Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๒. สตฺตสูริยสุตฺตวณฺณนา
2. Sattasūriyasuttavaṇṇanā
๖๖. ทุติเย ยสฺมา อยํ สตฺตสูริยเทสนา เตโชสํวฎฺฎทสฺสนวเสน ปวตฺตา, ตสฺมา ตโย สํวฎฺฎา, ติโสฺส สํวฎฺฎสีมา, ตีณิ สํวฎฺฎมูลานี, ตีณิ โกลาหลานีติ อยํ ตาว อาทิโตว อิมสฺส สุตฺตสฺส ปุเรจาริกกถา เวทิตพฺพาฯ สา วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๓) ปุเพฺพนิวาสานุสฺสตินิเทฺทเส วิตฺถาริตาวฯ เอตทโวจาติ อนิจฺจกมฺมฎฺฐานิกานํ ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อชฺฌาสเยน อุปาทินฺนกานํ อนุปาทินฺนกานํ สงฺขารานํ วิปตฺติทสฺสนตฺถํ เอตํ ‘‘อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา’’ติอาทิสตฺตสูริโยปมสุตฺตนฺตํ อโวจฯ ตตฺถ อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวเฎฺฐน อนิจฺจาฯ สงฺขาราติ อุปาทินฺนกอนุปาทินฺนกา สงฺขารธมฺมาฯ อทฺธุวาติ เอวํ อจิรเฎฺฐน น ธุวาฯ อนสฺสาสิกาติ อสสฺสตภาเวน อสฺสาสรหิตาฯ อลเมวาติ ยุตฺตเมวฯ
66. Dutiye yasmā ayaṃ sattasūriyadesanā tejosaṃvaṭṭadassanavasena pavattā, tasmā tayo saṃvaṭṭā, tisso saṃvaṭṭasīmā, tīṇi saṃvaṭṭamūlānī, tīṇi kolāhalānīti ayaṃ tāva āditova imassa suttassa purecārikakathā veditabbā. Sā visuddhimagge (visuddhi. 2.403) pubbenivāsānussatiniddese vitthāritāva. Etadavocāti aniccakammaṭṭhānikānaṃ pañcannaṃ bhikkhusatānaṃ ajjhāsayena upādinnakānaṃ anupādinnakānaṃ saṅkhārānaṃ vipattidassanatthaṃ etaṃ ‘‘aniccā, bhikkhave, saṅkhārā’’tiādisattasūriyopamasuttantaṃ avoca. Tattha aniccāti hutvā abhāvaṭṭhena aniccā. Saṅkhārāti upādinnakaanupādinnakā saṅkhāradhammā. Addhuvāti evaṃ aciraṭṭhena na dhuvā. Anassāsikāti asassatabhāvena assāsarahitā. Alamevāti yuttameva.
อโชฺฌคาโฬฺหติ อุทเก อนุปวิโฎฺฐฯ อจฺจุคฺคโตติ อุทกปิฎฺฐิโต อุคฺคโตฯ เทโว น วสฺสตีติ ปฐมํ ตาว อุปกปฺปนเมโฆ นาม โกฎิสตสหสฺสจกฺกวาเฬ เอกเมโฆ หุตฺวา วสฺสติ, ตทา นิกฺขนฺตพีชํ น ปุน เคหํ ปวิสติฯ ตโต ปฎฺฐาย ธมกรเณ นิรุทฺธํ วิย อุทกํ โหติ, ปุน เอกพินฺทุมฺปิ เทโว น วสฺสตีติ อุปมานธมฺมกถาว ปมาณํฯ วินสฺสเนฺต ปน โลเก ปฐมํ อวีจิโต ปฎฺฐาย ตุโจฺฉ โหติ, ตโต อุฎฺฐหิตฺวา สตฺตา มนุสฺสโลเก จ ติรจฺฉาเนสุ จ นิพฺพตฺตนฺติฯ ติรจฺฉาเนสุ นิพฺพตฺตาปิ ปุตฺตภาติเกสุ เมตฺตํ ปฎิลภิตฺวา กาลกตา เทวมนุเสฺสสุ นิพฺพตฺตนฺติฯ เทวตา อากาเสน จรนฺติโย อาโรเจนฺติ – ‘‘น อิทํ ฐานํ สสฺสตํ น นิพทฺธํ, เมตฺตํ ภาเวถ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺขํ ภาเวถา’’ติฯ เต เมตฺตาทโย ภาเวตฺวา ตโต จุตา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติฯ
Ajjhogāḷhoti udake anupaviṭṭho. Accuggatoti udakapiṭṭhito uggato. Devo na vassatīti paṭhamaṃ tāva upakappanamegho nāma koṭisatasahassacakkavāḷe ekamegho hutvā vassati, tadā nikkhantabījaṃ na puna gehaṃ pavisati. Tato paṭṭhāya dhamakaraṇe niruddhaṃ viya udakaṃ hoti, puna ekabindumpi devo na vassatīti upamānadhammakathāva pamāṇaṃ. Vinassante pana loke paṭhamaṃ avīcito paṭṭhāya tuccho hoti, tato uṭṭhahitvā sattā manussaloke ca tiracchānesu ca nibbattanti. Tiracchānesu nibbattāpi puttabhātikesu mettaṃ paṭilabhitvā kālakatā devamanussesu nibbattanti. Devatā ākāsena carantiyo ārocenti – ‘‘na idaṃ ṭhānaṃ sassataṃ na nibaddhaṃ, mettaṃ bhāvetha, karuṇaṃ, muditaṃ, upekkhaṃ bhāvethā’’ti. Te mettādayo bhāvetvā tato cutā brahmaloke nibbattanti.
พีชคามาติ เอตฺถ พีชคาโม นาม ปญฺจ พีชชาตานิฯ ภูตคาโม นาม ยํกิญฺจิ นิกฺขนฺตมูลปณฺณํ หริตกํฯ โอสธิติณวนปฺปตโยติ เอตฺถ โอสธีติ โอสธรุกฺขาฯ ติณาติ พหิสารา ตาลนาฬิเกราทโยฯ วนปฺปตโยติ วนเชฎฺฐกรุกฺขาฯ กุนฺนทิโยติ ฐเปตฺวา ปญฺจ มหานทิโย อวเสสา นินฺนคาฯ กุโสพฺภาติ ฐเปตฺวา สตฺต มหาสเร อวเสสา รหทาทโยฯ ทุติโย สูริโยติอาทีสุ ทุติยสูริยกาเล เอโก อุเทติ, เอโก อตฺถงฺคเมติฯ ตติยกาเล เอโก อุเทติ, เอโก อตฺถงฺคเมติ, เอโก มเชฺฌ โหติฯ จตุตฺถกาเล จตุกุลิเก คาเม จตฺตาโร ปิณฺฑจาริกา ทฺวารปฎิปาฎิยา ฐิตา วิย โหนฺติฯ ปญฺจมาทิกาเลปิ เอเสว นโยฯ ปลุชฺชนฺตีติ ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺติฯ เนว ฉาริกา ปญฺญายติ น มสีติ จกฺกวาฬมหาปถวี สิเนรุปพฺพตราชา หิมวา จกฺกวาฬปพฺพโต ฉ กามสคฺคา ปฐมชฺฌานิกพฺรหฺมโลกาติ เอตฺตเก ฐาเน ทเฑฺฒ อจฺฉราย คเหตพฺพมตฺตาปิ ฉาริกา วา องฺคาโร วา น ปญฺญายติฯ โก มนฺตา โก สทฺธาตาติ โก ตสฺส สทฺธาปนตฺถาย สมโตฺถ, โก วา ตสฺส สทฺธาตาฯ อญฺญตฺร ทิฎฺฐปเทหีติ ทิฎฺฐปเท โสตาปเนฺน อริยสาวเก ฐเปตฺวา โก อโญฺญ สทฺทหิสฺสตีติ อโตฺถฯ
