamodayaṃ cittaṃ… samādahaṃ cittaṃ… vimocayaṃ cittaṃ… aniccānupassī… virāgānupassī… nirodhānupassī… ‘‘paṭinissaggānupassī assasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Paṭinissaggānupassī passasissāmī’’ti sikkhati.

    ๑๖๔. อิธาติ อิมิสฺสา ทิฎฺฐิยา, อิมิสฺสา ขนฺติยา, อิมิสฺสา รุจิยา, อิมสฺมิํ อาทาเย, อิมสฺมิํ ธเมฺม, อิมสฺมิํ วินเย, อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย, อิมสฺมิํ ปาวจเน, อิมสฺมิํ พฺรหฺมจริเย, อิมสฺมิํ สตฺถุสาสเนฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘อิธา’’ติฯ ภิกฺขูติ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก วา โหติ ภิกฺขุ เสโกฺข วา อรหา วา อกุปฺปธโมฺมฯ อรญฺญนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรญฺญํฯ รุกฺขมูลนฺติ ยตฺถ ภิกฺขุโน อาสนํ ปญฺญตฺตํ โหติ มโญฺจ วา ปีฐํ วา ภิสิ วา ตฎฺฎิกา วา จมฺมขโณฺฑ วา ติณสนฺถโร 1 วา ปณฺณสนฺถโร วา ปลาลสนฺถโร 2 วา, ตตฺถ ภิกฺขุ จงฺกมติ วา ติฎฺฐติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กเปฺปติฯ สุญฺญนฺติ เกนจิ อนากิณฺณํ โหติ คหเฎฺฐหิ วา ปพฺพชิเตหิ วาฯ อคารนฺติ 3 วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหาฯ นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ นิสิโนฺน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ฯ อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุชุโก โหติ กาโย ฐิโต 4 สุปณิหิโตฯ ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาติฯ ปรีติ ปริคฺคหโฎฺฐฯ มุขนฺติ นิยฺยานโฎฺฐฯ สตีติ อุปฎฺฐานโฎฺฐฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวา’’ติฯ

    164.Idhāti imissā diṭṭhiyā, imissā khantiyā, imissā ruciyā, imasmiṃ ādāye, imasmiṃ dhamme, imasmiṃ vinaye, imasmiṃ dhammavinaye, imasmiṃ pāvacane, imasmiṃ brahmacariye, imasmiṃ satthusāsane. Tena vuccati – ‘‘idhā’’ti. Bhikkhūti puthujjanakalyāṇako vā hoti bhikkhu sekkho vā arahā vā akuppadhammo. Araññanti nikkhamitvā bahi indakhīlā sabbametaṃ araññaṃ. Rukkhamūlanti yattha bhikkhuno āsanaṃ paññattaṃ hoti mañco vā pīṭhaṃ vā bhisi vā taṭṭikā vā cammakhaṇḍo vā tiṇasantharo 5 vā paṇṇasantharo vā palālasantharo 6 vā, tattha bhikkhu caṅkamati vā tiṭṭhati vā nisīdati vā seyyaṃ vā kappeti. Suññanti kenaci anākiṇṇaṃ hoti gahaṭṭhehi vā pabbajitehi vā. Agāranti 7 vihāro aḍḍhayogo pāsādo hammiyaṃ guhā. Nisīdati pallaṅkaṃ ābhujitvāti nisinno hoti pallaṅkaṃ ābhujitvā . Ujuṃ kāyaṃ paṇidhāyāti ujuko hoti kāyo ṭhito 8 supaṇihito. Parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvāti. Parīti pariggahaṭṭho. Mukhanti niyyānaṭṭho. Satīti upaṭṭhānaṭṭho. Tena vuccati – ‘‘parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā’’ti.

    ๑๖๕. สโตว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสตีติ พาตฺติํสาย อากาเรหิ สโต การี โหติฯ ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สโต การี โหติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สโต การี โหติฯ รสฺสํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สโต การี โหติฯ รสฺสํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สโต การี โหติ…เป.… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสน ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สโต การี โหติฯ

    165.Satova assasati, sato passasatīti bāttiṃsāya ākārehi sato kārī hoti. Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sato kārī hoti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sato kārī hoti. Rassaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sato kārī hoti. Rassaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sato kārī hoti…pe… paṭinissaggānupassī assāsavasena paṭinissaggānupassī passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sato kārī hoti.

    ปฐมจตุกฺกนิเทฺทโส

    Paṭhamacatukkaniddeso

    ๑๖๖. กถํ ทีฆํ อสฺสสโนฺต ‘‘ทีฆํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติ, ทีฆํ ปสฺสสโนฺต ‘‘ทีฆํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ? ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉโนฺท อุปฺปชฺชติฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติฯ ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสาปิ จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ อิเมหิ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโยฯ อุปฎฺฐานํ สติฯ อนุปสฺสนา ญาณํฯ กาโย อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    166. Kathaṃ dīghaṃ assasanto ‘‘dīghaṃ assasāmī’’ti pajānāti, dīghaṃ passasanto ‘‘dīghaṃ passasāmī’’ti pajānāti? Dīghaṃ assāsaṃ addhānasaṅkhāte assasati, dīghaṃ passāsaṃ addhānasaṅkhāte passasati, dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatopi passasatopi chando uppajjati. Chandavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsaṃ addhānasaṅkhāte assasati, chandavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ passāsaṃ addhānasaṅkhāte passasati, chandavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Chandavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatopi passasatopi pāmojjaṃ uppajjati. Pāmojjavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsaṃ addhānasaṅkhāte assasati, pāmojjavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ passāsaṃ addhānasaṅkhāte passasati, pāmojjavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Pāmojjavasena tato sukhumataraṃ dīghaṃ assāsapassāsaṃ addhānasaṅkhāte assasatopi passasatopi dīghaṃ assāsapassāsāpi cittaṃ vivattati, upekkhā saṇṭhāti. Imehi navahākārehi dīghaṃ assāsapassāsā kāyo. Upaṭṭhānaṃ sati. Anupassanā ñāṇaṃ. Kāyo upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ kāyaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘kāye kāyānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    ๑๖๗. อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ กายํ อนุปสฺสติ? อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโตฯ ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโตฯ อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโตฯ นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติฯ วิรชฺชติ, โน รชฺชติฯ นิโรเธติ, โน สมุเทติฯ ปฎินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติฯ อนิจฺจโต อนุปสฺสโนฺต นิจฺจสญฺญํ ปชหติฯ ทุกฺขโต อนุปสฺสโนฺต สุขสญฺญํ ปชหติฯ อนตฺตโต อนุปสฺสโนฺต อตฺตสญฺญํ ปชหติฯ นิพฺพินฺทโนฺต นนฺทิํ ปชหติฯ วิรชฺชโนฺต ราคํ ปชหติฯ นิโรเธโนฺต สมุทยํ ปชหติฯ ปฎินิสฺสชฺชโนฺต อาทานํ ปชหติฯ เอวํ ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ

    167.Anupassatīti kathaṃ taṃ kāyaṃ anupassati? Aniccato anupassati, no niccato. Dukkhato anupassati, no sukhato. Anattato anupassati, no attato. Nibbindati, no nandati. Virajjati, no rajjati. Nirodheti, no samudeti. Paṭinissajjati, no ādiyati. Aniccato anupassanto niccasaññaṃ pajahati. Dukkhato anupassanto sukhasaññaṃ pajahati. Anattato anupassanto attasaññaṃ pajahati. Nibbindanto nandiṃ pajahati. Virajjanto rāgaṃ pajahati. Nirodhento samudayaṃ pajahati. Paṭinissajjanto ādānaṃ pajahati. Evaṃ taṃ kāyaṃ anupassati.

    ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา – ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนเฎฺฐน ภาวนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสเฎฺฐน ภาวนา, ตทุปควีริยวาหนเฎฺฐน ภาวนา, อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ วิทิตา สญฺญา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ

    Bhāvanāti catasso bhāvanā – tattha jātānaṃ dhammānaṃ anativattanaṭṭhena bhāvanā, indriyānaṃ ekarasaṭṭhena bhāvanā, tadupagavīriyavāhanaṭṭhena bhāvanā, āsevanaṭṭhena bhāvanā. Dīghaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti. Viditā saññā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti. Viditā vitakkā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti.

    กถํ วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ? กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ? อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโยติ – ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ ตณฺหาสมุทยา เวทนาสมุทโยติ… กมฺมสมุทยา เวทนาสมุทโยติ… ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสโตปิ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ

    Kathaṃ viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti? Kathaṃ vedanāya uppādo vidito hoti? Avijjāsamudayā vedanāsamudayoti – paccayasamudayaṭṭhena vedanāya uppādo vidito hoti. Taṇhāsamudayā vedanāsamudayoti… kammasamudayā vedanāsamudayoti… phassasamudayā vedanāsamudayoti paccayasamudayaṭṭhena vedanāya uppādo vidito hoti. Nibbattilakkhaṇaṃ passatopi vedanāya uppādo vidito hoti. Evaṃ vedanāya uppādo vidito hoti.

    กถํ เวทนาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ อนตฺตโต มนสิกโรโต สุญฺญตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ เอวํ เวทนาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ

    Kathaṃ vedanāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti? Aniccato manasikaroto khayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Dukkhato manasikaroto bhayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Anattato manasikaroto suññatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Evaṃ vedanāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti.

    กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธติ – ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ ตณฺหานิโรธา เวทนานิโรโธติ …เป.… กมฺมนิโรธา เวทนานิโรโธติ…เป.… ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสโตปิ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ

    Kathaṃ vedanāya atthaṅgamo vidito hoti? Avijjānirodhā vedanānirodhoti – paccayanirodhaṭṭhena vedanāya atthaṅgamo vidito hoti. Taṇhānirodhā vedanānirodhoti …pe… kammanirodhā vedanānirodhoti…pe… phassanirodhā vedanānirodhoti paccayanirodhaṭṭhena vedanāya atthaṅgamo vidito hoti. Vipariṇāmalakkhaṇaṃ passatopi vedanāya atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ vedanāya atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti.

