Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๗. สตฺตมนโย สมฺปยุเตฺตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา
7. Sattamanayo sampayuttenavippayuttapadavaṇṇanā
๓๐๖. เตหิ สมุทยสจฺจาทีหิ ขนฺธตฺตยขเนฺธกเทสาทิเก สมฺปยุเตฺต สติปิ, สมฺปยุเตฺตหิ จ วิปฺปยุเตฺต รูปนิพฺพานาทิเก ตทญฺญธเมฺม สติปิ วิปฺปโยคาภาวโตฯ สเงฺขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทเสฺสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตโต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทโต อญฺญธมฺมานํ อวสิฎฺฐานํ กุสลากุสลาพฺยากตธมฺมานํ ขนฺธาทีสุ เกนจิ วิปฺปโยโค น หิ อตฺถิ ขนฺธปญฺจกาทีนํ สงฺคณฺหนโต เตสํฯ เต เอว จิตฺตุปฺปาทาติ เต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทา เอวฯ ตทญฺญธมฺมานนฺติ ตทญฺญธมฺมานมฺปีติ ปิ-สทฺทโลโป ทฎฺฐโพฺพฯ ตถาติ อิมินา น จ เต เอว ธมฺมา อฑฺฒทุติยายตนธาตุโย, อถ โข เต จ ตโต อเญฺญ จาติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติฯ
306. Tehi samudayasaccādīhi khandhattayakhandhekadesādike sampayutte satipi, sampayuttehi ca vippayutte rūpanibbānādike tadaññadhamme satipi vippayogābhāvato. Saṅkhepena vuttamatthaṃ vitthārena dassetuṃ ‘‘na hī’’tiādi vuttaṃ. Tato lobhasahagatacittuppādato aññadhammānaṃ avasiṭṭhānaṃ kusalākusalābyākatadhammānaṃ khandhādīsu kenaci vippayogo na hi atthi khandhapañcakādīnaṃ saṅgaṇhanato tesaṃ. Te eva cittuppādāti te lobhasahagatacittuppādā eva. Tadaññadhammānanti tadaññadhammānampīti pi-saddalopo daṭṭhabbo. Tathāti iminā na ca te eva dhammā aḍḍhadutiyāyatanadhātuyo, atha kho te ca tato aññe cāti imamatthaṃ upasaṃharati.
นนุ ตทญฺญภาวโต เอว เตหิ อิตเรสํ วิปฺปโยโค สิโทฺธติ อาห ‘‘น จา’’ติอาทิฯ ตทญฺญสมุทาเยหีติ ตโต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทโต อญฺญสมุทาเยหิ อเญฺญ โลภสหคตา ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา น โหนฺติฯ กสฺมา? สมุทาเย…เป.… วิปฺปโยคาภาวโตฯ ตสฺสโตฺถ – สมุทาเยน โลภสหคตตทญฺญธมฺมราสินา เอกเทสานํ โลภสหคตธมฺมานํ วิปฺปโยคาภาวโต, ตถา เย เอกเทสา หุตฺวา อเญฺญสํ อวยวานํ สมุทายภูตา, เตสญฺจ สมุทาเยน วิปฺปโยคาภาวโตติฯ อเนน สมุทาเยน อวยวสฺส สมุทายสฺส อวยเวน จ ตสฺส น วิปฺปโยโค, อวยวเสฺสว ปน อวยเวนาติ ทเสฺสติฯ เอส นโยติ ยฺวายํ สมุทยสเจฺจ วุโตฺต วิธิ, เอเสว มคฺคสจฺจสุขินฺทฺริยาทีสุ อรูปกฺขเนฺธกเทสตฺตา เตสนฺติ ทเสฺสติฯ นิรวเสเสสูติ อพหิกตวิตเกฺกสุฯ วิตโกฺก หิ สมุทายโต อพหิกโตฯ ‘‘โส หิ สมุทาโย’’ติอาทิโก วุตฺตนโย ลพฺภตีติ อาห ‘‘อคฺคหเณ การณํ น ทิสฺสตี’’ติฯ
Nanu tadaññabhāvato eva tehi itaresaṃ vippayogo siddhoti āha ‘‘na cā’’tiādi. Tadaññasamudāyehīti tato lobhasahagatacittuppādato aññasamudāyehi aññe lobhasahagatā dhammā vippayuttā na honti. Kasmā? Samudāye…pe… vippayogābhāvato. Tassattho – samudāyena lobhasahagatatadaññadhammarāsinā ekadesānaṃ lobhasahagatadhammānaṃ vippayogābhāvato, tathā ye ekadesā hutvā aññesaṃ avayavānaṃ samudāyabhūtā, tesañca samudāyena vippayogābhāvatoti. Anena samudāyena avayavassa samudāyassa avayavena ca tassa na vippayogo, avayavasseva pana avayavenāti dasseti. Esa nayoti yvāyaṃ samudayasacce vutto vidhi, eseva maggasaccasukhindriyādīsu arūpakkhandhekadesattā tesanti dasseti. Niravasesesūti abahikatavitakkesu. Vitakko hi samudāyato abahikato. ‘‘So hi samudāyo’’tiādiko vuttanayo labbhatīti āha ‘‘aggahaṇe kāraṇaṃ na dissatī’’ti.
