Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Sattamasikkhāpadavaṇṇanā
๘๒๐-๘๒๒. ‘‘นครํ อติหรนฺตี’’ติ ปาโฐฯ ‘‘นครทฺวาเร อติหรนฺตี’’ติ กตฺถจิ, ตตฺถ ทฺวาเรนาติ อโตฺถฯ อยเมว วา ปาโฐฯ ตํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธนฺติ ‘‘ปุนปิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ วาทํ สนฺธาย, น ตโต ปุเพฺพ ตตฺถ วุตฺตํ วาทํฯ เอตฺถ ‘‘มาตรมฺปิ วิญฺญาเปตฺวาติ วจเนน วิรุชฺฌตี’’ติ ลิขิตํ, ตํ ทุลฺลิขิตํ, น หิ เตน วิโรธํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติฯ กรเณ เจ ปาจิตฺติยํ, การาปเนปิ ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพํฯ อถ การาปเน ทุกฺกฎํ, กรเณปิ ทุกฺกเฎเนว ภวิตพฺพํฯ น หิ กรเณ วา การาปเน วา วิเสโส อตฺถิ อาปชฺชเน สตีติ อธิปฺปาโยฯ
820-822. ‘‘Nagaraṃ atiharantī’’ti pāṭho. ‘‘Nagaradvāre atiharantī’’ti katthaci, tattha dvārenāti attho. Ayameva vā pāṭho. Taṃ pubbāparaviruddhanti ‘‘punapi vutta’’nti vuttaṃ vādaṃ sandhāya, na tato pubbe tattha vuttaṃ vādaṃ. Ettha ‘‘mātarampi viññāpetvāti vacanena virujjhatī’’ti likhitaṃ, taṃ dullikhitaṃ, na hi tena virodhaṃ sandhāya idaṃ vuttanti. Karaṇe ce pācittiyaṃ, kārāpanepi pācittiyeneva bhavitabbaṃ. Atha kārāpane dukkaṭaṃ, karaṇepi dukkaṭeneva bhavitabbaṃ. Na hi karaṇe vā kārāpane vā viseso atthi āpajjane satīti adhippāyo.
๘๒๓. สมฺปฎิจฺฉิตุํ วฎฺฎตีติ อปฺปฎิกฺขิปิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ วตฺตุํ วฎฺฎตีติ อธิปฺปาโยฯ น หิ ปฎิคฺคเหตุํ วฎฺฎติฯ อนามาสตฺตา ‘‘อามกธญฺญํ ปน ญาตกปวาริตฎฺฐาเนปิ น วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ อนุคณฺฐิปเท ปน ‘‘กปฺปิเยน ลทฺธํ ธญฺญํ ภชฺชิตฺวา ภุญฺชนฺติยา ทุกฺกฎํฯ อปรเณฺณปิ เอเสว นโย’’ติ จ ‘‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยาติ วจนโต สตฺต ธญฺญานิปิ อนามาสานีติ สิทฺธํ, เตเนว เหฎฺฐา อฎฺฐกถายํ ทุกฺกฎวตฺถุมฺหิ สตฺต ธญฺญานิปิ คหิตานิ อนามาสานี’’ติ จ วุตฺตานิฯ อามาสานิ กปฺปิยวตฺถูนิ จ ยทิ ภเวยฺยุํ, ยถา ญาตกปวาริเต สนฺธาย ‘‘อปรณฺณํ วิญฺญาเปตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อนาปตฺติ ญาตกานํ ปวาริตานํ อญฺญสฺส อตฺถาย วิญฺญาเปติ, อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ วตฺตพฺพํฯ ยสฺมา ทุกฺกฎวตฺถุตฺตา จ อนามาสตฺตา จ มาตรมฺปิ สตฺตวิธํ ธญฺญํ วิญฺญาเปตุํ น วฎฺฎติ , ตสฺมา ตทตฺถทีปนตฺถํ สตฺตวิธํ ธญฺญํ สนฺธาย ‘‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ, ยถา ภิกฺขุนิยา