    กถํ วิทิตา สญฺญา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ? กถํ สญฺญาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ? อวิชฺชาสมุทยา สญฺญาสมุทโยติ – ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน สญฺญาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ ตณฺหาสมุทยา สญฺญาสมุทโยติ…เป.… กมฺมสมุทยา สญฺญาสมุทโยติ…เป.… ผสฺสสมุทยา สญฺญาสมุทโยติ – ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน สญฺญาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสโตปิ สญฺญาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ เอวํ สญฺญาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ

    Kathaṃ viditā saññā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti? Kathaṃ saññāya uppādo vidito hoti? Avijjāsamudayā saññāsamudayoti – paccayasamudayaṭṭhena saññāya uppādo vidito hoti. Taṇhāsamudayā saññāsamudayoti…pe… kammasamudayā saññāsamudayoti…pe… phassasamudayā saññāsamudayoti – paccayasamudayaṭṭhena saññāya uppādo vidito hoti. Nibbattilakkhaṇaṃ passatopi saññāya uppādo vidito hoti. Evaṃ saññāya uppādo vidito hoti.

    กถํ สญฺญาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ อนตฺตโต มนสิกโรโต สุญฺญตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ เอวํ สญฺญาย อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ

    Kathaṃ saññāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti? Aniccato manasikaroto khayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Dukkhato manasikaroto bhayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Anattato manasikaroto suññatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Evaṃ saññāya upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti.

    กถํ สญฺญาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา สญฺญานิโรโธติ – ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน สญฺญาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ ตณฺหานิโรธา สญฺญานิโรโธติ…เป.… กมฺมนิโรธา สญฺญานิโรโธติ…เป.… ผสฺสนิโรธา สญฺญานิโรโธติ – ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน สญฺญาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสโตปิ สญฺญาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ สญฺญาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ วิทิตา สญฺญา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ

    Kathaṃ saññāya atthaṅgamo vidito hoti? Avijjānirodhā saññānirodhoti – paccayanirodhaṭṭhena saññāya atthaṅgamo vidito hoti. Taṇhānirodhā saññānirodhoti…pe… kammanirodhā saññānirodhoti…pe… phassanirodhā saññānirodhoti – paccayanirodhaṭṭhena saññāya atthaṅgamo vidito hoti. Vipariṇāmalakkhaṇaṃ passatopi saññāya atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ saññāya atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ viditā saññā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti.

    กถํ วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ? กถํ วิตกฺกานํ อุปฺปาโท วิทิโต โหติ? อวิชฺชาสมุทยา วิตกฺกสมุทโยติ – ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน วิตกฺกานํ อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ ตณฺหาสมุทยา วิตกฺกสมุทโยติ…เป.… กมฺมสมุทยา วิตกฺกสมุทโยติ…เป.… สญฺญาสมุทยา วิตกฺกสมุทโยติ – ปจฺจยสมุทยเฎฺฐน วิตกฺกานํ อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสโตปิ วิตกฺกานํ อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ เอวํ วิตกฺกานํ อุปฺปาโท วิทิโต โหติฯ

    Kathaṃ viditā vitakkā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti? Kathaṃ vitakkānaṃ uppādo vidito hoti? Avijjāsamudayā vitakkasamudayoti – paccayasamudayaṭṭhena vitakkānaṃ uppādo vidito hoti. Taṇhāsamudayā vitakkasamudayoti…pe… kammasamudayā vitakkasamudayoti…pe… saññāsamudayā vitakkasamudayoti – paccayasamudayaṭṭhena vitakkānaṃ uppādo vidito hoti. Nibbattilakkhaṇaṃ passatopi vitakkānaṃ uppādo vidito hoti. Evaṃ vitakkānaṃ uppādo vidito hoti.

    กถํ วิตกฺกานํ อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ อนตฺตโต มนสิกโรโต สุญฺญตุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ เอวํ วิตกฺกานํ อุปฎฺฐานํ วิทิตํ โหติฯ

    Kathaṃ vitakkānaṃ upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti? Aniccato manasikaroto khayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Dukkhato manasikaroto bhayatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Anattato manasikaroto suññatupaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti. Evaṃ vitakkānaṃ upaṭṭhānaṃ viditaṃ hoti.

    กถํ วิตกฺกานํ อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา วิตกฺกนิโรโธติ – ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน วิตกฺกานํ อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ ตณฺหานิโรธา วิตกฺกนิโรโธติ…เป.… กมฺมนิโรธา วิตกฺกนิโรโธติ…เป.… สญฺญานิโรธา วิตกฺกนิโรโธติ – ปจฺจยนิโรธเฎฺฐน วิตกฺกานํ อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสโตปิ วิตกฺกานํ อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ วิตกฺกานํ อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติฯ เอวํ วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ

    Kathaṃ vitakkānaṃ atthaṅgamo vidito hoti? Avijjānirodhā vitakkanirodhoti – paccayanirodhaṭṭhena vitakkānaṃ atthaṅgamo vidito hoti. Taṇhānirodhā vitakkanirodhoti…pe… kammanirodhā vitakkanirodhoti…pe… saññānirodhā vitakkanirodhoti – paccayanirodhaṭṭhena vitakkānaṃ atthaṅgamo vidito hoti. Vipariṇāmalakkhaṇaṃ passatopi vitakkānaṃ atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ vitakkānaṃ atthaṅgamo vidito hoti. Evaṃ viditā vitakkā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti.

    ๑๖๘. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ, โคจรญฺจ ปชานาติ, สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌติ…เป.… มคฺคํ สโมธาเนติ, ธเมฺม สโมธาเนติ, โคจรญฺจ ปชานาติ, สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌติฯ

    168. Dīghaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānanto indriyāni samodhāneti, gocarañca pajānāti, samatthañca paṭivijjhati…pe… maggaṃ samodhāneti, dhamme samodhāneti, gocarañca pajānāti, samatthañca paṭivijjhati.

    อินฺทฺริยานิ สโมธาเนตีติ กถํ อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ? อธิโมกฺขเฎฺฐน สทฺธินฺทฺริยํ สโมธาเนติ, ปคฺคหเฎฺฐน วีริยินฺทฺริยํ สโมธาเนติ, อุปฎฺฐานเฎฺฐน สตินฺทฺริยํ สโมธาเนติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน สมาธินฺทฺริยํ สโมธาเนติ, ทสฺสนเฎฺฐน ปญฺญินฺทฺริยํ สโมธาเนติฯ อยํ ปุคฺคโล อิมานิ อินฺทฺริยานิ อิมสฺมิํ อารมฺมเณ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘อินฺทฺริยานิ สโมธาเนตี’’ติฯ

    Indriyāni samodhānetīti kathaṃ indriyāni samodhāneti? Adhimokkhaṭṭhena saddhindriyaṃ samodhāneti, paggahaṭṭhena vīriyindriyaṃ samodhāneti, upaṭṭhānaṭṭhena satindriyaṃ samodhāneti, avikkhepaṭṭhena samādhindriyaṃ samodhāneti, dassanaṭṭhena paññindriyaṃ samodhāneti. Ayaṃ puggalo imāni indriyāni imasmiṃ ārammaṇe samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘indriyāni samodhānetī’’ti.

    โคจรญฺจ ปชานาตีติ ยํ ตสฺส อารมฺมณํ, ตํ ตสฺส โคจรํฯ ยํ ตสฺส โคจรํ, ตํ ตสฺส อารมฺมณํฯ ปชานาตีติ ปุคฺคโลฯ ปชานนา ปญฺญาฯ

    Gocarañca pajānātīti yaṃ tassa ārammaṇaṃ, taṃ tassa gocaraṃ. Yaṃ tassa gocaraṃ, taṃ tassa ārammaṇaṃ. Pajānātīti puggalo. Pajānanā paññā.