อเญฺญสุปิ สมุทยสจฺจาทีสุ วิสฺสชฺชนสฺส…เป.… ทฎฺฐพฺพํ, ยโต สมุทยสจฺจาทิ อิธ น คหิตนฺติ อธิปฺปาโยฯ สมฺปยุตฺตาธิการโต ‘‘อเญฺญนา’’ติ ปทํ สมฺปยุตฺตโต อญฺญํ วทตีติ อาห ‘‘อสมฺปยุเตฺตน อสมฺมิสฺสนฺติ อโตฺถ’’ติฯ อิทานิ พฺยติเรเกนปิ ตมตฺถํ ปติฎฺฐาเปตุํ ‘‘อทุกฺขมสุขา…เป.… คหิตานี’’ติ วุตฺตํฯ เอเตน ลกฺขเณนาติ ‘‘อสมฺปยุเตฺตน อสมฺมิสฺส’’นฺติ วุตฺตลกฺขเณนฯ จิตฺตนฺติ ‘‘จิเตฺตหิ ธเมฺมหิ เย ธมฺมา’’ติ ปญฺหํ อุปลเกฺขติฯ สหยุตฺตปเทหิ สตฺตาติ ‘‘เจตสิเกหิ ธเมฺมหิ เย ธมฺมา’’ติอาทินา จิเตฺตน สหยุเตฺต ธเมฺม ทีเปเนฺตหิ ปเทหิ อาคตา สตฺต ปญฺหาฯ ติณฺณํ ติกปทานมคฺคหเณน อูโนติ กตฺวาฯ เย สนฺธาย ‘‘ติเก ตโย’’ติ วุตฺตํฯ ตํ ปน เวทนาปีติตฺติเกสุ ปจฺฉิมํ, วิตกฺกตฺติเก ปฐมนฺติ ปทตฺตยํ เวทิตพฺพํฯ
Aññesupi samudayasaccādīsu vissajjanassa…pe… daṭṭhabbaṃ, yato samudayasaccādi idha na gahitanti adhippāyo. Sampayuttādhikārato ‘‘aññenā’’ti padaṃ sampayuttato aññaṃ vadatīti āha ‘‘asampayuttena asammissanti attho’’ti. Idāni byatirekenapi tamatthaṃ patiṭṭhāpetuṃ ‘‘adukkhamasukhā…pe… gahitānī’’ti vuttaṃ. Etena lakkhaṇenāti ‘‘asampayuttena asammissa’’nti vuttalakkhaṇena. Cittanti ‘‘cittehi dhammehi ye dhammā’’ti pañhaṃ upalakkheti. Sahayuttapadehi sattāti ‘‘cetasikehi dhammehi ye dhammā’’tiādinā cittena sahayutte dhamme dīpentehi padehi āgatā satta pañhā. Tiṇṇaṃ tikapadānamaggahaṇena ūnoti katvā. Ye sandhāya ‘‘tike tayo’’ti vuttaṃ. Taṃ pana vedanāpītittikesu pacchimaṃ, vitakkattike paṭhamanti padattayaṃ veditabbaṃ.
๓๐๙. อุทฺธฎปเทน ปกาสิยมานา อตฺถา อเภโทปจาเรน ‘‘อุทฺธฎปท’’นฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อุทฺธฎปเทน สมฺปยุเตฺตหี’’ติฯ เตน จ ยถาวุเตฺตน อุทฺธฎปเทนฯ มเนน ยุตฺตาติ เอตฺถ มนนมตฺตตฺตา มโนธาตุ ‘‘มโน’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘มโนธาตุยา เอกนฺตสมฺปยุตฺตา’’ติฯ
309. Uddhaṭapadena pakāsiyamānā atthā abhedopacārena ‘‘uddhaṭapada’’nti vuttāti āha ‘‘uddhaṭapadena sampayuttehī’’ti. Tena ca yathāvuttena uddhaṭapadena. Manena yuttāti ettha mananamattattā manodhātu ‘‘mano’’ti vuttāti āha ‘‘manodhātuyā ekantasampayuttā’’ti.
สตฺตมนยสมฺปยุเตฺตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattamanayasampayuttenavippayuttapadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๗. สมฺปยุเตฺตนวิปฺปยุตฺตปทนิเทฺทโส • 7. Sampayuttenavippayuttapadaniddeso
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๗. สตฺตมนโย สมฺปยุเตฺตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา • 7. Sattamanayo sampayuttenavippayuttapadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๗. สตฺตมนโย สมฺปยุเตฺตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา • 7. Sattamanayo sampayuttenavippayuttapadavaṇṇanā