| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๙. สตฺถารวนฺทนาสุตฺตวณฺณนา
9. Satthāravandanāsuttavaṇṇanā
๒๖๕. พฺรหฺมชาณุโกติ ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ ฐเปตฺวา วนฺทมาโน พฺรหฺมชาณุโก นาม ตถาภูโต หุตฺวาฯ ยชิตพฺพโต ยโกฺข, ปูชนีโยฯ เอวํ ปูชาวิเสสโยคโต สโกฺกติ อาห ‘‘โส ยโกฺขติ โส สโกฺก’’ติฯ สกฺกสฺส นมกฺการภาชนภูตญฺหิ ปุจฺฉโนฺต มาตลิ ‘‘โก นาม โส ยโกฺข’’ติ อาหฯ คุณเนมิตฺตเกหีติ คุณเหตุเกหิ อนนฺตานิ หิ พุทฺธานํ นามานิ, ตานิ จ โข สพฺพานิปิ คุณเนมิตฺตกาเนวฯ อนนฺตคุณตฺตาฯ วุตฺตเญฺหตํ –
265.Brahmajāṇukoti dakkhiṇajāṇumaṇḍalaṃ pathaviyaṃ ṭhapetvā vandamāno brahmajāṇuko nāma tathābhūto hutvā. Yajitabbato yakkho, pūjanīyo. Evaṃ pūjāvisesayogato sakkoti āha ‘‘so yakkhoti so sakko’’ti. Sakkassa namakkārabhājanabhūtañhi pucchanto mātali ‘‘ko nāma so yakkho’’ti āha. Guṇanemittakehīti guṇahetukehi anantāni hi buddhānaṃ nāmāni, tāni ca kho sabbānipi guṇanemittakāneva. Anantaguṇattā. Vuttañhetaṃ –
‘‘อสเงฺขฺยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;
‘‘Asaṅkhyeyyāni nāmāni, saguṇena mahesino;
คุเณน นามมุเทฺธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติฯ –
Guṇena nāmamuddheyyaṃ, api nāmasahassato’’ti. –
ตสฺมา อโนมนามนฺติ ปริปุณฺณคุณนามนฺติ อโตฺถฯ สมติกฺกเมนาติ สมฺมา สมุจฺฉินฺทนวเสน อติกฺกมเนนฯ กิเลสารีนํ อเปตจโยติ อปจโย, โส อารมิตพฺพเฎฺฐน อาราโม เอเตสนฺติ อปจยารามาฯ เตนาห ‘‘วฎฺฎวิทฺธํสเน รตา’’ติฯ
Tasmā anomanāmanti paripuṇṇaguṇanāmanti attho. Samatikkamenāti sammā samucchindanavasena atikkamanena. Kilesārīnaṃ apetacayoti apacayo, so āramitabbaṭṭhena ārāmo etesanti apacayārāmā. Tenāha ‘‘vaṭṭaviddhaṃsane ratā’’ti.
สตฺถารวนฺทนาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Satthāravandanāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. สตฺถารวนฺทนาสุตฺตํ • 9. Satthāravandanāsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. สตฺถารวนฺทนาสุตฺตวณฺณนา • 9. Satthāravandanāsuttavaṇṇanā