    สมนฺติ อารมฺมณสฺส อุปฎฺฐานํ สมํ, จิตฺตสฺส อวิเกฺขโป สมํ, จิตฺตสฺส อธิฎฺฐานํ สมํ, จิตฺตสฺส โวทานํ สมํฯ อโตฺถติ อนวชฺชโฎฺฐ นิกฺกิเลสโฎฺฐ โวทานโฎฺฐ ปรมโฎฺฐฯ ปฎิวิชฺฌตีติ อารมฺมณสฺส อุปฎฺฐานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส อวิเกฺขปฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส อธิฎฺฐานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส โวทานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Samanti ārammaṇassa upaṭṭhānaṃ samaṃ, cittassa avikkhepo samaṃ, cittassa adhiṭṭhānaṃ samaṃ, cittassa vodānaṃ samaṃ. Atthoti anavajjaṭṭho nikkilesaṭṭho vodānaṭṭho paramaṭṭho. Paṭivijjhatīti ārammaṇassa upaṭṭhānaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa avikkhepaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa adhiṭṭhānaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa vodānaṭṭhaṃ paṭivijjhati. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    พลานิ สโมธาเนตีติ กถํ พลานิ สโมธาเนติ? อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยเฎฺฐน สทฺธาพลํ สโมธาเนติ, โกสเชฺช อกมฺปิยเฎฺฐน วีริยพลํ สโมธาเนติ, ปมาเท อกมฺปิยเฎฺฐน สติพลํ สโมธาเนติ, อุทฺธเจฺจ อกมฺปิยเฎฺฐน สมาธิพลํ สโมธาเนติ , อวิชฺชาย อกมฺปิยเฎฺฐน ปญฺญาพลํ สโมธาเนติฯ อยํ ปุคฺคโล อิมานิ พลานิ อิมสฺมิํ อารมฺมเณ สโมธาเนติ ฯ เตน วุจฺจติ – พลานิ สโมธาเนตีติฯ โคจรญฺจ ปชานาตีติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Balāni samodhānetīti kathaṃ balāni samodhāneti? Assaddhiye akampiyaṭṭhena saddhābalaṃ samodhāneti, kosajje akampiyaṭṭhena vīriyabalaṃ samodhāneti, pamāde akampiyaṭṭhena satibalaṃ samodhāneti, uddhacce akampiyaṭṭhena samādhibalaṃ samodhāneti , avijjāya akampiyaṭṭhena paññābalaṃ samodhāneti. Ayaṃ puggalo imāni balāni imasmiṃ ārammaṇe samodhāneti . Tena vuccati – balāni samodhānetīti. Gocarañca pajānātīti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    โพชฺฌเงฺค สโมธาเนตีติ กถํ โพชฺฌเงฺค สโมธาเนติ? อุปฎฺฐานเฎฺฐน สติสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, ปวิจยเฎฺฐน ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, ปคฺคหเฎฺฐน วีริยสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, ผรณเฎฺฐน ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, อุปสมเฎฺฐน ปสฺสทฺธิสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน สมาธิสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติ, ปฎิสงฺขานเฎฺฐน อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคํ สโมธาเนติฯ อยํ ปุคฺคโล อิเม โพชฺฌเงฺค อิมสฺมิํ อารมฺมเณ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘โพชฺฌเงฺค สโมธาเนตี’’ติฯ โคจรญฺจ ปชานาตีติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Bojjhaṅgesamodhānetīti kathaṃ bojjhaṅge samodhāneti? Upaṭṭhānaṭṭhena satisambojjhaṅgaṃ samodhāneti, pavicayaṭṭhena dhammavicayasambojjhaṅgaṃ samodhāneti, paggahaṭṭhena vīriyasambojjhaṅgaṃ samodhāneti, pharaṇaṭṭhena pītisambojjhaṅgaṃ samodhāneti, upasamaṭṭhena passaddhisambojjhaṅgaṃ samodhāneti, avikkhepaṭṭhena samādhisambojjhaṅgaṃ samodhāneti, paṭisaṅkhānaṭṭhena upekkhāsambojjhaṅgaṃ samodhāneti. Ayaṃ puggalo ime bojjhaṅge imasmiṃ ārammaṇe samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘bojjhaṅge samodhānetī’’ti. Gocarañca pajānātīti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    มคฺคํ สโมธาเนตีติ กถํ มคฺคํ สโมธาเนติ? ทสฺสนเฎฺฐน สมฺมาทิฎฺฐิํ สโมธาเนติ, อภินิโรปนเฎฺฐน สมฺมาสงฺกปฺปํ สโมธาเนติ, ปริคฺคหเฎฺฐน สมฺมาวาจํ สโมธาเนติ, สมุฎฺฐานเฎฺฐน สมฺมากมฺมนฺตํ สโมธาเนติ, โวทานเฎฺฐน สมฺมาอาชีวํ สโมธาเนติ, ปคฺคหเฎฺฐน สมฺมาวายามํ สโมธาเนติ, อุปฎฺฐานเฎฺฐน สมฺมาสติํ สโมธาเนติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน สมฺมาสมาธิํ สโมธาเนติฯ อยํ ปุคฺคโล อิมํ มคฺคํ อิมสฺมิํ อารมฺมเณ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘มคฺคํ สโมธาเนตี’’ติฯ โคจรญฺจ ปชานาตีติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Maggaṃ samodhānetīti kathaṃ maggaṃ samodhāneti? Dassanaṭṭhena sammādiṭṭhiṃ samodhāneti, abhiniropanaṭṭhena sammāsaṅkappaṃ samodhāneti, pariggahaṭṭhena sammāvācaṃ samodhāneti, samuṭṭhānaṭṭhena sammākammantaṃ samodhāneti, vodānaṭṭhena sammāājīvaṃ samodhāneti, paggahaṭṭhena sammāvāyāmaṃ samodhāneti, upaṭṭhānaṭṭhena sammāsatiṃ samodhāneti, avikkhepaṭṭhena sammāsamādhiṃ samodhāneti. Ayaṃ puggalo imaṃ maggaṃ imasmiṃ ārammaṇe samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘maggaṃ samodhānetī’’ti. Gocarañca pajānātīti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ธเมฺม สโมธาเนตีติ กถํ ธเมฺม สโมธาเนติ? อาธิปเตยฺยเฎฺฐน อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ, อกมฺปิยเฎฺฐน พลานิ สโมธาเนติ, นิยฺยานเฎฺฐน โพชฺฌเงฺค สโมธาเนติ, เหตุเฎฺฐน มคฺคํ สโมธาเนติ, อุปฎฺฐานเฎฺฐน สติปฎฺฐานํ สโมธาเนติ, ปทหนเฎฺฐน สมฺมปฺปธานํ สโมธาเนติ, อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิปาทํ สโมธาเนติ ตถเฎฺฐน สจฺจํ สโมธาเนติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน สมถํ สโมธาเนติ, อนุปสฺสนเฎฺฐน วิปสฺสนํ สโมธาเนติ, เอกรสเฎฺฐน สมถวิปสฺสนํ สโมธาเนติ, อนติวตฺตนเฎฺฐน ยุคนทฺธํ สโมธาเนติ, สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิํ สโมธาเนติ, อวิเกฺขปเฎฺฐน จิตฺตวิสุทฺธิํ สโมธาเนติ, ทสฺสนเฎฺฐน ทิฎฺฐิวิสุทฺธิํ สโมธาเนติ, วิมุตฺตเฎฺฐน วิโมกฺขํ สโมธาเนติ , ปฎิเวธเฎฺฐน วิชฺชํ สโมธาเนติ, ปริจฺจาคเฎฺฐน วิมุตฺติํ สโมธาเนติ, สมุเจฺฉทเฎฺฐน ขเย ญาณํ สโมธาเนติ , ปฎิปฺปสฺสทฺธเฎฺฐน อนุปฺปาเท ญาณํ สโมธาเนติ, ฉนฺทํ มูลเฎฺฐน สโมธาเนติ, มนสิการํ สมุฎฺฐานเฎฺฐน สโมธาเนติ, ผสฺสํ สโมธานเฎฺฐน สโมธาเนติ, เวทนํ สโมสรณเฎฺฐน สโมธาเนติ, สมาธิํ ปมุขเฎฺฐน สโมธาเนติ, สติํ อาธิปเตยฺยเฎฺฐน สโมธาเนติ, ปญฺญํ ตตุตฺตรเฎฺฐน สโมธาเนติ, วิมุตฺติํ สารเฎฺฐน สโมธาเนติ, อมโตคธํ นิพฺพานํ ปริโยสานเฎฺฐน สโมธาเนติฯ อยํ ปุคฺคโล อิเม ธเมฺม อิมสฺมิํ อารมฺมเณ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺม สโมธาเนตี’’ติฯ

    Dhamme samodhānetīti kathaṃ dhamme samodhāneti? Ādhipateyyaṭṭhena indriyāni samodhāneti, akampiyaṭṭhena balāni samodhāneti, niyyānaṭṭhena bojjhaṅge samodhāneti, hetuṭṭhena maggaṃ samodhāneti, upaṭṭhānaṭṭhena satipaṭṭhānaṃ samodhāneti, padahanaṭṭhena sammappadhānaṃ samodhāneti, ijjhanaṭṭhena iddhipādaṃ samodhāneti tathaṭṭhena saccaṃ samodhāneti, avikkhepaṭṭhena samathaṃ samodhāneti, anupassanaṭṭhena vipassanaṃ samodhāneti, ekarasaṭṭhena samathavipassanaṃ samodhāneti, anativattanaṭṭhena yuganaddhaṃ samodhāneti, saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhiṃ samodhāneti, avikkhepaṭṭhena cittavisuddhiṃ samodhāneti, dassanaṭṭhena diṭṭhivisuddhiṃ samodhāneti, vimuttaṭṭhena vimokkhaṃ samodhāneti , paṭivedhaṭṭhena vijjaṃ samodhāneti, pariccāgaṭṭhena vimuttiṃ samodhāneti, samucchedaṭṭhena khaye ñāṇaṃ samodhāneti , paṭippassaddhaṭṭhena anuppāde ñāṇaṃ samodhāneti, chandaṃ mūlaṭṭhena samodhāneti, manasikāraṃ samuṭṭhānaṭṭhena samodhāneti, phassaṃ samodhānaṭṭhena samodhāneti, vedanaṃ samosaraṇaṭṭhena samodhāneti, samādhiṃ pamukhaṭṭhena samodhāneti, satiṃ ādhipateyyaṭṭhena samodhāneti, paññaṃ tatuttaraṭṭhena samodhāneti, vimuttiṃ sāraṭṭhena samodhāneti, amatogadhaṃ nibbānaṃ pariyosānaṭṭhena samodhāneti. Ayaṃ puggalo ime dhamme imasmiṃ ārammaṇe samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘dhamme samodhānetī’’ti.

    โคจรญฺจ ปชานาตีติ ยํ ตสฺส อารมฺมณํ, ตํ ตสฺส โคจรํฯ ยํ ตสฺส โคจรํ, ตํ ตสฺส อารมฺมณํ ปชานาตีติ ปุคฺคโลฯ ปชานนา ปญฺญาฯ สมนฺติ อารมฺมณสฺส อุปฎฺฐานํ สมํ, จิตฺตสฺส อวิเกฺขโป สมํ, จิตฺตสฺส อธิฎฺฐานํ สมํ, จิตฺตสฺส โวทานํ สมํฯ อโตฺถติ อนวชฺชโฎฺฐ นิกฺกิเลสโฎฺฐ โวทานโฎฺฐ ปรมโฎฺฐฯ ปฎิวิชฺฌตีติ อารมฺมณสฺส อุปฎฺฐานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส อวิเกฺขปฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส อธิฎฺฐานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติ, จิตฺตสฺส โวทานฎฺฐํ ปฎิวิชฺฌติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Gocarañca pajānātīti yaṃ tassa ārammaṇaṃ, taṃ tassa gocaraṃ. Yaṃ tassa gocaraṃ, taṃ tassa ārammaṇaṃ pajānātīti puggalo. Pajānanā paññā. Samanti ārammaṇassa upaṭṭhānaṃ samaṃ, cittassa avikkhepo samaṃ, cittassa adhiṭṭhānaṃ samaṃ, cittassa vodānaṃ samaṃ. Atthoti anavajjaṭṭho nikkilesaṭṭho vodānaṭṭho paramaṭṭho. Paṭivijjhatīti ārammaṇassa upaṭṭhānaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa avikkhepaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa adhiṭṭhānaṭṭhaṃ paṭivijjhati, cittassa vodānaṭṭhaṃ paṭivijjhati. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๖๙. กถํ รสฺสํ อสฺสสโนฺต ‘‘รสฺสํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติ, รสฺสํ ปสฺสสโนฺต ‘‘รสฺสํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ? รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติ, รสฺสํ ปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต ปสฺสสติ, รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉโนฺท อุปฺปชฺชติฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ ปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต ปสฺสสติฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติฯ ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ ปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต ปสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิฯ ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ รสฺสา อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ อิเมหิ นวหากาเรหิ รสฺสา อสฺสาสปสฺสาสา กาโย อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ กาโย อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    169. Kathaṃ rassaṃ assasanto ‘‘rassaṃ assasāmī’’ti pajānāti, rassaṃ passasanto ‘‘rassaṃ passasāmī’’ti pajānāti? Rassaṃ assāsaṃ ittarasaṅkhāte assasati, rassaṃ passāsaṃ ittarasaṅkhāte passasati, rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatopi passasatopi chando uppajjati. Chandavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsaṃ ittarasaṅkhāte assasati. Chandavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ passāsaṃ ittarasaṅkhāte passasati. Chandavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Chandavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatopi passasatopi pāmojjaṃ uppajjati. Pāmojjavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsaṃ ittarasaṅkhāte assasati, pāmojjavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ passāsaṃ ittarasaṅkhāte passasati, pāmojjavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatipi passasatipi. Pāmojjavasena tato sukhumataraṃ rassaṃ assāsapassāsaṃ ittarasaṅkhāte assasatopi passasatopi rassā assāsapassāsā cittaṃ vivattati, upekkhā saṇṭhāti. Imehi navahākārehi rassā assāsapassāsā kāyo upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Kāyo upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ kāyaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘kāye kāyānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ กายํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ…เป.… รสฺสํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ kāyaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ kāyaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Rassaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato viditā vedanā uppajjanti…pe… rassaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānanto indriyāni samodhāneti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๐. กถํ ‘‘สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กาโยติ เทฺว กายา – นามกาโย จ รูปกาโย จฯ กตโม นามกาโย? เวทนา, สญฺญา, เจตนา, ผโสฺส, มนสิกาโร, นามญฺจ นามกาโย จ, เย จ วุจฺจนฺติ จิตฺตสงฺขารา – อยํ นามกาโยฯ กตโม รูปกาโย? จตฺตาโร จ มหาภูตา, จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ, อสฺสาโส จ ปสฺสาโส จ, นิมิตฺตญฺจ อุปนิพนฺธนา, เย จ วุจฺจนฺติ กายสงฺขารา – อยํ รูปกาโยฯ