Bījagāmāti ettha bījagāmo nāma pañca bījajātāni. Bhūtagāmo nāma yaṃkiñci nikkhantamūlapaṇṇaṃ haritakaṃ. Osadhitiṇavanappatayoti ettha osadhīti osadharukkhā. Tiṇāti bahisārā tālanāḷikerādayo. Vanappatayoti vanajeṭṭhakarukkhā. Kunnadiyoti ṭhapetvā pañca mahānadiyo avasesā ninnagā. Kusobbhāti ṭhapetvā satta mahāsare avasesā rahadādayo. Dutiyo sūriyotiādīsu dutiyasūriyakāle eko udeti, eko atthaṅgameti. Tatiyakāle eko udeti, eko atthaṅgameti, eko majjhe hoti. Catutthakāle catukulike gāme cattāro piṇḍacārikā dvārapaṭipāṭiyā ṭhitā viya honti. Pañcamādikālepi eseva nayo. Palujjantīti chijjitvā chijjitvā patanti. Neva chārikā paññāyati na masīti cakkavāḷamahāpathavī sinerupabbatarājā himavā cakkavāḷapabbato cha kāmasaggā paṭhamajjhānikabrahmalokāti ettake ṭhāne daḍḍhe accharāya gahetabbamattāpi chārikā vā aṅgāro vā na paññāyati. Ko mantā ko saddhātāti ko tassa saddhāpanatthāya samattho, ko vā tassa saddhātā. Aññatra diṭṭhapadehīti diṭṭhapade sotāpanne ariyasāvake ṭhapetvā ko añño saddahissatīti attho.
วีตราโคติ วิกฺขมฺภนวเสน วีตราโคฯ สาสนํ อาชานิํสูติ อนุสิฎฺฐิํ ชานิํสุ, พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ ปฎิปชฺชิํสุฯ สมสมคติโยติ ทุติยตฺตภาเว สพฺพากาเรน สมคติโก เอกคติโกฯ อุตฺตริ เมตฺตํ ภาเวยฺยนฺติ ปฐมชฺฌานโต อุตฺตริ ยาว ติกจตุกฺกชฺฌานา ปณีตํ กตฺวา เมตฺตํ ภาเวยฺยํฯ จกฺขุมาติ ปญฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมาฯ ปรินิพฺพุโตติ โพธิปลฺลเงฺกเยว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโตฯ เอวํ อนิจฺจลกฺขณํ ทีเปตฺวา สตฺถริ เทสนํ วินิวเฎฺฎเนฺต ปญฺจสตาปิ เต อนิจฺจกมฺมฎฺฐานิกา ภิกฺขู เทสนานุสาเรน ญาณํ เปเสตฺวา นิสินฺนาสเนสุเยว อรหตฺตํ ปาปุณิํสูติฯ
Vītarāgoti vikkhambhanavasena vītarāgo. Sāsanaṃ ājāniṃsūti anusiṭṭhiṃ jāniṃsu, brahmalokasahabyatāya maggaṃ paṭipajjiṃsu. Samasamagatiyoti dutiyattabhāve sabbākārena samagatiko ekagatiko. Uttari mettaṃ bhāveyyanti paṭhamajjhānato uttari yāva tikacatukkajjhānā paṇītaṃ katvā mettaṃ bhāveyyaṃ. Cakkhumāti pañcahi cakkhūhi cakkhumā. Parinibbutoti bodhipallaṅkeyeva kilesaparinibbānena parinibbuto. Evaṃ aniccalakkhaṇaṃ dīpetvā satthari desanaṃ vinivaṭṭente pañcasatāpi te aniccakammaṭṭhānikā bhikkhū desanānusārena ñāṇaṃ pesetvā nisinnāsanesuyeva arahattaṃ pāpuṇiṃsūti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๒. สตฺตสูริยสุตฺตํ • 2. Sattasūriyasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๒. หิริโอตฺตปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-2. Hiriottappasuttādivaṇṇanā