อาพาธปจฺจยา วฎฺฎติ, ตถา ภิกฺขุสฺสาปีติ จฯ ยถา วา ปน ภิกฺขุนิยา ภชฺชนาทีนิ การาเปตุํ น วฎฺฎติ, เอวํ ภิกฺขุสฺสาปิฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ อนฺธกฎฺฐกถายํ ‘‘อญฺญตโร พาลภิกฺขุ กปฺปิยํ อชานโนฺต เอตทโวจ ‘อามกธญฺญํ สมฺปฎิจฺฉิตุํ ภิกฺขูนํ น วฎฺฎติฯ เอตํ ธญฺญํ ภชฺชิตฺวา โกเฎฺฎตฺวา ปจิตฺวา ยาคุขชฺชกํ ภตฺตญฺจ เทถา’ติ, อาณาปกเสฺสว ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ, สเพฺพสํ อนาปตฺตี’’ติฯ ตสฺมา ‘‘สงฺฆวาริกานํ ธญฺญํ โกเฎฺฎถา’’ติ อารามิกานํ วตฺตุญฺจ น วฎฺฎติฯ ‘‘ทิวสํ ปริพฺพยํ คณฺหถ, ตณฺฑุเล สมฺปาเทถ, ตฺวํ เอตฺตเก คณฺห, ตฺวํ เอตฺตเก’’ติ เอวมาทีนิ ปน วตฺตุํ วฎฺฎตีติ จฯ ยํ ปน ‘‘อวิญฺญตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฎิจฺฉิตุํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ เหฎฺฐา ‘‘อิมํ ตฬากํ เขตฺตํ วตฺถุํ วิหารสฺส เทมา’ติ วุเตฺต ‘สมฺปฎิจฺฉิตุํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํ นยํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สุวุตฺตเมวฯ ‘‘นวกมฺมตฺถาย ธญฺญํ เทมา’’ติ วุเตฺต ‘‘สาธู’’ติ วตฺตพฺพํฯ ยํ ปน เหฎฺฐา ‘‘ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฎิจฺฉิตุํ น วฎฺฎติ…เป.… ทุกฺกฎวตฺถุํ สเพฺพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฎิจฺฉโต ทุกฺกฎเมวา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมวฯ กสฺมา? ‘‘เจติยสฺส อตฺถาย ธญฺญํ ทาตุกาโมมฺหิ, ตุเมฺห ภเนฺต ตทตฺถาย สมฺปฎิจฺฉถา’’ติ วุเตฺต ปฎิคฺคเหตุํ อกปฺปิยตฺตาฯ ‘‘อิทํ ปน ตาทิสํ น โหตี’’ติ จ วุตฺตํฯ สโพฺพปายํ อุปติสฺสเตฺถรวาโท กิรฯ ธมฺมสิริเตฺถโร ปเนวมาห ‘‘ปุเพฺพปิ นวกมฺมตฺถาย ปฎิคฺคโห น วาริโต, สงฺฆสฺสตฺถาย ปฎิคฺคหิตมฺปิ ปฎิคฺคาหกเสฺสว อกปฺปิย’’นฺติฯ
823.Sampaṭicchituṃ vaṭṭatīti appaṭikkhipitvā ‘‘sādhū’’ti vattuṃ vaṭṭatīti adhippāyo. Na hi paṭiggahetuṃ vaṭṭati. Anāmāsattā ‘‘āmakadhaññaṃ pana ñātakapavāritaṭṭhānepi na vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Anugaṇṭhipade pana ‘‘kappiyena laddhaṃ dhaññaṃ bhajjitvā bhuñjantiyā dukkaṭaṃ. Aparaṇṇepi eseva nayo’’ti ca ‘‘anāpatti ābādhapaccayāti vacanato satta dhaññānipi anāmāsānīti siddhaṃ, teneva heṭṭhā aṭṭhakathāyaṃ dukkaṭavatthumhi satta dhaññānipi gahitāni anāmāsānī’’ti ca vuttāni. Āmāsāni kappiyavatthūni ca yadi bhaveyyuṃ, yathā ñātakapavārite sandhāya ‘‘aparaṇṇaṃ viññāpetī’’ti avisesena vuttaṃ, evaṃ ‘‘anāpatti ñātakānaṃ pavāritānaṃ aññassa atthāya