    170. Kathaṃ ‘‘sabbakāyapaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘sabbakāyapaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati? Kāyoti dve kāyā – nāmakāyo ca rūpakāyo ca. Katamo nāmakāyo? Vedanā, saññā, cetanā, phasso, manasikāro, nāmañca nāmakāyo ca, ye ca vuccanti cittasaṅkhārā – ayaṃ nāmakāyo. Katamo rūpakāyo? Cattāro ca mahābhūtā, catunnañca mahābhūtānaṃ upādāyarūpaṃ, assāso ca passāso ca, nimittañca upanibandhanā, ye ca vuccanti kāyasaṅkhārā – ayaṃ rūpakāyo.

    กถํ เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ รสฺสํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ รสฺสํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ

    Kathaṃ te kāyā paṭividitā honti? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te kāyā paṭividitā honti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te kāyā paṭividitā honti. Rassaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te kāyā paṭividitā honti. Rassaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te kāyā paṭividitā honti.

    อาวชฺชโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปชานโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปสฺสโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปจฺจเวกฺขโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, จิตฺตํ อธิฎฺฐหโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, สทฺธาย อธิมุจฺจโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, วีริยํ ปคฺคณฺหโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, สติํ อุปฎฺฐาปยโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, จิตฺตํ สมาทหโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปญฺญาย ปชานโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ปหาตพฺพํ ปชหโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, ภาเวตพฺพํ ภาวยโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติ, สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ เอวํ เต กายา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสา กาโย อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ กาโย อุปฎฺฐานํ, โน สติฯ สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Āvajjato te kāyā paṭividitā honti, pajānato te kāyā paṭividitā honti, passato te kāyā paṭividitā honti, paccavekkhato te kāyā paṭividitā honti, cittaṃ adhiṭṭhahato te kāyā paṭividitā honti, saddhāya adhimuccato te kāyā paṭividitā honti, vīriyaṃ paggaṇhato te kāyā paṭividitā honti, satiṃ upaṭṭhāpayato te kāyā paṭividitā honti, cittaṃ samādahato te kāyā paṭividitā honti, paññāya pajānato te kāyā paṭividitā honti, abhiññeyyaṃ abhijānato te kāyā paṭividitā honti, pariññeyyaṃ parijānato te kāyā paṭividitā honti, pahātabbaṃ pajahato te kāyā paṭividitā honti, bhāvetabbaṃ bhāvayato te kāyā paṭividitā honti, sacchikātabbaṃ sacchikaroto te kāyā paṭividitā honti. Evaṃ te kāyā paṭividitā honti. Sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsapassāsā kāyo upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Kāyo upaṭṭhānaṃ, no sati. Sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ kāyaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘kāye kāyānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ กายํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ kāyaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ kāyaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā.

    สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ 9 สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ, อวิเกฺขปเฎฺฐน จิตฺตวิสุทฺธิ, ทสฺสนเฎฺฐน ทิฎฺฐิวิสุทฺธิฯ โย ตตฺถ สํวรโฎฺฐ, อยํ อธิสีลสิกฺขาฯ โย ตตฺถ อวิเกฺขปโฎฺฐ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขาฯ โย ตตฺถ ทสฺสนโฎฺฐ, อยํ อธิปญฺญาสิกฺขาฯ อิมา ติโสฺส สิกฺขาโย อาวชฺชโนฺต สิกฺขติ, ชานโนฺต สิกฺขติ, ปสฺสโนฺต สิกฺขติ, ปจฺจเวกฺขโนฺต สิกฺขติ, จิตฺตํ อธิฎฺฐหโนฺต สิกฺขติ, สทฺธาย อธิมุจฺจโนฺต สิกฺขติ, วีริยํ ปคฺคณฺหโนฺต สิกฺขติ, สติํ อุปฎฺฐเปโนฺต สิกฺขติ, จิตฺตํ สมาทหโนฺต สิกฺขติ, ปญฺญาย ปชานโนฺต สิกฺขติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต สิกฺขติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต สิกฺขติ, ปหาตพฺพํ ปชหโนฺต สิกฺขติ, ภาเวตพฺพํ ภาเวโนฺต สิกฺขติ, สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโนฺต สิกฺขติฯ

    Sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsapassāsānaṃ 10 saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi, avikkhepaṭṭhena cittavisuddhi, dassanaṭṭhena diṭṭhivisuddhi. Yo tattha saṃvaraṭṭho, ayaṃ adhisīlasikkhā. Yo tattha avikkhepaṭṭho, ayaṃ adhicittasikkhā. Yo tattha dassanaṭṭho, ayaṃ adhipaññāsikkhā. Imā tisso sikkhāyo āvajjanto sikkhati, jānanto sikkhati, passanto sikkhati, paccavekkhanto sikkhati, cittaṃ adhiṭṭhahanto sikkhati, saddhāya adhimuccanto sikkhati, vīriyaṃ paggaṇhanto sikkhati, satiṃ upaṭṭhapento sikkhati, cittaṃ samādahanto sikkhati, paññāya pajānanto sikkhati, abhiññeyyaṃ abhijānanto sikkhati, pariññeyyaṃ parijānanto sikkhati, pahātabbaṃ pajahanto sikkhati, bhāvetabbaṃ bhāvento sikkhati, sacchikātabbaṃ sacchikaronto sikkhati.

    สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ…เป.… สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato viditā vedanā uppajjanti…pe… sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānanto indriyāni samodhāneti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๑. กถํ ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตโม กายสงฺขาโร? ทีฆํ อสฺสาสา กายิกาฯ เอเต ธมฺมา กายปฎิพทฺธา กายสงฺขาราฯ เต กายสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ ทีฆํ ปสฺสาสา กายิกาฯ เอเต ธมฺมา กายปฎิพทฺธา กายสงฺขาราฯ เต กายสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ รสฺสํ อสฺสาสา รสฺสํ ปสฺสาสาฯ สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสา สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสาสา กายิกาฯ เอเต ธมฺมา กายปฎิพทฺธา กายสงฺขาราฯ เต กายสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ

    171. Kathaṃ ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmī’’ti sikkhati? Katamo kāyasaṅkhāro? Dīghaṃ assāsā kāyikā. Ete dhammā kāyapaṭibaddhā kāyasaṅkhārā. Te kāyasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati. Dīghaṃ passāsā kāyikā. Ete dhammā kāyapaṭibaddhā kāyasaṅkhārā. Te kāyasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati. Rassaṃ assāsā rassaṃ passāsā. Sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsā sabbakāyapaṭisaṃvedī passāsā kāyikā. Ete dhammā kāyapaṭibaddhā kāyasaṅkhārā. Te kāyasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati.

    ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส อานมนา วินมนา สนฺนมนา ปณมนา อิญฺชนา ผนฺทนา จลนา ปกมฺปนา – ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติฯ ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส น อานมนา น วินมนา น สนฺนมนา น ปณมนา อนิญฺชนา อผนฺทนา อจลนา อกมฺปนา สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติฯ

    Yathārūpehi kāyasaṅkhārehi yā kāyassa ānamanā vinamanā sannamanā paṇamanā iñjanā phandanā calanā pakampanā – passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmīti sikkhati, passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmīti sikkhati. Yathārūpehi kāyasaṅkhārehi yā kāyassa na ānamanā na vinamanā na sannamanā na paṇamanā aniñjanā aphandanā acalanā akampanā santaṃ sukhumaṃ passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmīti sikkhati, passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmīti sikkhati.

    อิติ กิร ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ เอวํ สเนฺต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานญฺจ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา น โหติ; น จ นํ ตํ สมาปตฺติํ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฎฺฐหนฺติปิฯ

    Iti kira ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmī’’ti sikkhati. Evaṃ sante vātūpaladdhiyā ca pabhāvanā na hoti, assāsapassāsānañca pabhāvanā na hoti, ānāpānassatiyā ca pabhāvanā na hoti, ānāpānassatisamādhissa ca pabhāvanā na hoti; na ca naṃ taṃ samāpattiṃ paṇḍitā samāpajjantipi vuṭṭhahantipi.

    อิติ กิร ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ เอวํ สเนฺต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานญฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติฯ อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ; ตญฺจ นํ สมาปตฺติํ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฎฺฐหนฺติปิฯ ยถา กถํ วิย? เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฎิเต ปฐมํ โอฬาริกา สทฺทา ปวตฺตนฺติฯ โอฬาริกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุเทฺธปิ โอฬาริเก สเทฺท, อถ ปจฺฉา สุขุมกา สทฺทา ปวตฺตนฺติฯ สุขุมกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุเทฺธปิ สุขุมเก สเทฺท, อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ ปวตฺตติฯ เอวเมวํ ปฐมํ โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ; โอฬาริกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุเทฺธปิ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส, อถ ปจฺฉา สุขุมกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติฯ สุขุมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุเทฺธปิ สุขุมเก อสฺสาสปสฺสาเส, อถ ปจฺฉา สุขุมกอสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ น วิเกฺขปํ คจฺฉติฯ

    Iti kira ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmī’’ti sikkhati. Evaṃ sante vātūpaladdhiyā ca pabhāvanā hoti, assāsapassāsānañca pabhāvanā hoti, ānāpānassatiyā ca pabhāvanā hoti. Ānāpānassatisamādhissa ca pabhāvanā hoti; tañca naṃ samāpattiṃ paṇḍitā samāpajjantipi vuṭṭhahantipi. Yathā kathaṃ viya? Seyyathāpi kaṃse ākoṭite paṭhamaṃ oḷārikā saddā pavattanti. Oḷārikānaṃ saddānaṃ nimittaṃ suggahitattā sumanasikatattā sūpadhāritattā niruddhepi oḷārike sadde, atha pacchā sukhumakā saddā pavattanti. Sukhumakānaṃ saddānaṃ nimittaṃ suggahitattā sumanasikatattā sūpadhāritattā niruddhepi sukhumake sadde, atha pacchā sukhumasaddanimittārammaṇatāpi cittaṃ pavattati. Evamevaṃ paṭhamaṃ oḷārikā assāsapassāsā pavattanti; oḷārikānaṃ assāsapassāsānaṃ nimittaṃ suggahitattā sumanasikatattā sūpadhāritattā niruddhepi oḷārike assāsapassāse, atha pacchā sukhumakā assāsapassāsā pavattanti. Sukhumakānaṃ assāsapassāsānaṃ nimittaṃ suggahitattā sumanasikatattā sūpadhāritattā niruddhepi sukhumake assāsapassāse, atha pacchā sukhumakaassāsapassāsānaṃ nimittārammaṇatāpi cittaṃ na vikkhepaṃ gacchati.

    เอวํ สเนฺต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานญฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ; ตญฺจ นํ สมาปตฺติํ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฎฺฐหนฺติปิฯ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ กาโย อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Evaṃ sante vātūpaladdhiyā ca pabhāvanā hoti, assāsapassāsānañca pabhāvanā hoti, ānāpānassatiyā ca pabhāvanā hoti, ānāpānassatisamādhissa ca pabhāvanā hoti; tañca naṃ samāpattiṃ paṇḍitā samāpajjantipi vuṭṭhahantipi. Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assāsapassāsā kāyo upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Kāyo upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ kāyaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘kāye kāyānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ กายํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ กายํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ, อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ, อวิเกฺขปเฎฺฐน จิตฺตวิสุทฺธิ, ทสฺสนเฎฺฐน ทิฎฺฐิวิสุทฺธิฯ โย ตตฺถ สํวรโฎฺฐ, อยํ อธิสีลสิกฺขา; โย ตตฺถ อวิเกฺขปโฎฺฐ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา; โย ตตฺถ ทสฺสนโฎฺฐ อยํ อธิปญฺญาสิกฺขาฯ อิมา ติโสฺส สิกฺขาโย อาวชฺชโนฺต สิกฺขติ…เป.… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโนฺต สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ…เป.… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ kāyaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ kāyaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ, assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi, avikkhepaṭṭhena cittavisuddhi, dassanaṭṭhena diṭṭhivisuddhi. Yo tattha saṃvaraṭṭho, ayaṃ adhisīlasikkhā; yo tattha avikkhepaṭṭho, ayaṃ adhicittasikkhā; yo tattha dassanaṭṭho ayaṃ adhipaññāsikkhā. Imā tisso sikkhāyo āvajjanto sikkhati…pe… sacchikātabbaṃ sacchikaronto sikkhati, passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato viditā vedanā uppajjanti…pe… passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānanto indriyāni samodhāneti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    อฎฺฐ อนุปสฺสนาญาณานิ, อฎฺฐ จ อุปฎฺฐานานุสฺสติโย , จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ กาเย กายานุปสฺสนายฯ

    Aṭṭha anupassanāñāṇāni, aṭṭha ca upaṭṭhānānussatiyo , cattāri suttantikavatthūni kāye kāyānupassanāya.

    ภาณวาโรฯ

    Bhāṇavāro.

    ทุติยจตุกฺกนิเทฺทโส

    Dutiyacatukkaniddeso

    ๑๗๒. กถํ ‘‘ปีติปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ ‘‘ปีติปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตมา ปีติ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ ปีติ ปาโมชฺชํฯ ยา ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺติ โอทคฺยํ อตฺตมนตาฯ จิตฺตสฺส ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ ปีติ ปาโมชฺชํ…เป.… รสฺสํ อสฺสาสวเสน, รสฺสํ ปสฺสาสวเสน, สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสวเสน, สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสาสวเสน, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสวเสน, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ ปีติ ปาโมชฺชํฯ ยา ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺติ โอทคฺยํ อตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ ปีติฯ

    172. Kathaṃ ‘‘pītipaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati ‘‘pītipaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati? Katamā pīti? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati pīti pāmojjaṃ. Yā pīti pāmojjaṃ āmodanā pamodanā hāso pahāso vitti odagyaṃ attamanatā. Cittassa dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati pīti pāmojjaṃ…pe… rassaṃ assāsavasena, rassaṃ passāsavasena, sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsavasena, sabbakāyapaṭisaṃvedī passāsavasena, passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assāsavasena, passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati pīti pāmojjaṃ. Yā pīti pāmojjaṃ āmodanā pamodanā hāso pahāso vitti odagyaṃ attamanatā cittassa – ayaṃ pīti.

    กถํ สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติ? ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติฯ รสฺสํ อสฺสาสวเสน…เป.… รสฺสํ ปสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติฯ อาวชฺชโต สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติ, ชานโต…เป.… ปสฺสโต… ปจฺจเวกฺขโต… จิตฺตํ อธิฎฺฐหโต… สทฺธาย อธิมุจฺจโต… วีริยํ ปคฺคณฺหโต… สติํ อุปฎฺฐาปยโต… จิตฺตํ สมาทหโต… ปญฺญาย ปชานโต… อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโต… ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโต… ปหาตพฺพํ ปชหโต… ภาเวตพฺพํ ภาวยโต… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติฯ เอวํ สา ปีติ ปฎิวิทิตา โหติฯ

    Kathaṃ sā pīti paṭividitā hoti? Dīghaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sā pīti paṭividitā hoti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sā pīti paṭividitā hoti. Rassaṃ assāsavasena…pe… rassaṃ passāsavasena… sabbakāyapaṭisaṃvedī assāsavasena… sabbakāyapaṭisaṃvedī passāsavasena… passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assāsavasena… passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena sā pīti paṭividitā hoti. Āvajjato sā pīti paṭividitā hoti, jānato…pe… passato… paccavekkhato… cittaṃ adhiṭṭhahato… saddhāya adhimuccato… vīriyaṃ paggaṇhato… satiṃ upaṭṭhāpayato… cittaṃ samādahato… paññāya pajānato… abhiññeyyaṃ abhijānato… pariññeyyaṃ parijānato… pahātabbaṃ pajahato… bhāvetabbaṃ bhāvayato… sacchikātabbaṃ sacchikaroto sā pīti paṭividitā hoti. Evaṃ sā pīti paṭividitā hoti.

    ปีติปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน เวทนา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ เวทนา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Pītipaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena vedanā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Vedanā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ vedanaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘vedanāsu vedanānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติ? อนิจฺจโต อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ ปีติปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… ปีติปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ vedanaṃ anupassati? Aniccato anupassati…pe… evaṃ taṃ vedanaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Pītipaṭisaṃvedī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… pītipaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๓. กถํ ‘‘สุขปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘สุขปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? สุขนฺติ เทฺว สุขานิ – กายิกญฺจ สุขํ, เจตสิกญฺจ สุขํฯ กตมํ กายิกํ สุขํ? ยํ กายิกํ สาตํ กายิกํ สุขํ, กายสมฺผสฺสชํ สาตํ สุขํ เวทยิตํ, กายสมฺผสฺสชา สาตา สุขา เวทนา – อิทํ กายิกํ สุขํฯ กตมํ เจตสิกํ สุขํ? ยํ เจตสิกํ สาตํ เจตสิกํ สุขํ, เจโตสมฺผสฺสชํ สาตํ สุขํ เวทยิตํ, เจโตสมฺผสฺสชา สาตา สุขา เวทนา – อิทํ เจตสิกํ สุขํฯ

    173. Kathaṃ ‘‘sukhapaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘sukhapaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati? Sukhanti dve sukhāni – kāyikañca sukhaṃ, cetasikañca sukhaṃ. Katamaṃ kāyikaṃ sukhaṃ? Yaṃ kāyikaṃ sātaṃ kāyikaṃ sukhaṃ, kāyasamphassajaṃ sātaṃ sukhaṃ vedayitaṃ, kāyasamphassajā sātā sukhā vedanā – idaṃ kāyikaṃ sukhaṃ. Katamaṃ cetasikaṃ sukhaṃ? Yaṃ cetasikaṃ sātaṃ cetasikaṃ sukhaṃ, cetosamphassajaṃ sātaṃ sukhaṃ vedayitaṃ, cetosamphassajā sātā sukhā vedanā – idaṃ cetasikaṃ sukhaṃ.

    กถํ เต สุขา ปฎิวิทิตา โหนฺติ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต สุขา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต สุขา ปฎิวิทิตา โหนฺติ…เป.… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต เต สุขา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ เอวํ เต สุขา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ สุขปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน เวทนา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ เวทนา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Kathaṃ te sukhā paṭividitā honti? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te sukhā paṭividitā honti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te sukhā paṭividitā honti…pe… sacchikātabbaṃ sacchikaroto te sukhā paṭividitā honti. Evaṃ te sukhā paṭividitā honti. Sukhapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena vedanā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Vedanā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ vedanaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘vedanāsu vedanānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ สุขปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… สุขปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ vedanaṃ anupassati. Aniccato anupassati…pe… evaṃ taṃ vedanaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Sukhapaṭisaṃvedī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… sukhapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๔. กถํ ‘‘จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตโม จิตฺตสงฺขาโร? ทีฆํ อสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขาราฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา…เป.… สุขปฎิสํเวที อสฺสาสวเสน… สุขปฎิสํเวที ปสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา – อยํ จิตฺตสงฺขาโรฯ

    174. Kathaṃ ‘‘cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati? Katamo cittasaṅkhāro? Dīghaṃ assāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā. Dīghaṃ passāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā…pe… sukhapaṭisaṃvedī assāsavasena… sukhapaṭisaṃvedī passāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā – ayaṃ cittasaṅkhāro.