viññāpeti, ummattikāya ādikammikāyā’’ti vattabbaṃ. Yasmā dukkaṭavatthuttā ca anāmāsattā ca mātarampi sattavidhaṃ dhaññaṃ viññāpetuṃ na vaṭṭati , tasmā tadatthadīpanatthaṃ sattavidhaṃ dhaññaṃ sandhāya ‘‘anāpatti ābādhapaccayā’’ti vuttaṃ, yathā bhikkhuniyā ābādhapaccayā vaṭṭati, tathā bhikkhussāpīti ca. Yathā vā pana bhikkhuniyā bhajjanādīni kārāpetuṃ na vaṭṭati, evaṃ bhikkhussāpi. Vuttampi cetaṃ andhakaṭṭhakathāyaṃ ‘‘aññataro bālabhikkhu kappiyaṃ ajānanto etadavoca ‘āmakadhaññaṃ sampaṭicchituṃ bhikkhūnaṃ na vaṭṭati. Etaṃ dhaññaṃ bhajjitvā koṭṭetvā pacitvā yāgukhajjakaṃ bhattañca dethā’ti, āṇāpakasseva bhikkhussa āpatti, sabbesaṃ anāpattī’’ti. Tasmā ‘‘saṅghavārikānaṃ dhaññaṃ koṭṭethā’’ti ārāmikānaṃ vattuñca na vaṭṭati. ‘‘Divasaṃ paribbayaṃ gaṇhatha, taṇḍule sampādetha, tvaṃ ettake gaṇha, tvaṃ ettake’’ti evamādīni pana vattuṃ vaṭṭatīti ca. Yaṃ pana ‘‘aviññattiyā labbhamānaṃ pana navakammatthāya sampaṭicchituṃ vaṭṭatī’’ti vuttaṃ, tampi heṭṭhā ‘‘imaṃ taḷākaṃ khettaṃ vatthuṃ vihārassa demā’ti vutte ‘sampaṭicchituṃ vaṭṭatī’’ti vuttaṃ nayaṃ sandhāya vuttattā suvuttameva. ‘‘Navakammatthāya dhaññaṃ demā’’ti vutte ‘‘sādhū’’ti vattabbaṃ. Yaṃ pana heṭṭhā ‘‘tattha nissaggiyavatthuṃ attano vā saṅghagaṇapuggalacetiyānaṃ vā atthāya sampaṭicchituṃ na vaṭṭati…pe… dukkaṭavatthuṃ sabbesampi atthāya sampaṭicchato dukkaṭamevā’’ti vuttaṃ, tampi suvuttameva. Kasmā? ‘‘Cetiyassa atthāya dhaññaṃ dātukāmomhi, tumhe bhante tadatthāya sampaṭicchathā’’ti vutte paṭiggahetuṃ akappiyattā. ‘‘Idaṃ pana tādisaṃ na hotī’’ti ca vuttaṃ. Sabbopāyaṃ upatissattheravādo kira. Dhammasiritthero panevamāha ‘‘pubbepi navakammatthāya paṭiggaho na vārito, saṅghassatthāya paṭiggahitampi paṭiggāhakasseva akappiya’’nti.
สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattamasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga / ๗. สตฺตมสิกฺขาปทํ • 7. Sattamasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Sattamasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ลสุณวคฺควณฺณนา • 1. Lasuṇavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ปฐมลสุณาทิสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamalasuṇādisikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๗. สตฺตมสิกฺขาปทํ • 7. Sattamasikkhāpadaṃ