    กถํ เต จิตฺตสงฺขารา ปฎิวิทิตา โหนฺติ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต จิตฺตสงฺขารา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต จิตฺตสงฺขารา ปฎิวิทิตา โหนฺติ…เป.… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต เต จิตฺตสงฺขารา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ เอวํ เต จิตฺตสงฺขารา ปฎิวิทิตา โหนฺติฯ จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน เวทนา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํ เวทนา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เต ญาเณน ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Kathaṃ te cittasaṅkhārā paṭividitā honti? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te cittasaṅkhārā paṭividitā honti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena te cittasaṅkhārā paṭividitā honti…pe… sacchikātabbaṃ sacchikaroto te cittasaṅkhārā paṭividitā honti. Evaṃ te cittasaṅkhārā paṭividitā honti. Cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena vedanā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ vedanā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā te ñāṇena taṃ vedanaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘vedanāsu vedanānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติ? อนิจฺจโต อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ vedanaṃ anupassati? Aniccato anupassati…pe… evaṃ taṃ vedanaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๕. กถํ ‘‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตโม จิตฺตสงฺขาโร? ทีฆํ อสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขาราฯ เต จิตฺตสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขาราฯ เต จิตฺตสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสาสวเสน… จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที ปสฺสาสวเสน สญฺญา จ เวทนา จ เจตสิกา – เอเต ธมฺมา จิตฺตปฎิพทฺธา จิตฺตสงฺขาราฯ เต จิตฺตสงฺขาเร ปสฺสเมฺภโนฺต นิโรเธโนฺต วูปสเมโนฺต สิกฺขติฯ ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน เวทนา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ เวทนา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    175. Kathaṃ ‘‘passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ passasissāmī’’ti sikkhati? Katamo cittasaṅkhāro? Dīghaṃ assāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā. Te cittasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati. Dīghaṃ passāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā. Te cittasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati. Cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assāsavasena… cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī passāsavasena saññā ca vedanā ca cetasikā – ete dhammā cittapaṭibaddhā cittasaṅkhārā. Te cittasaṅkhāre passambhento nirodhento vūpasamento sikkhati. Passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assāsapassāsavasena vedanā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Vedanā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ vedanaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘vedanāsu vedanānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ เวทนํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ vedanaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ vedanaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    อฎฺฐ อนุปสฺสนาญาณานิ อฎฺฐ จ อุปฎฺฐานานุสฺสติโย จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนายฯ

    Aṭṭha anupassanāñāṇāni aṭṭha ca upaṭṭhānānussatiyo cattāri suttantikavatthūni vedanāsu vedanānupassanāya.

    ตติยจตุกฺกนิเทฺทโส

    Tatiyacatukkaniddeso

    ๑๗๖. กถํ ‘‘จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘จิตฺตปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตมํ ตํ จิตฺตํ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํฯ ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ หทยํ ปณฺฑรํ มโน มนายตนํ มนินฺทฺริยํ วิญฺญาณํ วิญฺญาณกฺขโนฺธ ตชฺชา มโนวิญฺญาณธาตุฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน …เป.… ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํฯ ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ หทยํ ปณฺฑรํ มโน มานยตนํ มนินฺทฺริยํ วิญฺญาณํ วิญฺญาณกฺขโนฺธ ตชฺชา มโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ จิตฺตํฯ

    176. Kathaṃ ‘‘cittapaṭisaṃvedī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘cittapaṭisaṃvedī passasissāmī’’ti sikkhati? Katamaṃ taṃ cittaṃ? Dīghaṃ assāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ. Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ hadayaṃ paṇḍaraṃ mano manāyatanaṃ manindriyaṃ viññāṇaṃ viññāṇakkhandho tajjā manoviññāṇadhātu. Dīghaṃ passāsavasena …pe… passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assāsavasena… passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ passāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ. Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ hadayaṃ paṇḍaraṃ mano mānayatanaṃ manindriyaṃ viññāṇaṃ viññāṇakkhandho tajjā manoviññāṇadhātu – idaṃ cittaṃ.

    กถํ ตํ จิตฺตํ ปฎิวิทิตํ โหติ? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ จิตฺตํ ปฎิวิทิตํ โหติฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต สติ อุปฎฺฐิตา โหติฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ จิตฺตํ ปฎิวิทิตํ โหติ…เป.… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต ตํ จิตฺตํ ปฎิวิทิตํ โหติฯ เอวํ ตํ จิตฺตํ ปฎิวิทิตํ โหติฯ จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Kathaṃ taṃ cittaṃ paṭividitaṃ hoti? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ cittaṃ paṭividitaṃ hoti. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato sati upaṭṭhitā hoti. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ cittaṃ paṭividitaṃ hoti…pe… sacchikātabbaṃ sacchikaroto taṃ cittaṃ paṭividitaṃ hoti. Evaṃ taṃ cittaṃ paṭividitaṃ hoti. Cittapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Cittaṃ upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ cittaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘citte cittānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ cittaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ cittaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Cittapaṭisaṃvedī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… cittapaṭisaṃvedī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๗. กถํ ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ, ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตโม จิตฺตสฺส อภิปฺปโมโท? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ จิตฺตสฺส อภิปฺปโมโทฯ ยา จิตฺตสฺส อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺติ โอทคฺยํ อตฺตมนตาฯ จิตฺตสฺส ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ จิตฺตสฺส อภิปฺปโมโทฯ ยา จิตฺตสฺส อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺติ โอทคฺยํ อตฺตมนตา จิตฺตสฺส…เป.… จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสาสวเสน… จิตฺตปฎิสํเวที ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต อุปฺปชฺชติ จิตฺตสฺส อภิปฺปโมโทฯ ยา จิตฺตสฺส อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺติ โอทคฺยํ อตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ จิตฺตสฺส อภิปฺปโมโทฯ อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    177. Kathaṃ ‘‘abhippamodayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti, ‘‘abhippamodayaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati? Katamo cittassa abhippamodo? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati cittassa abhippamodo. Yā cittassa āmodanā pamodanā hāso pahāso vitti odagyaṃ attamanatā. Cittassa dīghaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati cittassa abhippamodo. Yā cittassa āmodanā pamodanā hāso pahāso vitti odagyaṃ attamanatā cittassa…pe… cittapaṭisaṃvedī assāsavasena… cittapaṭisaṃvedī passāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato uppajjati cittassa abhippamodo. Yā cittassa āmodanā pamodanā hāso pahāso vitti odagyaṃ attamanatā cittassa – ayaṃ cittassa abhippamodo. Abhippamodayaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Cittaṃ upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ cittaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘citte cittānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสตีติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ cittaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ cittaṃ anupassatīti. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Abhippamodayaṃ cittaṃ assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… abhippamodayaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๘. กถํ ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตโม สมาธิ 11? ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิเกฺขโป สมาธิ, ยา จิตฺตสฺส ฐิติ สณฺฐิติ อวฎฺฐิติ 12 อวิสาหาโร อวิเกฺขโป อวิสาหฎมานสตา 13 สมโถ สมาธินฺทฺริยํ สมาธิพลํ สมฺมาสมาธิฯ ทีฆํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิเกฺขโป สมาธิ…เป.… สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสาสวเสน…เป.… สมาทหํ จิตฺตํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิเกฺขโป สมาธิฯ ยา จิตฺตสฺส ฐิติ สณฺฐิติ อวฎฺฐิติ อวิสาหาโร อวิเกฺขโป อวิสาหฎมานสตา สมโถ สมาธินฺทฺริยํ สมาธิพลํ สมฺมาสมาธิ – อยํ สมาธิฯ สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    178. Kathaṃ ‘‘samādahaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘samādahaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati? Katamo samādhi 14? Dīghaṃ assāsavasena cittassa ekaggatā avikkhepo samādhi, yā cittassa ṭhiti saṇṭhiti avaṭṭhiti 15 avisāhāro avikkhepo avisāhaṭamānasatā 16 samatho samādhindriyaṃ samādhibalaṃ sammāsamādhi. Dīghaṃ passāsavasena cittassa ekaggatā avikkhepo samādhi…pe… samādahaṃ cittaṃ assāsavasena…pe… samādahaṃ cittaṃ passāsavasena cittassa ekaggatā avikkhepo samādhi. Yā cittassa ṭhiti saṇṭhiti avaṭṭhiti avisāhāro avikkhepo avisāhaṭamānasatā samatho samādhindriyaṃ samādhibalaṃ sammāsamādhi – ayaṃ samādhi. Samādahaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Cittaṃ upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena taṃ cittaṃ anupassati. Tena vuccati – ‘‘citte cittānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ cittaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ cittaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Samādahaṃ cittaṃ assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… samādahaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๗๙. กถํ ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? ‘‘ราคโต วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ราคโต วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘โทสโต วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘โทสโต วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘โมหโต วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ…เป.… มานโต วิโมจยํ จิตฺตํ… ทิฎฺฐิยา วิโมจยํ จิตฺตํ… วิจิกิจฺฉาย วิโมจยํ จิตฺตํ… ถินโต วิโมจยํ จิตฺตํ… อุทฺธจฺจโต วิโมจยํ จิตฺตํ… อหิริกโต วิโมจยํ จิตฺตํ… ‘‘อโนตฺตปฺปโต วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘อโนตฺตปฺปโต วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน วิญฺญาณํ จิตฺตํ อุปฎฺฐานํ สติ…เป.…ฯ

    179. Kathaṃ ‘‘vimocayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘vimocayaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati? ‘‘Rāgato vimocayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘rāgato vimocayaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Dosato vimocayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘dosato vimocayaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Mohato vimocayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati…pe… mānato vimocayaṃ cittaṃ… diṭṭhiyā vimocayaṃ cittaṃ… vicikicchāya vimocayaṃ cittaṃ… thinato vimocayaṃ cittaṃ… uddhaccato vimocayaṃ cittaṃ… ahirikato vimocayaṃ cittaṃ… ‘‘anottappato vimocayaṃ cittaṃ assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘anottappato vimocayaṃ cittaṃ passasissāmī’’ti sikkhati. Vimocayaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena viññāṇaṃ cittaṃ upaṭṭhānaṃ sati…pe….

    อนุปสฺสตีติ กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสติภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต …เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ taṃ cittaṃ anupassati…pe… evaṃ taṃ cittaṃ anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Vimocayaṃ cittaṃ assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… vimocayaṃ cittaṃ assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato …pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    อฎฺฐ อนุปสฺสนาญาณานิ อฎฺฐ จ อุปฎฺฐานานุสฺสติโย จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสนายฯ

    Aṭṭha anupassanāñāṇāni aṭṭha ca upaṭṭhānānussatiyo cattāri suttantikavatthūni citte cittānupassanāya.

    จตุตฺถจตุกฺกนิเทฺทโส

    Catutthacatukkaniddeso

    ๑๘๐. กถํ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? อนิจฺจนฺติ กิํ อนิจฺจํ? ปญฺจกฺขนฺธา อนิจฺจาฯ เกนเฎฺฐน อนิจฺจา? อุปฺปาทวยเฎฺฐน อนิจฺจาฯ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสโนฺต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสติ, วยํ ปสฺสโนฺต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสติ, อุทยพฺพยํ ปสฺสโนฺต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสติ? ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสโนฺต ปญฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสติ, วยํ ปสฺสโนฺต ปญฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสติฯ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสโนฺต อิมานิ ปญฺญาส ลกฺขณานิ ปสฺสติฯ

    180. Kathaṃ ‘‘aniccānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘aniccānupassī passasissāmī’’ti sikkhati? Aniccanti kiṃ aniccaṃ? Pañcakkhandhā aniccā. Kenaṭṭhena aniccā? Uppādavayaṭṭhena aniccā. Pañcannaṃ khandhānaṃ udayaṃ passanto kati lakkhaṇāni passati, vayaṃ passanto kati lakkhaṇāni passati, udayabbayaṃ passanto kati lakkhaṇāni passati? Pañcannaṃ khandhānaṃ udayaṃ passanto pañcavīsati lakkhaṇāni passati, vayaṃ passanto pañcavīsati lakkhaṇāni passati. Pañcannaṃ khandhānaṃ udayabbayaṃ passanto imāni paññāsa lakkhaṇāni passati.

    ‘‘รูเป อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘รูเป อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ‘‘เวทนาย…เป.… สญฺญาย… สงฺขาเรสุ… วิญฺญาเณ… จกฺขุสฺมิํ…เป.… ชรามรเณ อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ชรามรเณ อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน ธมฺมา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ ธมฺมา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    ‘‘Rūpe aniccānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘rūpe aniccānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. ‘‘Vedanāya…pe… saññāya… saṅkhāresu… viññāṇe… cakkhusmiṃ…pe… jarāmaraṇe aniccānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘jarāmaraṇe aniccānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Aniccānupassī assāsapassāsavasena dhammā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Dhammā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena te dhamme anupassati. Tena vuccati – ‘‘dhammesu dhammānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ te dhamme anupassati…pe… evaṃ te dhamme anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Aniccānupassī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… aniccānupassī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    กถํ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? รูเป อาทีนวํ ทิสฺวา รูปวิราเค ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘รูเป วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘รูเป วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ เวทนาย…เป.… สญฺญาย… สงฺขาเรสุ… วิญฺญาเณ… จกฺขุสฺมิํ…เป.… ชรามรเณ อาทีนวํ ทิสฺวา ชรามรณวิราเค ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘ชรามรเณ วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ชรามรเณ วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ วิราคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน ธมฺมา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ ธมฺมา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Kathaṃ ‘‘virāgānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘virāgānupassī passasissāmī’’ti sikkhati? Rūpe ādīnavaṃ disvā rūpavirāge chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Rūpe virāgānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘rūpe virāgānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Vedanāya…pe… saññāya… saṅkhāresu… viññāṇe… cakkhusmiṃ…pe… jarāmaraṇe ādīnavaṃ disvā jarāmaraṇavirāge chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Jarāmaraṇe virāgānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘jarāmaraṇe virāgānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Virāgānupassī assāsapassāsavasena dhammā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Dhammā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena te dhamme anupassati. Tena vuccati – ‘‘dhammesu dhammānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ วิราคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… วิราคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ te dhamme anupassati…pe… evaṃ te dhamme anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Virāgānupassī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… virāgānupassī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    กถํ ‘‘นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? รูเป อาทีนวํ ทิสฺวา รูปนิโรเธ ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘รูเป นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘รูเป นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ เวทนาย…เป.… สญฺญาย… สงฺขาเรสุ… วิญฺญาเณ… จกฺขุสฺมิํ…เป.… ชรามรเณ อาทีนวํ ทิสฺวา ชรามรณนิโรเธ ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘ชรามรเณ นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ชรามรเณ นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ

    Kathaṃ ‘‘nirodhānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘nirodhānupassī passasissāmī’’ti sikkhati? Rūpe ādīnavaṃ disvā rūpanirodhe chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Rūpe nirodhānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘rūpe nirodhānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Vedanāya…pe… saññāya… saṅkhāresu… viññāṇe… cakkhusmiṃ…pe… jarāmaraṇe ādīnavaṃ disvā jarāmaraṇanirodhe chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Jarāmaraṇe nirodhānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘jarāmaraṇe nirodhānupassī passasissāmī’’ti sikkhati.

    ๑๘๑. กติหากาเรหิ อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ? กติหากาเรหิ อวิชฺชา นิรุชฺฌติ? ปญฺจหากาเรหิ อวิชฺชาย อาทีนโว โหติฯ อฎฺฐหากาเรหิ อวิชฺชา นิรุชฺฌติฯ

    181. Katihākārehi avijjāya ādīnavo hoti? Katihākārehi avijjā nirujjhati? Pañcahākārehi avijjāya ādīnavo hoti. Aṭṭhahākārehi avijjā nirujjhati.

    กตเมหิ ปญฺจหากาเรหิ อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ? อนิจฺจเฎฺฐน อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ, ทุกฺขเฎฺฐน อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ, อนตฺตเฎฺฐน อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ, สนฺตาปเฎฺฐน อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ, วิปริณามเฎฺฐน อวิชฺชาย อาทีนโว โหติ – อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ อวิชฺชาย อาทีนโว โหติฯ

    Katamehi pañcahākārehi avijjāya ādīnavo hoti? Aniccaṭṭhena avijjāya ādīnavo hoti, dukkhaṭṭhena avijjāya ādīnavo hoti, anattaṭṭhena avijjāya ādīnavo hoti, santāpaṭṭhena avijjāya ādīnavo hoti, vipariṇāmaṭṭhena avijjāya ādīnavo hoti – imehi pañcahākārehi avijjāya ādīnavo hoti.

    กตเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ อวิชฺชา นิรุชฺฌติ? นิทานนิโรเธน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, สมุทยนิโรเธน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, ชาตินิโรเธน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, ปภวนิโรเธน 17 อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, เหตุนิโรเธน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, ปจฺจยนิโรเธน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, ญาณุปฺปาเทน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ, นิโรธุปฎฺฐาเนน อวิชฺชา นิรุชฺฌติ – อิเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ อวิชฺชา นิรุชฺฌติฯ อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ อวิชฺชาย อาทีนวํ ทิสฺวา – อิเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ อวิชฺชานิโรเธ ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘อวิชฺชาย นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘อวิชฺชาย นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ

    Katamehi aṭṭhahākārehi avijjā nirujjhati? Nidānanirodhena avijjā nirujjhati, samudayanirodhena avijjā nirujjhati, jātinirodhena avijjā nirujjhati, pabhavanirodhena 18 avijjā nirujjhati, hetunirodhena avijjā nirujjhati, paccayanirodhena avijjā nirujjhati, ñāṇuppādena avijjā nirujjhati, nirodhupaṭṭhānena avijjā nirujjhati – imehi aṭṭhahākārehi avijjā nirujjhati. Imehi pañcahākārehi avijjāya ādīnavaṃ disvā – imehi aṭṭhahākārehi avijjānirodhe chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Avijjāya nirodhānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘avijjāya nirodhānupassī passasissāmī’’ti sikkhati.

    กติหากาเรหิ สงฺขาเรสุ อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ…เป.… กติหากาเรหิ วิญฺญาเณ อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ วิญฺญาณํ นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ นามรูเป อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ นามรูปํ นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ สฬายตเน อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ สฬายตนํ นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ ผเสฺส อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ ผโสฺส นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ เวทนาย อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ เวทนา นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ ตณฺหาย อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ ตณฺหา นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ อุปาทาเน อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ อุปาทานํ นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ ภเว อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ ภโว นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ ชาติยา อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ ชาติ นิรุชฺฌติ… กติหากาเรหิ ชรามรเณ อาทีนโว โหติ, กติหากาเรหิ ชรามรณํ นิรุชฺฌติ? ปญฺจหากาเรหิ ชรามรเณ อาทีนโว โหติ, อฎฺฐหากาเรหิ ชรามรณํ นิรุชฺฌติฯ

    Katihākārehi saṅkhāresu ādīnavo hoti, katihākārehi saṅkhārā nirujjhanti…pe… katihākārehi viññāṇe ādīnavo hoti, katihākārehi viññāṇaṃ nirujjhati… katihākārehi nāmarūpe ādīnavo hoti, katihākārehi nāmarūpaṃ nirujjhati… katihākārehi saḷāyatane ādīnavo hoti, katihākārehi saḷāyatanaṃ nirujjhati… katihākārehi phasse ādīnavo hoti, katihākārehi phasso nirujjhati… katihākārehi vedanāya ādīnavo hoti, katihākārehi vedanā nirujjhati… katihākārehi taṇhāya ādīnavo hoti, katihākārehi taṇhā nirujjhati… katihākārehi upādāne ādīnavo hoti, katihākārehi upādānaṃ nirujjhati… katihākārehi bhave ādīnavo hoti, katihākārehi bhavo nirujjhati… katihākārehi jātiyā ādīnavo hoti, katihākārehi jāti nirujjhati… katihākārehi jarāmaraṇe ādīnavo hoti, katihākārehi jarāmaraṇaṃ nirujjhati? Pañcahākārehi jarāmaraṇe ādīnavo hoti, aṭṭhahākārehi jarāmaraṇaṃ nirujjhati.

    กตเมหิ ปญฺจหากาเรหิ ชรามรเณ อาทีนโว โหติ? อนิจฺจเฎฺฐน ชรามรเณ อาทีนโว โหติ, ทุกฺขเฎฺฐน…เป.… อนตฺตเฎฺฐน…เป.… สนฺตาปเฎฺฐน…เป.… วิปริณามเฎฺฐน ชรามรเณ อาทีนโว โหติ – อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ ชรามรเณ อาทีนโว โหติฯ

    Katamehi pañcahākārehi jarāmaraṇe ādīnavo hoti? Aniccaṭṭhena jarāmaraṇe ādīnavo hoti, dukkhaṭṭhena…pe… anattaṭṭhena…pe… santāpaṭṭhena…pe… vipariṇāmaṭṭhena jarāmaraṇe ādīnavo hoti – imehi pañcahākārehi jarāmaraṇe ādīnavo hoti.

    กตเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ ชรามรณํ นิรุชฺฌติ? นิทานนิโรเธน ชรามรณํ นิรุชฺฌติ, สมุทยนิโรเธน…เป.… ชาตินิโรเธน…เป.… ปภวนิโรเธน 19 … เหตุนิโรเธน… ปจฺจยนิโรเธน… ญาณุปฺปาเทน…เป.… นิโรธุปฎฺฐาเนน ชรามรณํ นิรุชฺฌติ – อิเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ ชรามรณํ นิรุชฺฌติฯ อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ ชรามรเณ อาทีนวํ ทิสฺวา อิเมหิ อฎฺฐหากาเรหิ ชรามรณนิโรเธ ฉนฺทชาโต โหติ สทฺธาธิมุโตฺต, จิตฺตญฺจสฺส สฺวาธิฎฺฐิตํฯ ‘‘ชรามรเณ นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ชรามรเณ นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ นิโรธานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน ธมฺมา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ ธมฺมา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    Katamehi aṭṭhahākārehi jarāmaraṇaṃ nirujjhati? Nidānanirodhena jarāmaraṇaṃ nirujjhati, samudayanirodhena…pe… jātinirodhena…pe… pabhavanirodhena 20 … hetunirodhena… paccayanirodhena… ñāṇuppādena…pe… nirodhupaṭṭhānena jarāmaraṇaṃ nirujjhati – imehi aṭṭhahākārehi jarāmaraṇaṃ nirujjhati. Imehi pañcahākārehi jarāmaraṇe ādīnavaṃ disvā imehi aṭṭhahākārehi jarāmaraṇanirodhe chandajāto hoti saddhādhimutto, cittañcassa svādhiṭṭhitaṃ. ‘‘Jarāmaraṇe nirodhānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘jarāmaraṇe nirodhānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Nirodhānupassī assāsapassāsavasena dhammā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Dhammā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena te dhamme anupassati. Tena vuccati – ‘‘dhammesu dhammānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติ…เป.… เอวํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ นิโรธานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ…เป.… นิโรธานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต…เป.… ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Anupassatīti kathaṃ te dhamme anupassati…pe… evaṃ te dhamme anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Nirodhānupassī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi…pe… nirodhānupassī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato…pe… pajānanto indriyāni samodhāneti. Tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    ๑๘๒. กถํ ‘‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? ปฎินิสฺสคฺคาติ เทฺว ปฎินิสฺสคฺคา – ปริจฺจาคปฎินิสฺสโคฺค จ ปกฺขนฺทนปฎินิสฺสโคฺค จฯ รูปํ ปริจฺจชตีติ – ปริจฺจาคปฎินิสฺสโคฺคฯ รูปนิโรเธ นิพฺพาเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ – ปกฺขนฺทนปฎินิสฺสโคฺคฯ ‘‘รูเป ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘รูเป ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ เวทนํ…เป.… สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ… จกฺขุํ…เป.… ชรามรณํ ปริจฺจชตีติ – ปริจฺจาคปฎินิสฺสโคฺคฯ ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ – ปกฺขนฺทนปฎินิสฺสโคฺคฯ ‘‘ชรามรเณ ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ, ‘‘ชรามรเณ ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติฯ ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน ธมฺมา อุปฎฺฐานํ สติ อนุปสฺสนา ญาณํฯ ธมฺมา อุปฎฺฐานํ, โน สติ; สติ อุปฎฺฐานเญฺจว สติ จฯ ตาย สติยา เตน ญาเณน เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานภาวนา’’ติฯ

    182. Kathaṃ ‘‘paṭinissaggānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘paṭinissaggānupassī passasissāmī’’ti sikkhati? Paṭinissaggāti dve paṭinissaggā – pariccāgapaṭinissaggo ca pakkhandanapaṭinissaggo ca. Rūpaṃ pariccajatīti – pariccāgapaṭinissaggo. Rūpanirodhe nibbāne cittaṃ pakkhandatīti – pakkhandanapaṭinissaggo. ‘‘Rūpe paṭinissaggānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘rūpe paṭinissaggānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Vedanaṃ…pe… saññaṃ… saṅkhāre… viññāṇaṃ… cakkhuṃ…pe… jarāmaraṇaṃ pariccajatīti – pariccāgapaṭinissaggo. Jarāmaraṇanirodhe nibbāne cittaṃ pakkhandatīti – pakkhandanapaṭinissaggo. ‘‘Jarāmaraṇe paṭinissaggānupassī assasissāmī’’ti sikkhati, ‘‘jarāmaraṇe paṭinissaggānupassī passasissāmī’’ti sikkhati. Paṭinissaggānupassī assāsapassāsavasena dhammā upaṭṭhānaṃ sati anupassanā ñāṇaṃ. Dhammā upaṭṭhānaṃ, no sati; sati upaṭṭhānañceva sati ca. Tāya satiyā tena ñāṇena te dhamme anupassati. Tena vuccati – ‘‘dhammesu dhammānupassanāsatipaṭṭhānabhāvanā’’ti.

    อนุปสฺสตีติ กถํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติ? อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต…เป.… ปฎินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติฯ อนิจฺจโต อนุปสฺสโนฺต นิจฺจสญฺญํ ปชหติ…เป.… ปฎินิสฺสชฺชโนฺต อาทานํ ปชหติฯ เอวํ เต ธเมฺม อนุปสฺสติฯ ภาวนาติ จตโสฺส ภาวนาฯ ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนเฎฺฐน ภาวนา…เป.… อาเสวนเฎฺฐน ภาวนาฯ ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรเฎฺฐน สีลวิสุทฺธิ, อวิเกฺขปเฎฺฐน จิตฺตวิสุทฺธิ, ทสฺสนเฎฺฐน ทิฎฺฐิวิสุทฺธิฯ โย ตตฺถ สํวรโฎฺฐ, อยํ อธิสีลสิกฺขา; โย ตตฺถ อวิเกฺขปโฎฺฐ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา; โย ตตฺถ ทสฺสนโฎฺฐ, อยํ อธิปญฺญาสิกฺขา – อิมา ติโสฺส สิกฺขาโย อาวชฺชโนฺต สิกฺขติ ชานโนฺต สิกฺขติ…เป.… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโนฺต สิกฺขติฯ

    Anupassatīti kathaṃ te dhamme anupassati? Aniccato anupassati, no niccato…pe… paṭinissajjati, no ādiyati. Aniccato anupassanto niccasaññaṃ pajahati…pe… paṭinissajjanto ādānaṃ pajahati. Evaṃ te dhamme anupassati. Bhāvanāti catasso bhāvanā. Tattha jātānaṃ dhammānaṃ anativattanaṭṭhena bhāvanā…pe… āsevanaṭṭhena bhāvanā. Paṭinissaggānupassī assāsapassāsānaṃ saṃvaraṭṭhena sīlavisuddhi, avikkhepaṭṭhena cittavisuddhi, dassanaṭṭhena diṭṭhivisuddhi. Yo tattha saṃvaraṭṭho, ayaṃ adhisīlasikkhā; yo tattha avikkhepaṭṭho, ayaṃ adhicittasikkhā; yo tattha dassanaṭṭho, ayaṃ adhipaññāsikkhā – imā tisso sikkhāyo āvajjanto sikkhati jānanto sikkhati…pe… sacchikātabbaṃ sacchikaronto sikkhati.

    ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตฺนฺตฺติ …เป.… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิเกฺขปํ ปชานโนฺต อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ โคจรญฺจ ปชานาติ สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌติ; พลานิ สโมธาเนติ… โพชฺฌเงฺค สโมธาเนติ… มคฺคํ สโมธาเนติ… ธเมฺม สโมธาเนติ โคจรญฺจ ปชานาติ สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌติฯ

    Paṭinissaggānupassī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānato viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchantntti …pe… paṭinissaggānupassī assāsapassāsavasena cittassa ekaggataṃ avikkhepaṃ pajānanto indriyāni samodhāneti gocarañca pajānāti samatthañca paṭivijjhati; balāni samodhāneti… bojjhaṅge samodhāneti… maggaṃ samodhāneti… dhamme samodhāneti gocarañca pajānāti samatthañca paṭivijjhati.

    อินฺทฺริยานิ สโมธาเนตีติ กถํ อินฺทฺริยานิ สโมธาเนติ? อธิโมกฺขเฎฺฐน สทฺธินฺทฺริยํ สโมธาเนติ…เป.… เตน วุจฺจติ – ‘‘สมตฺถญฺจ ปฎิวิชฺฌตี’’ติฯ

    Indriyāni samodhānetīti kathaṃ indriyāni samodhāneti? Adhimokkhaṭṭhena saddhindriyaṃ samodhāneti…pe… tena vuccati – ‘‘samatthañca paṭivijjhatī’’ti.

    อฎฺฐ อนุปสฺสเน ญาณานิ อฎฺฐ จ อุปฎฺฐานานุสฺสติโย จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนายฯ อิมานิ พาตฺติํส สโตการิสฺส ญาณานิฯ

    Aṭṭha anupassane ñāṇāni aṭṭha ca upaṭṭhānānussatiyo cattāri suttantikavatthūni dhammesu dhammānupassanāya. Imāni bāttiṃsa satokārissa ñāṇāni.

    สโตการิญาณนิเทฺทโส ปญฺจโมฯ

    Satokāriñāṇaniddeso pañcamo.







    Footnotes:
    1. ติณสณฺฐโร (สฺยา.)
    2. ปลาสสนฺฐโร (สฺยา.)
    3. อาคารนฺติ (สฺยา.)
    4. ปนิธิโต (สฺยา.)
    5. tiṇasaṇṭharo (syā.)
    6. palāsasanṭharo (syā.)
    7. āgāranti (syā.)
    8. panidhito (syā.)
    9. อสฺสาสปสฺสาสา (สฺยา.)
    10. assāsapassāsā (syā.)
    11. กตมญฺจ สมาธินฺทิยํ (สฺยา.)
    12. อธิฎฺฎิติ (สฺยา.)
    13. อวิสาหตมานสตา (สฺยา. ก.)
    14. katamañca samādhindiyaṃ (syā.)
    15. adhiṭṭiti (syā.)
    16. avisāhatamānasatā (syā. ka.)
    17. อาหารนิโรเธน (สฺยา.)
    18. āhāranirodhena (syā.)
    19. ภวนิโรเธน (สฺยา.)
    20. bhavanirodhena (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā / ๕. สโตการิญาณนิเทฺทสวณฺณนา • 5. Satokāriñāṇaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact